Mecha Story : Astray(ต่อ)+Unicorn
รูปโยกไปอยู่ด้านล่างอีก
MBF-M1 M1แอสเทรย์
ท่ามกลางสงครามอันดุเดือดระหว่างZAFTและพันธมิตรโลก รัฐอิสระอย่างอาณาจักรอ็อบก็ต้องมีMSรุ่นผลิตจำนวนมากอย่างM1แอสเทรย์เพื่อให้ยังเป็นอิสระอยู่ได้
M1แอสเทรย์นั้นใช้ต้นแบบมาจากกันดั้มแอสเทรย์ทั้งสามเครื่อง (ซึ่งก็ได้แบบมาจากเทคโนโลยีที่ก็อปปี้มาจากกันดั้มทั้งห้าอย่างลับๆนั่นแล) ในขณะที่แอสเทรย์ทั้งสามนั้นได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษโดยนักบิน M1ก็ยังเป็นแค่MSพื้นๆที่มีวัลแคน,บีมเซเบอร์และบีมไรเฟิลเป็นอาวุธเท่านั้นแล แบ็คแพ็คของM1แอสเทรย์เป็นแบบสำหรับใช้บินในอากาศได้ซึ่งดัดแปลงมาจากเอลสไตรเกอร์
ในช่วงแรกนั้น การพัฒนาM1แอสเทรย์นั้นมีปัญหาเพราะOSด้อยประสิทธิภาพ ทำให้นักบินปกติไม่สามารถควบคุมM1แอสเทรย์ได้ดีพอที่จะไปรบได้ แต่ต่อมาก็ได้OSที่คิระ ยามาโตะดัดแปลงมาจากOSของสไตรค์ กันดั้ม ทำให้นักบินปกติสามารถควบคุมM1แอสเทรย์ได้ดีพอๆกับโคออร์ดิเนเตอร์ M1เครื่องที่โดดเด่นก็คือเครื่องสีขาวของณอน แครี่ "ดาราที่เปล่งประกายJ" ซึ่งย้ายมาอยู่กับอ็อบหลังจากที่ถูกEAทรยศ
M1แอสเทรย์ออกสู่สนามรบครั้งแรกในการป้องกันตัวจากการรุกรานของพันธมิตรโลก แม้ว่าM1แอสเทรย์จะสามารถสู้กับจินน์หรือสไตรค์แด็กเกอร์ได้ แต่ก็ด้อยกว่าเกซอย่างเทียบไม่ติด นอกจากนี้ยังมีรุ่นย่อยๆคือMBF-M1A M1Aแอสเทรย์ที่เพิ่มความสามารถในการใช้งานในอวกาศโดยติดตั้งเวอเนียร์เสริมและปรับปรุงฉนวนสำหรับป้องกันอากาศรั่วให้ดีขึ้น M1Aแอสเทรย์ยังใช้สไนเปอร์บีมไรเฟิลแทนบีมไรเฟิลด้วย แต่เนื่องจากใช้งานในอวกาศโดยเฉพาะจึงมีส่วนขาที่อ่อนแอ M1Aนั้นผลิตโดยอ็อบสายซาฮาคุ แต่ก็มีอย่างน้อยเครื่องหนึ่งที่หลุดมาให้อ็อบสายคางาริซึ่งเป็นของแบรี่ โฮ เจ้าของฉายา"หัตถ์เทวะ"ซึ่งประจำอยู่กับคุซานางิ (แต่ไม่ได้ออกมาในอนิเมะแฮะ แม้จะมีฉายาว่าหัตถ์เทวะ แต่เจ้าตัวเป็นอเทวนิยม M1Aของเขามีตัวคันจิ"ไร้เทพ"อยู่ที่ไหล่ด้วย เชื่อว่าฉายานี้มีที่มาจากคำพูดของแบรี่ที่ว่า"พระเจ้าก็คือกำปั้นของชั้น")
หลังสงครามวาเลนไทน์เลือด อ็อบก็ได้ปรับปรุงM1ที่มีอยู่โดยเพิ่มพาร์ตEF-24R ไฟลท์โรเตอร์"ไชรค์" ซึ่งเป็นปีกติดใบพัดเพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ในอากาศ M1แอสเทรย์ยังมีญาติห่างๆอีกตัว นั่นคือMWF-JG71 เรสตา (Raysta = สลับอักษรจากAstray) ซึ่งเป็นMSแบบไม่ติดตั้งอาวุธสำหรับทำงานที่พัฒนาโดยหยุน เซฟาน อดีตนักวิจัยของอ็อบที่กลายเป็นสมาชิกของจังค์กิลด์หลังจากอ็อบแตก ซึ่งต่อมาจังค์กิลด์ก็ได้นำเรสตาออกไปให้ประชาชนเช่าใช้งานโดยมีข้อแม้ว่าห้ามดัดแปลงโดยติดตั้งอาวุธเข้าไปเด็ดขาด แต่ทางจังค์เองจะเอาอาวุธมาติดให้เรสตาเพื่อใช้ป้องกันตัวในยามคับขัน เนื่องจากเป็นMSสำหรับทำงานจึงมีกำลังมาก ส่วนขาและเท้าของเรสตาจะมีกลไกให้ใช้เป็นเครนยกของได้ องค์กรสำรวจอวกาศDSSD (Deep Space Survey and Development Organization)ยังได้พัฒนาแอสเทรย์รุ่นพิเศษของตัวเองคือUT-1D DSSD ซิวิเลียนแอสเทรย์ รุ่นDSSD ซึ่งเป็นMSสำหรับทำงาน แอสเทรย์DSSDมีจุดเด่นที่หมวกครอบหัวของแอสเทรย์ซึ่งใช้ป้องกันเซนเซอร์จากแสงจ้าของดวงอาทิตย์และแบ็คแพ็คด้านหลังซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยแสงคล้ายกับของสตาร์เกเซอร์
ซิวิเลียนแอสเทรย์ยังมีรุ่นที่จังค์กิลด์พัฒนาต่อมา เรียกว่าMWF-JG73 ซิวิเลียนแอสเทรย์รุ่นJG ซึ่งใช้ส่วนหัวแบบกันดั้ม เน้นที่ราคาถูกและสามารถดัดแปลงได้ง่าย รูปแบบมาตรฐานของแอสเทรย์JGจะมีลักษณะคล้ายกับกันดั้มแอสเทรย์แบบดั้งเดิมมาก ส่วนรุ่นดัดแปลงที่สำคัญก็คือ MWF-JG73MJ มาร์สแจ็คเก็ตของดิเอโก โลเวล ซึ่งติดตั้งมาร์สแจ็คเก็ตของเรดเฟรมไว้ และมีเครื่องที่ได้รับการดัดแปลงเป็นMMF-JG73L เทิร์นเดลต้าซึ่งติดตั้งแบ็คแพ็ค"วอลทัวร์ลูมิเอล"คล้ายกับของสตาร์เกเซอร์
M1 เครื่องสีขาวเป็นของฌอน
M1ติดไชรค์โรเตอร์
M1A
เรสตาร์
ซิวิเลียนแอสเทรย์DSSD สีม่วงเป็นของลีออง ที่ออกมาในภาคFrame Astray
ซิวิเลียนแอสเทรย์JG
RX-0 ยูนิคอร์นกันดั้ม
MSที่ได้รับการพัฒนาในโปรเจ็คท์UC ยูนิคอร์นกันดั้มเป็นMSเครื่องแรกที่ใช้ระบบไซโคเฟรมควบคุมทั้งตัวและยังมีระบบต่อต้านนิวไทป์NT-D (NewType Destoyer)กับระบบลาพลัส ซึ่งการทำงานของระบบทั้งสองยังไม่เปิดเผย
ในเวลาปกติ ยูนิคอร์นกันดั้มจะอยู่ในโหมดยูนิคอร์น ซึ่งเป็นสีขาวทั้งตัว แต่เมื่อNT-Dทำงาน ยูนิคอร์นกันดั้มจะเข้าสู่เดสทรอยโหมด ซึ่งเขาของยูนิคอร์นกันดั้มจะกางออกเป็นVฟินและส่วนหน้าจะกลายเป็นแบบกันดั้ม นอกจากนี้เกราะทั้งตัวของยูนิคอร์นจะเลื่อนเปิดให้ไซโคเฟรมส่องแสงสีแดงทำให้ดูเหมือนมีขนาดใหญ่ขึ้น ในโหมดเดสทรอย สมรรถนะของยูนิคอร์นกันดั้มจะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าของโหมดยูนิคอร์น โดยเฉพาะการควบคุมด้วยไซโคเฟรม ทำให้นักบินสามารถควบคุมยูนิคอร์นได้เหมือนร่างกายตัวเอง แต่เนื่องจากMSมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์มาก จิตใจของนักบินจึงต้องรับภาระหนัก ยูนิคอร์นกันดั้มจึงสามารถต่อสู้ในโหมดเดสทรอยได้เพียงห้านาทีเท่านั้นก่อนกลับเป็นโหมดยูนิคอร์น
คาเดียส วิสต์ ผู้นำของตระกูลวิสต์ ซึ่งนำยูนิคอร์นกันดั้มไปให้AEที่อินดัสเทรียล7และติดตั้งลาพลัสไว้กับยูนิคอร์น ได้มอบยูนิคอร์นให้ บานาจ ลิงซ์ นักเรียนของวิทยาลัยอุตสาหกรรมอนาไฮม์ซึ่งเป็นลูกชายของตัวเองก่อนตาย เนื่องจากลาพลัสได้ลงทะเบียนบานาจไว้ในฐานะนักบินของยูนิคอร์นแล้ว จึงไม่มีใครสามารถควบคุมยูนิคอร์นได้อีก
MSN-06S ซินันจ์
MSซึ่งAEใช้ทดสอบระบบไซโคเฟรมทั้งตัวและระบบNT-Dของยูนิคอร์นกันดั้ม ใช้รูปแบบของ MSN-04 ซาซาบี แม้จะไม่มีฟันเนล แต่ซินันจ์ก็เป็นMSที่มีสมรรถนะสูงมาก ซินันจ์ถูกขโมยไปในปี 0094 ซึ่งฟุล ฟรอนทัล ผู้นำของนีโอซีอ้อนที่เหลืออยู่ได้ทาสีแดงตามแบบของชาร์และใช้เป็นMSประจำตัว
MSN-001A1 เดลต้าพลัส
เดิมที"เดลต้ากันดั้ม"เป็นหนึ่งในMSรุ่นต้นแบบของเซต้าโปรเจ็คท์ ซึ่งเดิมทีระบบแปลงร่างใช้การไม่ได้ AEจึงดัดแปลงเป็นMSN-00100 เฮียกุชิกิโดยเอาระบบแปลงร่างออกไป เดลต้าพลัสใช้รูปแบบดั้งเดิมของเดลต้ากันดั้มที่ปรับปรุงด้วยข้อมูลที่รวบรวมจากเซต้าโปรเจ็คท์ จนสามารถแปลงร่างเป็นเวฟไรเดอร์ที่สามารถเข้าสู่บรรยากาศโลกได้เหมือนเซต้ากันดั้ม
AMS-129 กิร่าซูล
รุ่นปรับปรุงของกิร่าโดก้าที่นีโอซีอ้อนภายใต้การนำของฟุล ฟรอนทัลใช้งาน กิร่าซูลมีลักษณะคล้ายกับซาคุมากกว่ากิร่าโดก้าและสามารถปรับแต่งได้ง่ายกว่า โดยเครื่องของหน่วยโรยัลการ์ดจะติดไหล่เป็นหนามสองข้าง ใช้ปืนกลบีมและขวานบีมเป็นอาวุธหลัก กิร่าซูลที่โดดเด่นเป็นเครื่องสีม่วงของแองเจโล ซาวเปอร์ ซึ่งใช้รูปแบบของกิร่าโด้ารุ่นติดอาวุธหนักจึงติดแบ็คแพ็คขนาดใหญ่และใช้บีมแคนน่อนยาวเป็นอาวุธหลัก
NZ-666 คชาทริยา
MSขนาดปกติที่ใช้พื้นฐานของควีนมันธาร์ จุดเด่นของคชาทริยาอยู่ที่เกราะไหล่ขนาดใหญ่สี่ยูนิตซึ่งมีไซโคเฟรมอยู่ด้วย ภายในเกราะไหล่แต่ละยูนิตมีปืนใหญ่มหาอนุภาคสองกระบอกและแขนลับติดบีมเซเบอร์แบบธิโอ ตัวคชาทริยาเองยังมีฟันเนลและปืนใหญ่มหาอนุภาคสี่กระบอกที่ลำตัว ด้านพลังทำลายนั้นคชาทริยาสามารถเทียบกับควีนมันธาร์ได้สบายแม้จะมีขนาดที่เล็กทำให้คล่องตัวมากกว่า นักบินของคชาทริยาก็คือ มาริดา ครูซ ซึ่งในอดีตเธอคือ ปุล ทเวลฟ์ที่MSถูกเกมาร์คยิงตกในสงครามนีโอซีอ้อนครั้งที่หนึ่ง แม้รอดมาได้แต่คนที่เก็บแคปซูลหนีภัยของเธอได้ขายเธอไปให้สถานบริการซะได้ กว่าจะออกจากนรกมาได้เธอก็อยู่ในสภาพที่โทรมทั้งกายและใจ
รูปแถม...
เทิร์นเดลต้า ยังไม่มีข้อมูลละเอียด นอกจากหนูเซโทน่า(ลักซ์ฉบับเสริมพลังLดีๆนี่เอง)เคยใช้ไปช่วยน้องชายที่เป็นนักบินของเดลต้าแอสเทรย์
ในอดีตผมเคยแซวเรื่องเฮเซลราห์ใช้เพลง Ace Attacker ประกอบ แล้วใครสักคนมาพูดเล่นเรื่องเฮเซลบ็อกเซอร์...ปรากฏว่าไม่โจ๊กแฮะ
นี่ก็คือเฮเซลเอาส์ลาที่ติดกิกันติกอาร์มยูนิต ซึ่งเป็นแขนของไซโคกันดั้ม เน้นใช้งานโดยการยิงบีมแคนน่อนที่นิ้ว (...R-2 Powered) แต่แน่นอนว่าใช้อัดได้ด้วย เพียงแต่เฮเซลไม่มีระบบไซคอมมิว จึงไม่ใช่ไกสท์นัคเคิล...
Super Robot Wars
Games
Mecha Story