th
Th
En
หน้าแรก
หัวข้อทั้งหมด
ข่าว
วีดีโอ
ตั้งหัวข้อใหม่
ลงทะเบียน
ล็อกอิน
กด enter เพื่อค้นหา
Mecha Story: The Pirates of the Somalia
คำเตือน เนื้อหาตอนนี้มีส่วนหนึ่งที่ผมด้นเองสดๆอยู่ (แต่ก็ขีดฆ่าไว้แล้วน่ะนะ)
RZX-6DD เซทแลนด์
เครื่องต้นแบบของมอเดรด เป็นKMFที่เน้นการใช้งานแบบตั้งรับในพื้นที่ จึงต้องมีพลังทำลายและการป้องกันในระดับสูง โดยมีอาวุธหลักเป็นเมกาฮาดรอนลันเชอร์ โดยขณะไม่ใช้งานนั้นจะแยกเป็นสองส่วนติดไว้กับไหล่ แล้วเอามาประกอบกันเป็นกระบอกเดียวพร้อมกางส่วนเท้าออกให้ยืนได้มั่นคงขึ้น ส่วนไหล่ทั้งสองข้างยังติดเบลซลูมินัสขนาดใหญ่ไว้ เซทแลนด์เป็นKMFของทิงค์ ร็อคฮาร์ท สมาชิกของหน่วยปราบกรามการก่อการร้าย กลินดาไนท์
ATM-08-MC สเปนดิงวูล์ฟ
รุ่นต้นแบบของสโคปด็อก ได้ชื่อว่าวูล์ฟ - หมาป่า เพราะวิศวกรถือว่าเป็นเป็นสุนัข - ด็อก ที่ยังไม่เชื่อง (แต่ในความเป็นจริงนั้น...) มีคุณสมบัติหลักๆเหมือนกับสโคปด็อก แต่เนื่องจากเป็นATที่ใช้เก็บข้อมูลการใช้งานภาคสนาม ทีมพัฒนาจึงต้องการให้สเปนดิงวูล์ฟรอดกลับมาจากสนามรบให้มากที่สุด จึงมีเกราะที่หนาและมีระบบที่ช่วยป้องกันความปลอดภัยอย่างระบบดับเพลิง ซึ่งของเหล่านี้ถูกเอาออกไปพร้อมใช้เกราะที่บางลงเมื่อผลิตใช้งานจริงเป็นสโคปด็อก (ตายได้ตายไป) สเปนดิงวูล์ฟจึงหนักกว่าสโคปด็อกและมีสมรรถนะต่ำกว่า
EZ-049 เบอเซิร์กฟูเรอร์
ซอยด์สายพันธุ์ไทรันโนซอรัสที่พัฒนาโดยจักวรรดิไกลอสคู่ไปกับไลเกอร์ซีโรโดยใช้ซอยด์คอร์ที่สร้างขึ้นกับโครงที่ดัดแปลงมาจากซอยด์ป่า ซึ่งทำให้อัตราตอบสนองอยู่ในระดับใกล้เคียงกับซอยด์ที่ใช้ออกานอยด์ซิสเต็มแต่มีโอกาสหลุดจากการควบคุมน้อยกว่ามาก เบอเซิร์กฟูเรอร์นั้นเป็นซอยด์ของหน่วยไอเซนดรากูน และหนึ่งในนักบินของเบอเซิร์กฟูเรอร์ก็คือหัวหน้าหน่วย วูล์ฟ มูโรอา ผู็ที่ต่อมาก็เป็นจักพรรดิของนีโอเซเนบัสนั่นเอง ซึ่งช่วงที่เป็นหัวหน้าหน่วยไอเซนดรากูนนั้นวูล์ฟได้ใช้เบอเซิร์กฟูเรอร์ปะทะกับไลเกอร์ซีโรของเรย์ เกร็ก หัวหน้าหน่วยเรย์ฟอร์ซหลายต่อหลายครั้ง
รูปแบบของเบอเซิร์กฟูเรอร์นั้นพัฒนาต่อมาจากเจโนซอเรอร์ แต่มีระบบเกราะถอดเปลี่ยนได้แบบเดียวกับของไลเกอร์ซีโร เบอเซิร์กฟูเรอร์ยังติดอิออนบูสเตอร์กับท่อขับดันสำหรับเพิ่มความเร็วคล้ายกับเจโนเบรคเกอร์ ปืนใหญ่อนุภาคในปากนั้นได้รับการปรับปรุงให้ยิงได้ทั้งแบบลำแสงและสาดกระจาย ด้านหลังของเบอเซิร์กฟูเรอร์มีแขนกลติดกงเล็บบัสเตอร์คลอว์ขนาดใหญ่เอาไว้สองข้าง ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นกงเล็บจับศัตรูแล้วยังสามารถหุบรวมกันแล้วหมุนเป็นสว่านแม่เหล็กไฟฟ้า แม็กเนสเซอร์ ได้เหมือนกับเขาของแมดธันเดอร์ ซึ่งสามารถใช้ทำลายซอยด์ขนาดใหญ่ได้ในครั้งเดียว อีกทั้งยังสามารถใช้กางสนามพลังEชิลด์ซึ่งมีกำลังพอจะใช้รับปืนใหญ่อนุภาคของเจโนซอเรอร์ได้ และยังยิงเป็นบีมแคนน่อนได้ด้วย ซึ่งเมื่อยิงพร้อมกับปืนใหญ่อนุภาคก็จะยิ่งทำให้พลังทำลายสูงขึ้นอีกและต้องยึดตัวเองไว้กับพื้นก่อนยิง
นอกจากรูปแบบมาตรฐานแล้ว เบอเซิร์กฟูเรอร์ก็มีรูปแบบอื่นๆตามการเปลี่ยนเกราะ เช่น สทรูมฟูเรอร์ ซึ่งติดสทรูมบูสเตอร์ขนาดใหญ่กับโล่ติดคีมตามแบบของเจโนเบรคเกอร์ หรือแยกด์ฟูเรอร์ที่เน้นการต่อสู้ระยะไกลเพื่อใช้ตอบโต้ไลเกอร์ซีโรแพนเซอร์ แต่รูปแบบย่อยของเบอเซิร์กฟูเรอร์นั้นใช้งานยากมากจึงมีจำนวนน้อย แม้จะเป็นซอยด์ที่แข็งแกร่งมาก แต่หลังจากที่วูล์ฟยึดอำนาจในไกลอสและสถาปนาจักรวรรดินีโอเซเนบัสแล้วก็มีนโยบายลดการใช้งานซอยด์ของไกลอส ทำให้เบอเซิร์กฟูเรอร์กลายเป็นซอยด์ที่หายากทีเดียว
ในภาค Slash Zero ซึ่งเป็นยุคหลังสงครามนั้น เบอเซิร์กฟูเรอร์เป็นซอยด์ของเวกา ออบสคิวรา สมาชิกของกลุ่มแบคดราฟท์ และเป็นอัลติเมทXเหมือนไลเกอร์ซีโรของบิท ส่วนในภาค Fuzors เป็นของเบลด สมาชิกทีมซาเวจแฮมเมอร์ ซึ่งสามารถประกอบร่างกับบล็อกซ์ซอยด์ BZ-009 บัสเตอร์อีเกิล เพื่อเพิ่มสมรรถนะและสามารถบินได้
EZ-072 เอเนอจีไลเกอร์
ซอยด์สายพันธุ์สิงห์โตของจักวรรดินีโอเซเนบัส เอเนอจีไลเกอร์นั้นได้รับการพัฒนามาจากไลเกอร์ซีโรเอ็กซ์เพื่อใช้คุ้มกันซิสโมซอรัสซึ่งเป็นสุดยอดอาวุธของนีโอเซเนบัส และเป็นซอยด์ประจำตัวของจักรพรรดิ วูล์ฟ มูโรอา
เอเนอจีไลเกอร์นั้นเป็นซอยด์ขนาดใหญ่มากซึ่งต่างจากซอยด์สิงห์โตโดยทั่วๆไป จุดเด่นของเอเนอจีไลเกอร์ก็คือระบบเอเนอจีชาร์จเจอร์ ซึ่งใช้รวบรวมอนุภาคเตคิออนในชั้นบรรยากาศของดาวZiมาแปลงเป็นพลังงานแล้วถ่ายทอดให้ซอยด์คอร์ของเอเนอจีไลเกอร์ ระดับพลังงานของซอยด์คอร์นั้นเป็นสองเท่าของซอยด์คอร์ทั่วๆไป ทำให้เอเนอจีไลเกอร์มีพลังที่เหนือกว่าซอยด์ขนาดใกล้เคียงกันมาก มีความเร็วสูงสุดมากกว่าไลเกอร์ซีโรฟีนิกซ์เกือบสองเท่า ด้านหลังมีปีกเอเนอจีวิงซึ่งทำให้เอเนอจีไลเกอร์บินได้ และเมื่อชาร์จประจุเตคิออนแล้วก็จะใช้เฉือนศัตรูเหมือนเลเซอร์เบลดของเบลดไลเกอร์ได้ กงเล็บก็สามารถชาร์จเตคิออนได้และมีพลังทำลายสูงกว่าเล็บประจุเลเซอร์ของไลเกอร์ซีโรมาก ส่วนอาวุธระยะไกลนั้นก็เป็นปืนกลบีมแก็ตลิงกับบีมแคนน่อนสองลำกล้องซึ่งก็ใช้พลังงานเตคิออนจากเอเนอจีชาร์จเจอร์ด้วยเช่นกัน จุดอ่อนของเอเนอจีไลเกอร์อยู่ที่เอเนอจีชาร์จเจอร์นั้นยังเป็นอุปกรณ์รุ่นต้นแบบที่ไม่สมบูรณ์ จึงสามารถใช้พลังงานเต็มที่ได้เพียง5-10นาทีเท่านั้น
วูล์ฟนั้นได้ใช้เอเนอจีไลเกอร์นำกองทัพนีโอเซเนบัสในการต่อสู้กับสาธารณรัฐเฮลิคที่กลับมายึดคืนดินแดนในทวีปกลาง และพลังของเอเนอจีไลเกอร์ก็ทำให้วูล์ฟล้มไลเกอร์ซีโรฟีนิกซ์ของคู่ปรับเก่า เรย์ เกรกได้ง่ายๆ แต่แล้วบริษัท ZOITEC ก็ส่งเจ็ตฟอลคอน ซึ่งเดิมเป็นบล็อกซ์ซอยด์ที่ออกแบบให้เอเนอจีไลเกอร์ มาให้เรย์เปลี่ยนเป็นไลเกอร์ซีโรฟอลคอน ทำให้ทั้งคู่ได้สู้กันอย่างสูสีอีกครั้ง ก่อนที่เรย์จะพลิกสถานการณ์โจมตีเอเนอจีไลเกอร์จนปางตายได้ ปรากฏว่าเอเนอจีชาร์จเจอร์ดันทำงานผิดปกติและเพิ่มพลังงานให้ซอยด์คอร์ของเอเนอจีไลเกอร์จนถึงจุดวิกฤติและกำลังจะระเบิดอย่างรุนแรงจนทำลายกองทัพของทั้งสองฝ่ายได้ แต่วูล์ฟนั้นไม่อยากให้เกิดความสูญเสียที่ไร้ประโยชน์แบบนั้นจึงสั่งให้กองทัพนีโอเซเนบัสถอนกำลังแล้วพาเอเนอจีไลเกอร์ไปจากสนามรบเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด เรย์รู้เจตนาของวูล์ฟเลยตามไป แล้วให้วูล์ฟเชื่อมระบบของเอเนอจีไลเกอร์เข้ากับไลเกอร์ซีโรฟอลคอน ก่อนยิงบีมแคนน่อนเต็มกำลังขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อลดระดับพลังงานของเอเนอจีไลเกอร์ลงจนถึงระดับปลอดภัย ทั้งคู่รอดมาได้และนีโอเซเนบัสกับเฮลิคก็ทำสัญญาสงบศึกกันในเวลาต่อมา
ในภาคFuzorsนั้น เอเนอจีไลเกอร์เป็นซอยด์ของดร.เพียซ และสามารถประกอบกับบล็อกซ์ซอยด์กอริลลา BZ-013 เรย์คอง เป็นเอเนอจีเรย์ไลเกอร์ได้ ซึ่งซอยด์คอร์ของเรย์คองนั้นสามารถดึงพลังงานจากเอเนอจีไลเกอร์ไปชาร์จเพิ่มอานุภาพให้มิสไซล์ลันเชอร์ได้
กาฟรานมาร์สเฟเธอร์
หลังจากที่เวย์กันสงบศึกกับสหพันธ์โลก ทั้งสองฝ่ายก็ได้ร่วมมือกันดัดแปลงMSเหลือใช้รุ่นเก่าให้เป็นระบบป้องกันมาร์สเรย์ซึ่งเป็นอันตรายกับชาวอาณานิคมดาวอังคาร โดยเปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติ ถอดอาวุธออก แล้วติดแผงปีก “มาร์สเฟเธอร์” ซึ่งใช้แผ่สนามแม่เหล็กไฟฟ้าสำหรับป้องกันพลาสมาจากดวงอาทิตย์ ซึ่งMSที่ได้รับการดัดแปลงเป็นแบบมาร์สเฟเธอร์นี้ส่วนใหญ่แล้วก็คือกาฟรานนั่นเอง แต่ก็มีรุ่นที่เป็นบัคโตหรือMSอื่นๆอยู่ด้วย เนื่องจากMSที่ติดมาร์สเฟเธอร์นี้จะทาสีขาวจึงดูคล้ายกับเทวทูต
BMS-008 โรกแบท
เมื่อสงครามระหว่างเวย์กันกับสหพันธ์โลกยุติลง สหพันธ์โลกจึงได้เริ่มโครงการสำรวจอวกาศอีกครั้ง
ปัญหามีอยู่ที่อาเซมที่ยังรักชีวิตโจนสลัดไม่ยอมกลับบ้านไปหาลูกเมีย แต่เมื่อไม่มีEXA-DBให้ปกป้องแล้ว การจะยังเป็นโจรสลัดได้ก็มีทางเดียวคือ ปล้นเขากินเป็นโจรเต็มตัวซะเลย
มาดอร์นาเวิร์คช็อปก็ได้สนองนโยบายโดยเอาชาลโดลโรกของบิซิเดียนมาดัดแปลงเป็น BMS-008 โรกแบท เพื่อใช้ในการสำรวจแถบดาวเคราะห์น้อย
พร้อมบอกอาเซมว่าจะเป็นโจรสลัดก็หันมาล่าสมบัติแทนก็ได้ อาเซมเถียงว่าไม่เคยได้ยินว่าโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค2000 โจรสลัดแห่งโซมาเลีย จะเคยล่าสมบัติที่ไหน ปล้นเขาอย่างเดียว ทางมาดอร์นาบอกว่าเป็นตัวละครในอนิเมอย่าเอาแต่สนใจความเป็นจริงมากนัก หัดดูหนังอ่านมังงะซะบ้าง จะรู้ว่าโจรสลัดในบางเรื่องก็ไม่เห็นจะปล้นใคร ล่าสมบัติอย่างเดียว
โดยเสริมเซนเซอร์ที่สามารถจับแสงอุลตราไวโอเล็ตและอินฟราเรดได้ไว้ที่หัวเพื่อใช้ตรวจสอบสภาพพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อย ส่วนปีกขนาดใหญ่นั้นนอกจากใช้บังคับทิศทางในอวกาศแล้วยังเป็นระบบเซนเซอร์ที่ใช้ตรวจสภาพรอบตัวและยังติดถังเชื้อเพลิงเพื่อเพิ่มเวลาปฏิบัติการได้ ปืนที่แขนขวานั้นถูกเปลี่ยนเป็นระบบปล่อยบีมอเนกประสงค์ ซึ่งมีทั้งเซนเซอร์สำหรับตรวจสอบสภาพทางภูมิศาสตร์และสามารถใช้ทำงานขุดเจาะได้
Super Robot Wars
Games
Mecha Story
Kuruni
Mar 15, 2013 06:48
ร่วมแสดงความเห็น
บนระบบของเรา
บน Facebook Comments Plugin
บน Google+ Comments
Facebook
Share
Twitter
Share
Google+
Share
Pinterest
Share
Email
Send Email
ติดต่อเรา
ชื่อเต็ม
อีเมล
ข้อความของคุณ