th
Th
En
หน้าแรก
หัวข้อทั้งหมด
ข่าว
วีดีโอ
ตั้งหัวข้อใหม่
ลงทะเบียน
ล็อกอิน
กด enter เพื่อค้นหา
Mecha Story : Centurio
แหะๆ จริงๆก็มีของจากเกมอื่นๆ แต่เอาCenturioขึ้นเพราะพลังLของนักบิน 555
เซนจูริโอ
MSออริจินัลจากSD G Generation DS และไม่มีอยู่ในประวัติศาสตร์จริงของUC
เซนจูริโอเป็นกลุ่มของMSที่นักวิจัยของซีอ้อนซึ่งเหลือรอดจากสงครามหนึ่งปีพัฒนาเป็นการลับๆโดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมมาจากMSแบบเทิร์นทั้งสองเครื่องและเป็นMSที่สร้างจากนาโนมาชีนเหมือนกัน ลักษณะเด่นของเซนจูริโอก็คือโดยปกติจะไม่มีแขน แต่จะออกมาเมื่อใช้ปีกซึ่งลอยอยู่กับเรลุม โดมินาทัส ซึ่งคล้ายวงแหวนเทวทูตรอบเซนจูริโอเป็นอาวุธ โดยปีกนี้จะเปลี่ยนสภาพเป็นปืนลันเชอร์เจมินัสซึ่งสามารถยิงได้ทั้งกระสุนและบีม กับดาบนาโนมาชีน เบลดลูมินาเรียม
เซนจูริโอประกอบด้วยรุ่นต่างๆ โดยเซนจูริโอ อาวซิเลียสซึ่งเป็นรุ่นที่อ่อนแอที่สุดจะมีสองปีกและบางเครื่องจะไม่สามารถใช้ฟิลด์อิมเพอเรียมได้ เซนจูริโอ เลกาทุสจะมีสี่ปีกและสามารถกระจายนาโนมาชีนเป็นการโจมตีที่เรียกว่าฟิลด์อิมเพอเรียม(ผีเสื้อแสงจันทร์)ได้ รวมถึงมีสมรรถนะที่เหนือกว่าอาวซิเรียส เซนจูริโอ คอนสราเลซึ่งมีเจ็ดปีกและสามารถรวมพลังกันเพื่อใช้"เดอุสเอ็กมาคิน่า"ที่มีอานุภาพสูงกว่าฟิลด์อิมเพอเรียมได้
นอกจากนั้นยังมีอินเพราโทล ซึ่งเป็นเครื่องประจำตัวของนอร์มา เลกิโอ หัวหน้าหน่วยเลกิออน มีลักษณะคล้ายคอนสราเลแต่มีสมรรถนะสูงกว่า อินเพราโทลและนอร์มายังเป็นศูนย์กลางของเซนจูริโอทั้งหมด ยกเว้นเซนจูริโอ ไทรอา ซึ่งเป็นเครื่องต้นแบบสีเทาเครื่องแรกของเซนจูริโอ ซึ่งไทรอาปรากฏตัวครั้งแรกโดยไม่มีคนบังคับและช่วยเหลือ ดี ทริเอล ในการต่อสู้ ซึ่งทริเอลหรือเซโนเซียนั้นเป็นเลกิออนรุ่นต้นแบบที่อยู่กับเอวโก ซึ่งในที่สุดนอร์มาได้ใช้ไมน์คอนโทรลควบคุมทริเอล แต่ด้วยจิตใจที่ได้มาจากการอยู่ร่วมกับทุกคน ทำให้ทริเอลสามารถหลุดจากการควบคุมได้ในที่สุด เมื่อนอร์มาและอินเพราโทลถูกทำลายไป เซนจูริโอทั้งหมดนอกจากไทรอาและทริเอลก็ได้สลายไปด้วย
วิคไวเปอร์
เรียกสั้นๆว่าV2 วิคไวเปอร์เป็นLEV (Laborious Extra-orbital Vehicle) ที่UNSFพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ต่อสู้กับOF (Orbital Frame) ของบาฮรัมโดยใช้ข้อมูลที่ศึกษามาจากOF เจฮูตี้ จึงมีสมรรถนะที่สูงกว่าLEVทั่วๆไปมาก มีลักษณะเพรียวลมและเท้าแหลมเหมือนOFมากกว่ารูปแบบหนาถึกของLEV วิคไวเปอร์เป็นLEVเพียงรุ่นเดียวที่สามารถแปลงร่างเป็นยานและบินกลางอากาศได้ อาวุธของวิคไวเปอร์ประกอบด้วยกระสุน"กันท์เล็ท", โฮมมิงมิสไซล์, เลเซอร์ และ เลเซอร์วงแหวน "ริปเปิล" วิคไวเปอร์ยังสามารถสร้าง ออปชัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับเว็คเตอร์แทรปของOF โดยเป็นเหมือนมิติที่ถูกบีบอัดไว้และสามารถใช้เก็บอาวุธไว้ภายในได้ ซึ่งวิคไวเปอร์จะสร้างออปชันเพื่อใช้ช่วยยิงโจมตีศัตรูในโหมดยาน และยังสามารถกางสนามพลังเพื่อป้องกันการโจมตีได้
เดิมทีนั้นวิคไวเปอร์มีทั้งหมดสองเครื่อง โดยเครื่องแรกของร็อค ธันเดอร์ฮาร์ทถูกทำลายไปก่อนจะเริ่มเรื่องของZOE2 ส่วนเครื่องที่สองเป็นของเลโอ สเทนบัค อดีตรันเนอร์ของเจฮูตี้ ซึ่งได้ซ่อนเจฮูตี้ไว้บนดวงจันทร์คาลิสโตของดาวพฤหัสเพื่อปกป้องAIของเจฮูตี้ เอด้า ซึ่งมีโปรแกรมให้ทำลายตัวเองไปพร้อมกับปราการอวกาศอามาน โดยเลโอตั้งใจจะใช้V2ในการโค่นบาฮรัมเพื่อไม่ให้ต้องเสียเอด้าซึ่งเป็นเหมือนเพื่อนสนิทไป เมื่อได้พบกับเจฮูตี้อีกครั้งบนดาวอังคาร เลโอจึงโจมตีดิงโก้ อิเกรทซึ่งเป็นรันเนอร์คนใหม่ของเจฮูตี้เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นพวกบาฮรัม แม้ว่าเจฮูตี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นOFชั้นหนึ่ง แต่พลังของวิคไวเปอร์และฝีมือของเลโอก็สามารถต่อสู้กับดิงโก้ได้อย่างสูสี ก่อนการต่อสู้จะหยุดลงเมื่อAIของเจฮูตี้ เอด้าจำรูปแบบการเคลื่อนไหวของเลโอได้ เลโอและวิคไวเปอร์ได้เป็นกำลังสำคัญในการโจมตีบาฮรัมร่วมกับเจฮูตี้และดิงโก้ จนกระทั่งวิคไวเปอร์ได้รับความเสียหายอย่างหนักเพราะพยายามหยุดยั้งการทำงานของอามานบนดวงจันทร์โฟบอส
จริงๆแล้ววิคไวเปอร์ก็คือมุขแบบซีเรียสของโคนามิ เพราะมันก็คือยานวิคไวเปอร์จากซีรีส์กราดิอุสที่แปลงเป็นLEVให้เข้ากับเกม ZOE นั่นเอง
DCAM-01 วาลซิอ้อน
"สุดยอดหุ่นรบ"ที่พัฒนาโดยศจ.เบียน ซอลดาคพัฒนาขึ้นเพื่อต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวและนับเป็นAMเครื่องแรก วาลซิอ้อนมีอาวุธเป็นดาบดีไวน์อาร์มขนาดใหญ่ ลำแสงครอสสแมชเชอร์ที่แขนทั้งสองข้างและคลื่นแรงโน้มถ่วง เมก้ากราวิตอนเวฟ เนื่องจากวาลซิอ้อนมีความคล่องแคล่วค่อนข้างต่ำ นอกจากเกราะที่หนาแล้ว ศจ.เบียนยังได้ติดตั้งสนามพลังผกผันที่ช่วยลดความเสียหายจากการโจมตีได้ทุกรูปแบบ แม้จะสร้างขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาว แต่เมื่อศจ.เบียนรู้ตัวว่ากองทัพEFที่อ่อนแอนั้นไม่มีทางต่อสู้กับภัยจากนอกโลกได้แน่ จึงก่อตั้งองค์กรDCและก่อกบฏร่วมกับสหพันธ์โคโลนี เพื่อหวังให้EFตื่นตัวและแข็งแกร่งขึ้นในการต่อสู้กับDC เบียนและวาลซิอ้อนถูกทำลายในการต่อสู้กับหน่วยรบของยานฮางาเนะที่ฐานหลักของDCบนเกาะอินโดเนียส
หลังสงครามDC แอดเลอร์ คอชได้ใช้ข้อมูลของวาลซิอ้อนสร้างรุ่นผลิตจำนวนจำกัดคือ DCAM-001M วาลซิอ้อนรุ่นปรับปรุง ออกมา โดยรุ่นผลิตจำนวนมากนี้ไม่มีเมก้ากราวิตอนเวฟและสนามพลังถูกเปลี่ยนเป็นแอนติบีมฟิลด์แทน แต่ก็ติดตั้งเกอิมซิสเต็มของศจ.อิเกรดซึ่งสามารถเพิ่มความสามารถของนักบินให้ใช้พลังของวาลซิอ้อนถึงขีดสุดได้ แต่เมื่อใช้งานเกอิมซิสเต็มเป็นเวลานานก็จะทำให้นักบินเกิดอาการเสียสติ ซึ่งแอดเลอร์ได้สร้างวาลซิอ้อนรุ่นปรับปรุงทั้งหมดสามเครื่อง โดยเครื่องแรกเป็นของอดีตหน่วยพิเศษ เทมเพสต์ ฮอว์คเกอร์ ซึ่งใช้วาลซิอ้อนรุ่นปรับปรุงทำลายฐานของEFก่อนถูกกองกำลังฮางาเนะ/ฮิริวทำลายหลังจากที่เทมเพสต์เสียสติไปแล้ว เครื่องที่สองเป็นของเทนซัน นาคาจิมะซึ่งใช้ทำลายสำนักงานใหญ่ของEFที่เจนีวา ก่อนจะเสียสติและถูกกองกำลังฮางาเนะ/ฮิริวทำลาย สุดท้ายก็คือเครื่องของเจ้าหญิงไชน์ ฮาวเซ่น ซึ่งกองกำลังฮางาเนะ/ฮิริวสามารถช่วยไชน์ไว้ได้ก่อนที่จะเสียสติเพราะเกอิมซิสเต็ม (เล็กๆน้อยๆ ในภาคดั้งเดิม วาลซิอ้อนมีสีเขียวแต่รุ่นปรับปรุงจะมีสีแดงและเก่งกว่า แต่ในภาคOGจะสลับกัน และในภาคอัลฟ่า วาลซิอ้อนถูกกล่าวถึงในฐานะSMH(ซูเปอร์มาชีนนารีฮิวแมน)เครื่องแรก)
นอกจากนี้ยังมี DCAM-001MCF วาลซิอ้อนรุ่นปรับปรุงแบบCF ซึ่งเดิมทีออกแบบโดยเน้นการใช้งานในอวกาศ เพิ่มบูสเตอร์ยูนิตให้มีกำลังขับเคลื่อนมากขึ้นและเสริมเกราะให้แข็งแกร่งขึ้นอีก ด้านอาวุธจะไม่มีดีไวน์อาร์มและครอสสแมชเชอร์จะใช้การรวมพลังงานจากมือทั้งสองข้างและหน้าอก วาลซิอ้อนCFปรากฏตัวครั้งแรกโดยมีลอเรนโซ D. มอนเตแนคโคเป็นผู้ควบคุมและต่อสู้กับATXทีมที่กวาดล้างกลุ่มDCที่ยังเหลืออยู่หลังสงครามL5ก่อนจะหนีไป ซึ่งต่อมาศจ.วิลเฮม ฟอน ยูลเกนได้ใช้เป็นศูนย์กลางของระบบODEเพื่อควบคุมกองทัพเกชทัลท์ โดยได้ติดตั้งเมก้ากราวิตอนเวฟเข้าไปด้วย หลังจากที่ยูลเกนถูกดิวมินัสฆ่าตาย ดิวมินัสได้ใช้ลาเมีย เลิฟเลสเป็นผู้ควบคุมวาลซิอ้อนCFแทนจนกระทั่งพวกเคียวสุเกะช่วยไว้ได้ในที่สุด
DCAM-02 วาลซิโอเน่
เดิมทีก็คือวาลซิอ้อนหมายเลข2 ซึ่งเบียนสร้างให้ริวเน่ ซอลดาค ผู้เป็นลูกสาว เพราะริวเน่ไม่ชอบดีไซน์เดิมของวาลซิอ้อนและเบียนเองก็อยากแก้ดีไซน์ให้วาลซิอ้อนมีความคล่องตัวมากกว่าเดิมอยู่แล้ว(กับวิญญาณโอทาคุของเบียนเอง) เบียนจึงสร้างให้มีขนาดมาตรฐานและปลดเกราะออกแล้วแต่งให้ดูคล้ายกับMSเกิร์ล รวมถึงใช้ระบบควบคุมแบบDMLที่จำลองการเคลื่อนไหวของริวเน่เองซึ่งต่อมาใช้กับDGGซีรีส์ อาวุธของวาลซิโอเน่ประกอบด้วยดาบดีไวน์อาร์ม, ครอสสแมชเชอร์ ซึ่งเป็นแบบรวมพลังงานจากไหล่ทั้งสองข้างแล้วยิงจากฝ่ามือ กับไซโคบลาสเตอร์ซึ่งจำลองจากไซแฟลชของไซบัสเตอร์ รวมถึงสามารถใช้อาวุธมือถือของPTและAMได้ ซึ่งโดยปกติแล้ววาลซิโอเน่จะติดไฮเปอร์บีมแคนน่อนไว้ด้วย หลังสงครามDC ริวเน่ได้เข้าต่อสู้กับกองกำลังฮางาเนะ/ฮิริวและแพ้ในการต่อสู้กับไซบัสเตอร์ ก่อนเข้าร่วมกับกองกำลังฮิริว/ฮางาเนะ (ริวเน่แค่อยากระบายอารมณ์ที่เบียนตายเท่านั้น เธอรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเบียนและจะร่วมมือกับพวกยานฮิริวอยู่แล้ว)
ในภาคOGยังไม่มีเนื้อเรื่องตรงนี้ แต่ในภาคดั้งเดิม ริวเน่ถูกเรียกไปยังลากิอัสเพราะความผิดพลาดของเฟลลอร์ดในการเรียกเหล่านักรบจากโลกเบื้องบน ซึ่งริวเน่ได้ร่วมกับหวัง หยางหลงและนายพลคาร์กซ์ในการต่อสู้กับชูเทโดเนียส ก่อนจะต้องโค่นคาร์กซ์เพื่อหยุดยั้งโชมาโซกิ เอวรีด หลังการต่อสู้ ริวเน่เลือกที่จะอยู่ในลากิอัสต่อ ซึ่งวาลซิโอเน่ได้รับการปรับปรุงเป็นวาลซิโอเน่ R (Return) โดยดัดแปลงให้ใช้พลังพลาน่าของริวเน่ได้ด้วยเทคโนโลยีเวทมนต์ของลากิอัส และติดเกราะไหล่ซึ่งมีอาวุธกงจักรแสง ครอสซอเซอร์ติดไว้ด้วย หลังจากที่ริวเน่ฝึกในห้องมิติยังได้เพลงดาบผ่าจันทราเป็นไม้ตายใหม่
ในภาคอัลฟ่า วาลซิโอเน่Rเป็นSMHหมายเลขสองซึ่งปรับปรุงจากวาลซิอ้อนโดยตรง
Super Robot Wars
Games
Mecha Story
Kuruni
Mar 06, 2008 17:59
ร่วมแสดงความเห็น
บนระบบของเรา
บน Facebook Comments Plugin
บน Google+ Comments
Facebook
Share
Twitter
Share
Google+
Share
Pinterest
Share
Email
Send Email
ติดต่อเรา
ชื่อเต็ม
อีเมล
ข้อความของคุณ