สีแดง! มีเขา! แรง3เท่า! GNY-001F2 Gundam Astraea Type F2

CELESTIALBEING, which was continuing it's fight to eradicate war by force, was supported from the shadow

by another organization called "FERESHTE". Gundam OOF unfolds around the exploits of the unique

GUNDAM MEISTER and serious crimical Fon Spark who has no symphathy for the ideology of CELESTIALBEING,

and the sad past borne by the former GUNDAM MEISTER Commander Chall Acustics.

GUNDAM OOF

หลังจากกันดั้มรุ่นแรก " O Gundam" ได้ถูกสร้างขึ้น Celestial Being ก็ได้พัฒนากันดั้มยุคใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือ Second Generation อันได้แก่

GNY-001 Astraea หรือ กันดั้มรุ่นต้นแบบของ Exia

GNY-002 Gundam Sadalsuud รุ่นต้นแบบของ Dynames

GNY-003 Gundam Abul Hool รุ่นต้นแบบของ Kyrios

GNY-004 Gundam Plutone รุ่นต้นแบบของ Nadleeh

โดย กันดั้มทั้ง 4 นี้ ได้สร้างขึ้นที่ โคโลนี่ "กรุงเทพ" ซึ่งมีความหมายว่าเมืองของเทพ เพราะชื่อกันดั้ม แต่ละตัวล้วนเป็นชื่อเทพทั้งสิ้น

ชื่อ Asraea นี้ก็มาจากชื่อเทพ แอสเทรยอา ที่อยู่ในลายไพ่ Justice 1 ใน 22 อาคาน่า

ซึ่งกันดั้มที่เหลือก็เป็น 1 ใน 22 อาคาน่าเช่นกัน เช่น พลูโต มาจากเทพ พลูโตเน่ บนลายไพ่ Judgment 1 ใน 22 อาคาน่า (

โดย แอสเทรย์อาในตอนแรกถูกกำหนดสี เป็น ขาว - น้ำเงินแดง ตามแบบฉบับกันดั้มทั่วไป โดยมีนักบินคือ ชาล ออคุสติก้า

ซึ่งในภายหลัง หลังจากการเดินเครื่อง กันดั้ม Plutone ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้เป็นแผลเป็นและสีผลเปลี่ยนไป และเสียเพื่อนๆ นักบินอีกด้วย

ตอนอายุ 16

กาลเวลาผ่านไป 15 ปี หลังจากนั้นก็มีกันดั้มรุ่นที่ 3 อันได้แต่ Exia, Dynames, Kyrios, และ Virtue โดย Celestial Being ต้องการให้โลกได้รับรู้ถึงกันดั้มทั้ง 4 เครื่องนี้เท่านั้น เหล่ากันดั้ม ยุคที่ 2 จึง

ต้องติด หน้ากาก หรือ Sensor Mask เผื่อปิดบังว่าตนเองเป็นกันดั้ม โดยชาลก็ได้ก่อตั้ง Fereshte ขึ้นเพื่อสนับสนุน Celestial Being ต่อไป...

GNY-001F กันดั้ม เอสเทรย์อา ได้ถูกเปลี่ยนสีใหม่เป็นสีส้มแดง ตัด น้ำตาล โดยมันักบินคือ Fon Spark.

Gundam Astraea นั้น มีประสิทธิภาพสูงเหนือ O Gundam ทุกด้าน (รวมถึงพลังงานไม่เสถียรมากกว่าด้วย) โดยจุดต่างหลักๆ ของกันดั้มยุคที่ 2 ก็คือ Gn Drive ตรงหน้าอก ซึ่งเป็นชิ้นใส ซึ่ง O gundam ไม่มี

กันดั้ม แอสเทรย์อาใช้การขับเคลื่อนแบบ Tri- Thruster ซึ่งเป็น ทรัซเตอร์ 3 แฉกอยู่ด้านหลัง ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นแบบโดม เช่น Exia

โดย ปัจจุบัน กันดั้มยุคที่ 4 มีเพียงตัวเดียวเท่านั้นคือ OO Gundam

ซึ่งจุดต่างของกันดั้ม ยุค 2 และ ยุค 3 คือ Gn Condenser ซึ่งติดตั้งตามจุดต่างๆ ทำให้มีพลังจาก GN Particle สูงขึ้นถึง 40% ซึ่งในภายหลัง แอสเทรย์อาก็ติดตั้ง GN Condenser นี้เช่นกัน ทำให้มีพลัง GN Particle สูงขึ้นถึง 40%

เพื่อรองรับการใช้งาน Trans-Am (สรุป O Gundam กระจอกสุดๆ ว่างั้น)

หลังจากที่ติดตั้ง GN Condenser ก็ได้เปลี่ยนโคดเนมใหม่เป็น GNY-002F2 หรือ F2 ซึ่งเป็นโครงการ แอสเทรย์อา คัสตอม อยู่แล้ว เพื่อรองรับการต่อสู้ที่โหดยิ่งขึ้น ซึ่งในภายหลังการปรากฏตัวของ Throne Gundam

ทำให้ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอีกแล้ว เพราะไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป

Gundam Astraea มีจุดเด่นที่การปรับอาวุธให้เข้ากับการรบ เพราะมีอาวุธทุกรูปแบบ ทั้ง GN Beam rifle, GN Launcher, Proto GNSword, และ GN Shield

โดยมีอาวุธ Build in คือ GN Beam Saber 2 อันเท่านั้น นอกจากนี้ยังมี Trans-Am อีกด้วย ทำให้เร็ว และ แรงเป็น 3 เท่าในเวลาชั่วขณะ แต่ขณะใช้ Trans-AM พลังงานจะลดลงเป็นจำนวนมาก..

Fon Spark นักโทษที่ได้รับเลือกโดย Veda ให้มาขับกันดั้ม โดยส่วนตัวไม่ได้สนใจนโยบายของ ไอโอเรีย ผู้ก่อตั้ง Celestial Being นัก แค่เห็นว่าการต่อสู้เป็นเรื่องสนุกเท่านั้น ที่คอติดตั้งระเบิดอยู่เพื่อกันหลบหนี

Fon Spark คือชื่อโคดเนมเช่นกัน

Hanayo Co-Pilot(มั้ง) ของแอสเทรย์อา ตัวจริงคือโฮโลแกรมที่ส่งผ่าน Haro คอยทำหน้าที่ติดต่อกับ Veda ได้โดยตรง เช่นเดียวกับ Tiaria และคอยดูพฤติกรรมของ Fon ตัวจริงคาดว่าคือ MEISTER 874

Chall Acustica (16+15=31 = ='' ) หลังจากผ่านสงครามมายาวนานในฐานะ Gundam Meister ยุคที่ 2 ทำให้กลายเป้นเจ้าแม่คอยคุม Fereshte คอยสนับสนุนทีม Celestial Being อีกที โดยภารกิจต่างๆ Veda จะเป็นคนมอบให้เช่นกัน

Sherilyn Hyde (14) ช่างเครื่องประจำ Fereshte มักอยู่กับ Hanayo เสมอๆ เป้นลูกศิษย์ของ อิอัน เวสตี้ ลุงช่างเครื่องที่ปรากฏในภาค OO

Eco Calore (30) กันดั้ม Meister อีกคน อยากขับ Gundam Exia มากแต่สุดท้ายก็แห้ว สรุปง่ายๆว่าตัวประกอบ

GNY-001F Gundam Astraea Type F แบบไม่ติด Sensor Mask

ตรงบ่า จะติดตั้ง กราปิคัล อัลเทน่า ที่คอยปล่อย Gn Particle รบกวนเรดาร์ และยังเป้นจุดต่อเชื่อมกับ GN Louncher โดยตรงอีกด้วย

ด้านหลัง

อาวุธหลักคือ GN Shield , Proto GN Sword และ GN Beam rifle.

หน้ากาก

Proto GN Sword

GN Launcher ทีติดตั้งที่บ่า

GNY-001F2 Gundam Astraea F2

ที่ติดตั้ง GN Condenser ทำให้เพิ่ม GN Particle ถึง 40 %

เบลด อัลเทน่า ที่เหมือนกันดั้มมากขึ้น

Proto GN Sword ต้นแบบของ GN Sword ของ Exia ต่างกันตรงที่แปลงเป็น บีมไรเฟิลไม่ได้

ไม่มีอะไรที่ข้าตัดไม่ขาด

เชสโต!!!!!!!!!!

จุดด้อยของ Gundam Astraea อย่างนึงคือ จุดต่อพลังงานมีแค่ที่แขน 2 ข้าง แต่อุปกรณ์มี 3 อย่าง ...... ถ้าติดอาวุธติดโล่ไม่ได้

GN Beam rifle

GN Bean Saber

การทำงาน

เป็นเพราะช่วงนี้ฝนตกทุกวัน พอพ่นสี เครียร์เพื่อปิดงาน เลยทำให้เิดฝ้าขาวขึ้น ก็เลยพ่นเครียร์ทับเพื่อแก้ฝ้าขาวที่เกิดขึ้น แต่พ่นไปพ่นมา ฝนก็ไม่หยุดซักวัน คือ พยายามฝืนพ่น แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ รู้สึกตัวอีกทีก็คือ สีหนา จนสีเพี้ยน ต้องล้างพ่นใหม่ในบางชิ้น เพราะบางชิ้นพ่นเครียร์ปิดงานไปแล้ว เลยรอด พอจะปิดงานบางชิ้น ดันฝนตกพอดี แถมหลังจากนั้น ฝนเจ้ากรรมก็ดันตกไม่เว้นวันอีก....

ทีนี้งานหนัก เพราะสีที่ผสมใว้ดันหมด จะผสมให้เท่าเดิมก็สุดจะยากส์ เพราะธรรมดาไม่ชอบใช้สีเบอร์ ชอบใช้ผสมเองมั่วซั่วตามใจฉัน สุดท้ายก็ล้างสีพ่นใหม่ ในบางจุดไป 7-8 รอบ จนชิ้นส่วนร้าวต้องมานั่งซ่อมกันอีก

สีโทนที่ใช้ก็กะอยู่แล้วว่า ส้มแดง / น้ำตาล เพราะดูจากอิลลัส มันก็สีส้มแดง แต่ในใบต่อระบุว่าใช้สีแดง

เมน คาเมร่า ใช้สติกเกอร์ แล้วพ่นเครียร์เขียวทับ

ตรงคอ ยืดแกน + ฝังจอยย์เพิ่ม ที่เหลือต่อแบบเดิมๆ

สี :

แดง = ส้ม + แดง + เขียวเล็กน้อย

น้ำตาล = เอร์ท + เดเซอร์ด + เทา/ขาว

เทา1 = ขาว+ดำ+น้ำเงิน

เทา2 = ขาว + ดำ+ บาร์บอนบลู

ฟ้า = ขาว + คาร์บอนบลู + เรดเล็กน้อย

เงิน = ซุปเปอร์ซิลเวอร์

GN Drive = Metallic Green + Super silver ตามด้วย Smoke Gray

ขาว = สีรองพื้น + ขาว

ซับ คาเมล่า = เมตัลลิก กรีน + ซุปเปอร์ซิลเวอร์

ปิดงานด้วยเครียร์ กึ่งมันกึ่งด้่าน

โอมาเกะ