Mecha Story: กระทู้แรกของปีนี้...

หายไปซะนาน ช่วงนี้รูปจากPhotobucketอาจจะโหลดช้าซักหน่อยหรือไม่ยอมโหลดเลย ขออภัยด้วยนะครับ



สองตัวแรกนี่จริงๆแล้วรู้สึกว่าข้อมูลเบาหวิวแทบไม่น่าเอามาลง แต่ความแปลกมันก็พอจะกลบเกลื่อนไปได้ล่ะนะครับ



MS-19 ดอลเมล

MSที่เป็นบอสตัวสุดท้ายของเกมอาเขตEX REVUE แต่ในปัจจุบันยังไม่เคยได้ไปร่วมในผลงานอื่น แม้แต่G Generationก็ยังไม่เคยปรากฏตัวจึงเป็นMSที่ไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก รวมถึงไม่อาจยืนยันได้ด้วยว่าปรากฏตัวในจักวาลUCจริงๆรึเปล่า

ดอลเมลถูกพัฒนาที่อบาโออากู จุดเด่นอยู่ที่บีมกันติดแขนสองข้างที่ใช้เป็นบีมเซเบอร์ได้ ที่ลำตัวมีมิสไซล์พ็อด ที่ปลายเท้าทั้งสองข้างสามารถสร้างบีมเพื่อเพิ่มพลังทำลายของลูกเตะ หนามขนาดใหญ่ที่ไหล่ทั้งสองข้างสามารถเร่งความร้อนเพื่อเพิ่มพลังทำลายได้อีกเช่นกัน ลามุยโค ชูไทน์ซึ่งเป็นนักบินได้ใช้ดอลเมลในการต่อสู้ที่อบาโออากูและถูกทำลายในการต่อสู้



MSA-120 แอทมอส

ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นMSA-120ตัวจริงรึเปล่า แต่ในขณะนี้ขอยกผลประโยชน์ให้จำเลยไปพลางๆ ปรากฏตัวในไซเบอร์คอมมิกและเป็นMSที่อนาไฮม์ส่งไปประกวดสู้กับF90ซีรี่ส์ของSNRI ชื่อATMOSย่อมาจากAdvanced Tactical MObile Suit ติดตั้งอาวุธหนักอย่างไฮเปอร์เมก้าลันเชอร์ไว้ อุปกรณ์ที่สำคัญก็คือเมก้าเบิร์สท์Eแคปซึ่งสามารถใช้เพิ่มกำลังของเครื่องได้ชั่วขณะ ด้านพลังอย่างเดียวแล้วแอทมอสเหนือกว่าF90มาก แต่เนื่องจากราคาแพงสุดท้ายจึงแพ้ต่อF91ในการเสนอขายให้EFไป



ตามด้วยเหล่าตัวเอก(ชุดปกติ)ของSRW J ถ้าตรงไหนผิดก็ช่วยกันติงหน่อยนะครับ



เบลเซลูท

หุ่นรบรุ่นต้นแบบที่พัฒนาโดยโปรเจ็คแอชรีครอยเซลซึ่งใช้เทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวฟูรีรวมกับเทคโนโลยีของโลก ใช้เครื่องกำเนิดพลังงานออร์กอนเอ็กแทรคเตอร์ซึ่งให้พลังงานออร์กอนที่สามารถแปลงสภาพเป็นสสารได้ในพริบตา หุ่นรบที่พัฒนาในกลุ่มนี้ทั้งหมดมีความสามารถในการบินกลางอากาศและสร้างอาวุธจากผลึกออร์กอน ฟรานซ์ เซปเปลิน นักวิจัยชาวโลกซึ่งเป็นเพื่อนของเอ เซลด้า ชุน อัศวินของฟูรี ฟรานซ์ได้ช่วยเหลือสามสาว เฟสเทเนีย มิวส์, คาเทีย กรีเนียล และ เมลูอา เมลน่า เมอาซึ่งถูกฟูรีควบคุมตัวไว้พร้อมกับมอบเบลเซลูทให้พาไปหา...

- คาลวิน่า คูลันจ์ อดีตนักบินมือหนึ่งของโลก ฉาายา"แมวป่าสีขาว" (white lynx) แต่ได้ลาออกมาเป็นนักบินทดสอบของโปรเจ็คท์ที่ใช้เทคโนโลยีของฟูรี ซึ่งโครงการณ์นี้ถูกฟูรีทำลายและคาลวิน่าเป็นผู้รอดตายเพียงหนึ่งเดียวเพราะคนรักคืออัล แวน แรงค์ อัศวินของฟูรีที่แฝงตัวมาเป็นสปายจงใจให้รอด แม้ร่างกายและจิตใจจะไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนอดีต แต่ยังคงมีฝีมือในการควบคุมหุ่นไม่เปลี่ยนแปลง

- โทยะ ชุน หรือ โทยะ เซลด้า ชุน ลูกชายของเอ เซลด้ากับหญิงชาวโลก ซึ่งพวกคาเทียเอาหุ่นไปลงกลางสนามโรงเรียนขณะที่มีการสู้รบพอดีและบังคับให้โทยะเป็นนักบินเอาดื้อๆ ด้วยสายเลือดของเอ เซลด้าทำให้โทยะสามารถเรียนรู้การควบคุมหุ่นได้อย่างรวดเร็วทั้งที่เจ้าตัวไม่ชอบเลยสักนิด

เบลเซลูทใช้ระบบควบคุมไซทรอนคอนโทรลซึ่งใช้อนุภาคไซทรอนเชื่อมนักบินและหุ่นเข้าด้วยกัน เนื่องจากคาลวิน่าและโทยะไม่สามารถใช้งานไซทรอนคอนโทรลเองได้จึงต้องใช้สามสาวช่วยควบคุมด้วยอีกแรง คุณสมบัติพิเศษอีกประการก็คือลาสเอเรมแคนเซลเลอร์ซึ่งสามารถใช้สลายผลของระบบลาสเอเรมของราฟท์แคลนซ์ อันเป็นระบบที่ใช้หยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูได้

เบลเซลูทเน้นความเร็วและการโจมตีระยะไกล ที่ขาสองข้างติดตั้งมิสไซล์ลันเชอร์และช็อตลันเชอร์ที่เอวสามารถใช้เป็นบีมกันได้ แต่อาวุธหลักก็คือออร์กอนไรเฟิลที่ถืออยู่ ซึ่งโดยปกติจะยิงได้ทั้งกระสุนธรรมดาและบีม แต่เมื่อประกอบเข้ากับช็อตลันเชอร์ทั้งสองแล้วจะสามารถใช้เป็นธนูยิงศรผลึกออร์กอนที่มีอานุภาพรุนแรงได้

หลังจากที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้กับราฟท์แคลนซ์ของอัล แวน ฟรานซ์(ซึ่งก่อนตายได้เก็บข้อมูลสมองของตัวเองเป็นAIไว้แล้ว)จึงได้ปรับปรุงไปเป็นเบลเซลูทบริแกนดี โดยใช้เป็นเหมือนเกราะสวมให้เบลเซลูท เนื่องจากติดตั้งเวอเนียร์ไว้ทั่วจึงไม่มีปัญหาด้านความคล่องตัว บริแกนดียังมีความสามารถในการใช้ออร์กอนคลาวด์เป็นสนามพลังป้องกันตัวหรือเทเลพอร์ตได้เหมือนราฟท์แคลนซ์ ออร์กอนไรเฟิลถูกเปลี่ยนสภาพมาเป็นออร์กอนแร็กนาไรเฟิลติดแขน ซึ่งสามารถยิงได้ทั้งกระสุนผลึกออร์กอนและบีม ทั้งยังมีโฮมมิงเลเซอร์ซึ่งสามารถทำลายศัตรูเป็นจำนวนมากพร้อมกันได้ อาวุธที่รุนแรงที่สุดของบริแกนดีก็คือออร์กอนบัสเตอร์แคนน่อน เมื่อจะใช้งานเกราะของบริแกนดีจะถูกถอดออกมาแปลงสภาพเป็นปืนใหญ่ให้เบลเซลูท



คุสท์เวล

หุ่นรบรุ่นต้นแบบที่พัฒนาโดยโปรเจ็คแอชรีครอยเซลเหมือนเบลเซลูท ในส่วนของเนื้อเรื่องจะเหมือนกับเบลเซลูทและมีลาสเอเรมแคนเซลเลอร์กับไซทรอนคอนโทรลเหมือนกัน แต่คุสท์เวลเป็นแบบที่เน้นความคล่องแคล่วและการต่อสู้ในระยะประชิดแบบกายายุทธ ดูเผินๆเหมือนไม่ได้ติดตั้งอาวุธ แต่จริงๆแล้วคุสท์เวลสามารถสร้างผลึกออร์กอนคลุมกำปั้นเพื่อเพิ่มพลังหมัดหรือแม้แต่ใช้ชกโจมตีจากระยะไกลได้ ส่วนไหล่สามารถถอดออกมาประกอบกับมือเพื่อสร้างกงเล็บออร์กอนขนาดใหญ่ได้ ไม้ตายของคุสท์เวลก็คือ"ออร์กอนฟินิช" หรือ "แม็กซิมัมโหมด" ในสภาพนี้ ส่วนหน้าผากของคุสท์เวลจะกางออกเป็นเขาแล้วเร่งสมรรถนะจนถึงขีดสุด พุ่งโจมตีศัตรูด้วยกงเล็บออร์กอนในครั้งเดียว

หลังจากที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้กับราฟท์แคลนซ์ของอัล แวน ฟรานซ์จึงได้ปรับปรุงโดยใช้ชิ้นส่วนของราฟท์แคลนซ์ไปเป็นคุสท์เวลบราคิอุม บราคิอุมมีความสามารถในการใช้ออร์กอนคลาวด์เป็นสนามพลังป้องกันตัวหรือเทเลพอร์ตได้เหมือนราฟท์แคลนซ์ รวมถึงใช้ผลึกออร์กอนสร้างร่างจำลองของตัวเองเพื่อช่วยโจมตีได้ กงเล็บออร์กอนที่ไหล่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมเพื่อเพิ่มอานุภาพ



แกรนทีด

หุ่นรบรุ่นต้นแบบที่พัฒนาโดยโปรเจ็คแอชรีครอยเซลเหมือนเบลเซลูท ในส่วนของเนื้อเรื่องจะเหมือนกับเบลเซลูทและมีลาสเอเรมแคนเซลเลอร์กับไซทรอนคอนโทรลเหมือนกัน แกรนทีดมีขนาดใหญ่จึงขาดความคล่องแคล่วเมื่อเทียบกับเบลเซลูทและคุสท์เวลแต่ก็มีเกราะที่แข็งแกร่งและอาวุธที่ทรงอานุภาพมากที่สุด นิ้วของแกรนทีดสามารถใช้เสียบกระแทกศัตรูเป็นอาวุธระยะประชิดได้ วงแหวนบนหัวเป็นออร์กอนบลาสเตอร์และที่หน้าอกสามารถยิงออร์กอนสเลฟซึ่งมีอานุภาพสูงในระยะไกล อาวุธที่รุนแรงที่สุดของแกรนทีดก็คือ"เทมเพสต์แลนเซอร์"ซึ่งส่วนหน้าอกของแกรนทีดจะแยกออกมาเป็นด้ามหอกออร์กอนสำหรับเสียบศัตรู ในขณะที่ใช้ท่านี้ พลังงานออร์กอนของแกรนทีดจะแผ่ออกมาจากด้านหลังจนดูเหมือนเป็นผ้าคลุม

หลังจากที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้กับราฟท์แคลนซ์ของอัล แวน ฟรานซ์จึงได้ปรับปรุงโดยใช้มังกรจักรกลบาซิเลอุส กลายเป็นแกรนทีดดราโกเดอุส นอกจากความสามารถในการใช้ออร์กอนคลาวด์แล้วพลังของแกรนทีดยังเพิ่มสูงขึ้นมาก เมื่อใช้อินฟินิตี้คาลิเบอร์ซึ่งเป็นไม้ตาย หัวมังกรอีกสี่หัวของบาซิเลอุสจะออกมา ซึ่งถ้าเฟสเทเนียและคาเทียร์เป็นผู้ควบคุมจะเป็นการโจมตีด้วยดาบออร์กอนขนาดมหึมา(ซันคันโต...) แต่ของเมลูอาจะแยกบาซิเลอุสออกเป็นฐานยืนแล้วพุ่งกระแทก (Gซอร์ดไดรเวอร์...)
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา