th
Th
En
หน้าแรก
หัวข้อทั้งหมด
ข่าว
วีดีโอ
ตั้งหัวข้อใหม่
ลงทะเบียน
ล็อกอิน
กด enter เพื่อค้นหา
Mecha Story: หมาป่า กับ มังกรอวกาศ
CMS-B/67 ชาลโดล
MSสำหรับแข่งที่ผลิตออกขายโดยมาดอร์นาเวิร์คชอป สมรรถนะของชาลโดลนั้นสูงกว่าเจโนอัซและมาดอร์นาก็จะรับแต่งชาลโดลให้ตามความต้องการของลูกค้า ในสมัยที่วูล์ฟ เอเนียเคิลยังเป็นนักแข่งMSนั้นก็ได้ใช้บริการของมาดอร์นาให้แต่งเป็น
CMS-F/06 ชาลโดลG
(Glitter) ซึ่งวูล์ฟนั้นต้องการให้เร่งเครื่องได้เร็วที่สุด ชาลโดลGจึงได้รับการแต่งให้มีน้ำหนักเบาที่สุดและเอาระบบควบคุมทิศทางแบบอัตโนมัติออกไปเพื่อให้วูล์ฟบังคับเองได้ทั้งหมด ชาลโดลGจึงเร่งเครื่องได้มากกว่าปกติมากแต่ขณะเดียวกันก็บังคับยากมากจนนอกจากวูล์ฟแล้วก็ไม่มีใครใช้งานได้ ที่แบ็คแพ็คมีปีกหางเสือสำหรับบังคับทิศทางขนาดใหญ่อยู่ แม้จะเป็นMSของพลเรือน แต่ค่าใช้จ่ายที่มาดอร์นาใช้ในการพัฒนาชาลโดลGนั้นสูงกว่าชาลโดลรุ่นปรับปรุงซึ่งเป็นMSทหารที่ออกมาในภายหลังเสียอีก เมื่อวูล์ฟต้องการMSที่แข็งแกร่งกว่ากันดั้มมาใช้ก็ได้เอาข้อมูลของกันดั้มเอจ1มาให้มูเครด มาดอร์นาใช้ในการพัฒนา มาดอร์นาจึงสามารถสร้างด็อดส์กันให้ชาลโดลใช้งานได้
มาดอร์นาได้แต่งชาลโดลอีกเครื่องให้วูล์ฟเป็น
WMS-GEX1 Gเอ็กเซส
โดยใช้รูปแบบของกันดั้มเอจ1นอมอล สมรรถนะของGเอ็กเซสนั้นสูงกว่ากันดั้มเอจ1นอมอลและมีกำลังที่เทียบได้กับบัคโตของศัตรูลึกลับ แต่ชิ้นส่วนภายในโดยเฉพาะข้อต่อนั้นยังด้อยคุณภาพกว่าของกันดั้มเอจ อาวุธของGเอ็กเซสประกอบด้วยบีมวัลแคนติดหัว บีมเซเบอร์"วูล์ฟแฟงก์"สองเล่ม มิสไซล์พ็อดติดเอว และบีมไรเฟิลที่สร้างเลียนแบบด็อดส์ไรเฟิล ทั้งยังมีโล่ไว้ป้องกันตัว มูเครด มาดอร์นาเองก็มีชาลโดลประจำตัวคือCMS-B/67M ซึ่งนอกจากด็อดส์กันที่สร้างจากข้อมูลของกันดั้มเอจแล้วยังมีเมก้าบีมลันเชอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าชาลโดลMเองเป็นอาวุธเสริม
มาดอร์นาเวิร์คชอปนั้นใช้ข้อมูลที่มีพัฒนาชาลโดลตามรูปแบบของGเอ็กเซสเป็น
RGE-C350 ชาลโดลรุ่นปรับปรุง
เพื่อขายให้สหพันธ์โลกและเข้าประจำการคู่กับเจโนอัซทูว์และอเดล โดยพวกพวกทหารอาสาที่เป็นนักบินชั่วคราวจะชอบใช้ชาลโดลรุ่นปรับปรุงมากกว่า
ชาลโดลรุ่นปรับปรุงนี้มีรุ่นย่อยคือ
RGE-C350S ชาลโดลสเกาต์
ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้เก็บข้อมูลระบบพรางตา "ร่มล่องหน"ของเวย์กัน ชาลโดลสเกาต์นั้นจะรับหน้าที่เข้าต่อสู้กับศัตรูพร้อมกับรวบรวมข้อมูลไปด้วย จากนั้นจึงถอนกำลังไป เนื่องจากข้อมูลที่ชาลโดลสเกาต์รวบรวมมานั้นสำคัญมาก จึงได้เสริมเกราะให้หนากว่าเดิมและเพิ่มกำลังของท่อขับดันเพื่อให้มีความเร็วสูงขึ้นด้วย อาวุธหลักของชาลโดลสเกาต์นั้นเป็นไรเฟิลกระสุนแทนบีมเพื่อให้ตรวจจับความร้อนได้ยาก ไหล่ขวาติดลันเชอร์อเนกประสงค์ซึ่งปกติแล้วใช้ยิงโพลีเมอร์สำหรับรบกวนเซนเซอร์ศัตรู ส่วนไหล่ซ้ายเป็นมิสไซล์ลันเชอร์สี่ลำกล้อง
นอกจากสหพันธ์โลกแล้ว มาดอร์นาเวิร์คชอปก็ยังผลิตMSให้กลุ่มสลัดอวกาศบิซิเดียนด้วยโดยดัดแปลงจากMSที่มีอยู่แล้ว กำลังหลักของบิซิเดียนก็คือ
BMS-003 ชาลโดลโรก
ซึ่งเปลี่ยนอาวุธหลักเป็นปืนด็อดส์บัสเตอร์ที่แขนขวาและนอกจากบีมเซเบอร์แล้วก็มีขวานบีมในระยะประชิด ส่วนนักบินที่มีประสพการณ์นั้นจะใช้
BMS-004 Gเอ็กเซสแจ็คเอดจ์
ซึ่งมีอาวุธหลักเป็นด็อดส์ไรเฟิลทูว์B ซึ่งมีดาบปลายปืนติดอยู่ด้วย
ovv-f กาฟราน
MSของอาณานิคมดาวอังคาร เวย์กัน หรือที่สหพันธ์โลกเรียกในตอนแรกว่าศัตรูลึกลับ (UE - Unknown Enemy) เนื่องจากว่าเวย์กันนั้นมียูนิตย่อยของEXA-DBซึ่งเก็บข้อมูลของเทคโนโลยีที่สาปสูญไปในสงครามโคโลนีอยู่ MSที่เวย์กันสร้างจึงใช้เทคโนโลยีที่เหนือกว่าของสหพันธ์โลกมาก กาฟรานนั้นเป็นรูปแบบพื้นฐานของMSที่เวย์กันใช้ ค็อกพิตเป็นแบบพาโนรามิกมองได้รอบตัว นิ้วมือนั้นมีนิ้วก้อยกับนิ้วโป้งที่ยาวเท่ากัน เนื่องจากเวย์กันนั้นไม่มีฐานกำลังที่ใกล้กับพิ้ที่ของสหพันธ์จึงต้องส่งกำลังโจมตีเป้าหมายจากระยะทางไกลๆ กาฟรานจึงได้รับการออกแบบให้แปลงร่างเป็นแบบมังกรเพื่อให้บินระยะยะไกลได้ดีขึ้นได้ โดยเกราะเอวจะกางออกมาเป็นปีกเหมือนหางเสือคุมทิศทาง
(ถึงเจ้าฐานข้อมูลนั่นจะชื่อ EXA แต่ความเกี่ยวข้องกับ"นักบินกันดั้มที่บังเอิญผ่านมา"นั้นยังไม่ปรากฏ)
เพื่อป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีของตนตกไปอยู่ในมือสหพันธ์ กาฟรานจึงมีระบบทำลายตัวเองซึ่งจะทำงานในกรณีที่เครื่องขัดข้องหรือได้รับความเสียหายอย่างหนัก อาวุธของกาฟรานนั้นประกอบด้วยบีมวัลแคนติดมือซึ่งใช้เป็นบีมเซเบอร์ได้ บีมแคนน่อนแบบสาดกระจายที่ท้อง และบีมไรเฟิลซึ่งจะเป็นหางของร่างมังกร เกราะของกาฟรานยังมีความทนทานสูงจนบีมสเปรย์กันกับพลองความร้อนของเจโนอัซนั้นแทบไม่มีผลกับกาฟราน จนกระทั่งกันดั้มเอจ1ปรากฏตัวจึงมีกาฟรานถูกทำลายเป็นตัวแรก และด็อดส์ไรเฟิลของกันดั้มเอจ1ก็สามารถยิงทำลายกาฟรานได้ในนัดเดียว
เพื่อตอบโต้ด็อดส์ไรเฟิล เวย์กันจึงได้พัฒนาMSรุ่นหนัก
ovv-a บัคโต
ขึ้นมา เกราะของบัคโตนั้นนอกจากจะหนามากแล้วยังเป็นเกราะแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งกระจายบีมของด็อดส์ไรเฟิลเพื่อลดความเสียหายได้ ทำให้ด็อดส์ไรเฟิลแทบไม่มีผล บัคโตนั้นเน้นการต่อสู้ด้วยกำลัง บีมแคนน่อนแบบสาดกระจายที่ท้องกลายเป็นบีมสไปค์ที่หน้าอกซึ่งนอกจากจะยิงได้แล้วยังใช้แทงในระยะประชิดได้ แต่เอจซิสเต็มก็พัฒนาตัวเองและสร้างกันดั้มเอจ1ไททัสที่มีพลังป้องกันและเกราะซึ่งเหนือกว่าบัคโตออกมาเป็นการตอบโต้
เมื่อสงครามดำเนินไปถึงรุ่นที่สองก็ยังมีการใช้งานกาฟรานกับบัคโตอยู่ และเวย์กันก็ได้พัฒนารูปแบบของกาฟรานไปอีกเป็น
ovm-e โดราโด
เพื่อเป็นกำลังหลักแทน โดราโดใช้รูปแบบของกาฟรานและมีเกราะแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบัคโต เนื่องจากกองกำลังของเวย์กันนั้นได้เข้าแฝงตัวในพื้นที่ของสหพันธ์ไปมากแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีร่างที่ใช้ในการบินระยะทางไกลๆอีก โครงสร้างของโดราโดจึงได้รับการออกแบบใหม่ให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้นและเหมาะกับการต่อสู้ภาคพื้นดินมากกว่าเดิม โดราโดนั้นยังใช้อาวุธแบบกาฟราน แต่ที่แขนทั้งสองข้างสามารถติดบีมวัลแคนสามลำกล้องหรือมิสไซล์พ็อดสามลำกล้องเป็นอาวุธเสริมได้ รุ่นจ่าฝูงของโดราโดนั้นจะมีเกราะเป็นสีทอง เรียกว่า ovv-el โดราโดL
xvv-xc เซดัส
MSของเวย์กันที่ออกแบบให้Xราวเดอร์ใช้งาน โดยเป็นMSที่มีการขับเคลื่อนสูงที่พัฒนารูปแบบต่อมาจากกาฟราน เซดัสใช้ร่างแปลงแบบยานแทนร่างมังกร ส่วนหางนั้นสามารถถอดออกมาเป็นดาบซึ่งมีพลังในการตัดสูงกว่าบีมเซเบอร์ได้ ที่ลำตัวมีบีมแคนน่อน และที่มือจะมีบีมวัลแคนที่ใช้เป็นบีมเซเบอร์ได้เหมือนของกาฟราน ความเร็วของเซดัสนั้นสูงเกินกว่าที่ระบบคอมพิวเตอร์จะสามารถคำนวนการเคลื่อนไหวได้ เอจซิสเต็มจึงได้ตอบโต้โดยการพัฒนากันดั้มเอจ1สปัลโลที่มีความเร็วสูงกว่าออกมา
เซดัสเป็นMSประจำตัวของเดซิล กาเล็ต ซึ่งในการต่อสู้กับฟลิทที่แอมบัทนั้น เดซิลก็ใช้ความสามารถอีกอย่างของเซดัส นั่นคือการใช้พลังพิเศษของXราวเดอร์บังคับMSเครื่องอื่นจากระยะไกล โดยเดซิลได้ใช้ xvb-xd ฟาร์เซีย โดยใช้ยูริน ลูเซียลเป็นเหมือนชิ้นส่วนเสาอากาศสำหรับรับการควบคุมจากเซดัส แต่ในที่สุดยูรินก็ควบคุมฟาร์เซียได้และใช้ตัวเองบังฟลิทจนตายแทน ฟลิทโค่นเซดัสได้ด้วยความโกรธแค้นต่อเดซิล แต่ก็รู้ว่าเกรียนอย่างเดซิลฆ่าทิ้งไปก็เท่านั้นเลยปล่อยไปพร้อมความรู้สึกอัปยศที่ตนต้องแพ้ฟลิทอย่างย่อยยับ
พวกเวย์กันได้สร้างเซดัสเพิ่มขึ้นอีกเป็น
xvv-xcr เซดัสR
และ
xvv-xcm เซดัสM
ซึ่งมีลักษณะเหมือนเซดัสทุกประการแต่ทำการปรับแต่งเล็กๆน้อยๆให้ปฏิกิริยาตอบสนองต่อXราวเดอร์ดีขึ้นอีก และใช้เกราะแม่เหล็กไฟฟ้าแบบบัคโตเพื่อลดความเสียหายจากอาวุธบีม โดยเซดัสMนั้นเป็นMSของทีมแมจิคเชียน8 ส่วนเซดัสRเป็นของเซฮาร์ท กาเล็ต ซึ่งเป็นน้องชายของเดซิล
ส่วนเดซิลเองนั้นก็มี
xvv-xcc เซดัสC
ซึ่งเป็นเซดัสที่ปรับปรุงตามความต้องการของเดซิลที่ต้องการMSที่แข็งแกร่งพอใช้ล้างแค้นกันดั้มได้ แบ็คแพ็คนั้นเปลี่ยนเป็นแบบติดปืนใหญ่ประทับไหล่ขวากับระบบเรดาร์ประสิทธิภาพสูงที่ไหล่ซ้าย เพื่อให้เซดัสCสามารถยิงทำลายศัตรูจากระยะไกลได้ เนื่องจากหนักกว่าเดิมจึงได้เพิ่มกำลังของท่อขับดันให้คงความเร็วไว้ที่ระดับเดิมด้วย (ตัวนี้อยู่ในEXA-LOGซึ่งจะพัฒนาไปเป็นโครโนสที่เดซิลใช้ในเรื่อง)
Super Robot Wars
Games
Mecha Story
Kuruni
Oct 20, 2012 07:59
ร่วมแสดงความเห็น
บนระบบของเรา
บน Facebook Comments Plugin
บน Google+ Comments
Facebook
Share
Twitter
Share
Google+
Share
Pinterest
Share
Email
Send Email
ติดต่อเรา
ชื่อเต็ม
อีเมล
ข้อความของคุณ