Mecha Story: กาเวน (อีกรอบ) ซีอ้อนหัวจรวด และ ปลอบใจนิวโลว์กันหน่อย...
IFX-V301 กาเวน
KMFของเจ้าชายชไนเซล เอล บริทาเนีย กาเวนเป็นKMFรุ่นที่หกซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องต้นแบบที่ใช้การไม่ได้ จุดเด่นของกาเวนนอกจากขนาดที่ใหญ่โตกว่าปกติแล้วก็คือมีโฟลทซิสเต็มที่ทำให้สามารถบินได้ด้วยตัวเอง ค็อกพิตของกาเวนเป็นแบบสองที่นั่ง และมีระบบคอมพิวเตอร์ดรูอิดซิสเต็มที่มีความสามารถในการประมวลผลที่สุงมาก อาวุธของกาเวนก็คือปืนใหญ่ฮาดรอนที่ไหล่ทั้งสองข้าง เนื่องจากมีปัญหาที่บีมกระจายตัวออกมากเกินไปจึงเสี่ยงต่อการยิงโดนพวกเดียวกันเอง ทำให้ใช้งานยากและมีพลังทำลายไม่มากเท่าที่ควร ปลายนิ้วทั้งสิบของกาเวนนั้นสามารถยิงออกไปเป็นสแลชฮาร์เคนได้
กาเวนนั้นถูกลูลูชและคาเลนขโมยไประหว่างที่ใช้ดรูอิดซิสเต็มวิเคราะห์ซากโบราณสถานบนเกาะคามิเนจิมะ และกลุ่มภาคีอัศวินดำก็ได้ดัดแปลงกาเวนโดยติดตั้งเกเฟียนดิสเทอเบอเอาไว้ ซึ่งนอกจากจะทำให้ศัตรุตรวจจับกาเวนได้ยากแล้วยังช่วยควบคุมกำลังของปืนใหญ่ฮาดรอนให้ยิงเป็นลำแสงที่มีอานุภาพสูงตามที่ต้องการได้อีกด้วย กาเวนนั้นเป็นKMFประจำตัวของลูลูชกับซีทูว์ ซึ่งความสามารถในการประมวลผลของดรูอิดซิสเต็มนั้นทำให้ลูลูชสามารถใช้ความสามารถในการวางแผนของตนในการบัญชาการรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดอ่อนของกาเวนก็คือขนาดที่ใหญ่กว่าปกติและไม่มีอาวุธระยะประชิดซึ่งทำให้ต่อสู้กับศัตรูตรงๆในระยะประชิดได้ลำบาก กาเวนนั้นจมลงทะเลไปพร้อมกับKGF ซิกฟรีด
RPI-V4L กาเรธ
รุ่นผลิตจำนวนมากของกาเวนที่บริทาเนียพัฒนาต่อมา กาเรธนั้นเน้นการใช้งานในภาคอากาศจึงไม่มีแลนด์สปินเนอร์ที่เท้าเหมือนKMFทั่วๆไป ปืนใหญ่ฮาดรอนนั้นย้ายมาอยู่ที่มือสองข้าง ที่ไหล่ของกาเรธติดตั้งปืนอัตโนมัติไว้และมีมิสไซล์ที่ลำตัวกับขาเป็นอาวุธเสริม ส่วนสแลชฮาเคนจะอยู่ที่เอว ก่อนที่กาเรธจะเข้าประจำการนั้นก็มีIFX-4DW1 อกราเวนของบุรุษลึกลับ วิซาร์ด ซึ่งใช้รูปแบบคล้ายกับกาเรธ แต่มีมือแบบมนุษย์อยู่ในปืนใหญ่ฮาดรอน จึงสามารถใช้ดาบMVSต่อสู้ในระยะประชิดได้ (อาจมีความสามารถอื่นอีก แต่ตอนนี้ยังไม่เปิดเผย)
RZA-1A กาลาฮัด
KMFอีกตัวที่พัฒนาต่อมาจากกาเวน กาลาฮัดเป็นKMFของไนท์ออฟวัน บิสมาร์ค วาล์ดสไตน์ โดยกาลาฮัดนั้นคงลักษณะที่ใหญ่กว่าปกติและสแลชฮาร์เคนที่นิ้วเอาไว้ แต่มีสมรรถนะที่สูงกว่ากาเวนมาก อาวุธของกาลาฮัดก็คือดาบขนาดยักษ์ "เอ็กซ์คาลิเบอร์" ซึ่งมีความยาวตลอดด้ามสูงกว่ากาลาฮัดเองเสียอีก ฝักดาบของเอ็กซ์คาลิเบอร์นั้นนอกจากใช้เก็บดาบแล้วยังใช้เป็นโฟลทยูนิตในตัว เนื่องจากความยาวของเอ็กซ์คาลิเบอร์จึงมีแลนด์สปินเนอร์ติดไว้ที่ปลายฝักดาบด้วย เอ็กซ์คาลิเบอร์นี้สามารถแผ่สนามพลังซึ่งทำให้สามารถใช้ผ่าได้แม้แต่อาวุธบีมที่มีอานุภาพสูง กาลาฮัดนั้นถูกทำลายในการต่อสู้กับแลนสล็อตอัลเบียน แต่เอ็กซ์คาลิเบอร์ที่ถูกฟันขาดสองซีกนั้นถูกเก็บไปใช้อัพเกรดทริสแทนเป็นทริสแทนดีไวเดอร์
Type-0/0A ชินคิโร
KMFเครื่องใหม่ที่ออกแบบไว้ให้ลูลูชโดยเฉพาะ และติดตั้งดรูอิดซิสเต็มที่กลุ่มภาคีอัศวินดำถอดออกมาหลังจากที่กู้กาเวนขึ้นมา เนื่องจากลูลูชนั้นบังคับKMFไม่เก่ง ความสามารถของชินคิโรจึงเน้นที่การใช้ประโยชน์จากสติปัญญาระดับอัจฉริยะของลูลูช จุดเด่นของชินคิโรอยู่ที่ระบบป้องกันแบบโล่แสงขนาดเล็กที่ใช้ดรูอิดซิสเต็มคำนวนการโจมตีของศัตรู แล้วให้นักบินปรับตำแหน่งของโล่เอง ซึ่งลูลูชนั้นสามารถคำนวนและสร้างรูปแบบการป้องกันที่สมบูรณ์แบบได้ อาวุธหลักของชินคิโรก็คือปืนแปรพลังงานแบบสาดกระจายที่หน้าอก ซึ่งนอกจากจะใช้ยิงตรงๆแล้ว ชินคิโรยังสามารถยิงใส่ปริซึมที่ตัวเองปล่อยออกมาเพื่อใช้กระจายลำแสงไปในทิศทางต่างๆ ที่ข้อมือของชินคิโรยังมีปืนฮาดรอนขนาดเล็กติดไว้เป็นอาวุธเสริม ที่เข่ามีสแลชฮาร์เคนซ่อนไว้แต่ไม่เคยได้ใช้งาน การเคลื่อนไหวพื้นฐานของชินคิโรเป็นระบบอัตโนมัติเพื่อชดเชยที่ลูลูชบังคับKMFไม่เก่งและทำให้สามารถตั้งสมาธิให้การวางแผนได้ ชินคิโรยังสามารถแปลงร่างเป็นฟอเทรสโหมดซึ่งเป็นยานที่สามารถใช้ในน้ำได้
เนื่องจากไม่ได้รับการออกแบบให้ใช้ต่อสู้กับศัตรูโดยตรง ชินคิโรจึงยังมีจุดอ่อนด้านการต่อสู้ในระยะประชิดและขณะที่ใช้ระบบป้องกันก็จะไม่สามารถโจมตีศัตรูได้ด้วย นอกจากนั้น ระบบป้องกันและปริซึมของชินคิโรยังต้องใช้การคำนวนที่ซับซ้อนในเวลาสั้นๆ ซึ่งนอกจากลูลูชแล้วก็ไม่มีใครสามารถใช้งานได้เต็มที่ ในภายหลังนั้น ชินคิโรถูกทริสแทนดีไวเดอร์ทำลาย
MSM-06 จูริค (อุมิคิต๊า!!!!)
MSแบบสะเทินน้ำสะเทินบกของซีอ้อนที่พัฒนาในช่วงเดียวกับสก็อก จูริคได้รับการออกแบบให้เน้นการใช้งานในน้ำ รูปทรงของจูริคนั้นเมื่อเก็บแขนแล้วจะเพรียวและต้านน้ำน้อยกว่าสก็อก จึงดำน้ำได้เร็วกว่า แต่ส่วนขาที่สั้นนั้นทำให้ใช้งานบนบกได้ลำบาก รอบท้องของจูริคมีปืนอนุภาคอยู่รวมสิบกระบอกจึงสามารถยิงได้รอบตัว แต่เครื่องกำเนิดพลังงานมีกำลังไม่พอจะยิงทีเดียวทั้งหมดได้ นอกจากนั้นแล้วก็มีอาวุธเป็นมิสไซล์กับเล็บ ซีอ้อนได้ระงับการพัฒนาจูริคเพื่อเน้นการผลิตก็อกกับสก็อก เมื่อสงครามหนึ่งปีจบลง จูริคก็ยังมีแค่เครื่องต้นแบบไม่กี่เครื่องเท่านั้น
AGE-1 กันดั้มเอจ1
กันดั้มที่ฟลิท อาสุโนะออกแบบให้สหพันธ์โลกเพื่อใช้ต่อต้านศัตรูลึกลับ กันดั้มนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเอจซิสเต็มซึ่งใช้งานร่วมกับเอจดีไวซ์ เมโมรียูนิตซึ่งใช้บันทึกข้อมูลต่างๆสืบกันมาของตระกูลอาสุโนะ ด้านหลังของกันดั้มนั้นจะมีเสาอากาศขนาดใหญ่ซึ่งใช้เก็บข้อมูลต่างๆและบันทึกไว้ในเอจดีไวซ์ เอจซิสเต็มอีกส่วนนั้นก็คือเอจบิลเดอร์ ซึ่งใช้วิเคราะห์ข้อมูลในเอจดีไวซ์และสร้างอุปกรณ์ต่างๆออกมาตามความต้องการ ซึ่งกันดั้มในประกอบด้วยส่วนลำตัวเป็นGคอร์ กับแขนขาเป็นGแวร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ โดยเมื่ออยู่ในสนามรบนั้นจะใช้ยานไร้คนบังคับ อเมมโบ ส่งGแวร์ให้
กันดั้มเอจ1นอมอลนั้นเป็นMSแบบทั่วไป มีอาวุธเป็นบีมเซเบอร์ที่สามารถปรับระดับพลังงานให้สั้นลงเป็นบีมแด็กเกอร์ได้ ในการออกรบครั้งแรกนั้น ฟลิทตัดสินใจเอากันดั้มเอจ1ออกไปต่อสู้เองและสามารถทำลายกาฟรานของศัตรูได้ กันดั้มเอจ1จึงเป็นMSประจำตัวของฟลิทต่อมา และเอจบิลเดอร์ก็ได้สร้างอาวุธใหม่ให้ชิ้นแรก นั่นคือ ด็อดส์ไรเฟิล (DODS - Drill-Orbital Discharge System) ซึ่งเอจบิลเดอร์สร้างมาให้เป็นอาวุธที่สามารถทำลายกาฟรานได้ในนัดเดียว ซึ่งด็อดส์ไรเฟิลนั้นยิงบีมที่หมุนออกไปแบบควงสว่านและมีกำลังเจาะทะลวงสูงกว่าสเปรย์กันของเจโนอัซมาก ลำกล้องของด็อดส์ไรเฟิลนั้นสามารถถอดออกเพื่อใช้งานแบบปืนพกได้
(ภาคนิยายเจาะไปอีกนิดว่าเอจซิสเต็มนั้นคำนวนเกราะของกาฟรานจากรอยเท้าที่มันทิ้งไว้บนถนน เมื่อคำนวนการกระจายน้ำหนักของรอยเท้ามาคิดค่าสัมพันธ์กับขนาดตัวแล้วก็ทำให้ประมาณความหนาของเกราะได้)
Gแวร์ชิ้นแรกที่เอจบิลเดอร์สร้างขึ้นนั้นก็คือ AGE-1T กันดั้มเอจ1ไททัส เพื่อใช้ตอบโต้ MSรุ่นหนัก ovv-a บัคโต ไททัสเน้นที่การต่อสู้ด้วยพละกำลังและเกราะที่หนา ซึ่งไททัสจะใช้บีมเพิ่มพลังทำลายของการโจมตี ที่แขนสองข้างจะมีจุดปล่อยบีมออกมารอบแขนเป็นบีมลาเรียต ที่ไหล่และเข่าก็มีจุดปล่อยบีมออกมา ไททัสนั้นสามารถปลดลิมิเตอร์เพื่อใช้กำลังเต็มที่ได้ แต่ถ้าใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานGแวร์ก็จะเสียหายเนื่องจากโอเวอร์โหลด ท่อขับดันของไททัสนั้นใช้พุ่งตัวในระยะสั้นๆได้ แต่เนื่องจากไททัสมีน้ำหนักมากจึงไม่สามารถเร่งความเร็วได้นานและมีความคล่องตัวต่ำ
(อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันว่าไททัสนั้นเข้ากับสาวน้อยเวทมนต์นามอุโฆษคนหนึ่งมาก)
เมื่อต้องสู้กับMSที่มีความเร็วสูง xvv-xc เซดัส เอจบิลเดอร์จึงได้สร้างGแวร์ AGE-1S กันดั้มเอจ1สปัลโล โดยออกแบบให้คล้ายกับนินจา สปัลโลนั้นมีเกราะที่บางมาก แต่ก็มีความเร็วที่เหนือกว่าMSรุ่นก่อนหน้านี้ทั้งหมด เนื่องจากตั้งใจให้ศัตรูตรวจจับได้ยาก สปัลโลจึงไม่ใช้อาวุธบีม อาวุธหลักของสปัลโลนั้นก็คือดาบชิกุลเบลด ซึ่งเป็นดาบคลื่นความที่สูงที่มีพลังในการตัดสูงยิ่งกว่าบีมเซเบอร์ จุดบกพร่องของชิกุลเบลดนั้นก็คือโลหะที่ใช้ทำใบมีดนั้นเมื่อใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานก็จะเริ่มบิ่น สปัลโลจึงไม่เหมาะกับการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ เมื่อเทียบกับขนาดแล้วชิกุลเบลดยังหนักมากอีกด้วย การจะใช้ชิกุลเบลดฟันศัตรูอย่างมีประสิทธิภาพนั้นจึงต้องใช้ท่อขับดันช่วยเร่งแรงเหวี่ยงของดาบด้วย
ในเวลาต่อมานั้น เอจบิลเดอร์จึงได้สร้างGแวร์ที่เป็นรุ่นปรับปรุงของสปัลโลออกมา นั่นคือ AGE-1R กันดั้มเอจ1เรเซอร์ ซึ่งมีอาวุธเป็นดาบเรเซอร์เบลดที่แขนและขารวมสี่เล่ม เรเซอร์เบลดนั้นมีพลังทำลายมากพอที่จะทำลายศัตรูได้โดยไม่ต้องใช้แรงจากท่อขับดันช่วย ใบมีดของเรเซอร์เบลดยังเป็นแบบหลายชั้นซ้อนกัน เมื่อใบมีดเริ่มบิ่นก็จะปลดชั้นนอกทิ้งไปให้คมเสมอ เรเซอร์เบลดสองเล่มยังสามารถนำมาประกอบกันเป็นบูมเมอแรงสำหรับใช้ขว้างได้ เนื่องจากเรเซอร์เบลดมีขนาดใหญ่และหนักพอดู จึงใช้ช่วยควบคุมทิศทางได้เหมือนระบบAMBAC แต่ก็ทำให้เอจ1เรเซอร์บังคับได้ยากกว่าปกติมาก จนมีแต่นักบินที่เป็นXราวเดอร์เท่านั้นที่บังคับได้เต็มที่
เมื่ออาเซม อาสุโนะ ลูกชายของฟลิทได้รับเอจดีไวซ์มาจากพ่อและใช้กันดั้มเอจ1ในการต่อสู้ กันดั้มเอจ1ก็ยังมีพลังในการต่อสู้ที่เทียบได้กับMSรุ่นใหม่ๆแม้จะมีอายุภึง25ปีแล้ว อาเซมใช้งานกันดั้มเอจ1เป็นช่วงสั้นๆก่อนที่เอจบิลเดอร์จะสร้างกันดั้มเอจ2ให้และถอดเอาเอจซิสเต็มไปติดตั้งไปด้วย ส่วนกันดั้มเอจ1นั้นก็ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานได้ด้วยระบบแบบปกติและให้ฟลิทใช้งาน เรียกว่า AGE-1F กันดั้มเอจ1แฟลท โดยมีอาวุธใหม่คือมิสไซล์ลันเชอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เซฟุลด์ลันเชอร์
แต่เมื่อเวลาผ่านไป กันดั้มเอจ1ก็กลายเป็นMSที่ล้าสมัยจนได้ จึงได้ทำการปรับปรุงอีกครั้งเป็น AGE-1G กันดั้มเอจ1กรันซา โดยเสริมเกราะแบบฟุลอาเมอร์ให้ และติดโล่ชิลด์ไรเฟิลที่แขนทั้งสองข้างซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งยิงโจมตีและเป็นบีมเซเบอร์ และยังสามารถติดตั้งแกลสตอนลันเชอร์ ซึ่งคล้ายกับเซฟุลด์ลันเชอร์แต่เป็นแบบบีมแคนน่อน ซึ่งในขณะที่ใช้แกลสตอนลันเชอร์นั้นจะเรียกว่า กันดั้มเอจ1ฟุลกรันซา
Gแวร์อีกสองแบบที่โผล่มาเฉพาะในเกม ซ้ายคือกันเด็ดใช้ด็อดส์บาซูก้าขนาดใหญ่ ส่วนขวาคือซอร์ดเดียที่ใช้รูปแบบของอัศวินยุคกลางและเน้นการต่อสู้ระยะประชิดโดยมีสมรรถนะที่สมดุลย์
(ความกระตือรือร้นในการเรียบเรียงของเอจนี่ ต่ำกว่าตอนเดสทินีเสียอีกครับ แต่ตอนเขียนจริงรู้สึกสนุกกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆมากกว่าเดสทินี)
Super Robot Wars
Games
Mecha Story