Mecha Story: Recycleของดาวตก และ Crying Survivor...

ไม่มีอะไรพูดมากสำหรับตอนนี้ครับ เริ่มกันเลย...













YSF-33 คาริอ้อนและYAM-007-1 อัสติริอ้อน

คาริอ้อนเป็นเครื่องบินรุ่นต้นแบบของซีรี่ส์77จากโปรเจ็คท์Terrestrial Dreamซึ่งออกแบบไว้สำหรับการเดินทางระหว่างดวงดาวโดยพัฒนามาจากAMริอ้อนซีรี่ส์อีกที มีอีกชื่อว่า"เบต้าโปรโต" คาริอ้อนติดตั้งเทสล่าไดรฟ์ไว้ถึงสองเครื่อง(ทวินเทสล่าไดรฟ์)จึงมีความเร็วสูงมากแต่ก็ต้องใช้ฝีมือในการควบคุมมากเช่นกัน นักบินของคาริอ้อนจึงต้องผ่านการฝึกแบบนักบินอวกาศที่เน้นการควบคุมยานในระดับความเร็วสูง มีอาวุธเป็นมิสไซล์นำวิถีและปืนแรงโน้มถ่วงGไดรเวอร์ รวมถึงสามารถเร่งความเร็วพุ่งชนศัตรูด้วยความเร็วเหนือเสียงได้ จริงๆแล้วเดิมทีไม่มีแผนการติดตั้งอาวุธแต่ในระหว่างการพัฒนาก็ต้องเพิ่มเข้าไปตามคำขอของบริษัทอุตสาหกรรมหนักอิซุรุกิที่เป็นสปอนเซอร์ให้ มีการผลิตขึ้นมาสี่เครื่อง แต่เท่าที่มีข้อมูลการใช้งานก็คือYSF-33-1 ของสเรย์ เพรสตี้ และ YSF-33-4ของ "ดาวตก" ไอบิส ดักลาสเท่านั้น (ฉายาดาวตกของไอบิสเป็นคำล้อเลียนเพราะทำเครื่องตกบ่อยๆ)

หลังสงคราม คาริอ้อนถูกพัฒนาต่อไปเป็น "เบต้า" YSF-34 เวการิอ้อน โดยติดมิสไซล์ลันเชอร์หลากชนิดเข้าไป(มิสไซล์มาตรฐาน "โปรมิเนนซ์", "ปลาดิส" สำหรับโจมตีศัตรูเป็นจำนวนมาก และ "เซฟาท"สำหรับโจมตีระยะไกล)และเพิ่มอานุภาพของGไดรเวอร์เป็นGเบรคไดรเวอร์ ในระยะประชิดจะใช้ปืนกลGGแคนน่อน110มม. ซึ่งในโครงการณ์เดิมก่อนที่โปรเจ็คท์TDจะถูกดัดแปลงเป็นอาวุธนั้นโมดูลของมิสไซล์ลันเชอร์เหล่านี้จะเป็นที่พักอาศัยของนักบิน เวการิอ้อนนับเป็นยานของมนุษย์ที่สามารถเดินทางระหว่างดวงดาวได้ที่มีขนาดเล็กที่สุด

ส่วนอัสติริอ้อนหรือ"อัลฟ่าโปรโต"เป็นAMรูปแบบมนุษย์ในโปรเจ็คท์เดียวกันที่พัฒนาโดยใช้ข้อมูลจากคาริอ้อน ติดตั้งทวินเทสลาไดรฟ์เอาไว้เหมือนกันแต่สามารถปลดออกไปได้ ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานของอัสติริอ้อนจะคล้ายกับริอ้อนซีรี่ส์มาก ไอบิสได้ใช้อัสติริอ้อนหลังจากที่คาริอ้อนของตัวเองถูกสเรย์ยิงร่วงไปแล้ว อัสทิริอ้อนมีไม้ตายคือรูปแบบการโจมตีที่เรียกว่าRaMVs (Rapid acceleration Mobility-break Valley shoot) ซึ่งเป็นรูปแบบการโจมตีที่ใช้การเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงและโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่องก่อนพุ่งชนปิดท้ายด้วยโซนิคเบรคเกอร์ เป็นไม้ตายที่ต้องใช้ฝีมือในการควบคุมเป็นอย่างมาก หลังสงคราม อัสติริอ้อนได้รับการดัดแปลงเป็นอัสติริอ้อนAX (Advanced-X)โดยเสริมค็อกพิตเป็นแบบสองที่นั่งสำหรับพลนำร่องและเพิ่มสมรรถนะของเครื่องให้สามารถใช้รูปแบบการโจมตีที่เหนือกว่าRaMVs นั่นก็คือ GRaMDs (Gravicon Rapid acceleration Mobility break Direct shoot) ถึงจะได้ซึคุมิ ทาคาคุระมาเป็นฝ่ายนำร่องให้ แต่ไอบิสยังไม่มีฝีมือพอที่จะสามารถใช้GRaMDsได้อย่างสมบูรณ์ (ตรงนี้เจอบางที่ระบุว่าตอนที่ไอบิสใช้GRaMDsพลาดทำให้ฟิลิโอ เพรสตี้ซึ่งเป็นวิศวกรหัวหน้าทีมTDเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ไอบิสเสียศูนย์ระยะยาว)

อัสติริอ้อนมีการพัฒนาต่อไปเป็น "อัลฟ่า" YAM-008-2 อัลเทริอ้อน ซึ่งมีความสามารถในการต่อสู้สูงกว่าอัสติริอ้อน สามารถแปลงร่างจากร่างยานCF(Cruise Form)มาเป็นหุ่นDF(Doll Form)ได้ ติดตั้งปืนแรงโน้มถ่วงGแอ็คเซลไดรเวอร์ซึ่งในโหมดDFสามารถใช้เป็นดาบโซนิคเซเบอร์ในการต่อสู้ระยะประชิดได้ อาวุธอื่นๆก็คือปืนกลGGแคนน่อน90มม., มิสไซล์สองแบบคือ"โปรมิเนนซ์"และ"สปิกิล"สำหรับโจมตีศัตรูจำนวนมาก ไม้ตายของอัลเทริอ้อนก็คือรูปแบบการโจมตีระดับS GRaMXs(Gravicon Rapid acceleration Mobility break Cross(X) shoot)ซึ่งในภาคอัลฟ่า2ไอบิสสามารถใช้ได้หลังจากที่เรียกความมั่นใจกลับมาได้สำเร็จ อัลเทริอ้อนสามารถประกอบร่างกับเวการิอ้อนกลายเป็น"โอเมก้า" ไฮเปอริอ้อนซึ่งเป็นร่างสมบูรณ์ของซีรี่ส์77 ไฮเปอริอ้อนสามารถใช้อาวุธทั้งหมดของอัลเทริอ้อนและเวการิอ้อนได้จึงมีความสามารถในการต่อสู้เป็นสองเท่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไฮเปอเรียนเองยังคงสามารถใช้GRaMXsได้จึงสามารถใช้อาวุธทั้งหมดออกได้ในการโจมตีครั้งเดียว



AS-04 โซเลอาเรส

แอสซอล์ทสเคาเตอร์ หุ่นรบแบบสอดแนมประจำตัวเซเลน่า เรซทัล สมาชิกคนสุดท้ายของทีมซิลเวอร์ แอสซอล์ทสเคาเตอร์ถูกสร้างขึ้นโดยเน้นที่การใช้งานได้อย่างหลากหลายในสนามรบ พาร์ตทุกส่วนของโซเลอาเรสสามารถดัดแปลงให้ใช้อะไหล่ของหุ่นทุกรูปแบบแทนได้จึงสามารถซ่อมบำรุงและดัดแปลงได้ง่ายมาก ซึ่งในกรณีของเซเลน่านั้นเน้นการใช้งานแบบหน่วยสอดแนมโดยใช้รูปแบบของนินจาจึงเน้นที่ความเร็วและความคล่องแคล่วที่สูงมาก ทั้งยังติดตั้ง"ปริซึมแฟนธอม" ระบบพรางตัวโดยใช้แสงรบกวนเซนเซอร์ของเป้าหมาย การใช้ปริซึมแฟนธอมนั้นไม่ได้เน้นที่การพรางตาแบบตรวจจับไม่ได้ แต่เป็นการสร้างความปั่นป่วนให้กับศัตรูแล้วฉวยโอกาสโจมตี แทรกซึมหรือหลบหนีมากกว่า เซเลน่าเองยังมีหุ่นAI เอลม่าทำหน้าที่คอยช่วยเหลืออยู่อีก

อาวุธของโซเลอาเรสประกอบด้วยมีด"โซลเรเซอร์"ซึ่งสามารถใช้เป็นแส้พลังงาน"โซลเฟนเซอร์"ซึ่งเป็นอาวุธถนัดของเซเลน่าได้ (ตอนสู้นอกหุ่นเซเลน่าใช้แส้ไฟฟ้าเป็นอาวุธสู้กับปืนได้สบาย) อาวุธนอกจากนั้นก็คือสเตลธ์บูมเมอแรงก์สำหรับขว้างหรือประกอบกับแขนสำหรับโจมตีในระยะประชิดได้และยังมีปืนกลแก็ตลิ่งติดไว้ที่แขนและเข่าทั้งสองข้าง ซึ่งเวลาใช้งานโซเลอาเรสจะใช้ปริซึมแฟนธอมบุกเข้าไปกลางวงศัตรูก่อนจะใช้ความเร็วยิงโจมตีศัตรูทั้งหมดในการโจมตีครั้งเดียวเป็นกระบวนท่า"แก็ตลิ่งเทมเพสต์" โซเลอาเรสถูกสเปคตรา มาเครดี้ หรือ ดาเร็ธ บาลเชม รองหัวหน้าหน่วยโกล่าโกเล็มของจักวรรดิเซบัลมารีทำลาย ซึ่งได้รับการซ่อมแซมและดัดแปลงโดยใช้ชิ้นส่วนของYSF-34 เวการิอ้อนและAM "เซอแวนท์"ของฮิวเคไบน์มาร์คทรี กลายเป็นAS-04R อาเลเกรียส

ติดตั้งเทสล่าไดรฟ์ของเวการิอ้อน อาเลเกรียสจึงมีสมรรถนะที่สูงกว่าของเดิมมาก "เซอแวนท์สลักเกอร์"ที่ได้มาจากฮิวเคไบน์นั้นเป็นอาวุธควบคุมด้วยรีโมตโดยเอลม่าและมีแก็ตลิ่งติดตั้งไว้ เซอแวนท์สลักเกอร์มีปริซึมแฟนธอมที่ดัดแปลงให้ใช้สร้างภาพลวงตาได้ด้วย ซึ่งไม้ตายสุดยอดของอาเลเกรียสคือลุสไบนาริน่าไบลนั้นเป็นการใช้เซอแวนท์สลักเกอร์สร้างเป็นภาพลวงตาของอาเลเกรียสแล้วเข้าโจมตีพร้อมๆกันก่อนปิดฉากด้วยโซลเรเซอร์ที่กลายเป็นดาบขนาดใหญ่



ของแถมก่อนจาก ใครมีการ์ตูนตอนนี้จนจบช่วยเอามาแจกก็ดีนะครับ หามาได้อีกนิดหน่อยแต่มันยังไม่จบอ่ะ

Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา