Mecha Story: งานนี้มีแต่เรียล...?

หายไปซะนาน ตอนนี้ก็มีบางอย่างที่ผมยังไม่แน่ใจ100%แต่ก็ทำเป็นลืมๆไปซะ (ช่างไร้ความผิดชอบซะจริงๆ :ah: ) ใครจับได้ก็โพสต์กัดให้หน่อยนะครับ ;)



ปล.ใครมีไลน์อาร์ทของM-9Dช่วยโพสต์ให้หน่อยนะครับ







M9 เกอร์นแบคและARX-7 อาบาเรสท์

ASรุ่นที่สามแบบแรกที่ได้ใช้ในการสู้รบจริง พัฒนาโดยหน่วยมิธริลและมีกำหนดการสำหรับประจำในกองทัพสหรัฐฯ

ลักษณะสำคัญที่แตกต่างจากASรุ่นที่สองอย่างซาเวจหรือบุชเนลก็คือเครื่องยนต์ที่เป็นเตาปฏิกรณ์พาลาเธียมซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่ให้กำลังได้มากกว่าเครื่องยนต์ก๊าซธรรมชาติหรือดีเซลของรุ่นที่สอง ระบบควบคุมของเกอร์นแบคเป็นระบบดิจิตัลอย่างสมบูรณ์และมีAIช่วยสนับสนุนที่สามารถควบคุมได้แม้แต่การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน โครงสร้างภายในของเกอร์นแบคดัดแปลงมาจากายวิภาคของสัตว์และแมลงจึงสมรรถนะที่สูงมากเมื่อเทียบกับรูปร่างของมนุษย์ เกอร์นแบคยังมีระบบพรางตัวECSซึ่งเป็นการใช้เลเซอร์ในการพรางตัวซึ่งทำได้ตั้งแต่ลบสัญญาณจากเรดาร์ไปจนถึงล่องหน เนื่องจากเน้นความคล่องตัว เกอร์นแบคจึงมีอาวุธติดตัวเป็นปืนกล12.7มม.ติดหัวสองกระบอกเท่านั้น แต่สามารถใช้งานอาวุธมือถือแบบต่างๆได้ตามสถานการณ์ด้วยระบบAIที่สามารถปรับข้อมูลให้ใช้งานอาวุธต่างๆได้โดยอัตโนมัติหรือแม้แต่ปลดระบบป้องกันการใช้งาน ต่างจากASรุ่นที่สองที่สามารถใช้งานอาวุธได้อย่างจำกัดและต้องลงข้อมูลใหม่ทุกครั้งที่ใช้งานอาวุธแบบใหม่

เกอร์นแบคมีรุ่นต่างๆพัฒนาต่อมาอีก ที่สำคัญก็คือM9E หมายเลข006 ของเมลิสซ่า เหมาซึ่งใช้แทนเกอร์นแบคที่โดนเบเฮมอธทำลาย หมายเลข006มีระบบอิเล็กทรอนิกที่มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นปกติและมีเสาอากาศติดหัวเป็นสัญลักษณ์ของจ่าฝูง และ ARX-7 อาบาเรสท์ซึ่งติดตั้งGสโตนแลมด้าไดรเวอร์ที่สามารถเปลี่ยนความกล้าหาญจิตของนักบินให้เป็นพลังงานได้ (ตรงนี้ไม่แน่ใจ แต่เคยเจอระบุว่าความเสียหายที่เกิดจากแลมด้าไดรเวอร์นั้นไม่ใช่แรงปะทะทางกายภาพจากภายนอก) อาบาเรสท์ยังมีระบบAIที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าของเกอร์นแบค จุดด้อยของอาบาเรสท์เมื่อเทียบกับเกอร์นแบคก็คือระยะเวลาที่สามารถปฏิบัติการได้จะสั้นกว่ามาก อาบาเรสท์ถูกใช้งานครั้งแรกเพื่อต่อสู้กับPlan1056 โคดาลซึ่งมีแลมด้าไดรเวอร์เหมือนกัน ซึ่งหลังจากการใช้งานครั้งแรกแล้วก็ปรากฏว่าAI "อัล"จะยอมให้ซางาระ โซสุเกะเป็นนักบินเท่านั้น ซึ่งโซสุเกะได้ใช้งานอาบาเรสท์จนกระทั่งถูกทำลายในการต่อสู้กับPlan1055 เบเรียล แต่AIและแลมด้าไดรเวอร์ถูกเก็บไปใช้กับARX-8 เลเวอไทน์ มิธริลยังมีแผนผลิตM9D ฟาลเคซึ่งเป็นยูนิตรุ่นผลิตใช้งานของอาบาเรสท์ แต่ไม่มีแลมด้าไดรเวอร์เนื่องจากมิธริลไม่สามารถผลิตแลมด้าไดรเวอร์ได้อีก





รูปแถม ARX-8 เลเวอไทน์









เอลชิววาเลียร์และบรานช์เนจ

หุ่นยนต์ซึ่งพัฒนาโดยศจ.คลิฟฟอร์ด ไกแก๊กแห่งกลุ่มรีเทค เอลชิววาเลียร์พัฒนาโดยการใช้เทคโนโลยีของอารยธรรมโบราณซึ่งค้นพบในโบราณสถานที่ขั้วโลกใต้ ส่วนสำคัญของหุ่นทั้งสองก็คือระบบเรสอาคาน่าซึ่งสามารถดึงพลังจิตจากภายนอกมาแปลงเป็นพลังงานได้ ซึ่งในทางทฤษฏีแล้วเมื่อเริ่มเดินเครื่อง ระบบเรสอาคาน่าจะสามารถให้พลังได้อย่างไม่สิ้นสุด กับระบบชูนพาเธียร์ซึ่งใช้เชื่อมจิตใจของนักบินเข้ากับเครื่องจักรทำให้สามารถควบคุมได้แม้แต่การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน ความจริงแล้วทั้งเรสอาคาน่าและชูนพาเธียร์นั้นเผ่าโบราณได้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ต่อสู้กับ"ลุอีน่า" สิ่งมีชีวิตในรูปแบบของวิญญาณจากต่างมิติซึ่งเผ่าโบราณได้สร้างประตูมิติเป็นทางผ่านของพวกลูอิน่าโดยบังเอิญ ลุอีน่านั้นจะยึดร่างของมนุษย์และดำรงชีพด้วยการดูดกลืนความรู้สึกด้านลบของมนุษย์ เผ่าโบราณนั้นสามารถขับไล่ราชัณย์แห่งหายนะ เพอเฟ็คทิโอ ซึ่งเป็นหัวหน้าของลุอีน่าไปกลับไปมิติเดิมได้และผนึกพวกลุอีน่าทีเหลือกับประตูมิติไว้ในโบราณสถานซึ่งมนุษย์เรียกว่าฟาบร้าฟอเรส พร้อมทั้งทิ้งข้อมูลของระบบชูนพาเธียร์และเรสอาคาน่าไว้เพื่อให้นำมาใช้เมื่อพวกลุอีน่าหลุดออกมาได้อีก

เอลชิววาเลียร์ ถึงชื่อจะแปลว่า"อัศวินเวหา"แต่กลับเป็นหุ่นตัวเดียวของรีเทคที่ไม่สามารถบินกลางอากาศได้ เอลชิววาเลียร์เป็นหุ่นรบที่เน้นการต่อสู้ในระยะประชิดตัวโดยใช้"ไซเฟอร์"ซึ่งเป็นอาวุธที่สามารถใช้เป็นบีมซอร์ดขนาดใหญ่หรือปืนกลก็ได้ ท่อขับดันหลักของเอลชิววาเลียร์สามารถพับขึ้นมาใช้เป็นอิมพัลส์แคนน่อนสำหรับโจมตีในระยะไกลได้ โล่ของเอลชิววาเลียร์มีระบบกราวิตี้บอร์ดซึ่งทำให้เอลชิววาเลียร์สามารถลอยตัวเหนือพื้นได้ในระดับต่ำและมีความเร็วสูง(มีความสามารถแยกร่าง) เอลชิววาเลียร์มีไม้ตายคือเพลงดาบ"เบิร์สท์เรฟ" ส่วนบรานช์เนจที่พัฒนามาพร้อมๆกันนั้นสามารถบินได้และมีบีมโค้ตสำหรับป้องกันตัวจากอาวุธบีม โดยปกติแล้วบรานช์เนจจะไม่ติดตั้งอาวุธ เมื่อทำการต่อสู้จะปลดครีบที่แขนสองข้างออกไปแล้วประกอบกับอาวุธปืนซึ่งถูกส่งมาจากยานไร้คนบังคับ"อาร์สโนว่า"จึงไม่เหมาะกับการต่อสู้ในระยะประชิดตัว อาวุธที่มีอานุภาพสูงสุดก็คือไลน์ร็อคลันเชอร์ซึ่งบรานช์เนจจะประกอบเข้ากับยานอาร์สโนว่าเอง นักบินของเอลชิววาเลียร์และบรานช์เนจก็คือโจชัวร์ แรดคลิฟและน้องสาวบุญธรรม คลิอาน่า ริมสกาย่า

เอลชิววาเลียร์สามารถปรับปรุงได้อีกขั้นโดยประกอบเข้าเวพ่อนบ็อกซ์แฮงเกอร์กลายเป็น"เจแอนชิววาเลียร์"(อัศวินยักษ์)ที่ยาวถึง110.3เมตรเมื่อรวมดาบนีโอบีมเบลดที่แขนขวาซึ่งเป็นอาวุธหลักและสามารถบินกลางอากาศได้ แขนซ้ายมีตะขอสำหรับยิงออกไปจับศัตรูในระยะกลาง อาวุธอื่นๆประกอบด้วยเบลดบิตและนีโออิมพัลส์แคนน่อน แม้จะมีขนาดใหญ่แต่เจแอนชิววาเลียร์ก็ยังคงเป็นหุ่นรบที่มีความคล่องแคล่วสูง(ยังแยกร่างได้) ส่วนบรานช์เนจจะประกอบเข้ากับเอ็กเซลซิโออาร์สโนว่า กลายเป็น"เดอาบรานช์เนจ"ซึ่งมีความสูง85.5เมตร เดอาบรานช์เนจมีจุดเด่นคือ"พาสซิฟบิต"สำหรับป้องกันการโจมตีด้วยบีมและสามารถใช้เป็น"แอ็คทีฟบิต"เพื่อใช้สะท้อนบีมของตัวเองจากมุมอื่นใส่เป้าหมาย เดอาบรานช์เนจยังมีอาวุธระยะประชิดคือดาบกาเดี้ยนเบลดที่ติดอยู่ด้านล่าง และอาวุธที่มีอานุภาพสูงสุดก็คือปืนนิวตรอนบัสเตอร์
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา