th
Th
En
หน้าแรก
หัวข้อทั้งหมด
ข่าว
วีดีโอ
ตั้งหัวข้อใหม่
ลงทะเบียน
ล็อกอิน
กด enter เพื่อค้นหา
Mecha Story: Updateหลายๆอย่าง
จะว่าไป ตอนนี้ไม่มีตัวเด่นเลยล่ะมั้ง...
Gไฟเตอร์รุ่นทิ้งระเบิด
รูปแบบของGไฟเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาต่อมาสำหรับใช้งานเดี่ยวแทนที่จะเป็นยูนิตสนับสนุนของกันดั้ม เนื่องจากไม่ต้องบรรทุกกันดั้มแล้ว จึงมีพื้นที่สำหรับบรรทุกอาวุธได้มากกว่าเดิม รุ่นแรกจึงออกแบบมาสำหรับใช้งานทิ้งระเบิด โดยถอดตีนตะขาบออกและใช้ช่องเก็บกันดั้มบรรทุกอาวุธกับถังเชื้อเพลิง ที่ช่องอินเทคของเครื่องยนต์ติดปืนวัลแคนไว้ บีมแคนน่อนที่เป็นอาวุธหลักของรุ่นดั้งเดิมได้รับการดัดแปลงให้ถอดออกและเปลี่ยนเป็นอาวุธอื่นอย่างมิสไซล์ลันเชอร์ได้
Gไฟเตอร์รุ่นใช้ในอวกาศ
พัฒนาต่อมาจากรุ่นทิ้งระเบิดอีกที เน้นให้ต่อสู้ในอวกาศได้ดีขึ้น นอกจากตีนตะขาบแล้วยังเอาช่องทิ้งระเบิดออกไปด้วย ท่อขับดันเป็นแบบที่มีกำลังสูงกว่าเดิม พื้นที่เก็บอาวุธถูกเลื่อนให้เข้ามาเทียมกับค็อกพิต และติดปืนอนุภาคไว้ที่ปีก
Gไฟเตอร์รุ่นจู่โจมภาคพื้นดิน
เมื่อสงครามหนึ่งปีจบลง เทคโนโลยีของMSที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วก็ทำให้การใช้งานยานอย่างGไฟเตอร์ลดลงไปด้วย แต่รุ่นนี้ยังมีการใช้งานต่อมาอีกนาน โดยเน้นให้การใช้งานแบบรถลำเลียงพลได้จึงยังมีตีนตะขาบอยู่ พื้นที่ที่เดิมใช้บรรทุกกันดั้มนั้นสามารถบรรทุกทหารราบได้ประมาณ30คน และติดตั้งระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์สำหรับทำลายสิ่งปลูกสร้างไว้
AGE-2DC กันดั้มเอจ2 ดับเบิลเบลด
หนึ่งในGแวร์ที่อาเซมใช้ในช่วงเป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษ ดับเบิลเบลดนั้นเน้นการใช้งานบนโลกโดยมีไบน์เดอร์แบบโล่ขนาดใหญ่ที่ส่วนปลายนั้นจริงๆแล้วเป็นคีมที่ยิงออกไปโจมตีระยะกลางแล้วดึงกลับด้วยสายเคเบิลนาโนคาร์บอนได้ ที่เข่ายังติดดาบความร้อนไว้เป็นอาวุธเสริม
AGE-3L กันดั้มเอจ3ลากูนา
Gแวร์ที่ทีมวิศวกรของดีวาออกแบบให้โดยไม่พึ่งพาเอจบิลเดอร์ โดยผู้ออกแบบหลักก็คือวูทบิท กันเฮล ซึ่งเคยเป็นนักบินผู้ช่วยของคิโอะมาแล้ว กันดั้มเอจ3ลากูนาเป็นแวร์สำหรับต่อสู้ในอวกาศคล้ายกับออบิทัล แต่เน้นที่พลังทำลายมากกว่า โดยดัดแปลงรูปแบบมาจากกันดั้มเอจ2อาร์ทิเมส ที่ไหล่ทั้งสองข้างนั้นเป็นคอนเทนเนอร์เก็บฟันเนลทั้งหมดสิบสองอันซึ่งสามารถเปิดออกแล้วยิงได้โดยไม่ต้องปล่อยฟันเนลออกไป และมีบริทาเนียสไรเฟิลซึ่งใช้งานได้นานกว่าซิกมาซิสไรเฟิลเป็นอาวุธหลัก
RGE-G2000X ครันเชรุ่นต้นแบบ
เครื่องที่ออกแบบไว้ก่อนผลิตจริงของครันเช ไฮเปอร์ด็อดส์ไรเฟิลที่ใช้มีพลังทำลายและความแม่นยำที่ต่ำกว่าของกันดั้มเอจ2 ด้านหลังและเอวมีด็อดส์แคนน่อนรวมสี่กระบอก เมื่อเทียบกับรุ่นผลิตจริงแล้วครันเชรุ่นต้นแบบนั้นมีปัญหาที่นักบินควบคุมระดับพลังงานที่ใช้ได้ยาก
จริงๆแล้วครันเชรุ่นต้นแบบนี้เป็นจุดด่างพร้อยของวงการวิศวกรรมMSของจักรวาลAGเลยทีเดียว เพราะวิศวกรนั้นมีหน้าที่แค่การพยายามถอดแบบพิมพ์เขียวที่เอจซิสเต็มเขียนขึ้นมา (มันไม่เขียนให้คนรู้เรื่องนั่นเองล่ะ) แล้วก็สร้างเลียนแบบให้ได้ ช่วงนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีMSใหม่ๆของสหพันธ์โลกเองจึงหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ยังได้ใช้ไอเดียตัวเองบ้าง
TYpe-03F/GC เก็คขะคัสตอม
เก็คขะที่ถูกบริทาเนียยึดไปใช้งานหลังแบล็ครีเบลเลียน โดยมีดาสโค ลา เคลมอนต์ อดีตนักบินของกุเรนอิจิชิกิเป็นนักบิน (หมอนี่ติดใจKMFของชาวลาเรอะ?) เครื่องนี้ทาสีแดงและเปลี่ยนแขนเป็นแขนของกลอสเตอร์ และนอกจากดาบเลื่อยแล้วก็ใช้ทวนกับไรเฟิลจู่โจมของบริทาเนียเป็นอาวุธ เนื่องจากสมรรถนะของเก็คขะนั้นสูงกว่ากลอสเตอร์มาก จึงสามารถใช้ทวนโจมตีด้วยความเร็วได้มีประสิทธิภาพกว่ามาก แต่ถึงกระนั้นก็ถูกทำลายในการต่อสู้กับกลาสโกของออร์เฟียส ซีวอน
(RPI-11/SC กลาสโกของออร์เฟียส จูนสมรรถนะให้สูงขึ้นพร้อมกับติดมีดซึ่งเป็นอาวุธถนัดของเจ้าตัว เป็นเครื่องใช้ชั่วคราวตอนที่เบียคุเอ็นซ่อมอยู่)
RZX-3F7 แบรดฟอร์ด
KMFที่เป็นเครื่องต้นแบบของRZA-3F9 ทริสแทน ซึ่งใช้เก็บข้อมูลของระบบแปลงร่างเป็นฟอเทรสโหมด แต่แบรดฟอร์ดนั้นไม่มีโฟลทซิสเต็ม จึงใช้กำลังของเครื่องยนต์พลาสม่าในการบินล้วนๆ แบรดฟอร์ดใช้เมกิโดฮาเคนเหมือนทริสแทน แต่ที่ขาติดอาวุธที่เรียกว่า"ดูออลอาร์มส์" ซึ่งในโหมดKMFจะสามารถเอามาใช้เป็นดาบโลหะทังสเตนที่เอามาประกอบเป็นแบบสองปลายได้ ส่วนในฟอเทรสโหมดก็ใช้เป็นลิเนียร์กันได้ แบรดฟอร์ดเป็นKMFของเลออนฮาร์ด ชไตเนอร์ สมาชิกของหน่วยปราบกรามการก่อการร้าย กลินดาไนท์
Z-01/T+RZX-3F7 เกรลแอร์คาวัลรี
เมื่อแลนสล็อตเกรลถอดแผงเก็บดาบชร็อตเตอร์ออกแล้วประกอบกับแบรดฟอร์ดในร่างฟอเทรส ยุคดราซิลไดรฟ์ของKMFทั้งสองเครื่องจะเชื่อมต่อกันทำให้ระบบขับเคลื่อนของแบรดฟอร์ดมีกำลังมากพอให้เกรลแอร์คาวัลรีบินด้วยความเร็วเสียงได้ ในร่างนี้เกรลแอร์คาวัลรีจะใช้อาวุธของแบรดฟอร์ดแทนดาบชร็อตเตอร์
BZ-001 ไบโอเมกาแรปเตอร์
ไบโอซอยด์สายพันธุ์เมกาแรปเตอร์และเป็นหนึ่งในไบโอซอยด์รุ่นแรกๆของจักรวรรดิดิกัลด์ ไบโอซอยด์นั้นเป็นซอยด์แบบไดโนเสาร์ที่มีรูปร่างคล้ายกับโครงกระดูกซึ่งเป็นเกราะไบโออาเมอร์ หรือเรียกอีกอย่างตามคลาสว่า เฮลอาเมอร์ ไบโออาเมอร์นั้นมีความทนทานสูงมากจนการโจมตีทางกายภาพหรือเลเซอร์นั้นแทบไม่มีผล ยกเว้นเพียงอาวุธที่ทำจากโลหะZiเท่านั้นที่ทำให้ไบโออาเมอร์ไม่ต่างจากเกราะธรรมดา แต่ข้อด้อยของไบโอซอยด์ก็คือไม่สามารถทำการซ่อมแซมโดยการถอดย้ายซอยด์คอร์ได้เหมือนซอยด์ทั่วๆไป ทำให้อายุสั้นกว่ามาก
ไบโอเมกาแรปเตอร์นั้นตอนแรกเป็นซอยด์ประจำตัวของไซริน เดอ ซัลทซ์ นักบินฝีมือดีของดิกัลด์และเป็นคู่แค้นของรูจิ อาวุธหลักของไบโอเมกาแรปเตอร์ก็คือเฮลไฟเยอร์ที่ยิงจากปาก ซึ่งมีอานุภาพพอจะคลอกซอยด์ขนาดเล็กได้ทั้งตัวในนัดเดียว เล็บและฟันนั้นสามารถเร่งความร้อนได้และมีใบมีดอยู่ที่ปลายหาง ไบโอเมกาแรปเตอร์นั้นนับว่ามีน้ำหนักเบามากเมื่อเทียบกับซอยด์ไดโนเสาร์ที่มีขนาดพอๆกันจึงมีความคล่องตัวสูง รวมทั้งมีเครื่องยนต์เบิร์นนิงเจ็ตสำหรับใช้เร่งความเร็ว กองทัพดิกัลด์ได้วิเคราะห์DNAของไบโอเมกาแรปเตอร์ไปสร้างเป็นไบโอซอยด์ขนาดเล็กรุ่นผลิตจำนวนมาก BZ-006 ไบโอแรปเตอร์ ซึ่งมีพลังในการต่อสู้ที่ต่ำกว่ามาก และต่อมาก็ได้ผลิตไบโอเมกาแรปเตอร์เป็นจำนวนมากเสียเลยด้ว
BZ-008 ไบโอวอลเคโน
ไบโอซอยด์ที่ไซรินได้มาแทนไบโอเมกาแรปเตอร์ที่ถูกฮายาเตะไลเกอร์ทำลาย เป็นไบโอซอยด์สายพันธุ์เมกาแรปเตอร์ขนาดใหญ่ กงเล็บนั้นสามารถเร่งความร้อนได้มากกว่าเดิม ใบมีดที่ปลายหางเปลี่ยนเป็นขวาน แต่ที่สำคัญก็คือที่หน้าอกมีปืนใหญ่อนุภาคไบโอซึ่งมีอานุภาพสูงมากติดตั้งไว้ ไบโออาเมอร์ของไบโอวอลเคโนยังเป็นเกราะสีแดง คริมสันเฮลอาเมอร์ ซึ่งมีความทนทานสูงกว่าเฮลอาเมอร์มาก ตามแนวสันหลังและแขนขาของไบโอวอลเคโนยังมีผลึกครีบซึ่งใช้ป้องกันอาวุธที่ทำจากโลหะZiได้และสามารถใช้เป็นอาวุธได้ด้วย แม้จะมีขนาดใหญ่กว่าเดิมแต่ไบโอวอลเคโนก็ติดตั้งเครื่องยนต์เบิร์นนิงเจ็ตเพิ่มขึ้น ทำให้การขับเคลื่อนสูงยิ่งกว่าไบโอเมกาแรปเตอร์เสียอีก แม้จะเรียกได้ว่าเป็นซอยด์ที่สมบูรณ์ในทุกด้าน แต่ไบโอวอลเคโนนั้นมีระบบที่ใช้ดึงพลังชีวิตของไซรินไปให้ตัวเอง การบังคับไบโอวอลเคโนจึงทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมากและบางครั้งไบโอวอลเคโนเองก็จะหลุดจากการควบคุมทำให้ยิ่งแย่เข้าไปอีก ต่อมาชาวฟ้าซึ่งซ่อมไบโอวอลเคโนที่เสียหายจากการต่อสู้กับมุเกนไลเกอร์ก็ได้เอาระบบดึงพลังชีวิตออกไปให้ด้วย สมรรถนะของไบโอวอลเคโนจึงลดลงเล็กน้อย แต่ก็ชดเชยได้จากที่ไซรินบังคับได้สบายขึ้น
Super Robot Wars
Games
Mecha Story
Kuruni
Jan 24, 2013 10:47
ร่วมแสดงความเห็น
บนระบบของเรา
บน Facebook Comments Plugin
บน Google+ Comments
Facebook
Share
Twitter
Share
Google+
Share
Pinterest
Share
Email
Send Email
ติดต่อเรา
ชื่อเต็ม
อีเมล
ข้อความของคุณ