Mecha Story : เรื่องของภูติผีปิศาจ

หายไปซะนานเลยน้า...ขออภัยจริงๆที่หาไลน์อาร์ตของเกสเพนสท์รุ่นแรกไม่ได้ครับ







SRG-03 กรุนกัสต์ซันชิกิ

กรุนกัสต์ซีรี่ส์รุ่นที่สามที่พัฒนาหลังสงครามL5 กรุนกัสต์ซันชิกิแปลงร่างไม่ได้ แต่สามารถแยกร่างเป็นสองส่วนคือยานGแรปเตอร์และรถถังGไบซันได้ซึ่งต้องใช้นักบินสองคนแยกกันขับ เวลาใช้หมัดจรวดบูสต์นัคเคิลจะประกอบกับสว่านกลายเป็น"ดริลบูสต์นัคเคิล"เพื่อเพิ่มอานุภาพ ส่วนลำแสงจากหน้าอกชื่อโอเมก้าบลาสเตอร์

เท่าที่ปรากฏมีกรุนกัสต์ซันชิกิสร้างขึ้นมาทั้งหมดสามเครื่อง โดยที่SRG-03-1นั้นติดตั้งระบบT-LINKและมีคุสุฮะกับบริทเป็นนักบิน ซึ่งตัวนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักในการต่อสู้กับอัลฟีมี่ แต่ได้รวมร่างกับริวโอกิและโคโอกิกลายเป็นริวโคโอไป เครื่องที่สองSRG-03-2นั้นเป็นของเซ็นเกอร์ซึ่งได้รับการดัดแปลงให้ใช้นักบินคนเดียวและแยกร่างไม่ได้ (คนที่จะมาช่วยเซ็นเกอร์ขับซันชิกิยืนยันว่าจะยอมขับให้ก็ต่อเมื่อ"ทาสีดำแล้วเรียกว่าทรอมเบ้"ซะก่อน...) เซ็นเกอร์ยังใช้อาวุธประจำตัวดาบผ่ายานรบ"ซันคันโต"กับซันชิกิด้วย ซึ่งซันคันโตที่ใช้นี้ไม่ใช่แค่ดาบขนาดใหญ่ที่ติดท่อขับดันไว้เหมือนของเรย์ชิกิ แต่เป็นคาตานะที่จะขยายขนาดเป็นดาบขนาดยักษ์เมื่อใช้กระบวนท่า"ซันคันโต อิจิมอนจิกิริ" กรุนกัสต์ซันชิกิของเซ็นเกอร์ได้รับความเสียหายอย่างหนักในการต่อสู้กับกัลกาวที่สถานีวิจัยเทสล่าไรฮี แต่ซันคันโตก็กลายเป็นอาวุธของไดเซ็นเกอร์แทน ส่วนเครื่องที่สามนั้นสร้างขึ้นหลังสงครามให้คุสุฮะและบริทใช้แทนริวโคโอที่เทสล่าไรฮีเก็บไว้ศึกษา ข้อมูลบางแหล่งระบุว่าเครื่องที่สามนี้ใช้โทรเนี่ยมเอ็นจิ้นเป็นแหล่งพลังงานและติดตั้งชิชิโอเบลดซึ่งเป็นดาบคาตานะที่จำลองมาจากซันคันโต

นอกจากนี้ยังมีเสลดเกลมิล (ชื่อนี้เป็นชื่อของยักษ์ในตำนานของชาวนอร์ส) ซึ่งเป็นกรุนกัสต์ซันชิกิจากโลกคู่ขนานที่แปลงสภาพไปด้วยมาชีนเซล โอเมก้าบลาสเตอร์ของเสลดเกลมิลไม่สามารถใช้งานได้ แต่สามารถบินได้และเกราะหัวไหล่สามารถปลดออกมาแปลงสภาพเป็นซันคันโตได้ เสลดเกลมิลยังมีค็อกพิตสำหรับนักบินสองคนแต่หนึ่งในนั้นถูกแปลงเป็นศูนย์ควบคุมระบบฟื้นสภาพของมาชีนเซล ซึ่งถ้าถูกทำลายจะทำให้เสลดเกลมิลซ่อมแซมความเสียหายของตัวเองไม่ได้ นักบินของเสลดเกลมิลก็คือ"W15" วอดัน ยูมิล (หรือโอดิน อีมิล) Wซีรี่ส์ของชาโดว์มิเรอร์ที่สร้างจากข้อมูลของเซ็นเกอร์ในโลกคู่ขนาน ซึ่งหลังจากพ่ายแพ้จากการดวลกับเซ็นเกอร์ที่เอิร์ธเครเดิลก็ได้สละชีพระเบิดตัวเองไปพร้อมศจ.อิเกรด



PTX-001 เกสเพนสท์RและPTX-002 เกสเพนสท์S

PTรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ เกสเพนสท์แปลว่า"ภูติผี" ในภาษาเยอรมัน แม้จะเป็นPTรุ่นแรกแต่เนื่องจากใช้เงินถลุงในการสร้างแบบไม่อั้นจึงมีประสิทธิภาพที่ไม่เลวนักและสามารถปรับแต่งเครื่องให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับPTในรุ่นต่อๆมาก็ยังได้ PTX-001 เกสเพนสท์Rเป็นPTที่เน้นความคล่องตัวสูง มีอาวุธหลักเป็นพลาสม่าคัตเตอร์และปืนนิวตรอนบีม ในขณะที่PTX-002 เกสเพนสท์Sเป็นแบบที่เน้นกำลังของเครื่องซึ่งสามารถยิงบลาสเตอร์แคนน่อนอานุภาพสูงจากหน้าอกได้

เกสเพนสท์Sนั้นถูกทำลายในอุบัติเหตุระหว่างการทดสอบ ซึ่งเชื่อว่าพลเอกคาวาอิ ลาอูที่เป็นนักบินก็ได้เสียชีวิตไปด้วย แต่ในสงครามL5 แอโรเกเตอร์ก็ได้สร้างเกสเพนสท์Sใหม่ด้วยเทคโนโลยีของตัวเองพร้อมกับใช้คาวาอิที่ถูกล้างสมองเป็นนักบิน ซึ่งในที่สุดก็ถูกทีมฮางาเนะ/ฮิริวทำลายพร้อมกับส่งคาวาอิไปสู่สุขคติ ส่วนเกสเพนสท์Rนั้น พันตรีกิเลี่ยม เอียเกอร์ได้เอามาปรับปรุงและใช้ในสงครามL5 ซึ่งต่อมาในสงครามกับพวกอินสเป็คเตอร์นั้นได้เสริมเทสล่าไดรฟ์เพื่อให้บินได้ด้วย





PTX-007 เกสเพนสท์มาร์คทูว์

PTที่ใช้โครงสร้างแบบพื้นฐานของเกสเพนสท์ โดยแรกเริ่มเป็นรุ่นต้นแบบคือPTX-007-1 เกสเพนสท์มาร์คทูว์Rซึ่งเป็นPTรุ่นต้นแบบสำหรับเตรียมผลิตจำนวนมาก ดาบพลาสม่าคัตเตอร์เปลี่ยนเป็นนีโอพลาสม่าคัตเตอร์ที่มีอานุภาพกว่าเดิม ส่วนปืนก็กลายเป็นเมก้าบีมไรเฟิล อาวุธที่เพิ่มมาจากของเกสเพนสท์ก็คือ"แสลชริปเปอร์"ซึ่งเป็นกังหันใบมีดที่ควบคุมด้วยรีโมตสำหรับโจมตีระยะกลาง นักบินทดสอบของเกสเพนสท์มาร์คทูว์Rก็คือเอลซัม V บรันสไตน์ซึ่งระหว่างการทดสอบก็ได้สำแดงฝีมือในการต่อสู้กับเมกิโรดของแอโรเกเตอร์ทั้งที่ไม่มีอาวุธ ส่วนในช่วงสงครามDCนั้นมีพันตรีกิเลี่ยม เอียเกอร์เป็นนักบิน แล้วยังเกสเพนสท์มาร์คทูว์Rที่ได้รับการดัดแปลงเป็นรุ่นTT(T-LINK Test)โดยติดตั้งระบบT-LINKเพื่อใช้ทดสอบนักบินที่มีพลังจิต ซึ่งรุ่นนี้จะไม่มีบีมโค้ตติ้งและทาสีเป็นสีเทา แต่แสลชริปเปอร์จะเป็นแบบควบคุมด้วยระบบT-LINKซึ่งมีระยะไกลกว่าแบบปกติ

เครื่องต้นแบบหมายเลขสองก็คือPTX-007-2 เกสเพนสท์มาร์คทูว์S ซึ่งใช้ทดสอบระบบของกรุนกัสต์พร้อมกับSRG-00 กรุนกัสต์เรย์ชิกิ บลาสเตอร์แคนน่อนที่หน้าอกได้รับการปรับปรุงเป็นเมก้าบลาสเตอร์แคนน่อนที่มีอานุภาพสูงขึ้นและเปลี่ยนดาบที่ใช้เป็นนีโอพลาสม่าคัตเตอร์ เกสเพนสท์มาร์คทูว์Sยังสามารถบินกลางอากาศได้ด้วยกำลังของตัวเองแต่ความคล่องแคล่วจะสู้พวกที่ติดตั้งเทสล่าไดรฟ์ไม่ได้ แบบที่สามก็คือPTX-007-3 เกสเพนสท์มาร์คทูว์T ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นไวส์ริตเตอร์

ในช่วงสงครามDCนั้น EFได้เริ่มทำการผลิตRPT-007 เกสเพนสท์มาร์คทูว์Mซึ่งเป็นรุ่นผลิตจำนวนมาก โดยมีต้นแบบมาจากแบบR โดยเปลี่ยนอาวุธระยะประชิดเป็นลิ่มพลาสม่าที่แขนซึ่งใช้เป็นท่า"เจ็ตแม็กนั่ม"ที่รุนแรงได้และมีปืนกลM90เป็นปืนมาตรฐาน จริงๆแล้วเกสเพนสท์มาร์คทูว์Mนับเป็นPTที่มีประสิทธิภาพที่ดีสำหรับPTรุ่นผลิตจำนวนมากทีเดียว แต่ในระหว่างสงครามDCนั้นเกสเพนสท์มาร์คทูว์Mส่วนใหญ่ถูกทำลายไปพร้อมกับยานชิโรงาเนะที่ขั้วโลกใต้ อีกทั้งDCAM-004 ริอ้อนซึ่งเป็นกำลังหลักของDCยังเป็นยูนิตที่เน้นการต่อสู้จากภาคอากาศ ทำให้เกสเพนสท์มาร์คทูว์Mไม่สามารถต่อสู้กับริอ้อนได้เต็มที่ ในภายหลังEFจึงใช้งานริอ้อนเป็นกำลังหลักแทน แต่นักบินที่มีประสพการณ์บางคนยังเลือกใช้เกสเพนสท์มาร์คทูว์Mอยู่ กองกำลังชาโดว์มิเรอร์ที่มาจากมิติคู่ขนานก็ใช้เกสเพนสท์มาร์คทูว์Mเป็นกำลังหลักเช่นกัน แต่เกสเพนสท์มาร์คทูว์Mของชาโดว์มิเรออร์นั้นใช้อาวุธแบบเดียวกับแบบRและยังบินได้อีกด้วย

รูปเป็นของเกสเพนสท์มาร์คทูว์R
Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา