"สมโพธิ"ชนะคดีแย่งสิทธิ์อุลตร้าแมน ผนึกกลุ่มทุนใหญ่สร้างเวอร์ชั่นใหม่
ศาลฎีกาญี่ปุ่นไม่รับฟ้องฎีกาของซึบูราญ่า โปรดักชั่นส์ ปิดคดีอุลตร้าแมน ที่ยื้อแย่งสิทธิ์กันมานานกว่า 7 ปี ชี้ชัด "สมโพธิ แสงเดือนฉาย" เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวทั่วโลกยกเว้นในประเทศญี่ปุ่น ลั่นใครละเมิดสิทธิ์ให้รีบหยุดดำเนินการทันที เผยมีเซอร์ไพร้ซในญี่ปุ่นอีกรอบ
นายสมโพธิ แสงเดือนฉาย ประธาน บริษัท ซึบูราญ่า ไชโย จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2547 ศาลฎีกา ประเทศญี่ปุ่นได้ปฎิเสธฎีกาในคดีเรียกร้องยืนยันสิทธิ์ลิขสิทธิ์ อุลตร้าแมนของทางบริษัท ซึบูราญ่า โปรดักชั่นส์ จำกัด เนื่องจากศาลฎีกาเห็นว่าการยื่นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งถือว่าสิ้นสุดในชั้นของศาลอุทธรณ์แล้ว และในคำอุทธรณ์ไม่มีประเด็นปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยไว้ จึงได้มีคำสั่งชี้ขาดไม่รับฎีกาของบริษัท ซึบูราญ่า โปรดักชั่นส์ จำกัด
ทั้งนี้ส่งผลให้นายสมโพธิ แสงเดือนฉายเป็นผู้มีสิทธิในลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนรวมทั้งเครื่องหมายการค้าคำว่า อุลตร้าแมน ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นรวมทั้งเครื่องหมายการค้าสามมิติรูปอุลตร้าแมนทั่วโลกยกเว้นญี่ปุ่นเท่านั้น
"คาแรคเตอร์อุลตร้าแมนทั้งหมดทั้งของเก่าและที่เกิดขึ้นมาใหม่หลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็นที่ทางญี่ปุ่นสร้างขึ้นมาก็ตามจะเป็นลิขสิทธิ์ของเราทั้งหมดด้วยหรือการทำซ้ำการดัดแปลง โดยมีรากฐานมาจาก อุลตร้าแมนทั้ง 7-8 ตัวเดิมจะเป็นของเราทั้งหมด แต่ที่เราสร้างขึ้นมาเองตัวใหม่ยังเป็นของเราฝ่าย"นายสมโพธิกล่าว
สำหรับจากนี้ไปบริษัทอื่นที่รับสิทธิ์มาจากซึบูราญ่าญี่ปุ่นจะต้องหยุดดำเนินกิจการต่างๆในประเทศไทยและทั่วโลกยกเว้นญี่ปุ่น เพราะว่าเป็นการรับสิทธิ์โดยผิดกฎหมาย ซึ่งในประเทศไทยศาลจะมีหนังสือไปยังบริษัท โพร-ลิงค์ จำกัด เพื่อให้ยุติการดำเนินกิจการต่างๆ เกี่ยวกับอุลตร้าแมน รวมไปถึงผู้ที่ได้รับสิทธิ์ต่อจากทางโพรลิงค์ ให้หยุดดำเนินการในเชิงธุรกิจที่เกี่ยวกับอุลตร้าแมน ไม่ว่าจะเป็น เจ-บิ๊กส์ หรืออุลตร้าฟิล์ม และรายอื่นๆ ที่เกี่ยงข้องทั้งหมดทั้งหนัง สินค้าเมอร์ชันไดซ์
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของศาลฎีกาของไทยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ
ขณะเดียวกันในญี่ปุ่น มีความเป็นไปได้ว่าทางนายสมโพธิจะเรียกร้องความชอบธรรมและสิทธิ์ต่างๆคืนมาอีกด้วย หากทางญี่ปุ่นไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายต่างๆได้ โดยที่ผ่านมาญี่ปุ่นมีรายได้จากลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนจากต่างประเทศมากกว่าปีละ 1,200 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ไปจะต้องเป็นของบริษัททั้งหมด แต่มีรายได้ในประเทศญี่ปุ่นประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมาจากหลายทางเช่น หนัง สินค้าเมอร์ชันไดซ์ เป็นต้น
โดยตลาดใหญ่จะมาจาก จีน อเมริกา ไต้หวัน เป็นต้น และขอยืนยันว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ของไทยจะต้องเอาคืนมา รวมไปถึงอยู่ระหว่างการติดต่อเจรจาค่าลิขสิทธิ์ก้อนใหญ่ที่กำลังจะได้รับจากทางบริษัทผู้ผลิตของเล่นญี่ปุนซึ่งเป็นผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของโลก
สำหรับปัญหาการยื้อแย่งสิทธิ์อุลตร้าแมนของทั้งคู่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2540 ซึ่งทางนายสมโพธิต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายไปแล้วมากกว่า 200 ล้านบาท ในการใช้จ่ายเพื่อต่อสู้คดี
อย่างไรก็ตามบริษัทฯมีแผนที่จะเดินหน้าเชิงธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท โดยมีแผนที่จะสร้างหนังใหญ่และสร้างหนังอุลตร้าแมนตัวใหม่ อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ที่สนใจจะลงทุนร่วมด้วย โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมมือกับบริษัทบันเทิงชั้นนำของทางอเมริกา กลุ่มลูกค้าที่ซื้อลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนจากซึบูราญ่าไชโยไปแล้วนั้นเช่น สแน็คของธีร์โฮลดิ้ง, สแน็กและลูกอมโดยเอเพ็กซ์ฟู้ดส์ เป็นต้น
------------------------------------------
ที่มา >>>ผู้จัดการออนไลน์<<<
------------------------------------------
จริงๆผมไม่ชอบเลย ที่นายขี้ตู่นี่ชนะคดี ถ้แต่าทำแล้วของเล่นอุลตร้าแมน มีคุณภาพ และถูกลงกว่านี้คงดี ส่วนตัวหนังถ้าไทยทำไม่หวังอะไรเลย เพราะไม่คิดจะดู
ดูเซนไทกะหน้ากากมดสนุกกว่าหลายเท่า
- Edit by ฟูมะ ฟุกุดะ(01 พ.ค. 2547-02:56:14)
- Edit by ฟูมะ ฟุกุดะ(01 พ.ค. 2547-11:33:46)
Miscellaneous