Elemental of fantasia ตอนที่ 1 ในเส้นทาง

มาอีกแล้วครับ อิอิ เขียนผิดก็ต้องขอโทษ

ด้วยนะครับ

--------------------------------------------------------------------------------



เหนือพื้นดินขึ้นไปนั้น มีอาณาจักรหนึ่งซ่อนอยู่ในกลีบเมฆ บนหอคอยสูงในปราสาทเด็กสาวมองหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

ก้อนเมฆที่ล่อยลอยไปตามกระแสลมเอื่อย ๆ ลมเย็นสบายพัดผ่านใบหน้าและปลิวผมสีดำของเธอ เสียงประตูเปิดออกอย่างช้า ๆ หญิงสาววัยกลางคนในชุดสีขาวเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ เด็กสาวยังคงเหม่อมองไปที่หน้าต่างโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างที่เปลี่ยนแปลงไปเลย หญิงสาวคนนั้นเข้ามาบอกเกี่ยวกับการอภิเษก สมรสของเธอและเจ้าชายแห่งเซราฟ เด็กสาวเข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูดเธอลงไปพบกับพระราชาแห่งอาณาจักร empyrean ซึ่งเป็นเสด็จพ่อของเธอเอง แม้เธอจะอ้างด้วยเหตุผลประการใดก็ตามแต่เสด็จพ่อของเธอก็มิได้ตรัสอะไรทั้งนั้น หญิงสาววิ่งขึ้นไปที่ห้องของเธออีกครั้งหนึ่งน้ำตาที่ไหลอาบข้างแก้มทั้งสองข้างของเธอ เด็กสาวมองเหม่อที่หน้าต่างอีกครั้งหนึ่ง ฝูงนกกำลังบินกลับรังในเวลาเย็น เด็กสาวมองฝูงนกเหล่านั้นด้วยความอิจฉาเล็กที่ ที่พวกมันนั้น มี อิสระสามารถไปที่ไหนก็ได้ อย่างที่ใจมันต้องการ

แสงสว่างสีขาวนวลลอดออกมาทางหน้าต่างบานที่เธอใช้มองเหล่าฝูงนกและก้อนเมฆอยู่เป็นประจำนั้นเอง แสงสว่างอันเจิดจ้าปลุกการหลับใหลของเธอ ให้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์เธอหันมองไปที่แสงนั้นอย่างช้า ๆ แสงสว่างที่เจิดจ้าเกินกว่าที่เธอนั้นจะสมารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในแสงสว่างนั้นได้ มันมีปีกที่สยายกางออกและหางที่โบกสะบัดไปมา อย่างช้า ๆ อะไรบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของเธอทันทีที่เธอจ้องมองมันครู่หนึ่ง มันใช้กระแส จิตในการติดต่อสื่อสารกับเธอนั้นเอง Irene สิ่งมีชีวิตนั้นเอ่ยชื่อเธอขึ้นมา เพียงประโยคสั้น ๆ เด็กสาวตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ทั้งห้องเงียบสงัดอีกครั้ง แสงสว่างได้หายไปแล้ว ในห้องของเธอกลับสู่วามมืดอีกครั้งหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพอกับภายในห้องที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

แต่สิ่งที่เธอรู้สึกได้นั้นคือ มือข้างขวาของเธอนั้นกำวัตถุสิ่งหนึ่งไว้ เมื่อเธอกางมือออกมานั้นมันคือสร้อยคอ รูปมังกรที่น่า สังเกต คือตรงกางของรูปมังกรนั้นมีจี้สัญลักษณ์และเครื่องหมายดาวหกแฉกประดับอยู่ตรงกลางของสร้อยคอ เธอกำมันไว้ในมือและสิ่งที่แล่นเข้ามาในความคิดแรกทันทีที่เธอกำสร้อยคอนั้น คำอธิฐานที่เธอต้องการมากที่สุด คือ ...... อิสระ ....... ทันทีที่เธอคิดคำนี้ขึ้นมานั้นสร้อยคอเกิดแสงส่องประกายเจิดจ้า รำแสง พุ่งผ่านหน้าต่างและขึ้นไปบนฟ้าทะลุหมู่ เมฆ จนกลายเป็นช่องทางเธอเดินไปที่หน้าต่างที่รำแสงพุ่งออกไปนั้นตอนนี้เธอสวมสร้อยคอนั้นแล้ว แสงสีขาวยังคงอยู่อยู่ครู่หนึ่งแสงนั้นหายไป เธอจ้องมองที่รำแสงนั้นอีกพักหนึ่งและเธอก็หันกลับไปที่เตียงอีกครั้ง น้ำตาไหลอาบข้างแก้มเธอทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไรกันนะ ในเมื่อสิ่งที่เธอทำไปนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เธอก็ยังคงไม่ได้มีอิสระเหมือนเช่นเคย น้ำตาเธอไหลลงอาบจี้สร้อยคอซึ่งบัดนี้เธอได้วางมันลงต่อหน้าและจ้องมองมัน เธอขอร้องต่อหน้าจี้สร้อยคอให้เธอมีอิสระสักครั้งหนึ่ง ครั้งเดียวเท่านั้น

ทันใดนั้นบังเกิดลมพัดมาทางหน้าต่างอย่างรุนแรงเธอหันไปมองทางหน้าต่างนั้นอีกครั้งหนึ่ง เงาดำของอะไรชักอย่างกำลังบินมาทางห้องของเธอ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ยามวิกาลเช่นนี้ยากที่จะทำให้เธอมองเห็นเงาดำที่เคลื่อนที่มาทางหน้าต่างของเธอ มันจะมาดีหรือร้ายนั้นไม่มีใครรู้ได้ แต่อะไรบางอย่างทำให้เธอไม่รูสึกกลัวในสิ่งที่กำลังมาอยู่นี้เลย เงาดำเคลื่อนที่เข้ามาใกล้และในที่สุดเธอก็ได้เห็นรูปร่างของมัน มันกร ขาวตัวใหญ่บินอยู่นอกหน้าต่าง มันบินวนไปมาก่อนที่จะมาลงจอดที่นอกหน้าต่างของห้องเธอ

มันยื่นหน้าเข้ามาหาเธอ เด็กสาวเอื้อมมือมาจับที่หัวของมันกรขาวตัวนั้นก่อนที่จะลูบไปที่ใบหน้าอย่างเอ็นดู เธอเอ่ยคำพูดกับมังกรขาวที่อยู่ตรงหน้าสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด นั้นคือการพาเธอออกไปจากที่แห่งนี้ สิ้นคำพูดของเด็กสาวมังกรขาวพยักหน้าอย่างเข้าใจในคำพูดของเธอ มันยื่นคอออกมาเพื่อให้เธอได้ขึ้นขี่ มันหันหลังให้กลับห้องของเธอปีกเริ่มกางออก ปีกที่โบก สะบัดหนึ่งครั้งบังเกิดลมอย่างรุนแรง มันทะยานขึ้นสู้ท้องฟ้า หญิงสาวหันกับมามอง ณ อาณาจักรของตนเอง มันช่างเล็กมากถ้ามองจากบนฟากฟ้า แม้เธอน้ำตาจะไหลออกมายังสองข้ามแก้ม แต่เธอก็ยอมที่จะมีอิสระชักครั้งหนึ่ง เธอกล่าวขอโทษพระราชาแห่งอาณาจักร Empyrean ในใจและเธอก็ไม่หันไปมองอีกเลย



------------------------------------------------------------------------------------



ภายในห้องที่มืดสลัวมีเพียงแสงสว่างเล็ก ๆ จากทางหน้าต่างที่เป็นรูปไม้กางเขน บุรุษผู้สวมชุดเกาะนั่งชันเข่าข้างหนึ่งในลักษณะที่ก้มหน้านิ่งโดยมีดาบปักไว้อยู่ข้างหน้าเขาเพียงระยะไม่กี่ช่วงศอกเป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วที่เขาทำอยู่อย่างนั้น มาเป็นเวลานานมาก ทันทีที่เข้าลืมตาขึ้นเขาจับดาบที่อยู่ตรงหน้า แล้วหันกลับมาฟาดลงไปที่เป้าหมายที่อยู่ข้างหลังทันที ดาบจอที่คอหอยของฝ่ายตรงข้ามเพียงไม่กี่เซน ชายหนุ่มตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีฟ้าอ่อนมีสัญลักษณ์ไม้กางเขนอยู่ตรงคอเสื้อ

เขาลดดาบลงทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช้สิ่งที่มาทำร้ายเขาแต่อย่างใด บาทหลวงหนุ่มเอามืดจับคอดูว่าคอของเขายังคงอยู่เหมือนเดิมดีหรือไม่ แล้วจึงค่อยเอ่ยบอกถึงการเรียกตัว Rafael จากพระราชวังให้ไปพอเสนาบดีเป็นการด่วนที่สุด ราฟาเอล เดินออกไปอย่างช้า ๆ โดยที่สีหน้าไม่แสดงความตื่นเต้นประหนึ่งเหมือนรู้อยู่แก่ใจว่าการเรียกตัวในครั้งนี้มีจุดประสงค์อะไร ม้าสีดำตัวใหญ่ซึ่งบ่งบอกถึงว่ามันคือม้าที่ใช้สำหรับการรบโดยเฉพาะรอยแผลตามร่างกายของ ตัวมันบ่งบอกถึงการผ่านศึกสงครามมามากมายนักพร้อมกับเจ้านายของมัน มันหันหน้าไปทางประตูทางเข้าโบสถ์ เป็นการรู้ดีว่า คนที่กำลังเดินออกมานั้นคือเจ้านายของมันเอง ราฟาเอล ขึ้นขี่มันก่อนที่จะกระตุงบังเหียนแล้วควบไปทางสู่อาณาจักร Rugged Heart กำแพงเมืองรอบอาณาจักรประดับไปด้วยธงรูปโล่ที่มีดาบเสียบไขว้กันอันเป็นสัญลักษณ์ของ เผ่าแกรนด์ครอส เผ่าแห่งนักรบที่ยิ่งใหญ่ ราฟาเอลเดินตรงเข้าไปที่ห้องของเสนาบดีโดยที่ไม่ได้ทักทายใครสักคนที่เขาเดินผ่าน แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะพยายามทักทาย เขาก็ตาม

ประตูห้องเสนาบดีเปิดออกก่อนที่ราฟาเอลจะเข้าไปถึง ใครคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากห้องของเสนาบดี ......................

ชายหนุ่มผู้สวมชุดเกาะสีขาวเดินออกมาอย่างช้า ๆ เมื่อทั้งสองเดินผ่านกันต่างคนต่างไม่ได้พูดอะไรแก่กันแต่สายแต่ที่มองเพียงชั่วครู่บ่งบอกถึงความมุ่งร้ายของทั้งสองฝ่าย ราฟาเอล เปิดประตูเข้าไปโดยที่ไม่ได้มีการเคารพ ต่อเสนาบดีแต่อย่างใดเสมือนเป็นการดูหมิ่นและไม่เคารพในตัวของท่านเสาบดีแต่อย่างใดเลย การพูดคุยกันของทั้งสองคนเป็นไปอย่างเนิ่นนาน โดยที่ราฟาเอลไม่ได้ปริปากพูดหรือโต้ตอบแต่อย่างใด เขายังคงหลับตาและนิ่งจนดูเหมือนเขาหลับใหล หลายครั้งที่เขาจ้องมองเสนบาดีด้วยความพยาบาทโดยที่เขานั้นไม่สามารถจะทำอะไรเสนาบดีคนนี้ได้เลย อาจเพราะว่าเขามีอำนาจน้อยกว่าเสนาบดี หรือ การเคารพกฎและระเบียบวินัยของเขา หรืออะไรก็แล้วแต่ ห้า หก ชั่วโมงผ่านไปที่เขายังคงนั่งอยู่ในห้องเสนาบดีฟังแต่คำยกย่องตัวเสนาบดีเอง และวีรกรรมอันโฉดชั่วของตัวเสนาบดี ที่ตัวราฟาเอลนั้นรู้เบื้องหลังเป็นอย่างดี อนาคตของเขาวีรกรรมของเขาต้องพังทลายลง ความหวังของเขาหรือแม้แต่คนที่เขารักก็ต้องถูกทำลายลงไปด้วยฝีมืออำนาจและฝีปากของเสนาบดีคนนี้ และในที่สุด...... ความอดทนของเขาก็ได้แตกสลายลงไปด้วยความโกรธของเขานั้นเอง เขา ลุกขึ้น มาและคว้าที่คอเสื้อของเสนาบดีทันทีก่อนทีจะสวนด้วยกำปั้นเหล็กอันทรงพลังลงไปที่ใบหน้าของเสนาบดีอย่างจัง และหยิบมีดสั้นของเขาที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลาปักที่มือข้างขวาของเสนาบดีเสียงร้องอันโหยหวน ของเสนาบดีดังก้องไปทั่วทั้งปราสาท ทหารยามรักษาการณ์ต่างกรูเข้ามาที่ห้องของเสนาบดี ทันทีที่พวกเหล่าทหารใกล้ถึงประตูนั้น ประตูเกิดกระเด็นออกมาด้วยแรงกระแทกจากภายใน บานประตูทั้งสองกระแทกใส่กองทหารที่วิ่งเข้ามาล้มระเนระนาด

ทหารต่างยืนหยุดนิ่งอยู่ยังไม่เคลื่อนที่ไปไหน ราฟาเอลเดินออกมาจากห้องของเสนนาบดีอย่างช้า ๆ โดยที่มือข้างหนึ่งยังกำคอเสื้อของเสนาบดีและลากมาด้วย หน้าของเสนาบดีซึ่งก่อนหน้านั้นดูอิ่มเอิบใจ บัดนี้กลับอาบไปด้วยเลือดน้ำตาที่ไหลพาดด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นเหล่าทหารที่เข้ามาช่วยก็ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่พรางคิดว่านี้ยังเป็นโชคดีของมันเอง เสนาบดีร้องเปล่าประกาศทันทีถึงการให้รางวัลต่อใครก็ตามที่สามารถกำจัด บุรุษ ที่ทำร้ายเสนาบดีได้ ความปรารถนาที่ต้องการในอำนาจและรางวัลในตัวนั้นครอบงำความหวาดกลัวเหล่าทหารต่างเข้ารุมทำร้าย ราฟาเอล ช่วงเวลาหนึ่งเหมือนผ่านไปช้า ๆ ราฟาเอลปล่อยมือที่กำคอเสื้อของเสนาบดีออก ก่อนที่จะหยิบดาบและเดินผ่านเหล่าทหารไปประหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยที่ผ่านมานั้น เมื่อเดินไปจนสุดปลายทางเดิน

เมื่อเหล่าทหารรู้สึกตัวอีกทีก็พอว่าตรงหน้าพวกเขามีเพียงเสนาบดีที่ยังคงก้มหมอบนิ่งอยู่ แต่ตัวราฟาเอลนั้นหายไปแล้ว เหล่าทหารต่างมองหาตัวรางวัลแห่งอำนาจของเขาแต่กระนั้นก็หาไม่เจอจนกระทั้งมีทหารคนหนึ่งหันกลับไปเจอชายที่ใส่เกราะยืนหันหลังให้ เหล่าทหารต่างยิ้มอย่างมีชัยและวิ่งเข้าใส่ราฟาเอล ราฟาเอล เก็บดาบอย่างช้า ๆ เสียงดาบกระทบอย่างเงียบกริบ ทันใดนั้นเหล่าทหารตางเกิดลอยแผลขึ้นตามตัว เลือดไหลพุ่งออกมาตามร่างกาย ต่างล้มลงทีละคน ๆ จนเหลือเพียงเสนาบดีที่ยังคนนอนหมอบตัวสั่นอยู่

ภายนอกป้อมปราการที่แข็งแกร่งแห่ง อาณาจักร Rugged Heart ชายสองคนเดินออกมานอกกำแพงอาณาจักร ราฟาเอล เหวี่ยงเสนาบดีลงไปกองกับพื้น เสนาบดีไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า ต่างล้มลุกครุกคลานเพื่อหนีเอาชีวิตรอด ราฟาเอล เดินเข้ามาใกล้ เรื่อย ๆ เขาหยิบดาบและยกสูงขึ้นเพื่อเตรียทพิพากษา ชายที่อยู่ตรงหน้าเขา ดาบเหวี่ยงลงทันทีที่เสียงร้องขอชีวิตครั้งสุดท้ายของเสนาบดีร้องขึ้น แต่..... ก็ต้องแปลกใจที่คาบของราฟาเอลกระทบกับวัตถุของแข็งอีกชิ้นหนึ่ง เสียงดังสนั่น มันคือดาบอีกเล่มหนึ่งที่ขวางกั้นระหว่างเสนาบดีและดาบของราฟาเอลนั้นเอง นักรบในชุดเกราะอีกคนหนึ่งเอาดาบมาขวางไว้ บุรุษที่เขาเจอก่อนหน้าที่จะเข้าไปหาเสนาบดี ราฟาเอล ไม่เข้าใจในความหมายที่เขาทำ แต่เขาไม่รอช้าเขาตรงเข้าหาอัศวินหนุ่ม ทันทีฝีมือการต่อสู้ของทั้งสองเท่าเทียมกันจนไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่าผลการตัดสินนั้นจะเป็นอย่างไร เมื่อทั้งสองผลละออกมาเตรียมตั้งท่าอีกครั้งหนึ่ง

ราฟาเอลสังเกตุว่าเสนาบดีได้หายไปแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องสู้กับอัศวินหนุ่มนั้น สิ่งที่สังเกตุคือฝ่ายตรงข้ามก็เก็บดาบเหมือนกับว่าเขาก็ไม่จำเป็นต้องสู้เพื่อปกป้องเสนาบดีอีกแล้ว ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ราฟาเอลผิวปากเรียกม้าคู่ใจของเขาและหนีไปทันที ต่อไปนี้เขาจะไปที่ไหนนั้นไม่รู้ ตอนนี้เขาคงกลับอาณาจักรของเขาไม่ได้อีกแล้ว การโดนตามล่าคจะบังเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ เพราะเรื่องที่เขาทำขึ้น เขารู้เพียงว่าต้องหนีกลับไปตั้งหลักก่อน เขาสาบานกับตนเองว่าเขาจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อการแก้แค้นเสนาบดีผู้โฉดชั่ว อีกครั้ง

------------------------------------------------------



ในลำธารเล็ก ๆ ที่ใสสะอาด จนเห็นเหล่าฝูงปลาตัวเล็ก ๆ ที่แหวกว่ายในลำธาาร เด็กน้อยนั่งอยู่ตรงโขดหิน มีเครื่องคนตรีเล็ก ๆ ถืออยู่ที่มือข้างหนึ่ง เด็กน้อยมองท้องฟ้าอย่างอารมณ์ดี เขาหยิบเครื่องดนตรีของเขามาเล่น เสียงเพลงอันไพเราะดังไปก้องป่าเหล่าสรรพสัตว์ที่อยู่ในระแวกนั้นต่างเดินเข้ามาฟังเสียงคนตรีของเด็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่ร้าย เช่น เสือเซเบอร์ทู๊ด หรือสัตว์ต่าง ๆ ก็ต่างมาฟังอย่างสงบนิ่ง แต่...มีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวในพุ่มไม้ทำให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ฟังดนตรีอย่างสงบนั้นพากันหนีไปในทันที เสียงคนตรีหยุดลง เด็กน้อยมองไปที่พุ่มหญ้าที่อยู่ข้างหลังเสียงพุ่มหญ้าสั่นขึ้นเรื่อย ๆ มีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวมาทางนี้ ด้วยสัญชาตืญาณที่รู้ถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามานั้น เด็กน้อยกระโดดลงจากโขดหินและวิ่งเลาะไป ตามลำธารเพื่อกลับไปที่หมู่บ้านทันที .....

ธงรูปต้นไม้ โบกสะบัดปลิวไปตามกระแสลม แต่มันไม่ใช้ธงที่โบกสะบัดอย่างสวยงามเหมือนดังก่อนแต่เป็นธงที่ มีรอยไหม้เกรียมที่เหลือเพียงร่อยรอยอันน้อยนิดอันแสดงถึง ความเป็นสัญลักษณ์ ของเผ่า Green forest ไร้ซึ่งสิ่งมีชิตในหมู่บ้านแห่งนี้ ร่องรอยการต่อสู๋ กลิ่นคาวเลือดความตายคละคลุ้งไปทั่วบริเวณหมู่บ้าน การต่อสู้กันเพื่อเอาชีวิตรอด ที่มีชีวิตซึ่งบัดนี้ไร้ซึ่งลมหายใจต่างล้มลงกลับสู้ผืนดินอีกครั้ง ซากของผู้ทำลายและผู้ปกป้องล้มปะปนกันไป กลิ่นไม้ของบ้านเรือนในหมู่บ้านคละคลุ้งไปทั่วเด็กน้อยเห็นควันที่ลอยขึ้นไปบนฟ้า เขาเริ่มมีรางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น เขาวิ่งไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดอีกเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น เขาก็จัถึงบ้านของเขาแล้ว ประตูหมู่บ้านมีร่องรอยของการถูกทำลายจากภายนอก มีกองทัพบุกเข้ามาทำลายหมู่บ้านแห่งนี้ ทันทีที่เด็กน้อยเดินมาถึงกลางหมู่บ้านนั้น ภาพที่เขาเห็นนั้นคือ ร่องรอยการต่อสู้และซากศพที่กระจัดกระจายรอบหมู่บ้าน บัดนี้หมู่บเานเขาถูกทำลายแล้ว เด็กน้อยไม่สามารถอั๊นน้ำตาซึ่งบัดนี้คลออยู่ที่เบ้าตาของเขาเตียมที่จะไหลออกมาเมื่อไหร่ก็ได้นั้นเอง เด็กน้อยทรุดลงไปกับพื้นในระหว่างที่กำลังร้องไห้อยู่นั้น ด้วยความสามารถของชนเผ่ากรีนฟอเรท ที่สามารถได้ยินเสียงในระยะไกลได้ดีคว่าควปกติ เด็กน้อยได้ยินเสียงการต่อสู้กันที่ท้ายหมูบ้าน เขารีบวิ่งไปทางเสียงนั้นทันที ประหนึ่งว่ายังพอมีหวังที่คงในหมู่บ้านจะยังคงหลงเหลืออยู่ สิ่งมีชีวิตกำลังต่อสู้กัน มนุษย์หมาป่า กับ Orca 3 ตัว ออคก้า ตัวหนึ่งใช้ขวานจามที่หมาป่า ปต่ด้วยความว่องไวอันมีมาแต่ก่อนนั้น ทำให้สามารถหลบได้อย่างฉิวเฉียด ทันทีที่หลบได้นั้นมนุษย์หมาป่า ใช้ความว่องไวตรงเเข้าใส่ช่องว่างที่คอของฝ่ายตรงข้าม มนุษย์หมาป่ากัดลงที่คอหอยของ ออคก้าผู้โชดร้ายคมเขี้ยวกัดลงโดยเล็งที่เส้นเลือดใหญ่เลือดสีเขียวไหลออกมาเป็นทาง ทันทีที่เขี้ยวอันแหลมคมเจาะลงไป มนุษย์หมาป่ากระชากเนื้อที่คอหอยออกทันที ออค์ก้าผู้โชคร้ายล้มลงในทันใด มันกระตุกอยู่ สอง สามนาที และสิ้นลมในทันใด ออคก้าที่เหลืออีก 2 ตัวเกิดการผงะถอยออกไปก้าวหนึ่งก่อนที่ขะบุกทะลวงเข้าหาพร้อมกัน

เด็กน้อยเห็นภาพการต่อสู้นั้น ก็จะได้ว่ามนุษย์หมาป่าตัวนั้น คือ คนที่เขารู้จักและเคารพที่สุดนั้นเอง เขาไม่รู้ว่าควรจะวิ่งเข้าไปหรือยืนหยู่ตรงนั้น แต่ด้วยความตกใจสุดขีดนั้น เด็กน้อยตะโกนออกไปโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้การต่อสู้จรงนั้นหยุดไปชั่วขณะหนึ่ง ออค์ก้า เห็นโอกาสแห่งชัยชนะ พวกของมันตัวหนึ่งเบี่ยงเบนความสนใจในการโจมตี มันเล็งหน้าไม้ไปที่เด็กน้อยนั้นทันทีก่อนที่หมาป่าจะเข้าไปขวางไว้ทัน ลูกธนูได้ถูกยิงออกไปแล้ว ด้วยความตกใจของเด็กน้อยจนไม่สามารถขยับไปไหนได้จึงไม่อาจหลบมัจจุราชที่กำลังพุ่งตรงมาที่เขา เขาได้แต่หลับตาและเอาแขนทั้งสองป้องปัดไว้ เด็กน้อยหลับตาแน่น แต่ครู่หนึ่งที่เขาหลับตา มันเป็นเวลาที่นานแสนนานมากแม้เพียงแค่เศษเสี้ยวของนาที เด็กน้อยลืมตาข้นช้า ๆ สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าคือเงาดำของสิ่งมีชีวิตร่างใหญ่นั้น มนุษย์หมาป่าเข้ามาขวางลูกธนูเพื่อช่วยเด็กน้อย ลูกธนูปักที่กลางหลังมันเป็นลูกธนูที่อาบยาพิษของ Python เลือดจากปากกระเด็นออกมาใส่ใบหน้าของเด็กน้อยที่ยยืนตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกือบจะทำลายเขาไปแล้ว มนุษย์หมาป่ากลับร่างเป็นคนอีกครั้งหนึ่ง ชายร่างวัยกลางคนพูดด้วยประโยคสั้น ๆ ก่อนสิ่นใจ ห......หนีไป....น....โน.....บี..ต...ตะ สิ้นคำพูดต่อลูกของเขา เขาล้มไปกองสิ้นใจในทันที ออค์ก้าทั้งสอง ยิ้มอย่างมีชัยเป้าหมายต่อไปคือการปลิดชีวิตเจ้าเด็กน้อยตรงหน้า นั้นคือรางวัลที่พวกมันให้แก่เด็กน้อยที่ช่วยกำจัดศัตรูที่แข็งแกร่งของมัน มันมอบความตายให้ทันที 10 ก้าว 5 ก้าว มันตัวหนึ่งใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เด็กน้อยตัวสั่นมากขึ้น ๆ ดาบเหล็กที่อาบด้วยเลือดยกสูงขึ้นต่อหน้าเด็กน้อย เสียงของมัจจุราชฟาดลงมาทันที แต่เป็นการฟาดลงกับพื้นดินที่ว่างเปล่าบัดนี้เด็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว Saber-tooth Tiger คาบเด็กน้อยคนนั้น มันอยู่ห่างจาก ออร์ก้า เพียงไม่กี่เมตร เด็กน้อยรอดชีวิตอีกครั้งหนึ่ง เสือเซเบอร์ เหวี่ยงเด็กขึ้นมาขี่ที่หลังของมันและวิ่งหนีออกจากหมู่บ้านไป

ด้วยความว่องไวของมัน ทำให้มันสามารถหลบลูกธนูที่ยิงออกมาจากหน้าไม้นั้นได้ และหนีออกจากหมู่บ้านไป พวกออค์ก้าไม่สามารถไล่ตาามได้ทัน ภารกิจของมันในการล้มล้างหมู่บ้านต้องพังทลายลง พวกมันรำบคำสั่งจากใครนั้นไม่สามารถรู้ได้ โนบีตะ ยังคงร้องไห้อยู่บนหลังของเสือที่ช่วยชีวิตของเขาไว้ เสือตัวนั้นยังคงวิ่งเข้าป่าไปเรื่อย ๆ เพื่อปป้องกันการติดตามของพวกออร์ก้าต่อไป



...........................................................................

Fiction

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา