Mecha Story: เล็กน้อยๆ
ATM-09-GC บรูติชด็อก
สโคปด็อกที่ได้รับการปรับแต่งแบบพิเศษให้มนุษย์ดัดแปลง เพอเฟคท์โซลเยอร์ ใช้ และเป็นพื้นฐานของATที่สมาคมลับพัฒนาต่อมาในภายหลัง บรูติชด็อกนั้นติดตั้งแบ็คแพ็คซึ่งเป็นระบบกรองสารหล่อลื่นของมัสเซิลไซลินเดอร์ ทำให้มีสมรรถนะที่สูงกว่าสโคปด็อกปกติมาก อาวุธหลักของบรูติชด็อกก็คือปืนแก็ตลิ่งที่แขนขวา ซึ่งติดกงเล็บไว้เป็นอาวุธในระยะประชิดด้วย ระบบการควบคุมของบรูติชด็อกนั้นซับซ้อนกว่าปกติมากจนคนธรรมดาไม่สามารถบังคับได้ ซึ่งบรูติชด็อกนี้เป็นATที่ฟิอาน่า หรือ แฟนธอมเลดี้ ใช้สู้กับคิริโกที่เมืองอูโด แต่ฟิอาน่าก็หันมาช่วยคิริโกแทนและบรูติชด็อกก็ถูกกำลังตำรวจของอูโดทำลาย
สมาคมลับได้พัฒนารูปแบบของบรูติชด็อกต่อมาเป็น X-ATH-02 สไตรค์ด็อก ของ อิปซีลอน สไตรค์ด็อกนั้นเป็น ATรุ่นหนักแต่ใช้พื้นฐานของสโคปด็อก แบ็คแพ็คติดตั้งบูสเตอร์ไว้จึงสามารถใช้ในอวกาศได้โดยไม่ต้องติดตั้งราวนด์มูฟเวอร์ ดีไซน์ของแก็ตลิ่งคลอว์นั้นเปลี่ยนเป็นกงเล็บติดแขนซ้ายซึ่งติดปืนกล11มม.ไว้ภายใน และสามารถใช้บาซูก้า โซลิดชูตเตอร์ได้ มัสเซิลไซลินเดอร์ของสไตรค์ด็อกมีกำลังมาก ถึงจะเป็นATรุ่นหนักแต่ก็มีสมรรถนะที่สูงมาก จุดอ่อนสำคัญของสไตรค์ด็อกก็คือการใช้สมรรถนะระดับนี้ทำให้เวลาในการปฏิบัติการสั้นมากนั่นเอง (20ชั่วโมง)
รูปแบบของสไตรค์ด็อกยังได้รับการพัฒนาต่อมาโดยไวส์แมน เป็น X-ATH-02-DT แรบิดลีด็อก เพื่อให้คิริโกใช้โดยเฉพาะ โดยปรับระบบเซนเซอร์ให้ใกล้เคียงกับสโคปด็อกมากขึ้น เลนส์ซูมนั้นเป็นแบบกันกระสุนและลดจำนวนเลนส์อินฟราเรดเหลือกล้องเดียว และยังแก้จุดอ่อนด้านระยะเวลาในการปฏิบัติการของสไตรค์ด็อก ทำให้แรบิดลีด็อกสามารถต่อสู้ได้นานพอๆกับATระดับกลาง คิริโกนั้นใช้แรบิดลีด็อกในการต่อสู้กับกองทัพATนับร้อยจากกองกำลังผสมของกิลกาเมชและบาลาแรนท์ ซึ่งแม้แรบิดลีด็อกจะถูกทำลายในที่สุด แต่คิริโกก็ไปถึงที่อยู่ของไวส์แมนได้
ไคออธฮาคาเดช
เมทัลเกียร์ที่ปรากฏในภาค Ac!d 2 (เป็นอนาคตของประวัติศาสตร์คู่ขนานของภาคหลัก) ไคออธฮาคาเดชเป็นเมทัลเกียร์ที่บริษัทผลิตอาวุธ เซนต์โลจิค โดยพัฒนาจากการศึกษาเมทัลเกียร์ โคโดคุ ได้รับการออกแบบให้มีความสามารถในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วยเรลกันเหมือน REX แต่ปกติแล้วจะใช้ระเบิดนิวตรอนแทนนิวเคลียร์เพื่อใช้ทำลายสิ่งมีชีวิตโดยไม่สร้างความเสียหายกับสิ่งก่อสร้าง มิสไซล์นี้สามารถเปลี่ยนเป็นแบบอื่นๆอย่างอาวุธเคมีหรือแม้แต่จะใช้ยิงลำเลียงทหารก็ยังได้ ไคออธฮาคาเดชยังมีปืนวัลแคนที่แขนทั้งสองข้างและมิสไซล์ลันเชอร์ด้านบน มิสไซล์ลันเชอร์นี้ยังติดตั้งปืนเลเซอร์ไว้ ทำให้พลังในการต่อสู้ระยะประชิดของไคออธฮาคาเดชนั้นพอๆกับ RAY เลยทีเดียว เซนท์โลจิคยังได้ใช้ระบบปฏิบัติการ EGO (Enhanced Governing Organization) ซึ่งทำให้ไคออธฮาคาเดชเป็นเหมือนศูนย์กลางควบคุมทหารมนุษย์ดัดแปลงและหุ่นยนต์ยามที่ใช้ระบบนี้
เมื่อรองประธานของเซนต์โลจิค ศจ.โธมัส คอปเปลธอร์น ยึดไคออธฮาคาเดชและข่มขู่อเมริกาให้มอบตัวคนที่เกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ในสาธารณรัฐเซเรนาซึ่งทำให้ลูซินดาผู้เป็นภรรยาของคอปเปลธอร์นเสียชีวิต กระทรวงกลาโหมของสหรัฐก็ได้ส่งสายลับ วีนัส และ สเนค ทหารรับจ้างความจำเสื่อม (สเนคเป็นหนึ่งในมนุษย์ทดลองของเซนต์โลจิค และเป็นโคลนของโซลิด สเนคนั่นเอง) ขณะที่ใช้ไคออธฮาคาเดชสู้กับสเนคและวีนัสนั้น ลูซี มนุษย์ทดลองซึ่งคอปเปลธอร์นได้ปลูกถ่ายความจำและสำนึกของลูซินดาให้ ก็ได้ฆ่าคอปเปลธอร์นก่อนจะใช้ไคออธฮาคาเดชสู้กับพวกสเนคต่อ (คอปเปลธอร์นคิดแต่ว่าลูซีเป็นลูซินดาที่กลับมาเกิดใหม่และไม่รู้ตัวว่าเธอมีสำนึกของตนเองด้วย) แต่ก็ถูกทำลายในที่สุด
ในตอนที่ฐานเซนต์โลจิคถล่มนั้น สเนคได้ถอดหัวรบระเบิดนิวตรอนของไคออธฮาคาเดชออกจากมิสไซล์ ก่อนเข้าไปอยู่ในมิสไซล์เปล่าแล้วใช้เรลกันซึ่งยังใช้งานได้ยิงส่งตัวเองหนีออกไป
XAM007W/V วาลคิวลิอ้อน
ตัวนี้มาจากโดจินของชิมาดะ ฟุมิคาเนะ (คนวาดเมคามุสุเมะ) น่ะครับ ฉะนั้นคงไม่มีโอกาสได้เห็นในเกมหรอก
เครื่องต้นแบบที่สถาบันเทสล่าใช้ทดสอบเทคโนโลยีที่จำเป็นของแฟร์ลิอ้อน โดยเฉพาะระบบ W-I3NK โครงสร้างนั้นจะใกล้เคียงกับการ์ลิอ้อนมากกว่าทำให้รูปร่างใหญ่กว่าแฟร์ลิอ้อน ใช้เรลกันมือถือเป็นอาวุธ เวลาเปิด W-I3NK นั้น เครื่อง 007V (สีชมพู) จะเป็นยูนิตควบคุมหลัก ส่วน 007W (สีขาว) จะรับคำสั่งอย่างเดียว เมื่อพัฒนาต่อไปเป็นแฟร์ลิอ้อน จึงได้แก้ W-I3NK ให้เป็นแบบรับส่งการควบคุมได้ทั้งสองทางทำให้ใช้งานได้ยืดหยุ่นมากขึ้น และใช้ชิ้นส่วนที่จูนให้เข้ากับการใช้งานโดยเฉพาะจึงมีขนาดเล็กลง สถาบันเทสล่ายังแต่งเครื่อง007Vตามสไตล์การต่อสู้ของร้อยตรี คาทิน่า ทาราสค์ โดยเปลี่ยนเครื่องกำเนิดสนามพลังเบรคฟิลด์ที่แขนออกแล้วติดลิ่มพลาสม่าแทน ส่วนเรลกันก็เปลี่ยนเป็นตะขอขนาดใหญ่ซึ่งจำลองมาจากที่ จิกันสคูโดดูโร ใช้
NRX-044Q อัชชิม่า "ดันดะจักระ"
อัชชิม่าเครื่องพิเศษที่ปรับปรุงให้มีเกราะหนากว่าปกติและเสริมระบบเซนเซอร์ให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ที่เท้ายังมีท่อขับดันเสริมเพื่อให้เร่งความเร็วในร่างMA ดันดะจักระยังมีอาวุธที่หลากหลายกว่าอัชชิม่ารุ่นปกติมาก โดยนอกจากบีมไรเฟิลขนาดใหญ่จะเปลี่ยนเป็นแบบสี่ลำกล้องแล้ว ยังมีบีมพิสทอลอีกสองกระบอกและมิสไซล์ ที่แขนทั้งสองข้างยังมีบีมเซเบอร์เก็บไว้อีกด้วย
GN-00802 เซรา/b]
โมดูลเสริมที่ใช้ประกอบกับราฟาเอลกันดั้มเป็นราฟาเอลโดมิเนียน (ใครจำไม่ได้ให้ย้อนไปอ่านตอนที่แล้ว) เซราเป็นทั้งแบ็คแพ็คและเกราะสวมเสริมความแข็งแกร่งของราฟาเอลให้ใช้งานบนโลกได้ เซรานั้นติดGNบาซูก้าแบบของเซราวีทูว์ไว้ เนื่องจากโครงสร้างของโดมิเนียนนั้นหนากว่าเดิม จึงสามารถยิงGNบาซูก้าแบบประทับไหล่ได้โดยไม่ต้องใช้มือจับ เซรานั้นยังคงความสามารถในการแยกไปเป็นMSอยู่เหมือนเดิม ส่วนหัวนั้นเปนแบบเซนเซอร์ล้วนๆ แทนที่จะเป็นหัวกันดั้ม
[b]GN-001REIII กันดั้มเอ็กเซียรีแพร์ทรี
เอ็กเซียที่CBเก็บกลับปซ่อมหลังจากที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักในการต่อสู้กับโอกันดั้ม และปรับปรุงอีกครั้งเป็นเอ็กเซียรีแพร์ทรี เนื่องจากไม่มีGNไดรฟ์แล้วจึงปรับปรุงระบบขับเคลื่อนให้ใช้พลังงานน้อยลงและเน้นการใช้งานภาคพื้นดิน (ที่เซ็ตเอาแฟลกไปใช้ในภาคมูฟวี่แทนก็เพราะเหตุนี้) ทั้งยังเสริมเกราะบริเวณไหล่และเข่าเพื่อติดตั้งGNคอนเดนเซอร์ รูปแบบการใช้งานของเอ็กเซียรีแพร์ทรียังเปลี่ยนไปเป็นการใช้งานแบบทั่วไป โดยมีปืน GNไรเฟิลยาวที่สามารถพับลำกล้องได้ติดไว้ที่แขนซ้าย
Super Robot Wars
Games
Mecha Story