Mecha Story: Ahomozewut?

ใครสงสัยเรื่องชื่อกระทู้(ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องแม้แต่น้อย) คำๆนี้กล่าวกันว่าเป็น"ไม้ตาย"ของนักปรัชญากรีก โซเครติส ครับ เมื่อใดก็ตามที่โซเครติสเริ่มจะเถียงแพ้ชาวบ้าน โซเครติสก็จะโพล่งขึ้นมาทันที "Ahomozewut?" ("A homo say what?" - "โฮโมพูดว่า'อะไร?'" พูดเร็วๆ)

ฝ่ายตรงข้าม จู่ๆเจอคำพูดแบบนี้ก็ไม่เข้าใจจึงมักถามว่า"อะไร?" โซเครติสก็จะรีบต่อให้ว่า"ใช่แล้ว" (Exactly) กว่าฝ่ายตรงข้ามจะรู้ตัวก็โดนคนอื่นที่นั่งฟังอยู่ฮาไปหลายดอก วิธีนี้ทำให้โซเครติสสามารถหาจังหวะเปลี่ยนกระแสของเรื่องที่กำลังเถียงกันได้เสมอ...

สำหรับคู่ถกเถียงที่สุภาพมากๆ โซเครติสจะใช้ Ahomozepadon? (A homo say pardon?)แทน...



เข้าเรื่องๆ ชุดแรกนี้เพื่อความสะดวกขอยกรูปไปไว้ล่างข้อมูลนะครับ



CAMS-13 ไร, สเปียร์เฮด และ ไรเวน

พวกนี้ก็เป็นMSของCONSENTในGเซเวอร์ซึ่งพัฒนาหลังบุกุ

ไรเป็นMSรุ่นใหม่ที่พัฒนาเพื่อใช้เป็นพื้นฐานของMobile Weapon (MSแบบไร้คนบังคับ) CAMW-13 MWไรตามแผนการณ์ของนายพลกาโน ไรมีบีมเซเบอร์, บีมชิลด์, เกรเน็คลันเชอร์และมิสไซล์ลันเชอร์เป็นอาวุธแบบติดตั้งภายในและสามารถใช้งานอาวุธรุ่นใหม่ที่ใช้แฮนด์ปลั๊กแบบMPC-4และMPC-5ได้ แต่ไม่รองรับอาวุธรุ่นก่อนหน้านั้น สามารถติดตั้งบูสเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อเร่งความเร็วได้ ในภายหลังยังได้พัฒนาไปอีกขั้นเป็นCAMS-14 (CAMW-14) เรด(Raid)แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับGเซเวอร์ของอิลลูมินาติได้

สเปียร์เฮดจึงMSที่พัฒนาเพื่อต่อสู้กับGเซเวอร์ของอิลลูมินาติ โดยสเปียร์เฮดนั้นเป็นMSแบบเน้นการต่อสู้ระยะประชิดโดยใช้ทวนบีมและใช้บีมไรเฟิลแบบเดียวกับของเรด เมื่อเทียบกับบุกุและเรดแล้วนับว่ามีพลังเหนือกว่ามาก สเปียร์เฮดมีรูปแบบย่อยๆซึ่งเน้นการต่อสู้ในระยะไกลคือ สเปียร์เฮดB ซึ่งติดโล่ขนาดใหญ่ไว้ที่ไหล่ทั้งสองข้างและใช้ไรเฟิลขนาดใหญ่เป็นอาวุธ กับสเปียร์เฮดCซึ่งติดบีมแคนน่อนไว้ที่แขนทั้งสองข้างรวมหกกระบอกและมีปืนใหญ่ติดไหล่ทั้งสองข้าง สเปียร์เฮดกลายเป็นกำลังหลักของCONSENTในช่วงเวลาเดียวกับบุกุทูว์

ส่วนไรเวนนั้นเป็นสุดยอดMSของCONSENTซึ่งเป็นผลงานของโปรเจ็คท์ไรเวน มีบูสเตอร์ที่มีกำลังมากและยังสามารถแปลงร่างได้จึงมีความเร็วที่แม้แต่G3เซเวอร์ก็ยังเทียบไม่ได้ ไรเวนมีอาวุธหลักเป็นบีมแคนน่อนกับบีมเซเบอร์ ส่วนด้านการป้องกันนั้นนอกจากจะมีบีมชิลด์แล้วยังสามารถกางบีมบาเรียร์เพื่อป้องกันตัวได้ด้วย ปรากฏตัวเป็นบอสตัวสุดท้ายในGเซเวอร์ภาคเกม



ไรแบบปกติและแบบติดบูสเตอร์



เรดสองสี



สเปียร์เฮดสองสี



สเปียร์เฮดB



สเปียร์เฮดC



ไรเวน









วอเลนท์[b]และ[b]ราฟท์แคลนซ์

วอเลนท์เป็นหุ่นสำหรับอัศวินชั้นสองของฟูรีซึ่งพัฒนาด้วยข้อมูลจากโปรเจ็คแอชรีครอยเซลโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานของริวน์ปิ วอเลนท์เป็นหุ่นรุ่นผลิตจำนวนมากรุ่นเดียวที่สามารถใช้ออร์กอนคลาวด์เพื่อเทเลพอร์ทและสร้างสนามพลังได้ มีอาวุธคือเซเบอร์บ็อกซ์ซึ่งใช้สร้างดาบออร์กอนและสามารถใช้เป็นโล่ได้ ส่วนในระยะไกลจะใช้บีมไรเฟิลกับลองเรนจ์แคนน่อน เมื่อเทียบกับเบลเซลูท, คุสท์เวลและแกรนทีดแล้ววอเลนท์มีอาวุธที่ด้อยกว่า แต่เพราะใช้ออร์กอนคลาวด์ได้จึงมีพลังในการต่อสู้ใกล้เคียงกัน วอเลนท์เครื่องพิเศษก็คือเครื่องสีน้ำเงินที่ฟรานซ์ได้ติดตั้งลาสเอเรมแคนเซลเลอร์เอาไว้และมอบให้พวกคาเทียร์พาไปหาโทยะ/คาลวิน่า ซึ่งเครื่องนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้กับราฟท์แคลนซ์ของอัล แวน

ส่วนราฟท์แคลนซ์เป็นเครื่องเฉพาะสำหรับอัศวินของฟูรี มีขนาดใหญ่กว่าหุ่นรบส่วนใหญ่ของฟูรี นอกจากออร์กอนคลาวด์แล้วราฟท์แคลนซ์ยังมีระบบลาสเอเรม ซึ่งเป็นระบบที่พวกฟูรีพัฒนาเองโดยดัดแปลงมาจากระบบโคลด์สลีป ลาสเอเรมสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูเป็นจำนวนมากได้เหมือนกับหยุดเวลาจึงเป็นระบบที่แทบไม่มีทางต่อต้านได้ (เว้นแต่ลาสเอเรมแคนเซลเลอร์ที่ฟรานซ์พัฒนาไว้เพื่อต่อสู้กับฟูรี) เท่าที่ปรากฏพวกฟูรีได้สร้างราฟท์แคลนซ์ไว้เพียงสี่เครื่องเท่านั้น โดยเครื่องแรก(สีดำ)เป็นของอัล แวน แลงค์ อีกสองเครื่อง(สีขาวและแดง)นั้นในภายหลังกลายเป็นของฟู ลู มูลู และ ชัว มุ ดาลบิ ส่วนเครื่องสุดท้าย(สีน้ำเงิน)เป็นของเอ เซลด้า ชุน ซึ่งเอ เซลด้าเคยใช้ราฟท์แคลนซ์เครื่องนี้เข้าต่อสู้กับพวกเดียวกันเองเพราะไม่เห็นด้วยกับกู แลนดอน โกทซ์ อัศวินแทนพระองค์ของฟูรีซึ่งคิดกำจัดมนุษย์โลกทั้งหมด ก่อนตายเอ เซลด้าได้พาราฟท์แคลนซ์ของตนหนีไปซ่อนไว้บนโลก และต่อมาได้รับการปรับปรุงโดยAIของฟรานซ์เพื่อให้คาลวิน่า/โทยะใช้แทนวอเลนท์ที่พังไปแล้ว

ราฟท์แคลนซ์มีอาวุธคือออร์กอนแคนน่อนที่ลำตัวและไหล่ทั้งสองข้างซึ่งสามารถทำลายศัตรูจำนวนมากได้ในครั้งเดียวและโล่ซึ่งสามารถแปลงสภาพมาเป็นออร์กอนซอร์ด,ออร์กอนคลอว์ และ ออร์กอนไรเฟิลได้ ซึ่งอาวุธทั้งสามสามารถใช้Fโหมด(ไฟนอล? ฟินิช?)ซึ่งมีอานุภาพเหนือกว่าหลายเท่าได้ โดยออร์กอนซอร์ดจะกลายเป็นดาบออร์กอนขนาดมหึมาแบบแกรนทีดดราโกเดอุส ออร์กอนคลอว์จะสร้างร่างแยกเพื่อช่วยโจมตีเหมือนคุสท์เวลบราคิอุมและออร์กอนไรเฟิลจะเชื่อมเข้ากับแกนกลางของราฟท์แคลนซ์เหมือนเบลเซลูทบริแกนดี ในภายหลังนั้นราฟท์แคลนซ์ของฟู ลูและชัว มุถูกทำลายในการต่อสู้กับคาลวิน่า/โทยะ ส่วนของอัล แวนนั้นแม้จะดูเหมือนถูกชัว มุทำลายไปแล้วบนโลก (ตัวอัล แวนเองไม่ตายแต่โดนจับกลับไป) แต่ได้กลับมาช่วยพวกคาลวิน่า/โทยะสู้กับกู แลนดอนที่บ้าคลั่งไปแล้วในศึกสุดท้าย ณ ใจกลางของกาว ลา ฟูเรีย (ยานขนาดยักษ์ที่ฟูรีใช้เดินทางมาโลกในยุคโบราณ ซึ่งต่อมาถูกฝุ่นผงในอวกาศปกคลุมจนกลายเป็นดวงจันทร์ของโลกไป)

สุดท้ายก็คือซุย กาดิน หุ่นรบประจำตัวกู แลนดอน โกทซ์ อัศวินแทนพระองค์ของฟูรี ซุย กาดินมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาหุ่นรบของฟูรีและใช้ออร์กอนคลาวด์ได้เหมือนราฟท์แคลนซ์ ซุย กาดินมีอาวุธคือออร์กอนเวฟแคนน่อนที่ลำตัวและดาบขนาดยักษ์ซึ่งนอกจากจะใช้โจมตีตามปกติและยิงเป็นปืนได้แล้ว ยังสามารถแปลงสภาพเป็นผลึกออร์กอนแล้วแยกชิ้นส่วนเพื่อโจมตีศัตรูจากรอบทิศทางได้ กู แลนดอนได้ใช้ซุยกาดินเข้าต่อสู้กับคาลวิน่า/โทยะ แต่หลังจากที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้ในกาว ลา ฟูเรีย กู แลนดอนก็ได้บ้าคลั่งรวมร่างของซุย กาดินเข้ากับระบบของกาว ลา ฟูเรีย ซึ่งในร่างนี้ซุย กาดินจะไม่สามารถเคลื่อนที่จากระบบควบคุมของกาว ลา ฟูเรียได้และยังใช้ออร์กอนคลาวด์ไม่ได้อีกด้วย แต่ก็สามารถดึงพลังจากกาว ลา ฟูเรียมาเพื่อซ่อมแซมความเสียหายได้ พร้อมกับสามารถใช้ผลึกออร์กอนสร้างร่างจำลองของกองทัพราฟท์แคลนซ์เพื่อช่วยในการต่อสู้ได้ด้วย ซึ่งพวกคาลวิน่า/โทยะได้ทำลายออร์กอนเอ็กแทรกเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อตัดพลังงานของกาว ลา ฟูเรียไม่ให้ซุยกาดินฟื้นฟูความเสียหายได้



เพิ่มเติมนิดนึง ถึงฟูรีจะเป็นมนุษย์ต่างดาว แต่เป็นมนุษย์ต่างดาวที่อยู่บนโลกมาก่อนมนุษย์โลกซะอีกครับ โดยฟูรีนั้นได้พ่ายแพ้ในสงครามอวกาศเมื่ออดีตกาลนานโพ้นซึ่งจักพรรดิของฟูรีได้ให้กู แลนดอนได้พาชาวฟูรีขึ้นกาว ลา ฟูเรียหนีไปตั้งรกรากที่อื่น ส่วนตัวจักพรรดิเองสู้จนตัวตาย (ถ้ามาOG ศัตรูของฟูรีจะเป็นเผ่าที่สร้างกันเอเดนรึเปล่าหว่า?) ซึ่งเรื่องนี้ทำให้กู แลนดอนแบกรับความรู้สึกผิดและมุ่งมั่นที่จะให้ฟูรีกลับมายิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียวในจักวาลอีกให้ได้ สี่พันล้านปีก่อน(อาจจะแปลผิด แต่ก็อยู่ในหลักร้อยล้านพันล้านนี่แล) ชาวฟูรีหนีมาจนเจอโลกซึ่งในขณะนั้นเป็นแค่ดาวรกร้างที่ไม่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัย แต่เนื่องจากคุณสมบัติอื่นๆพร้อม พวกฟูรีก็เลยทำการแปลงสภาพแวดล้อมของโลกแล้วก็ใช้โคลด์สลีปจำศีลยาว(ชะรอยตอนตั้งเวลาปลุกจะเผลอใส่ศูนย์เกินไปสองสามตัว) กาว ลา ฟูเรียโดนฝุ่นผงในอวกาศปกคลุมจนกลายเป็นดวงจันทร์ของโลกไปซะ เมื่อฟูรีตื่นขึ้นมาถึงได้พบว่าสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากสภาพแวดล้อมที่ตนสร้างนั้นได้มีวิวัฒนาการเป็นมนุษย์ขึ้นแล้ว แถมยังเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีพลังในการต่อสู้ใช่ย่อยซะด้วย

ขณะที่ฟูรีบางคนอย่างเอ เซลด้ายอมรับมนุษย์ในฐานะเพื่อนร่วมโลกได้อย่างสบายใจ กู แลนดอนซึ่งมุ่งหวังในการกลับมาของฟูรีกลับไม่สามารถยอมรับมนุษย์ได้ แต่เนื่องจากมนุษย์เองมีเทคโนโลยีและพลังในการต่อสู้ ฟูรีเองจึงเลือกใช้แผนการณ์ต่างๆให้มนุษย์ทำลายล้างกันเองแทน



รูปแถม (คงไม่มีวันได้เขียนเรื่อง) ได้มาจากเว็บToho Kingdom ฐานข้อมูลสัตว์ประหลาดที่นี่แจ๋วจริงๆให้ดิ้นตายสิ





ปล.เรื่องโซเครติสตอนต้นนั้นอย่าเชื่อเชียวนา...
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา