Mecha Story : ดาวตกที่พุ่งฝ่าราตรี

ตอนนี้รู้สึกยังไงๆกับข้อมูลบางส่วนอยู่ ผิดพลาดหรือบกพร่องตรงไหนช่วยบอกหน่อยนะครับ





LRX-077 ซิสคูด

MSออริจินัลจากSD G Generation: Monoeye Gundamและไม่มีอยู่ในประวัติศาสตร์จริงของUC

เป็นMSประสิทธิภาพสูงของทิทานส์ที่สร้างมาเพื่อทำหน้าที่คู่กับLRX-088 เดสปาดาในการคุ้มกันLRX-066 เทราโซโน เนื่องจากทั้งคู่ใช้โครงสร้างหลักเป็นแบบกันดั้มไทป์แต่เซ็นเซอร์เป็นแบบโมโนอายจึงมีอีกชื่อว่า"โมโนอายกันดั้ม"

ในด้านประสิทธิภาพแล้ว ซิสคูดเป็นMSระดับท็อปคลาสที่ไม่มีใครเทียบได้ อาวุธหลักของซิสคูดก็คือปืนที่เป็นบีมไรเฟิลยาวและเมก้าแคนน่อนรวมกันในกระบอกเดียว ส่วนระยะประชิดจะใช้บีมเซเบอร์ ปืนนี้ยังมีสนามพลังIฟิลด์บาเรียร์ติดไว้ ทำให้ซิสคูดเป็นMSที่สมบูรณ์พร้อมทั้งด้านพลังทำลายและการป้องกัน

เนื่องจากทิทานส์ออกแบบมาให้โอลด์ไทป์ใช้ แต่ซิสคูดที่ใช้กำลังเต็มที่นั้นแม้แต่นิวไทป์ก็ยังเอาแทบไม่อยู่ OSของซิสคูดจึงถูกล็อกให้ใช้พลังในการต่อสู้แค่ส่วนเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าปลดลิมิตเตอร์ล็อกซิสคูดก็จะเข้าสู่"โหมดโจมตี" ในสภาพนี้สมรรถภาพของซิสคูดจะสูงขึ้น ซึ่งสามารถโค่นได้แม้แต่MSของนิวไทป์ที่แข็งแกร่ง แต่ในสภาพนี้ร่างกายของนักบินต้องรับภาระหนักกว่าปกติ การใช้โหมดโจมตีนานเกินไปจึงอาจเป็นอันตรายได้

ซิสคูดถูกซิกฟรีด เวดเนอร์ สมาชิกของเอวโก้และอดีตหน่วยพิเศษของซีอ้อนขโมยไปพร้อมกับที่คามิวขโมยกันดั้มมาร์คทูว์ และถูกทาสีใหม่เป็นสีน้ำเงินขาว

*รูปนี่คิดว่าเป็นแฟนอาร์ตน่ะนะครับ ของที่MAHQมันเล็กไปหน่อย





LRX-088 เดซปาดา

MSออริจินัลจากSD G Generation: Monoeye Gundamและไม่มีอยู่ในประวัติศาสตร์จริงของUC

เป็นMSประสิทธิภาพสูงของทิทานส์ที่สร้างมาเพื่อทำหน้าที่คู่กับLRX-077 ซิสคูดในการคุ้มกันLRX-066 เทราโซโน เป็นMSที่มีความคล่องแคล่วสูงสำหรับนิวไทป์ใช้งาน มีจุดเด่นที่ระบบ"ซิสเต็มฟาฟนีล"ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถของนิวไทป์ที่ควบคุมอยู่ให้สูงขึ้นได้ ซึ่งเมื่อไอน์ เลวีเป็นผู้ใช้งานก็แทบจะไม่มีทางโจมตีเดซปาดาได้เลย

อาวุธส่วนใหญ่ของเดสปาดาจะติดตั้งไว้กับโล่ที่แขนทั้งสองข้าง ซึ่งที่เด่นที่สุดก็คือ"ไซร็อด"ซึ่งเป็นแส้ไฟฟ้าแบบเดียวกับที่ฮัมบราบีใช้แต่ควบคุมด้วยระบบไซคอมมิว ในโล่นี้ยังมีมิสไซล์ลันเชอร์ซึ่งมีทั้งขนาดเล็กและแบบต่อต้านยานรบแล้วก็บีมแคนน่อนกับบีมเซเบอร์

ไอน์ เลวีได้ใช้เดซปาดาเข้าต่อสู้กับซิสคูดของซิกหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งแม้ระบบฟาฟนีลจะทำให้ไอน์เป็นฝ่ายไล่ต้อนซิกอยู่ฝ่ายเดียว แต่เมื่อไหร่ที่ไอน์เกิดอาการปั่นป่วนจนใช้ฟาฟนีลได้ไม่เต็มที่ก็เป็นโดนซิกใช้ฝีมือที่เหนือกว่าสวนกลับมาได้ทุกครั้ง จนกระทั่งเมื่อซิกได้พบความลับของซิสคูด นั่นก็คือโหมดโจมตีซึ่งสามารถใช้ต่อต้านฟาฟนีลได้ไอน์ก็ไม่เคยสู้ซิกได้อีกเลยจนกระทั่งทั้งไอน์และเดซปาดาถูกทำลาย





MSA-005K กันแคนน่อนดีเทคเตอร์

MSยิงสนับสนุนระยะกลางแบบเน้นการใช้งานบนโลกที่AEพัฒนาให้คาราบาโดยใช้โครงสร้างของเมธัส เดิมทีมีอาวุธเป็นร็อคเก็ตลันเชอร์137มม.ติดบ่าทั้งสองข้าง แต่ก็เปลี่ยนเป็นบีมแคนน่อนแฝดแทน ทั้งยังมีบีมกันขนาดเล็กเสริมไว้ที่ไหล่ขวาด้วย อาวุธอื่นๆก็มีวัลแคน30มม.ติดหัวและบีมไรเฟิลแบบติดแขนที่มาคู่กับเกรเน็ดลันเชอร์ ด้วยโครงสร้างของเมธัสทำให้สามารถหมอบยิงได้อย่างรวดเร็วซึ่งแบ็คแพ็คที่ใช้จะช่วยลดแรงกระแทกจากการยิงอีกส่วนนึง

AEสร้างMSA-005Kสองเครื่องและใช้ชัตเทิลทิ้งลงไปบนโลกให้คาราบามาเก็บไปเองในบริเวณทวีปอเมริกาเหนือ ปรากฏว่าเครื่องนึงพังเพราะลงพื้นพลาดแต่อีกเครื่องปลอดภัยดี ซึ่งฮายาโตะเห็นเข้าแล้วนึกถึงอดีตสมัยเคยขับกันแคนน่อนเลยจัดการทาสีแดงแล้วตั้งชื่อว่ากันแคนน่อนดีเทคเตอร์









YSF-33 คาเรียน และ YAM-007-1 อัสติเรียน

คาเรียนเป็นเครื่องบินรุ่นต้นแบบของโปรเจ็คท์TDซึ่งออกแบบไว้สำหรับการเดินทางระหว่างดวงดาวโดยพัฒนามาจากAMริอ้อนซีรี่ส์อีกที มีอีกชื่อว่า"เบต้าโปรโต" คาเรียนติดตั้งเทสล่าไดรฟ์ไว้ถึงสองเครื่อง(ทวินเทสล่าไดรฟ์)จึงมีความเร็วสูงมากแต่ก็ต้องใช้ฝีมือในการควบคุมมากเช่นกัน มีอาวุธเป็นมิสไซล์นำวิถีและปืนแรงโน้มถ่วงGไดรเวอร์ รวมถึงสามารถเร่งความเร็วพุ่งชนศัตรูด้วยความเร็วเหนือเสียงได้ จริงๆแล้วเดิมทีไม่มีแผนการติดตั้งอาวุธแต่ในระหว่างการพัฒนาก็ต้องเพิ่มเข้าไปตามคำขอของบริษัทอุตสาหกรรมหนักอิซุรุกิที่เป็นสปอนเซอร์ให้ มีการผลิตขึ้นมาสี่เครื่อง แต่เท่าที่มีข้อมูลการใช้งานก็คือYSF-33-1 ของสเรย์ เพรสตี้ และ YSF-33-4ของไอบิส ดักลาสเท่านั้น หลัง างครามถูกพัฒนาต่อไปเป็น "เบต้า" YSF-34 เวกาเรียน

ส่วนอัสติเรียนหรือ"อัลฟ่าโปรโต"เป็นAMในโปรเจ็คท์เดียวกันที่พัฒนาโดยใช้ข้อมูลจากคาเรียน ติดตั้งทวินเทสลาไดรฟ์เอาไว้เหมือนกันแต่สามารถปลดออกไปได้ ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานของอัสติเรียนจะคล้ายกับริอ้อนซีรี่ส์มาก ไอบิสได้ใช้อัสทิเรียนหลังจากที่คาเรียนของตัวเองถูกสเรย์ยิงร่วงไปแล้ว อัสทิเรียนมีไม้ตายคือรูปแบบการโจมตีที่เรียกว่าRaMVs (Rapid acceleration Mobility-break Valley shoot) ซึ่งเป็นรูปแบบการโจมตีที่ใช้การเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงและโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง เป็นไม้ตายที่ต้องใช้ฝีมือในการควบคุมเป็นอย่างมาก ซึ่งไอบิสก็ใช้ได้แบบไม่ค่อยอยากเชื่อตัวเองเหมือนกัน หลังสงครามก็มีการพัฒนาต่อไปเป็น "อัลฟ่า" YAM-008 อัลทิเรียน





XAM-007 แฟเรียน

AMที่พัฒนามาจากโปรเจ็คท์TDโดยใช้ชิ้นส่วนทดลองของอัสทิเรียนมาประกอบกันใหม่เป็นสองเครื่องคือXAM-007G แฟเรียนG (Gold)ของราชินีไชน์ ฮาวเซ่น และXAM-007S (Silver)ของลาโทวนี่ สุโบตา มีระบบW-I^3NKซึ่งทำให้นักบินของเครื่องนึงสามารถควบคุมอีกตัวได้ โดยมากแล้วลาโทวนี่จะเป็นฝ่ายคอยช่วยไชน์ที่ยังด้อยประสพการณ์ซะมากกว่า รูปร่างเป็นแบบเด็กผู้หญิงโดยที่เทสล่าไดรฟ์จะอยู่ที่กระโปรงและส่วนที่เหมือนม้วนผมที่หัวก็คือบีมแคนน่อน จริงๆแล้วทั้งรูปร่างและรูปแบบของไม้ตายRoyal Heart Breakerซึ่งเป็นการโจมตีประสานทั้งสองคนนั้น ผู้พัฒนาคือโจนาธาน คาซาฮาร่า และ ฟิริโอ เพรสตี้ได้ไอเดียมาจากวงนักร้องไอดอลวงหนึ่ง ดูจากภายนอกแฟเรียนจะมีเกราะที่บาง แต่เนื่องจากเป็นเครื่องของบุคคลระดับVIPจึงมีการป้องกันที่สูงจากสนามพลังเอเนอจี้ฟิลด์และมิสไซล์แจมเมอร์ เมื่อรวมกับความคล่องแคล่วที่สูงจึงเป็นAMที่ทำลายได้ยากมาก

*รูปนี้ก็คือXAM-007S



รูปแถม ชุดนี้หามิได้จากMAHQนะจ้ะ (submitไปนานแล้ว แต่บอร์ดMAHQดันล่ม สงสัยจะถูกลืมไปแล้ว)



GF7-013NJ ยามาโตะกันดั้ม กันดั้มไฟเตอร์ที่นีโอเจแปนใช้ในกันดั้มไฟต์ครั้งที่7 บังคับโดยชูจิ ครอส ซึ่งก็คือมาสเตอร์เอเชียสมัยยังหนุ่ม ซึ่งจริงๆแล้วผ่าน11เดือนแห่งการเอาตัวรอดไปได้ แต่ต้องไปปราบปรามเหล่าร้ายเลยกลับมาไม่ทันรอบสุดท้าย



YGMA-14 กิลกะซามุเนะ จาก ดราโกนาร์



YF-21 โอเมก้าวัน จากมาครอสพลัส



แฟนอาร์ตของAMX-015 เกมาร์ค
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา