Mecha Story: ฟุลอาเมอร์กันดั้ม(เอจ1) กับจอมเขย่าโลก
AGE-1AJ กันดั้มเอจ1 แอสซอล์ทแจ็คเก็ต
เกราะเสริมความสามารถของกันดั้มเอจ1 ที่ดิค กันเฮลพัฒนาหลังการต่อสู้ที่แอมบัทโดยไม่พึ่งเอจซิสเต็ม แอสซอล์ทแจ็คเก็ตนี้นอกจากจะเป็นเกราะเสริมแล้วยังอาวุธติดไว้เป็นด็อดส์ไรเฟิลแบบสองลำกล้องที่แขนขวา โล่ติดบีมวัลแคนกับบีมเซเบอร์ที่แขนซ้าย และอาวุธหนักคือด็อดส์ลันเชอร์ที่ไหล่ขวา นอกจากยูนิต1ของฟลิทแล้ว สหพันธ์โลกยังได้สร้างกันดั้มเอจ1เพิ่มโดยใช้แอสซอล์ทแจ็คเก็ตเป็นอุปกรณ์หลักอีกด้วย ซึ่งเท่าที่ปรากฏก็คือ AGE-1AJ/2 กันดั้มเอจ1แอสซอล์ทแจ็คเก็ต ยูนิต2 ของลากัน เดรซ
MSในตำนาน "เดอะกันดั้ม"
MSที่สร้างในปี AG 201 เพื่อฉลองการสงบศึกระหว่างสหพันธ์โลกกับเวกัน โดยเป็นโครงการสร้างMSในเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาในตระกูลอาสุโนะว่าเป็นMSผู้กอบกู้ที่ยุติสงครามอาณานิคมในอดีตขึ้นใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบกับข้อมูลใน EXA-DB แล้วก็สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริง แต่ EXA-DB ก็มีข้อมูลของ”เดอะกันดั้ม”น้อยมาก
(ไดโนเสาร์ ไซส์โมซอรัส ตัวจริงชื่อแปลว่ากิ้งกว่าเขย่าโลกครับ เป็นซอโรพอดที่ตัวโตที่สุดที่มีฟอสซิลเป็นชิ้นเป็นอัน)
EZ-069 ไซส์โมซอรัส
ซอยด์ของจักรวรรดินีโอเซเนบัส ซึ่งเดิมทีได้รับการออกแบบเป็นรุ่นปรับปรุงทั่วไปของเดธซอเรอร์ตามนโยบายของวูล์ฟ มูโรอา แต่เนื่องจากตอนนั้นนีโอเซเนบัสมีปัญหาที่ไม่สามารถบุกทลายที่มั่นของกองทัพของสาธารณรัฐเฮลิคได้เนื่องจากพลังของโกจูลัสกิกา จึงได้เปลี่ยนแนวการพัฒนาไปเพื่อหาทางทำลายโกจูลัสกิกาโดยเฉพาะ
แนวคิดที่ใช้พัฒนาไซส์โมซอรัสก็คือเป็นเหมือนเดธซอเรอร์ที่เน้นพลังทำลายในระยะไกลอย่างรุนแรงจนสามารถทำลายโกจูลัสกิกาได้ก่อนจะเข้าประชิด และเลือกใช้โครงสร้างของซอยด์สายพันธุ์ไซส์โมซอรัสซึ่งมีคอยาวเพื่อเพิ่มอานุภาพของปืนใหญ่อนุภาค ระบบของปืนใหญ่อนุภาคนั้นได้รับการดัดแปลงให้สามารถยิงแบบรวมศูนย์เป็นเส้นเล็กๆได้ การที่บีมอนุภาคกระจายตัวน้อยลงทำให้มีอานุภาพและระยะหวังผลที่ไกลกว่าเดิมมาก ปืนใหญ่อนุภาคแบบรวมศูนย์ของไซส์โมซอรัสนั้นสามารถยิงทำลายโกจูลัสกิกาได้พ้นระยะของเรดาร์ซะอีกและยังสามารถยิงต่อเนื่องแบบกวาดได้ด้วย เนื่องจากปืนใหญ่อนุภาครวมศูนย์นั้นมีระยะหวังผลไกลกว่าเรดาร์ ปกติแล้วไซส์โมซอรัสจะใช้ซอยด์ตัวอื่นที่ทำหน้าที่ชี้เป้าให้
ในกรณีที่ศัตรูเข้าใกล้ได้นั้น ตามตัวของไซส์โมซอรัสยังมีอาวุธเสริมเป็นบีมแคนน่อนและปืนกลเลเซอร์ที่ติดไว้ทั่วร่างสำหรับยิงสาดป้องกันตัว ซึ่งระบบอาวุธนี้จะเชื่อมกับระบบพลังงานของปืนใหญ่อนุภาค ทำให้มีพลังทำลายสูงกว่าปกติมาก เกราะของไซส์โมซอรัสนั้นมีความทนทานพอๆกับเกราะไททาเนียมโบราณของโกจูลัสกิกา พัดลมรวมประจุไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดอ่อนสำคัญของเดธซอเรอร์นั้นถูกวางไว้ใต้ท้องให้ศัตรูโจมตีได้ยากกว่ามาก
ด้วยพลังของไซส์โมซอรัสทำให้นีโอเซเนบัสขับไล่กองทัพเฮลิคพ้นไปจากทวีปกลางได้ แต่แล้วเฮลิคก็กลับมาพร้อมด้วยการสนับสนุนจากกองทัพจักรวรรดิไกลอสที่ไม่ยอมสยบต่อนีโอเซเนบัสและหลบหนีไปทวีปอื่น กับบริษัทZOITEC ไซส์โมซอรัสใช้กลยุทธยิงกวาดจากระยะไกลยันกองทัพเฮลิคไว้ได้ และฝูงไลเกอร์ซีโรฟินิกซ์ที่เข้าโจมตีทางภาคอากาศก็ถูกทำลายไปกว่าครึ่งโดยที่ทำอะไรไซส์โมซอรัสไม่ได้เลย จนกระทั่งพบกับ RZ-070 ไกริวคิ ซึ่งมีระบบดูดซับลำแสงของบีมอนุภาคแล้วยิงสวนกลับมาได้ ทำให้ไม่สามารถใช้ปืนใหญ่อนุภาครวมศูนย์ทำลายได้แบบซอยด์อื่นๆและต้องพึ่งซอยด์ที่คุ้มกันอย่างเอเนอจีไลเกอร์ทำลายไกริวคิให้ก่อนยิงกวาด ในที่สุดนั้นเฮลิคก็สามารถทำลายไซส์โมซอรัสได้โดยใช้บล็อกซ์ซอยด์ BZ-021 ไดมีโทรปเทรา ซึ่งมีระบบสร้างคลื่นรบกวนอำพรางตำแหน่งของโกจูลัสกิกาไว้ พร้อมกับใช้ไกริวคิช่วยป้องกันการโจมตีให้จนโกจูลัสกิกาเข้าใกล้ไซส์โมซอรัสได้
ไซส์โมซอรัสยังสามารถประกอบร่างกับคิเมราบล็อกซ์ โดนแบบแรกก็คือ อัลติเมทไซส์โม โดยใช้ ซิสเซอร์สตอร์ม กับ เลเซอร์สตอร์ม ซึ่งร่างนี้จะเพิ่มอาวุธปืนเสริมให้ยิงป้องกันตัวได้ดีขึ้น กับ เบอเซิร์กไซส์โม ที่ใช้พาร์ทของสตีลอาเมอร์ ให้สามารถต่อสู้ในระยะประชิดได้
ของแถม ไซส์โมซอรัสติดปืนใหญ่พิชิตโลกา ที่ออกมาในภาค Zoid Generation (ค้นดูแล้วรู้สึกจะเป็นนิยายสั้น)
RZ-070 ไกริวคิ
ซอยด์ที่เกิดจากความร่วมมือของสาธารณะรัฐเฮลิค กองทหารของไกลอสและบริษัท ZOITEC เพื่อต่อต้านนีโอเซเนบัส ZOITECใช้ซอยด์ไทรันโนซอรัสป่าที่พวกไกลอสเตรียมไว้แปลงเป็นเบอเซิร์กฟูเรอร์ มาพัฒนาไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีของเฮลิคและออกแบบมาเพื่อใช้ต่อต้านไซส์โมซอรัสโดยเฉพาะ ตามตัวของไกริวคินั้นมีแผงรับแสงอยู่ ซึ่งปกติแล้วจะใช้รับพลังงานจากภายนอกเพื่อเพิ่มพลังทำลายของปืนใหญ่อนุภาค ทำให้ปืนใหญ่อนุภาคของไกริวคิรุนแรงกว่าของเบอเซิร์กฟูเรอร์มากทีเดียว แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือแผงรับแสงนี้เมื่อได้รับการปรับปรุงแล้วก็สามารถใช้ป้องกันปืนใหญ่อนุภาคแบบรวมศูนย์ของไซส์โมซอรัสแล้วยิงสวนกลับไปได้ด้วย เกราะของไกริวคิยังเป็นแบบB-CAS ซึ่งใข้บล็อกซ์ซอยด์มาประกอบแทนเกราะ เกราะของไกริวคินั้นประกอบจากบล็อกซอยด์หงส์ ฮิเอ็น กับแมงดาทะเล เก็กโค ซึ่งสามารถแยกออกมาจากไกริวคิเพื่อเป็นยูนิตสอดแนมได้ไกริวคิยังสามารถบินได้ด้วยปีกแม่เหล็กไฟฟ้า แม็กเนสเซอร์ ไกริวคิมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการทำลายไซส์โมซอรัสโดยทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันปืนอนุภาครวมศูนย์ และคุ้มกันโกจูลัสกิกา
ในภาค Fuzorsนั้น เบลดได้ไกริวคิมาแทนหลังจากที่เบอเซิร์กฟูเรอร์ตายไปแล้ว โดยไกริวคิของเบลดนั้นเป็นรุ่น ไกริวคิชิน ซึ่งเสริมบล็อกซ์ซอยด์หมูป่า ไรเด็น
BZ-011 ลอร์ดเกล
หลังจากที่ตั้งจักรวรรดินีโอเซเนบัสแล้ว จักรพรรดิ วูล์ฟ มูโรอาก็ได้สั่งให้เร่งพัฒนาซอยด์รุ่นใหม่เพื่อใช้แทนซอยด์ของไกลอส และเนื่องจากได้สูญเสียกำลังคนไปมากมายในสงครามที่ผ่านมา วูล์ฟจึงให้สร้างเป็นซอยด์ไร้คนบังคับซะด้วย ทีมพัฒนาได้ใช้รูปแบบของSSซอยด์ที่หน่วยไอเซนดรากูนเคยใช้เนื่องจากผลิตได้ง่าย และก็ได้เป็นคิมราบล็อกซ์ซอยด์ แต่ถึงจะมีพลังในการต่อสู้สูงและผลิตได้ง่าย คิเมราบล็อกซ์ก็มีจุดอ่อนที่บางครั้งจะทำตามสัญชาตญาณสัตว์ป่าแทนคำสั่งที่โปรแกรมไว้ ทำให้บางครั้งคิเมราบล็อกซ์ก็ต่อสู้กันเองแทนที่จะโจมตีศัตรู เพื่อแก้ปัญหานี้ นีโอเซเนบัสจึงได้พัฒนาคิเมราบล็อกซ์รุ่นที่สอง BZ-011 ลอร์ดเกล ซึ่งเป็นคิเมราบล็อกซ์สายพันธุ์กากอยล์ที่มีนักบินบังคับโดยใช้ชิ้นส่วนของคิเมราบล็อกซ์สองตัว BZ-008 ดีมอนเฮด กับ BZ-005 ฟลายซิสเซอร์เป็นส่วนประกอบด้วย คิเมราบล็อกซ์รุ่นแรกนั้นจะเห็นลอร์ดเกลเป็นเหมือนจ่าฝูงและยอมรับคำสั่งที่ส่งมาจากนักบินของลอร์ดเกล ทำให้สามารถบังคับฝูงคิเมราบล็อกซ์แบบเป็นหนึ่งเดียวได้ ตัวลอร์ดเกลเองยังมีพลังในการต่อสู้สูงโดยมีอาวุธหลักเป็นหอกแม่เหล็กไฟฟ้ากับคีมที่แขนแต่ละข้าง
ในภาค Fuzorsนั้น ลอร์ดเกลเป็นซอยด์ประจำตัวของเบอร์ตัน สมาชิกคนหนึ่งของทีมซาเวจแฮมเมอร์ แต่ตลอดเรื่องนั้นไม่ได้ใช้งานร่วมกับคิเมราบล็อกซ์เลย
FZ-014 คิเมราดรากอน
ร่างรวมของคิเมราบล็อกซ์ซึ่งมีไว้ตอบโต้แมทริกซ์ดรากอน ซอยด์มังกรของเฮลิคซึ่งใช้บล็อกซ์ซอยด์สี่ตัวประกอบกันเป็นตัวเดียว คิเมราดรากอนนั้นใช้คิเมราบล็อกซ์รุ่นแรกประกอบทั้งหมด คือ BZ-005 ฟลายซิสเซอร์ BZ-006 เชลคาร์น BZ-007 ดิโพลกันส์ และBZ-008 ดีมอนเฮด จึงไม่มีคนบังคับ คิเมราดรากอนนั้นเป็นร่างที่มีไว้เพื่อใช้ในการต่อสู้เท่านั้น แม้จะมีพลังในการต่อสู้สูงด้วยอาวุธของคิเมราบล็อกซ์ทั้งสี่ แต่ระบบก็ดึงพลังงานจากซอยด์คอร์ทั้งสี่มากไปด้วย จึงไม่สามารถอยู่ในสภาพนี้ได้นาน คิเมราดรากอนยังสามารถประกอบร่างกับลอร์ดเกลได้อีกเป็นร่างแบบเซนทอร์ เรียกว่าเฮฟวีเกล
Super Robot Wars
Games
Mecha Story