Mecha Story: จับฉ่าย (หนักไปทางของเล่น)

รอบหน้าก็คงได้ลงบิลด์สไตรค์ล่ะ





YMS-15SS เกียน

HGUCเกียนที่ซาซากิ สุซุมุแต่งโดยดัดแปลงจากตัวดั้งเดิมเล็กน้อย โล่จะมีสายลวดสำหรับใช้ขว้างแล้วดึงกลับมาได้ รวมทั้งติดบีมไรเฟิลของเกลกุ๊กไว้ หลังจากที่แพ้บิลด์สไตรค์ไปแล้ว ในช่วงการแข่งกันพลาแบทเทิลเพื่อเลือกตัวแทนเขตของญี่ปุ่น ซาซากิก็ได้เอาไปแต่งใหม่อีกครั้งเป็น เกียนกาแกน โดยทาสีทองและติดโล่มิสไซล์ไว้ทั้งสองมือ แต่ก็ยังถูกบิลด์สไตรค์ทำลายอยู่ดี ในภายหลังนั้นซาซากิก็ได้แต่งเกียนกาเกียนต่อไปอีกเป็น เกียนวัลแคน โดยนอกจากจะมีโล่ติดแขนสองข้างแล้ว ส่วนไหล่ทั้งสองข้างยังดัดแปลงให้ใช้เก็บบีมเซเบอร์ และแบ็คแพ็คด้านหลังจะติดปืนกลแก็ตลิ่งแฝดเอาไว้





NMX-004 คิวเบเลย์ปาปิญอง

กันพลาคิวเบลย์ที่ทีมเนเมซิสได้แต่งกันพลาพิเศษให้ไอลา ยูคิไอเนนใช้งานเป็นกรณีพิเศษ ชื่อปาปิญองมาจากไบน์เดอร์ปีกที่คล้ายกับปีกผีเสื้อ นอกจากอาวุธเดิมของคิวเบเลย์แล้ว คิวเบเลย์ปาปิญองยังมีฟันเนลที่ทำจากพลาสติกใสอีกจำนวนหนึ่งเก็บไว้ในไบน์เดอร์ไหล่ ซึ่งทำให้คู่ต่อสู้ที่ไม่รู้ตัวเรื่องนี้ไม่อาจมองเห็นการโจมตีได้เลย คิวเบเลย์ปาปิญองยังมีแลนซ์บิต ซึ่งเป็นทวนขนาดใหญ่สำหรับต่อสู้ในระยะประชิดที่สามารถใช้ยิงเป็นไรเฟิลและควบคุมจากระยะไกลได้ ไอลาเองนั้นมีความสามารถพิเศษในการมองเห็นการเคลื่อนไหวของอนุภาคพลาฟสกี จึงสามารถอ่านทางการเคลื่อนไหวของกันพลาได้ล่วงหน้า และสถาบันฟลานายังได้พัฒนาเอมบอดีซิสเต็มซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถของไอลาขึ้นไปอีก แต่การใช้เอมบอดีในระดับเต็มที่นั้นจะทำให้ไอลาอยู่ในสภาพทรมานอย่างมากจนบ้าคลั่งและไม่คิดอะไรมากกว่าการทำลายคู่ต่อสู้





RX-93 นิวกันดั้มเบรฟ

คัสตอมกันพลาตัวแรกที่ทัตสึยะ ยูกิต่อขึ้นเอง โดยยูกิได้แต่งโครงสร้างตามจินตนาการของตนเองว่าเป็นรูปแบบที่สมบูรณ์ของนิวกันดั้มและทาสีแบบไฮนิวกันดั้ม เนื่องจากว่ายูกินั้นจดจ่อกับการแต่งโครงสร้างมากไปหน่อยจึงลืมคิดเรื่องติดฟินฟันเนลเสียสนิท แต่ยูกิก็ไม่ชอบอาวุธบังคับระยะไกลอยู่แล้วจึงไม่สนใจซะเลย นิวกันดั้มเบรฟนั้นมีอาวุธพิเศษคือยูนิตอาวุธติดแขน "เมอคิวรีเลฟ" ซึ่งยูกิได้มาจากซัตสึกิ โทรุ ผู้เป็นทั้งเพื่อนและคู่ปรับด้านกันพลาแบทเทิลของยูกิ โดยเมอคิวรีเลฟนั้นมีสองแบบคือกันยูนิต ซึ่งติดอาวุธปืนสำหรับต่อสู้ระยะไกล และซอร์ดยูนิตสำหรับติดอาวุธดาบ





TMF/T บาคูวแทงก์

โมเดลที่พี่น้องรีนาโตใช้ในการแข่งกันพลาโลกรอบแข่งความเร็ว โดยพี่น้องรีนาโตนั้นได้ดัดแปลงขาหลังของบาคูวเป็นตีนตะขาบรถถังรวมกับท่อขับดันโฮเวอร์ซึ่งทำให้แล่นบนพื้นวิบากด้วยความเร็วสูงได้ โดยปกตินั้นบาคูวแทงค์จะนั่งโดยยกสองขาหน้าขึ้น แต่เมื่อต้องการเร่งความเร็วก็จะหมอบลงและใช้ตีนตะขาบที่ขาหน้าด้วย อาวุธของบาคูวแทงค์ประกอบด้วยมิสไซล์ลันเชอร์ติดด้านหลัง กับบีมแคนน่อนที่ใช้เป็นบีมเซเบอร์ได้ติดไหล่ทั้งสองข้าง





MBF-02+EW545F สไตรค์รูจโอโทริ

สไตรค์รูจที่ติดตั้งสไตรเกอร์แพ็ค โอโทริ (ออยสเตอร์-โทระ-คามาคิริ)ซึ่งอ็อบยังได้พัฒนาต่อจากIWSPหลังสงครามครั้งแรกให้ความสามารถในการต่อสู้กลางอากาศสูงขึ้นอีกเพื่อให้เหมาะกับภูมิศาสตร์ที่เป็นประเทศเกาะรวมทั้งสามารถปฏิบัติการได้หลายรูปแบบ ส่วนปีกของโอโทรินั้นสามารถกางออกคล้ายปีกสองชั้นเพื่อเพิ่มแรงยก ทำให้บินได้ดีกว่าเอลสไตรค์ โอโทรินั้นติดอาวุธไว้เป็นบีมลันเชอร์ ดาบต่อต้านยานรบ เรลกัน มิสไซล์ลันเชอร์ และมิสไซล์ติดปีก อุปกรณ์อย่างทิสไซล์ลันเชอร์นั้นติดไว้กับฮาร์ดพอยน์และสามารถถอดเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์อื่นได้ตามการใช้งาน รวมทั้งมีถังซึ่งเป็นระบบพรางตาด้วยมิราจคอลลอยด์ โอโทริยังมีจุดเชื่อมต่อกับสไตรเกอร์แพ็คอื่นได้อีก ซึ่งส่วนประกอบของโอโทรินั้นได้รับการออกแบบให้ขยับได้มากเพื่อไม่ให้เกะกะเวลาใช้งานสไตรเกอร์แพ็คพร้อมกัน โอโทริยังสามารถแยกตัวออกมาเป็นยานบินเพื่อใช้งานเดี่ยวๆได้





แดนออฟเธิร์สเดย์

หนึ่งในโยโรย(YOROI = Yieldingly Operatable Robotized Overbearing Infantry)ดั้งเดิมที่อยู่บนดาวEI(Endless Illusion) ซึ่งในอดีตนั้นดาวEIเป็นเหมือนคุกสำหรับเนรเทศนักโทษจากโลกและโยโรยดั้งเดิมเจ็ดเครื่องก็มีไว้ปราบการจราจลของนักโทษ แม้ว่าในเวลาต่อมาซึ่งมนุษย์บนดาวEIจะสร้างโยโรยเลียนแบบจากข้อมูลของโยโรยดั้งเดิมได้ แต่ก็มีเพียงไม่กี่เครื่องที่มีพลังใกล้เคียงกับเครื่องดั้งเดิม โยโรยดั้งเดิมนั้นมีส่วนประกอบสำคัญคือของเหลวG-ER ซึ่งเป็นเหมือนเลือดที่ทำให้พลังงานไหลเวียนไปตามเกราะและโครงสร้างกล้ามเนื้อเทียม รวมทั้งเป็นตัวนำกลางของระบบควบคุมซึ่งใช้การอ่านคลื่นไฟฟ้าจากสมอง ทำให้โยโรยดั้งเดิมนั้นมีความคล่องแคล่วสูงและยังสามารถบังคับการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนได้ง่ายๆ เนื่องจากว่าคลื่นสมองของคนธรรมดานั้นอ่อนเกินกว่าจะบังคับโยโรยได้ ผู้ที่เป็นนักบินของโยโรยดั้งเดิม ซึ่งเรียกว่า ออริจินัล7 นั้นจึงต้องรับการดัดแปลงร่างกาย ซึ่งนอกจากจะทำให้บังคับโยโรยได้แล้ว เมื่อร่างกายของนักบินยังรับG-ERขณะขึ้นบังคับโยโรยยังช่วยรักษาสภาพของร่างกายตั้งแต่อาการเล็กน้อยอย่างเมาค้างไปจนถึงแผลบาดเจ็บ แต่ถ้านักบินไม่ได้ใช้งานโยโรยนานๆแล้ว ร่างกายก็จะค่อยๆทรุดโทรมและตายไปในที่สุด ออริจินัล7แต่ละคนยังมีดาวเทียมอัตโนมัติซึ่งใช้เก็บและซ่อมบำรุงโยโรยในเวลาที่ไม่ใช้งาน ซึ่งดาวเทียมนี้จะคอยตามตัวและส่งโยโรยไปให้เมื่อออริจินัล7เรียกโยโรย ซึ่งทั้งระบบดาวเทียมอัตโนมัติและระบบบังคับG-ERนี้ทำให้แน่ใจได้ว่าผู้ที่ได้รับเลือกเป็นออริจินัล7(ซึ่งรุ่นแรกก็เป็นนักโทษเหมือนคนอื่นๆ)จะไม่มีทางหนีไปจากดาวEIได้

โยโรยของออริจินัล7นั้นสามารถแปลงร่างเป็นรูปร่างแบบอาวุธและมีชื่อตามวันทั้งเจ็ด โดยแดนออฟเธิร์สเดย์นั้นเป็นดาบยาว แดนนั้นเดิมไม่มีนักบิน จนกระทั่งเอเลนาซึ่งเป็นผู้เก็บรักษาแดนไว้เพื่อศึกษาค้นคว้าถูกชายมือกงเล็บฆ่าตาย กัดเวด กาออร์ด ซึ่งเป็นผู้ช่วยงานวิจัยของเอเลนาและออริจินัล7ประจำตัวดิอาโบลออฟมันเดย์ จึงได้ให้แวนซึ่งเป็นคนรักของเอเลนาเป็นออริจินัล7ประจำตัวของแดน ในร่างแบบมนุษย์นั้นแดนมีอาวุธเป็นดาบที่เก็บไว้ด้านหลังซึ่งก็มีดาบสั้นที่สามารถดึงออกออกมาใช้เป็นดาบสองมือได้ ในภายหลังนั้น แวนยังค้นพบความสามารถในการสร้างสนามแม่เหล็กของแดนซึ่งใช้ป้องกันการโจมตีจากระยะไกลได้ซึ่งช่วยชดเชยจุดอ่อนของแดนที่ไม่มีอาวุธยิงได้อย่างมาก นอกจากนั้น จริงๆแล้วแวนเองก็มีความสามารถในการบังคับโยโรยได้โดยไม่ต้องดัดแปลงร่างกายเหมือนพวกนีโอออริจินัลซึ่งชายมือกงเล็บใช้เป็นผู้บังคับโยโรยของออริจินัล7อีกเหลืออีกห้าเครื่อง แต่ในกรณีของแวนที่ดัดแปลงร่างกายไปแล้วนั้นทำให้กลายเป็นความสามารถโอเวอร์โฟลว์ที่ทำให้แดนมีพลังสูงขึ้นกว่าโยโรยเครื่องอื่นๆมาก ซึ่งไม้ตายที่รุนแรงที่สุดของแดนนั้นก็คือการสร้างดาบขนาดใหญ่ยักษ์จากG-ER





อิมพีเรียลวัลเลย์

หุ่นรบสมรรถนะสูงที่พัฒนาโดยบริษัทเกรท(GreAT) ซึ่งเกรทตั้งใจให้เป็นหุ่นยนต์แบบมนุษย์ที่สามารถใช้ต่อสู้ได้ทุกรูปแบบในเครื่องเดียว แต่มีปัญหาที่ในช่วงที่เริ่มพัฒนานั้น ไม่ว่าจะใช้ระบบAIที่มีอยู่หรือนักบินบังคับก็สามารถควบคุมอิมพีเรียลวัลเลย์ที่ใช้สมรรถนะเต็มที่ได้เพียงหนึ่งนาทีเท่านั้น จนกระทั่งเกรทจับตัวศจ.คราล ไกรฟ์ได้และใช้เครื่องมืออ่านคลื่นสมองเพื่อเก็บข้อมูล อิมพีเรียลวัลเลย์ที่สมบูรณ์จึงมีโครงสร้างที่คล้ายกับรัชเบิร์ดและสเตรย์เบิร์ด รวมทั้งใช้Dคอนเวอร์เตอร์เป็นเครื่องกำเนิดพลังงาน ส่วนปัญหาด้านคนบังคับนั้นก็ได้สร้างแอนดรอยด์ HL-1 ขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานและปรับปรุงระบบต่อมาจนนักบินทั่วไปสามารถบังคับได้ อิมพีเรียลวัลเลย์นั้นมีเกราะที่หนา กำลังขับเคลื่อนสูงจนสามารถบินได้ (ถึงขั้นตบเกรียนสไตรค์ฟรีด้อมมาแล้ว) และพลังทำลายที่สูงในทุกระยะ โดยมีอาวุธเป็นปืนดิอาร์สช็อตติดเอวสองกระบอกซึ่งสามารถดึงออกมาใช้เป็นขวานบีมแบบยาวสองเล่มได้ และปืนใหญ่อิมพีเรียลันเชอร์ซึ่งขณะไม่ใช้งานจะเก็บไว้ด้านหลัง ในตอนที่สู้กับกองกำลังโลตัสครั้งสุดท้ายนั้น HL-1 ยังได้ปิดลิมิเตอร์ของDคอนเวอร์เตอร์เพื่อใช้สมรรถนะสูงสุดซึ่งมีความเร็วสูงมากจนมีแต่รัชเบิร์ดที่ใช้โหมดอาคิโอนิธเท่านั้นที่สามารถโจมตีโดนอิมพีเรียลวัลเลย์ได้



เมื่อการพัฒนาอิมพีเรียลวัลเลย์สมบูรณ์จนคนทั่วไปสามารถบังคับได้เต็มที่ เกรทก็ได้ทำการผลิตอิมพีเรียลวัลเลย์ให้ทหารระดับจ่าฝูงของตนใช้คู่ไปกับแอนดรอยด์ HLซีรีส์ นอกจากนั้นยังได้พัฒนารุ่นผลิตจำนวนมากให้พลทหารใช้อีกสองรุ่น คือสไตรค์วัลเลย์กับแคนนอนวัลเลย์ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้ทำงานคู่กัน โดยสไตรค์วัลเลย์จะมีความเร็วสูงและใช้หอกสไปรัลแลนซ์ซึ่งติดปืนนีดเดิลกันาำหรับทำการต่อสู้ในระยะประชิด ส่วนแคนนอนวัลเลย์ที่ช้ากว่าแต่มีเกราะหนากว่านั้นจะทำหน้าที่ยิงสนับสนุนด้วยปืนกลขนาดใหญ่ติดแบ็คแพ็คและบีมแคนน่อนแฝดติดเอว
Games Super-Robot-Wars Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา