วิเคราะห์จุดเชื่อมต่อเรื่องราวทั้งหมดจากเริ่มต้นจนถึง Final Movie

Link ที่เกี่ยวข้อง

>>> สรุปเนื้อเรื่อง วิเคราะห์เหตุผลในการรุกรานล้างเผ่าพันธุ์ของอาณาจักรการ์แลนด์ <<<

>>> Final Movie - End of an Era <<<



สรุปความคร่าวๆ อาจจะมีผิด จำสับสนสลับคนบ้างเพราะพึ่งจะอ่านปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดตอนแค็ปพวกมูฟวี่เมื่อคืนดึกๆ ตรงไหนผิดแย้งได้ตามสะดวก :D





- กลุ่มตัวเอกเป็นกลุ่มเดียวกับ OP Movie





- ดาลามุดไม่ใช่ดาวตกตามธรรมชาติ หากแต่เป็นอาวุธอารยธรรมโบราณที่ถูกส่งขึ้นไปอยู่ในวงโคจรของดวงจันทร์รอบโลก โดยข้อมูลเกี่ยวกับมันนั้นถูกฝังอยู่ใต้อาณาจักรอลากันซึ่งจมหายไปกับมหาอุทกภัยล้างโลกในยุค Sixth Umbral (พวก Archon เรียกมันว่า Red Moon of Allagan) ซึ่งซิด การ์ลอนด์ผู้เคยเป็นนักประดิษฐ์อัฉริยะของจักรวรรดิ์การ์แลนด์เคยนำมาทดลองใช้ในอดีต ทว่าแม้แต่ซิดเองก็ไม่สามารถควบคุมมันได้ ทำให้อาณาจักรการ์แลนด์ได้รับความเสียหายจนเข้าขั้นล่มสลาย หลังจากนั้นซิดจึงหนีอดีตอันขมชื่นมายังแผ่นดินหลักของทวีปเอโอเซีย





- มีความเป็นไปได้ว่าจักรวรรดิ์การ์แลนด์ต้องการยึดครองทวีปฝั่งนี้เพื่อใช้เป็นอาณาจักรแทนแผ่นดินของตนที่โดนดาลามุดทำลายไป





- มีความเป็นไปได้ว่าซิดเป็นผู้สร้างจักรกลสงครามต่างๆ ที่ใช้ในการรุกรานดินแดนอลามิโก้และในสงครามปัจจุบัน (แน่นอนว่ารวมถึงมาโดอาเมอร์ [FFVI] ด้วย)





- ซิดหรือไกอัส (จำไม่ได้) กล่าวว่าดาลามุดนั้นเป็นตราบาปที่ชนเผ่าโบราณเป็นผู้สร้างทิ้งเอาไว้





- ไกอัส (Gaius van Baelsar - Black Wolf) แม่ทัพของจักรวรรดิ์เคยคุยกับนาเอล (Nael van Darnus - White Raven) แม่ทัพอีกคนหนึ่งว่าการควบคุมดาลามุดนั้นต้องมีหินศิลา หากมีศิลาที่ว่าก็จะสามารถควบคุมขอบเขตและจุดทำลายล้างของดาลามุดได้





- ไกอัสไม่เห็นด้วยกับการที่จะใช้ดาลามุดเพื่อชำระล้างแผ่นดินเอโอเซีย ซึ่งขัดแย้งกับความคิดเห็นของนาเอลที่เห็นว่าแผ่นดินเอโอเซียนั้นเป็นแหล่งบ่มเพาะความชั่วร้ายทั้งปวงจึงสมควรที่จะชำระล้างเพื่อเริ่มต้นใหม่





- ไกอัสพยายามที่จะใช้กำลังทหารยึดครองส่่วนที่เหลือของทวีปเอโอเซียเฉกเช่นที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับดินแดนอลามิโก้ ทว่าไกอัสเองก็อยู่ในสภาพเต็มกลืนเมื่อต้องต่อสู้กับเหล่า Primal เทพของอสูรต่างๆ (อิฟรีท, การูด้า, ไททัน, ลิเวียธาน ฯลฯ)

*ชาวการ์แลนด์เรียก Primal ว่า Eikon ซึ่งหมายถึง False God เทพเจ้าจอมปลอมที่พยายามดูดกลืนพลังงานของคริสตัลโดยการหลอกใช้พวกอสูร

*โยชิพีเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้วว่าไททันเป็น primal ตัวแรกๆ ที่จะใส่เข้าไป แต่พอดีญี่ปุ่นมาเกิดเหตุมหาภัยพิบัติก่อนจึงต้องระงับไว้เพื่อไม่ให้ไปกระทบต่อจิตใจของผู้สูญเสียในเรื่องของแผ่นดินไหว (ท่าโจมตีสูงสุดของไททันคือ Earthen Fury ธรณีพิโรธที่สร้างแผ่นดินไหวระดับรุนแรงสูงสุด) ส่วนลิเวียธานเคยปรากฎตัวแล้วในเนื้อเรื่องของ Limsa Lominsa ในฐานะเทพอสูรของเหล่าซาฮากิน (เนื้อเรื่อง Limsa เช่นกัน)





- นาเอลจึงใช้เหตุผลนี้โน้มน้าวจักรพรรดิ์การ์แลนด์เพื่อให้ออกคำสั่งยึดครองเอโอเซียด้วยดาลามุดจนเป็นผลสำเร็จ





- ดาลามุดสามารถดูดกลืนคริสตัล แหล่งพลังงานและต้นกำเนิดชีวิตของสรรพสิ่งต่างๆ ได้ แม้แต่เทพอสูรหรือตัวนาเอลเอง เมื่อพ่ายแพ้แก่พวกเราเหล่านักผจญภัยก็ถูกดาลามุดดูดคริสตัลไปด้วยเช่นกัน





- ทหารในสังกัดของนาเอลดำเนินการตามแผนโดยสร้างเครื่องมือที่ใช้ถ่ายเทพลังงานคริสตัลจากใต้พื้นดินในเขตโคเออทัส (ดีเซเมล, ออรัมเวล) จนเป็นผลสำเร็จในช่วงหนึ่งก่อนจะโดนกลุ่มนักผจญภัยทำลายไปได้





- การที่มิดการ์ซอมร์ (โยมุงกันด์) ในฉากเปิดเรื่องซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์การต่อสู้ระหว่างเผ่ามังกรและจักรวรรดิ์ทำลายยานของจักรวรรดิ์ส่งผลให้เกิดการแห้งเหือดของพลังงานคริสตัลในอาณาบริเวณนั้นจนคริสตัลกลายเป็น Deaspected crystal





- เมื่อทหารจักรวรรดิ์ในสังกัดของนาเอลถูกพวกเราขับไล่ไป พวกมันจึงเบนเข็มไปสูบเอาพลังงานคริสตัลใต้พื้นดินในแถบ Mor Donna แทนและตั้งค่ายในบริเวณนั้น (ถ้าใครเคยไปสำรวจตามถ้ำใกล้ๆ จะเห็น)





- แม้ภายหลังพวกเราเหล่านักผจญภัยก็สามารถตามไปทำลาย Lunar Transmitter อุปกรณ์ที่ใช้ส่งพลังงานไปยังดาลามุดลงได้ แต่มันก็สายไปเสียแล้ว...





- มีความเป็นไปได้ว่าแก่นกลางของดาลามุดเป็นเสมือนสลักเก็บพลังงานคริสตัล ซึ่งที่สุดแล้วก็ได้ตกลงมาและอาจกลายเป็นคริสตัลทาวเวอร์*ใน ARR

*[จาก Letter Live IV] ไม่ใช่และจะเฉลยบทบาทของสิ่งนี้ใน ARR





- มีความเป็นไปได้ว่ามังกรที่อยู่ในใจกลางของดาลามุดนั้นคือบาฮามุทซึ่งสามารถประจุพลังงานจากแกนคริสตัลที่ดูดซับไว้ได้ (คีย์เวิร์ดคือ Megaflare ซึ่งนาเอลสามารถเรียกใช้ได้จากดาลามุด)

*ยืนยัน [จาก Letter Live IV]





- แผนการทั้งหมดนี้ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้ว ซึ่งเทพทั้งสิบสองได้ประทานความสามารถเอคโค่ (ย้อนดูอดีตของสรรพสิ่งต่างๆ ผ่านทางนิมิต, สามารถติดต่อสื่อสารกับม็อกกุริหรือเผ่าพันธุ์อื่นที่เหนือธรรมชาติอย่าง Sylph ซึ่งเผ่าพันธุ์หลักทั้ง 5 ในเอโอเซียไม่สามารถเข้าใจภาษาของพวกนี้ได้) ให้กับตัวเอกเพื่อเตือนถึงภยันตรายครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้





- ดาลามุดเริ่มมีการเคลื่อนไหวเมื่อตัวเอกสะสางเนื้อเรื่องเมืองเกิดเสร็จ (ก่อนเข้าองค์กรของมินฟิเลีย)





- หลังจากที่รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของดาลามุด เหล่าเทพอสูรต่างก็ต้องการที่จะดูดกลืนพลังงานคริสตัลของทั้งแผ่นดิน (Realm) มายังตนเองเพื่อต่อสู้กับจักรวรรดิ์ตามลำพัง Louisaix จึงขอร้องเหล่านักผจญภัยให้ช่วยกำราบพวกมันลงเพื่อรักษาสมดุลของพลังงานทั้งมิติ





- การเคลื่อนไหวของดาลามุดยังส่งผลให้เหล่า Ascian เผ่าพันธุ์ปริศนาผู้ชั่วร้ายและทางฤทธานุภาพที่แม้แต่เหล่าเผ่าอสูรเองยังหวาดกลัวเริ่มเคลื่อนไหวด้วย

*ไม่มีการกล่าวถึงเหล่า Ascian ต่ออีกเลยจนถึงปัจจุบัน

*เป็นไปได้หรือไม่ว่า Ascian มีความเกี่ยวพันกับ Atomos?





- จักรวรรดิ์เคยยื่นข้อเสนอให้บรรดาหัวเมืองต่างๆ ยอมจำนนและร่วมมือกับพวกตนในการกำจัดเผ่าอสูรต่างๆ และเหล่าเทพของพวกมันให้หมดสิ้นไปจากเอโอเซีย แต่องค์กรของมินฟิเลียซึ่งมีเครือข่ายอันทรงอิทธิพลได้ปฏิเสธคำเสนอนั้นไป





- ศิลาที่ 2 แวนพูดถึงนั้นแท้จริงแล้วอาจจะเป็นสิ่งที่เหล่าเทพทั้ง 12 ของเอโอเซียได้สร้างเอาไว้เพื่อควบคุมและผนึกบาฮามุทไว้ในดาลามุด

*จาก Prophecy Inspection ซึ่งเป็น Quest สุดท้ายของฮิลดิบรันด์ ข้อความใน Prophecy บทที่ว่า "Stray seeds quicken in ash's grey embrace, valiant blades forged under the Twelve's good grace" seeds อาจหมายถึงเผ่าพันธุ์ในเอโอเซีย blades อาจหมายถึงดาบศิลาทั้ง 13 หรือศิลาที่เราไปภาวนายังสถานที่ต่างๆ นั้นมีไว้ผนึกบาฮามุทนี่ล่ะ (ถ้าดูในฉากปิดจะเห็นว่าแท่นศิลาที่เราไปภาวนากันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของดาบศิลา) ไม่ใช่ดาบผู้กล้าที่ฮิลดิบรันด์ได้จากตาลุงนั่นหรอก :D

*จากข้อมูลใน Letter Live IV พอจะสรุปได้ว่าดาลามุดดวงใหม่ที่ตกลงมาหลังลุงวาร์ปพวกเราไปยังอนาคตแล้วนั้นคือ The Great Labyrinth of Bahamut ดันเจี้ยนใหม่ใน ARR

*ใน FFIV บาฮามุทอาศัยอยู่ ใน 幻獣神の洞窟 ถ้ำแห่งเทพอสููรมายา ณ ดวงจันทร์สีแดงเช่นกัน ถ้าจะแฟนเซอร์วิสสุดๆ ไอเท็มสุดยอดในนี้ก็น่าจะเป็น Genji Set





- จากคำบอกเล่าของ Thancred การยืมพลังของเหล่าเทพทั้งสิบสองมาใช้นั้นจะต้องแลกด้วยพลังงานชีวิตของผืนแผ่นดินซึ่งเป็นจุดกำเนิดของทุกสรรพสิ่งบนโลก ดังนั้นแม้ว่าจะหยุดยั้งดาลามุดได้ก็อาจจะต้องแลกด้วยการแตกดับของสรรพชีวิตเช่นกัน





- Aetheryte ตามที่ต่างๆ เป็นแหล่งรวบรวมคริสตัล พลังงานแห่งชีวิต ซึ่งหลายๆ ที่โดน Atomos ดูดพลังงานไปแล้ว





- เหล่าฮีโร่อันได้แก่ Louisaix, Urianger, Thancred, Y'shtola, Papalymo, Yda จะมีปานสัญลักษณ์บริเวณคอเหมือนๆ กัน อาจเป็นไปได้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นผู้หลงเหลือจาก realm reborn ครั้งก่อนๆ (ถ้าใครจำได้ เพื่อนชาวอลามิโก้ของเราในองค์กรของมินฟิเลียจะบอกว่าในหมู่ชาวอลามิโก้ที่เหลือรอดจะเรียกตนเหล่านี้ว่าผู้สร้าง) นอกจากนี้ hint ใน producer letter live ที่กั๊กคำถามที่ว่า "พวกเราที่รอดชีวิตไปจะมีสัญลักษณ์อะไรปรากฏตามร่างกายไหม?" ก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักในเรื่องนี้เช่นกัน

*จาก Quest "Of Archons and Muses" ว่ากันว่ากลุ่มคนเหล่านี้เรียกถูกขนานนามว่า Circle of Knowing ผู้รู้ หรือ Archon ผู้ปกครองซึ่งว่ากันว่าพวกเขามีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เมือง Sharlayan ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปหลักหรือที่เรียกกันว่าแคว้น Dravania นอกจากรายชื่อที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีการพูดถึงรูกาดีนที่ชื่อ Ahldbhar ด้วยว่าเป็นร่างอวตารของเทพ Rhalgr หนึ่งใน 12 เทพ

*ในเนื้อเรื่องยังกล่าวถึงข่าวลือว่าหายนะยุค Sixth Umbra เมื่อ 1500 ปีก่อนอาจเกิดมาจากฝีมือพวกเขาเช่นกัน สาเหตุอาจจะมาจากการที่ Primal ของพวกเขาเกิดคุ้มคลั่งขึ้นมาจนนำหายนะมาสู่ดินแดนแห่งนั้นซึ่ง Primal ที่ว่าอาจจะเป็นบาฮามุทนี่ล่ะ (ถ้ากางแผนที่ของเอโอเซียดูจะเห็นว่าบาฮามุทอาศัยอยู่แถบนี้ในสมัยเทพพอดี)

*บ้างก็ว่าพวกนี้เป็นร่างกลับมาเกิดใหม่ของเทพทั้ง 12 ในคราบมนุษย์ โดยลุงนั้นเป็นร่างของ Thaliak ผู้ปกครองสายน้ำและเทพแห่งความรู้





- ฉากจบนี้ไม่มี Urianger Arcanist ลูกศิษย์ลุงออกเลย เป็นไปได้ไหมว่าหมอนี่กำลังทำอะไรอยู่?





- เวทที่ลุงส่งเราไปอนาคตนั้นอาศัยพลังจาก Althyk, the Keeper เทพแห่งห้วงมิติและกาลเวลา สังเกตได้จากสัญลักษณ์นาฬิกาทราย





- ใบหน้าในวาระสุดท้ายของลุงที่ยิ้มทำหน้าฟินขนาดนั้น อาจแสดงถึงการทำใจยอมรับความตายของตนและความยินดีที่ได้ไถ่บาปที่ก่อไว้ในอดีตแล้วก็เป็นได้





- เป็นไปได้ไหมว่าเทพทั้ง 12 แต่จริงๆ แล้วมี 13 ตนนั้น ในอดีตอาจเคยเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่าง ทำให้เทพ 1 ตนซึ่งเป็นเจ้าของผนึกที่บาฮามุทปล่อยออกมาจากดาลามุดมีอันเป็นไปหรือหลุดจากการเคารพของชนรุ่นหลัง?





- จาก PV 2 ของ ARR ซึ่งเป็นการผสมระหว่างฉากจบ v1 กับเปิด v2



มีคนตั้งข้อสังเกตว่าช่วงสุดท้ายของฉากจบ เหล่า Primal ที่หลับไหลอยู่อาจจะมาช่วยกันยันดาลามุดไว้จากที่ได้ยินเสียงต่างๆ หลังจากหน้าลุงยิ้มครั้งสุดท้าย เสียงเหล่านั้นเช่น ม้า sleipnir ของโอดินร้อง, เสียงครางหรือเสียงคำรามของเหล่า Primal ฯลฯ (ซึ่งกองทัพทั้งสองฝ่ายไม่มีม้า)





ไว้ถ้ามีไฟแล้วนึกอะไรออกจะมาเขียนเพิ่มอีกที



คหสต :: จริงๆ แล้วเนื่อเรื่องภาคนี้ไม่ขี้เหร่เลยนะ เทียบชั้น 11 ได้สบายๆ (ออกแนวเทากว่าด้วยซ้ำ) เพียงแต่ความนิยมตัวเกมมันแย่แถมคนทำสคริปมันใช้ภาษาเยิ่นเย้อ น้ำเยอะ อ่านเข้าใจยากแค่นั้นเอง



อ้างอิง, แหล่งข้อมูล :: ff wiki, lodestone



[font size=3]Official Info from YoshiP[/font]

[spoil]



Originally Posted by Naoki_Yoshida

In Version 1.0, we dropped many tidbits of information that hinted at Dalamud's true nature:



- Dalamud was created by the Allagan Empire and cast into the heavens several millennia ago.

- Eorzea is home to many deities. The beast tribes worship the primals, and the five races (Hyur, Elezen, Miqo'te, Lalafell, Roegadyn) revere the Twelve.

- The van Darnus family is of the blood of ancient Allag, and are the keepers of its secrets.

- An Ishgardian theologian who studied the dragons and their gods was kidnapped by the Empire and taken to the Aurum Vale.

- In the battle with Garuda, the primal says: "This is the price of your folly. The price of using the crystals' power─MY POWER!─to waken the other from slumber.

- The power of the crystals was absorbed by Dalamud.



I don't want to spoil the ARR story, but I can say this:



The dragons of Dravania are classified as a beast tribe. Nidhogg is not a primal, but a king among the dragons. Likewise, Midgardsormr--known as the Keeper of the Lake--while not a primal, is a revered existence among dragonkind. Just as men have worshipped kings throughout history, so too have the dragons.

[/spoil]
Final Fantasy Xiv Games Game Online Final Fantasy

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา