Mecha Story: วันนี้เป็นวิชาประวัติศาสตร์ (recycle)

ที่เอามารีไซเคิลมาจากภาพๆหนึ่งที่ไปเจอบนเน็ต(ขอปิดที่มาเพื่อป้องกันการจุดชนวนวิวาท) ระบุว่าปีUC 0001ก็คือ 2045!

/me อยากตะโกนว่า "แค่ไบรท์ โนอาห์เป็นนิวไทป์นี่ทำให้แฟนกันตรึมชาวไทยอดสูไม่พออีกรึ?!"

แต่นึกได้ว่าคนที่เขียนอาจจะลืมอะไรบางอย่างไป เราเองก็ใช่จะไม่เคยปล่อยข้อมูลผิดๆให้ชาวบ้าน...อย่ากระนั้นเลย เราก็เคยเอาบทวิเคราะห์หาปีUC 0001มาลงแล้ว เอามารีไซเคิลอีกที เพื่อเอาข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาเผยแพร่อีกทีดีกว่า แหะๆ ใครไปเจอUC 0001 = 2045 AD ก็ช่วยเขกกะบาลสักโป๊กแล้วลากคอมาดูกระทู้นี้นะครับ ช่วงแรกเป็นอารัมภบทและทฤษฏีที่ล้มไปแล้ว ใครไม่อยากอ่านก็ข้ามไปสามย่อหน้าสุดท้ายได้เลยจ้า

Universal Century

รู้ๆกันล่ะนะว่าจักวาลดั้งเดิมของกันดั้มนั้นใช้ศักราชUC (Universal Century = ศักราชจักวาล) แต่เคยสงสัยรึเปล่าว่าUC 0079นั่นน่ะ คิดเป็นคริสต์ศักราชแล้วมันเท่าไหร่แน่? วันนี้เราจะมาหาปีที่เริ่มศักราชUCกันครับ

ดั้งเดิมอ.โยชิยูกิ โทมิโน่เคยระบุไว้ชัดเจนว่าUC 0079ก็คือ คศ.2066 ซึ่งหมายความว่าUC 0001เริ่มในปี 1988...ปัจจุบันข้อนี้ไม่มีใครใช้แล้วครับ(นิยายวิทยาศาสตร์ในยุคนั้นหลายๆเรื่องเจอปัญหานี้ครับ เพราะโดยมากไม่ค่อยระบุปีไว้ไกลกว่า2000กัน อย่างสตาร์เทร็คภาคแรกระบุว่าสงคราม"Eugenics Wars" เริ่มในปี1996)

อีกจุดนึง แฟนๆกันดั้มในยุค'80 เคยถือว่าUC 0001ก็คือ คศ. 1969ที่อพอลโล่ 11ไปลงดวงจันทร์(รึเปล่าเอ่ย?) โดยมีแนวคิดมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ในปี1947 เรื่องRocket Ship Galileo และหนังเรื่องDestination: Moon(ดัดแปลงมาจากนิยายนั่นแหละ) นอกจากนี้ยังมีแนวคิดมาจากที่ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งชื่อWalter Cronkite ซึ่งพูดในวันที่20 กรกฏาคม 1969ว่า "เขาน่าจะให้วันนี้เป็นวันที่หนึ่งของปีที่หนึ่ง"("They should make this Day One of the Year One!" ) มังงะสองเล่มคือStampedeและOuter Gundamใช้วันที่ตามนี้ครับ

แต่...นอกจาก ที่จริงแล้วแฟนๆดันลืมไปว่าUC 0001ไม่ใช่แค่ปีแรกของการเดินทางในอวกาศ แต่มันเป็นปีที่โคโลนีแห่งแรกเสร็จสมบูรณ์ด้วย ร้ายกว่านั้น ในกันดั้มระบุว่า ฟอน บราวน์ ซิตี้ โคโลนีบนดวงจันทร์แห่งแรกนั้นสร้างเสร็จในปีUC 0027 เทียบตามวันที่ในข้อนี้ก็เป็น คศ. 1995 ฉะนั้น ข้อนี้ก็ไม่มีใครใช้กันแล้วเหมือนกัน

ข้อต่อมา...มักง่ายนิดนึง ปี2001 ข้อนี้ง่ายดีจริงๆ แต่ไม่ใช่ไม่มีหลักนะ ในตอนที่26ของกันดั้มภาคแรก เราจะเห็นแสตมป์ที่มีเลขปี2079แปะไว้(ในภาคหนังสามตอนจบ เลขวันที่นี้โดนเอาออกไปครับ) ในตอนที่แปดของภาคเซต้าก็มีภาพถ่ายดาราศาสตร์ที่เขียนว่าSept 20, 2087 อยู่ด้วย ข้อนี้ก็ตกไปด้วยเหตุผลเดียวกับสองข้อแรกน่ะนะ

ข้อต่อมาและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดก็คือ...หลังจากปี2045 ไม่ระบุไว้ชัดๆครับ อันนี้มาจากหนังสือของบันไดที่ระบุว่า โคโลนีแห่งแรกเริ่มสร้างในปี2045 และแล้วเสร็จในปีUC 0001เลย บางคนเชื่อว่า2045ก็คือUC 0001นั่นแหละ แต่คิดดูดีๆแล้ว โคโลนีใช้เวลาสร้างกี่ปีเอ่ย? (เสร็จในปีเดียวน่ะไม่ใช่เทคโนโลยีกันดั้มแน่ๆครับ) ถ้ายึดตามข้อนี้ อย่างเร็วที่สุด ฟอน บราวน์ ซิตี้จะสร้างเสร็จในปี2071และMSGเกิดขึ้นในปี2123 แย่หน่อยที่หลังจากปี1996เป็นต้นมา ไทม์ไลน์ของบันไดก็เริ่มจากปีUC 0001เลยโดยไม่กล่าวถึงศักราชก่อนหน้า

ทีนี้ ลองมาดูร่องรอยเล็กๆน้อยๆให้ชัดเจนขึ้นดีกว่ากันดีกว่า ในตอนสุดท้ายของภาค0080(ใครมีก็หยิบมาเปิดดูซะ) เราจะเห็นหนังสือพิมพ์ฉบับวันจันทร์ที่14 มกราคม 0080...ปรากฏว่าจากการเช็ควันจากปี2125ถึงปี2195เพื่อหาปีUC 0080 พบว่ามีแค่3ปีเท่านั้นแหละที่วันที่14 มกราคมจะเป็นวันจันทร์ นั่นก็คือ2132 AD,2160 ADและ 2188 AD ถ้า0080เป็นปี2132 UC 0001จะเท่ากับ 2053 หมายความว่าโคโลนีแห่งแรกใช้เวลาในการสร้างแค่8ปี ขัดกับที่ศจ.โอนีล(O'Neil ผู้คิดคอนเซ็ปท์ของโคโลนีซึ่งอ.โทมิโน่นำมาใช้)ประมาณเวลาที่ใช้ในการสร้างโคโลนีไว้ที่25-30ปีอย่างแรง ส่วน2188จะทำให้UC 0001เริ่มที่2109 หมายความว่าใช้เวลาในการสร้างนานถึง64ปี...นานไปหน่อยแล้ว

ฉนั้น 2160 ADจึงเหมาะสมที่สุด จากข้อนี้เราสามารถอนุมานได้ว่าศักราชUC เริ่มในปี 2081 AD โคโลนีแห่งแรกใช้เวลาสร้างนาน36ปี ใกล้เคียงกับที่ศจ.โอนีลคำนวนไว้ ฟอน บราวน์ ซิตี้จะสมบูรณ์ในปี2107 และเนื้อเรื่องของกันดั้มจะเริ่มในปีคศ. 2159ครับ

แหะๆ ตอนนี้เขียนด้วยอารมณ์หงุดหงิดนิดๆ ถ้าตรงไหนแรงไปก็ขออภัยครับ

ของปกติแถมตอนท้าย

โซลเดเฟอร์, แอชคลีฟ และ ASK-AD02 แอชเซเวอร์

หุ่นรบแบบแอสซอล์ทดรากูน(AS)ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทเฟรมอนต์อินดัสทรี(FI)โดยใช้พื้นฐานของเครื่องบินจู่โจม ซอเพรเซอร์ เมื่อเทียบกับวาลคิวเรียของZ&Rซึ่งเป็นคู่แข่งแล้ว ASมีลักษณะเด่นที่ความคล่องตัวและระดับเทคโนโลยีที่สูงกว่า

ASเครื่องแรกก็คือโซลเดเฟอร์ จุดเด่นของโซลเดเฟอร์ก็คือระบบควบคุมซึ่งใช้การอ่านคลื่นสมองของนักบิน ทำให้แม้แต่มือใหม่ก็สามารถควบคุมโซลเดเฟอร์ได้และยังมีอัตราตอบสนองสูงมาก อาวุธของโซลเดเฟอร์ประกอบด้วยดาบความร้อน, มิสไซล์ลันเชอร์, บิตกัน และ ปืนกลบีม บริษัทFIยังได้ใช้ข้อมูลของโซลเดเฟอร์ทดลองผลิตเป็นโนวรูซ ซึ่งไม่มีระบบควบคุมอย่างง่ายแต่ปรับสมรรถนะของเครื่องให้สูงขึ้น อาร์คไลท์ บลู เด็กหนุ่มธรรมดานั้นได้ไปเจอโซลเดเฟอร์เข้าขณะที่ไปหลบในโกดังของFIขณะที่เมืองถูกมนุษย์ต่างดาวโจมตี ด้วยระบบควบคุมอย่างง่ายทำให้อาร์คสามารถขับโซลเดเฟอร์เข้าต่อสู้กับศัตรูได้ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มต่อต้าน ซึ่งทางEFได้ส่งมอบโนวรูซให้กับร้อยตรีเอลริค ฟอน ชเทอเซน สมาชิกหน่วยพิเศษ"บล็อกเบรคเกอร์"เพื่อให้ชิงโซลเดเฟอร์กลับมา

รุ่นพัฒนาจนสมบูรณ์ของโซลเดเฟอร์ก็คือแอชคลีฟ ซึ่งสามารถแปลงร่างเป็นโหมดเครื่องบินจู่โจม(Assault Fighter)ได้ ระบบควบคุมอย่างง่ายถูกปรับปรุงไปอีกขั้นโดยจะบันทึกและวิเคราะห์คลื่นความคิดของนักบินแล้วใช้ระบบไดเร็กโปรเจ็คชันซิสเต็ม(DPS)แนะนำรูปแบบการต่อสู้ที่เหมาะสมได้ ถ้านักบินไม่สามารถตั้งสมาธิได้ก็จะไม่สามารถใช้งานแอชคลีฟได้อย่างเต็มที่ FIได้หยุดพัฒนาแอชคลีฟหลังการรัฐประหารแต่ในภายหลังแอชคลีฟก็ได้รับการสร้างหน่วยมาร์ชวินด์สร้างและใช้เป็นยูนิตประจำตัวของอาร์คแทนโซลเดเฟอร์ อาวุธของแอชคลีฟประกอบด้วยไฮบีมซอร์ด, ออบิทัลมิสไซล์, บีมกันแบบยิงได้ต่อเนื่อง, บิตกัน และ สแปลชเบรคเกอร์ซึ่งเป็นอาวุธรีโมตที่คอมพิวเตอร์ของแอชคลีฟจะทำการล็อคเป้าหมายและกำนดรูปแบบการโจมตีเองโดยอัตโนมัติเมื่อใช้งาน

ASอีกรุ่นก็คือรุ่นพิเศษของกองกำลังชาโดว์มิเรอร์ ASK-AD02 แอชเซเวอร์โดยพัฒนาต่อมาจากแอชคลีฟแต่ดัดระบบแปลงร่างทิ้งไป ชื่ออาวุธของแอชเซเวอร์จะตั้งตามอาวุธมีคมต่างๆ คือ เลเซอร์เบลด, มิสไซล์"ไฟเยอร์แด็กเกอร์", บีมลันเชอร์ "ฮัลเบิร์ดลันเชอร์", บีมกัน "กันเรเปียร์"และซอร์ดเบรคเกอร์ ซึ่งเป็นสแปลชเบรคเกอร์แบบใช้เป็นอาวุธกระแทกได้ด้วย ในช่วงที่อยู่กับนออิDCที่เอิร์ธเครเดิล ชาโดว์มิเรอร์ยังผลิตแอชเซเวอร์เป็นจำนวนมากโดยถอดซอร์ดเบรคเกอร์ออกและใช้โค้ดASK-AD02M

เมื่อพวกชาโดว์มิเรอร์ร่วมมือกับNDCที่เอิร์ธเครเดิล อากิล่า เซโทเมได้ใช้ข้อมูลของแอชเซเวอร์สร้างเป็นASK-G03C ราเปียซาจ (ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "งานปะติด")แม้จะใช้โครงสร้างพื้นฐานของแอชเซเวอร์ แต่ได้ผสมชิ้นส่วนของแรนด์กรีธเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความทนทาน อากิล่ายังใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากPTในโปรเจ็คท์ATXไว้ด้วย ราเปียซาจจึงนับเป็นหุ่นที่รวบรวมจุดเด่นของหุ่นรบแบบต่างๆเข้าด้วยกันสมชื่อ โดยสามารถบินได้ด้วยเทสล่าไดรฟ์ ในปีกด้านหลังมีสปลิทมิสไซล์ ที่แขนขวามีเล็บแม็กนั่มบีค ส่วนแขนซ้ายติดมาชีนแคนน่อน อาวุธหลักของราเปียซาจก็คือโอเวอร์อ็อกซ์แทนลันเชอร์ซึ่งปรับปรุงมาจากของไวส์ริตเตอร์ ไม้ตายของราเปียซาจก็คือรูปแบบการโจมตีที่เรียกว่าU.U.N (Uncanny Ultimatum Nail)ซึ่งเป็นการใช้อาวุธทั้งหมดโจมตีอย่างต่อเนื่อง

ราเปียซาจยังได้รับการติดตั้งเกอิมซิสเต็มเอาไว้ด้วย ซึ่งอากิล่าให้โอกะ นางิสะเป็นนักบินของราเปียซาจเพราะเชื่อว่าโอกะที่ผ่านการทดสอบมาแล้วหลายรูปแบบจะสามารถใช้งานเกอิมซิสเต็มได้ แต่แม้จะปรับปรุงเกอิมซิสเต็มแล้วโอกะก็ยังใช้งานได้ในเวลาจำกัดอยู่ดี ซึ่งในการต่อสู้ที่เอิร์ธเครเดิลนั้น อากิล่าได้เชื่อมโอกะเข้ากับระบบของราเปียซาจซึ่งทำให้เธอแทบหมดความเป็นมนุษย์กลายเป็นเครื่องจักรสังหาร แต่ด้วยความช่วยเหลือของศจ.เซโร่ เคลโบซึ่งได้อัพโหลดความจำเดิมของโอกะก่อนถูกอากิล่าล้างสมองทำให้เธอได้สติกลับมาและช่วยพวกอาราโดต่อสู้กับอากิล่า แต่เมื่อศจ.อีเกรทได้ปรากฏตัวพร้อมให้เมกัสเร่งการทำงานของมาชีนเซลนั้น อากิล่าได้คืนชีพขึ้นมาในเบลเกลมิลรุ่นผลิตจำนวนมาก ซึ่งโอกะได้ใช้โค้ดATAให้ราเปียซาจระเบิดตัวเองเพื่อทำลายอากิล่าให้สิ้นซากเพราะตัวเธอเองเริ่มโดนมาชีนเซลเข้าไปแล้วและสภาพจิตใจยังบอบช้ำจากการใช้งานเกอิมซิสเต็มอย่างต่อเนื่อง

เลม่อน บราวนิ่งแห่งชาโดว์มิเรอร์ยังได้ปรับปรุงแอชเซเวอร์ของตัวเองเป็นASK-AD02C ไวส์เซเวอร์โดยใช้ข้อมูลจากราเปียซาจ อาวุธของไวส์เซเวอร์จะคล้ายกับแอชเซเวอร์ แต่เปลี่ยนปืนจากกันเรเปียร์และฮัลเบิร์ดลันเชอร์เป็นโอเวอร์อ็อกซ์แทนไรเฟิลแทนและปรับปรุงอานุภาพของซอร์ดเบรคเกอร์เป็นโซลิดซอร์ดเบรคเกอร์ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า

กั๊ดเดส

มาโซคิชินแห่งน้ำ มาโซกิธาตุน้ำนั้นเน้นการใช้งานแบบเอนกประสงค์และมีสมรรถนะที่สมดุลย์และสามารถใช้งานในน้ำได้เต็มที่ กัดเดสจึงมีพลังในการต่อสู้ที่น้อยที่สุดในมาโซคิชินทั้งสี่ วิญญาณพิทักษ์ของกั๊ดเดส จิตวิญญาณแห่งน้ำ กั๊ดนั้นได้เลือกทุตตี้ นอลบั๊คเป็นนักบิน (ทั้งที่เจ๊แกว่ายน้ำไม่เป็น...)

อาวุธหลักของกั๊ดเดสก็คือสามง่าม"กุงนีล"ซึ่งกั๊ดเดสสามารถบังคับให้แปลงสภาพเป็นสายน้ำได้ ไฮฟามิเลียร์ของกั๊ดเดสจะเป็นลูกกลมสำหรับปล่อยคลื่นพลังงานโจมตีศัตรูและควบคุมโดยฟามิเลียร์ของทุตตี้ หมาป่าเฟรกิและกิริ ไม้ตายของกั๊ดเดสก็คือ"เคลวินบลิซซาร์ด"ซึ่งกั๊ดเดสจะปล่อยคลื่นความเย็นออกมาสร้างน้ำแข็งโจมตีศัตรูรอบๆตัวและ"ไฮโดรเพรชเชอร์"ซึ่งกั๊ดเดสจะใช้กุงนีลยิงคลื่นน้ำที่มีแรงกดมหาศาลใส่ศัตรูและสามารถเพิ่มอานุภาพเป็น"โยเซนไฮม์"ได้

ในช่วงสงครามเฟลลอร์ดนั้นทุตตี้และกั๊ดเดสได้ร่วมกับพวกมาซากิในการต่อสู้กับชูเทโดเนียสและหยุดยั้งดิวแรกซีลของเฟลลอร์ดในภายหลัง ซึ่งหลังสงครามทุตตี้ก็ได้ฝึกพิเศษในห้องมิติจนได้ไม้ตายสุดยอด "เฟนริลครัช" ซึ่งในLoEจะเป็นการใช้ไฮฟามิเลียร์กระแทกศัตรูโดยตรงแต่ในอัลฟ่าไกเด็น กัดเดสจะใช้น้ำสร้างเป็นหมาป่าขนาดยักษ์ออกไปโจมตีศัตรู

รูปแถมปิดฉาก ได้มาจากบอร์ดMAHQเมื่อนานมาแล้ว...