Happy Birth Day 25 Year Castlevania ขอบคุณที่อยู่กันมา

26 กันยายน ถ้าในมุมมองของคนทั่วไปมันคงเป็นวันแสนธรรมดา บางคนก็วุ่นวายกับการสอบ บางคนก็อาจมีธุระที่น่าเบื่อ แต่สำหรับแฟนเกมกลุ่มนึง มันคือวันที่แสนวิเศษเพราะมันคือวันที่เป็นวันถือกำเนิด 1 ในเกมที่อยู่คู่วงการเกมมานาน

26 กันยายน 1986 วันวางจำหน่ายเกม Castlevania

ย้อนกลับไปช่วงประมาณปี 1998 ซึ่งช่วงนั้นผมพอที่จะเล่นเกมได้แล้ว ถ้าถามผมตอนนั้นว่าผมชอบเกมอะไร ผมคงจะตอบว่า Resident Evil และ Castlevania มันไม่ได้อยู่ในสายตาของผมเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกมอะไร เกมนี้ผมรู้จักครั้งแรกจากการที่เห็นพี่ชายของตนเองนั่งเล่นอยู่ซึ่งก็เป็นภาค Symphony of the Night นั้นเอง กว่าที่ตนเองจะได้สัมผัสเกมนี้อย่างจริงจังก็ปาเข้าไปช่วงปี 2000 ซะแล้ว (เพราะช่วงนั้น RE มันไปออกภาคใหม่ที่เครื่องอื่น ตนก็ไม่มีเกมเล่นแล้ว) ก็ได้หยิบมา ตอนเล่นตอนแรกขอสารภาพว่าใช้แอ็คชั่นรีเพลย์เต็มสูบเพื่อจะได้จบเร็วๆ

แต่จากการเล่นโดยใช้แอ็คชั่น ความรู้สึกในตอนแรกที่มีไม่ประทับใจเท่าไรนัก เพราะกราฟฟิคที่เป็นแค่ 2D ไม่น่าสนใจ หรือระบบเกมที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ แต่จากที่เล่นไปเล่นมาเริ่มติดเข้าอย่างจัง เริ่มเล่นแบบไม่ใช่แอ็คชั่น เริ่มเล่นจบหลายรอบ และในที่สุดผมก็ติดเกมนี้อย่างไม่รู้ตัว

หลังจากที่เริ่มสนใจเกมนี้ ผมก็เริ่มหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ในตอนนั้นผมบ้านผมมีคอมก็จริง แต่การต่อเน็ตถูกจำกัดและผมไม่สามารถที่จะต่อได้ ผมจึงต้องเล่นเน็ตตามร้านเน็ต (ในช่วงที่แร็คนาร็อคกำลังแรงมาก) ตลอดที่ไปก็จะนำแผ่นดิสเก็ตติดตัวไปด้วย 1 แผ่น เพื่อที่จะสามารถเซฟภาพจากเกมนี้ได้ จากการหาข้อมูลผมเริ่มรู้เรื่องของเกมตระกูลนี้ว่ามันมีมาหลายภาคแล้ว แต่ด้วยที่ว่าตอนนั้นต่อเน็ตไม่ได้ จึงต้องออกตามหาแผ่นเกม EMU ที่มีหนังสือขายเล่มละ 80 กว่าบาท เพื่อเอาเกมตระกูลนี้มาลงเครื่องแล้วนั่งเล่น ผลปรากฏคือ “ยากว่ะ” ใช่ครับไม่มีเกม Level เก็บอาวุธแบบภาค Symphony แถมความยากและเชื่องช้าของตัวละครมันทำให้ชวนเลิกเล่น แต่พอลองพยายามก็พบว่าภาคเหล่านี้มีความสนุก โดยเฉพาะภาค Super Castlevania 4 ที่เล่นตอนนั้นอึ้งในลูกเล่นของเกมมากๆ

หลังจากนั้น เกมตระกูลนี้ได้ออกมาในเครื่อง GBA นั้นก็คือ Circle of the Moon ซึ่งตอนนั้นผมถูกอนุญาติให้เล่นเน็ตได้แล้ว แต่ด้วยเน็ตเพียงแค่ 56k การโหลด Rom เกมลำบากพอสมควร แต่ตนเองก็อดหลับอดนอนเพื่อที่จะได้เล่น และผลคือเล่นจบได้เพียง3วันที่โหลดมา (ฮา) และหลังจากนั้นตนเองก็ได้เล่นทุกภาคที่ออกมา ซึ่งลำบากที่สุดเห็นจะเป็นตอน PS2 ที่ผมไม่มีปัญญาซื้อเครื่องในตอนนั้น ต้องเดินไปยืมเครื่องเพื่อนบ้านมาเล่น โดยมีเวลาจำกัดเพียงแค่อาทิตย์เดียวที่จะจบ ซึ่งก็สามารถเล่นจนจบได้ แต่ด้วยความที่อารมณ์มันยังค้างคาในใจ สุดท้ายก็ซื้อบทสรุปภาษาไทยมานั่งอ่านจนกลายเป็นการรู้เรื่องจากบทสรุปซะงั้น (ปัจจุบันมีเครื่องแล้วนะ) ส่วนในภาคของ DS ผมได้รวมตังค์กับพี่ชายซื้อเครื่อง DS ขึ้นมา โดยพี่ชายเล่นเกมอื่น แต่ผมเล่นแค่ Castlevania ทั้ง3 ภาคเท่านั้น (ฮา)

และในตอนที่ Castlevania Lords of Shadow ได้ประกาศวางจำหน่ายในเครื่อง PS3 และ Xbox 360 ตอนนั้นผมไม่มีปัญญาจากเงินเก็บแน่ๆที่จะซื้อเครื่องเกมราคาหมื่นต้นๆแบบนี้ ผมจึงขอไปทำงานพิเศษที่ร้านเช่าวีดีโอในช่วงปิดเทอม โดยขอไม่มีวันหยุด และได้รวมเงินค่าขนมช่วงเรียนมาด้วยส่วนนึง ผมทำงานโดยจะขอหยุดแค่เหตุจำเป็นเป็นเวลาเต็มๆถึง 3เดือนครึ่ง และผมก็ได้เงินมาก้อนนึงและวิ่งตรงไปที่ร้าน เพื่อที่จะซื้อ Xbox 360 ในใจผมตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะเล่นเกมอะไรเลยนอกจาก Castlevania ทั้งที่กว่าเกมมันจะออกก็เกือบ 6 เดือนด้วยซ้ำ ตอนเกมออกก็ขอให้รุ่นพี่ที่อยู่ต่างประเทศซื้อเวอร์ชั่นลิมิเต็ดมาให้ และขอผ่อนเงินแก่ แม้ปัจจุบันจะยังผ่อนไม่หมดก็ตามที (ฮา)

จากความที่เกมนี้ไม่ได้เป็นที่นิยม คนหลายคนยังไม่รู้จัก ผมจึงอยากที่จะถ่ายถอดความรู้ของตนเองที่สืบค้นมานานผ่านทางกระทู้ เปิดตำนาน Castlevania ทั้ง 5 ภาค แม้จะเป็นความรู้ที่มีไม่มาก แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้หลายๆคนที่สนใจเกมนี้ได้อ่านและรู้สึกว่ามันน่าสนใจ พร้อมจะติดตามเรื่องราวของเกมตระกูลนี้ไปพร้อมๆกันกับสิ่งที่ผมถ่ายถอด

ถ้าถามว่าผมสมควรเรียกว่าเป็นแฟนพันธ์แท้เกมนี้ไหม ผมคงตอบว่า “ไม่” ผมเชื่อว่าในประเทศไทยมีคนที่รู้เยอะกว่าผมแน่นอน และที่แน่ๆผมก็อยากเจอและอยากคุยมากๆ ผมมีแผ่นแท้เกมตระกูลนี้เพียงแค่ภาค Lords of Shaodow เพราะช่วงที่ภาคก่อนๆออกผมมีฐานะค่อนข้างจน ปัญญาที่จะเก็บเงินซื้อแผ่นแท้ยากมาก ผมจึงไม่ได้รู้สึกว่าตนเองช่วยให้ Konami สนับสนุนทำเกมนี้ต่อไป จนกระทั้งตอนที่ผมได้ภาค Lords of Shadow มา ผมรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยผมได้ทำประโยชน์ให้กับเกมที่ตนเองรัก และสาบานว่านับแต่นี้ไปจะซื้อแต่แผ่นแท้เกมนี้ และจะพยายามหาเก็บภาคเก่าๆมาด้วย

ในปีนี้ หลายๆคนน่าจะทราบว่าผมได้มีโอกาสออกหนังสือ “เปิดตำนาน Castlevania” ซึ่งจะวางจำหน่ายในงานหนังสือปีนี้ คำถามว่ารู้สึกยังไงที่ผมได้ทำ ผมคงบอกว่า “ผมดีใจ” โอกาสที่จะถ่ายทอดความรักของตนเองต่อเกมที่รักอย่างแท้จริงได้มา อยากให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความรู้สึกนี้ อยากให้ทุกคนที่ไม่เคยสนใจเกมนี้ได้ลองจับมันดู และได้ใช้โอกาสนี้ทำหนังสือของตนเองเล่มแรกเป็นการฝึกทำหนังสือไปในตัว ผมดีใจมากสำหรับโอกาสนี้ และพร้อมจะรับโอกาสทุกเมื่อถ้ามีใครมาเสนอข้อตกลงของเกมนี้ให้ผม อ๋อ ถ้าใครไปงานหนังสือก็อย่าลืมไปอุดหนุนกันนะครับ

(ขอบคุณท่าน Devilexe และ Demonyok ที่มอบโอกาสสำคัญครั้งนึงในชีวิตให้ครับ)

ณ ปัจจุบัน ผมคิดว่าผมคงไม่มีเกมไหนที่ผมรักเท่า Castlevania อีกแล้ว เกมนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้การหาเงินซื้อเครื่องเกม เกมนี้ทำให้ผมได้รับโอกาสการทำหนังสือฝึกฝนตนเอง เกมนี้ทำให้ผมได้ถ่ายทอดสิ่งที่ตนเองรู้มาตลอดหลายปี เกมนี้ทำให้ผมได้เจอเพื่อนเพิ่มขึ้น เกมนี้ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะทำอะไรต่อไป และมันคือเกมที่ทำให้ผมหันมาเขียนบทความลงบอร์ดต่างๆ

ขอขอบคุณ Konami

ขอขอบคุณ Castlevania

Happy Birth Day 25 ปี ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมา และฝากตัวต่อไปเรื่อยๆนะ