Mecha Story : Update (Astray)

ตามรีเควสต์ ของชูร่ายังไม่มีข้อมูลพอเขียนได้นะครับ ขออภัย



ตอนแรกว่าจะลงของรุ่นลูกกระจ๊อกด้วย แต่ยาวไปแล้ว



รูปโดนโยกไปไว้ด้านล่าง อีกแล้ว

MBF-P01 กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรม

การพัฒนาMSของพันธมิตรโลกนั้น สถาบันมอเกนเรตของอาณาจักรอ็อบได้ช่วยเหลือในการพัฒนาด้วย ซึ่งอ็อบได้แอบขโมยเทคโนโลยีหลายๆอย่างมาเพื่อพัฒนาMSของตัวเองด้วย ซึ่งก็ออกมาเป็นกันดั้มแอสเทรย์สามเครื่อง

แม้ว่าอ็อบจะได้ข้อมูลมาสร้างบีมไรเฟิลและบีมเซเบอร์เลียนแบบได้ แต่ปรากฏว่าอ็อบไม่สามารถสร้างเกราะPSได้ แอสเทรย์จึงใช้เกราะโฟมโลหะซึ่งมีน้ำหนักเบาเพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วแทน กันดั้มแอสเทรย์มีระบบแฮนด์ปลั๊กไว้จ่ายพลังงานให้อาวุธเหมือนMSของพันธมิตรโลก แม้ว่าอ็อบจะใช้แฮนด์ปลั๊กคนละแบบกับพันธมิตรโลก แต่โกลด์เฟรมนั้นติดตั้งไว้ทั้งสองแบบเลยสามารถใช้อาวุธของพันธมิตรโลกได้ด้วย

เมื่อZAFTได้โจมตีเฮลิโอโปลิส ทางอ็อบได้ทำลายโรงงานที่พัฒนาโปรเจ็คท์แอสเทรย์เพื่อให้โปรเจ็คท์นี้ยังเป็นความลับต่อไป แต่โคออร์ดิเนเตอร์ รอนโด กิน่า ซาฮาคุได้ตัดสินใจปกป้องแอสเทรย์ทั้งสามไว้และเอาโกลด์เฟรมหนีไปจากเฮลิโอโปลิสโดยใช้บาซูก้าของดูเอลกันดั้ม) เนื่องจากแอสเทรย์นั้นไม่ได้ออกแบบไว้ให้ใช้อาวุธหนัก ผลก็คือแขนขวาของโกลด์เฟรมจึงเสียหาย ซึ่งรอนโดได้สลัดแขนข้างนี้ทิ้งไปทำให้ใครๆนึกว่าโกลด์เฟรมนี่พังไปแล้ว แต่จริงๆแล้วเจ้านี่ยังได้สู้กับเรดเฟรมของโลวในเวลาต่อมา จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่บรรยากาศโลก โกลด์เฟรมก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักโดยเฉพาะที่ส่วนหัวซึ่งโดน"กระสุนสายฟ้า"ของเรดเฟรมเข้าไป

ภายหลัง อ็อบได้ทำการอัพเกรดแอสเทรย์โกลด์เฟรมโดยกลายเป็น MBF-P01-Re"โกลด์เฟรมอามัตสึ" โดยส่วนแขนขวาที่หายไปนั้นได้รับการแทนที่ด้วยแขนขวาของบลิทซ์กันดั้มที่โดนคิระตัดขาดไป ซึ่งเทคโนโลยีอนุภาคล่องหนของบลิทซ์กันดั้มยังถูกเอามาใช้กับโกลด์เฟรมด้วย แขนนี่ยังสามารถใช้เกราะPSได้เหมือนเดิมแต่อันนี้ใช้ได้แค่ส่วนแขน ไม่ใช่ทั้งตัวแบบการล่องหน ส่วนหัวก็ถูกเปลี่ยนเป็นหัวใหม่ที่มีเซ็นเซอร์เสริมแบบโมโนอายติดตั้งไว้ด้วย

ส่วนอาวุธใหม่ๆนั้น นอกจากไทรเครอส(ติดมากับแขนของบลิทซ์นั่นแหละ)ที่เอาบีมเซเบอร์ออกไปก็มี "มากะโนะอิคุทาจิ" ซึ่งเป็นตะขอที่ใช้ล็อกดูดพลังงานมาจากMSเป้าหมาย แล้วก็ที่แบ็คแพ็คนั้นมีฉมวก"มากะชิระโนะโฮโกะ" ซึ่งสามารถยิงและดึงกลับมาได้ด้วยสายเคเบิ้ล ฉมวกนี้ยังใช้เทคโนโลยีPSจึงมีพลังในการเจาะทะลวงสูง

ต่อมาในภายหลัง รอนโดก็ถูกสังหารโดยไก มุราคุโมะ และโกลด์เฟรมก็ถูกรอนโด มิน่า ซาฮาคุ น้องสาวฝาแฝดเอาไปปรับปรุงอีกทีเป็นMBF-P01-Re2 ซึ่งมีจุดแตกต่างจากของเดิมคือส้นสูงที่เท้าทั้งสองข้างและอาวุธใหม่ ดาบ"โททซึกะโนะทซึรุงิ" และ กงเล็บที่แขนซ้าย "ทซึมุฮะโนะทาจิ" นอกจากนี้ มิน่ายังได้พัฒนา มากะโนะอิคุทาจิจนสมบูรณ์ซึ่งทำให้มันสามารถดูดพลังงานจากMSที่อยู่ใกล้ๆตัวได้โดยไม่ต้องใช้ตะขอ โกลด์เฟรมอามัตสึได้รับความเสียหายเมื่อไคท์ มาดิแกนได้เอาไปสู้กับเทสตาเมนต์กันดั้ม ในภายหลังจึงได้อัพเกรดอีกครั้งด้วย"โอคิตสุโนะคางามิ"ซึ่งพัฒนาโดยหยุน เซฟาน โอคิตสุโนะคางามิเป็นอุปกรณ์เอนกประสงค์ติดแขนแทนทซึมุฮะโนะทาจิและสามารถใช้สร้างบีมชิลด์หรือมีดบีมก็ได้ ซึ่งโหมดมีดบีมสามารถยิงออกไปแล้วดึงกลับมาด้วยสายเคเบิ้ล ส่วนดาบโททซึกะโนะทซึรุงิถูกถอดออกเป็นแค่อาวุธเสริม



โกลด์เฟรม



อามัตสึ และ อามัตสึ มิน่า



ติดโอคิตสุโนะคางามิ



MBF-P02 กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม

กันดั้มแอสเทรย์เครื่องที่สอง ในตอนที่รอนโด ซาฮาคุเอาพยายามปกป้องแอสเทรย์ทั้งสามนั้น รอนโดได้โหลดข้อมูลทั้งหมดของแอสเทรย์เก็บไว้ในเครื่องสีแดงนี่ ซึ่งข้อมูลนี้มีระบบOSที่ทำให้นักบินปกติควบคุมแอสเทรย์สีแดงได้(เหมือนOSที่คิระเอาไปใส่ให้M1)

เอริก้า ซิมมอน หัวหน้าศูนย์วิจัยมอเกนเรต ได้ส่งข่าวเรื่องของกันดั้มแอสเทรย์ให้โปรเฟสเซอร์เพื่อนรักในจังค์กิลด์ ผู้ที่ขุดเอาเรดเฟรมไปใช้ก็คือ โลว กิล ซึ่งโลวนั้นได้เพิ่มอาวุธใหม่ นั่นคือดาบคาตะนะ"เกอร์เบร่าเสตรท"(Gerbera Straight) ซึ่งเป็นดาบโลหะที่ไม่ใช้พลังงานนั่นเอง เกอร์เบร่าเสตรทนั้นคมกว่าดาบที่จินน์ใช้มาก ดาบนี้หุ้มบีมโค้ตติ้งอีกด้วย โลวยังมีไม้ตายก้นหีบ "กระสุนสายฟ้า"ซึ่งเป็นการปล่อยพลังงานจากแฮนด์ปลั๊กโจมตีศัตรูโดยตรง ในการต่อสู้กับโกลด์เฟรมนั้น เรดเฟรมเสียแขนขวาไปจากการใช้กระสุนสายฟ้าเต็มกำลัง แต่โลวก็ได้ซ่อมแขนของโกลด์เฟรมที่เก็บไว้และเอามาใช้แทน ซึ่งเมื่อโลวไปยังอ็อบ เรดเฟรมก็ได้รับการซ่อมแซมจนสมบูรณ์และได้เสริมแบ็คแพ็คสำหรับบินในอากาศได้(ดัดแปลงมาจากของM1)

โลวเคยประมูลได้ส่วนหัวของบาคูวมาดัดแปลงเป็นถุงมือให้เรดเฟรม ซึ่งสามารถใช้บีมเซเบอร์ของบาคูวเป็นดาบสองปลายได้ หัวบาคูวนี้ถูกพวกZAFTตามมาทำลายในภายหลัง ต่อมาโลวยังได้สร้างยูนิตพาวเวอร์โหลดเดอร์ขนาด60เมตรซึ่งเหมือนกับเป็นMSขนาดยักษ์ที่เรดเฟรมควบคุมอยู่ทีเดียว(โลวได้ไอเดียมาจากเมเทโอของฟรีด้อมกับจัสติส) พร้อมด้วยเกอเบร่าสเตรทขนาดยักษ์ที่ยาวตลอดด้ามถึง150เมตร ซึ่งเมื่อยูนิตพาวเวอร์โหลดเดอร์นี้ถูกZGMF-X11A รีเจเนเรตกันดั้มทำลาย โลวก็ได้ปรับปรุงเรดเฟรมอีกครั้งเป็น"พาวเวิร์ดเรด" ซึ่งมีส่วนหัวไหล่ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้มีกำลังมากพอที่จะเหวี่ยงเกอร์เบร่าเสตรทยักษ์ได้เอง แต่ต่อมาโลวก็แปลงเรดเฟรมกลับไปเป็นแบบดั้งเดิมอีกครั้ง

ในช่วงที่อยู่ดาวอังคาร โลวก็ได้ดัดแปลงเรดเฟรมอีกครั้งโดยติดตั้งเกราะ"มาร์สแจ็คเก็ต"ซึ่งมีรูปร่างคล้ายMSของZAFT(พูดตรงๆก็คือ เหมือนเกลกุ๊ก) เกราะนี้โลวพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้บนดาวอังคาร โดยจะคลุมเรดเฟรมไว้ทั้งตัวเพื่อป้องกันชิ้นส่วนของเรดเฟรมจากสภาพแวดล้อมของดาวอังคารและสามารถใช้เข้าสู่บรรยากาศโลกได้ เกราะมาร์สแจ็คเก็ตส่วนใหญ่สามารถปลดออกได้เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่ว ด้านหลังมีบีมแคนน่อนคู่ซึ่งเป็นปลอกดาบของเกอเบร่าเสตรทด้วย เรดเฟรมมาร์สแจ็คเก็ตถูกชาวอาณานิคมดาวอังคารดิเอโก โลเวลขโมยไป แต่ได้พามาคืนให้หลังเหตุการณ์เบรคเดอะเวิร์ลด ซึ่งโลวก็ได้ถอดมาร์สแจ็คเก็ตออกแล้วติดตั้งไว้กับซิวิเลียนแอสเทรย์รุ่นJGแล้วยกให้ดิเอโกไปใช้งาน



เรดเฟรม



พาวเวอร์โหลดเดอร์ และ พาวเวิร์ดเรด



มาร์สแจ็คเก็ต



MBF-P03 กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม

น้องสุดท้องของตระกูลนี้ ในตอนที่รอนโด ซาฮาคุเอาพยายามปกป้องแอสเทรย์ทั้งสามนั้น รอนโดได้บันทึกข้อมูลของอุปกรณ์ต่างๆไว้กับบลูเฟรมนี่ ไม่ว่าจะเป็นบูสเตอร์เพิ่มการขับเคลื่อนหรือเซ็นเซอร์เสริม บลูเฟรมนั้นถูกโลวขุดขึ้นมาพร้อมกับเรดเฟรม แต่ก็มอบให้ไก มุราคุโมะไป ไกเป็นหนึ่งในทหารรับจ้าง เซอร์เพนท์เทลที่มาทำลายหลักฐานเกี่ยวกับโปรเจ็คท์แอสเทรย์ แต่ไกกลับเก็บแอสเทรย์สีน้ำเงินไว้เป็นMSประจำตัวแทนหลังจากที่ทราบว่าทางนายจ้างทรยศ

ดีไซน์ของกันดั้มแอสเทรย์สีน้ำเงินยังทำให้การปรับแต่งอุปกรณ์นั้นง่ายมากอีกด้วย กันดั้มแอสเทรย์สีน้ำเงินจึงสามารถใช้งานอาวุธหนักอาวุธหนักอย่างบาซูก้าและมิสไซล์ลันเชอร์ หรือ"เสกลซิสเต็ม"สำหรับใช้งานใต้น้ำได้

ภายหลัง กันดั้มแอสเทรย์สีน้ำเงินได้รับความเสียหายอย่างหนักในการสู้กับลองแด็กเกอร์ของอีเลฟเว่น โซเซียส ซึ่งไกก็ได้อัพเกรด กันดั้มแอสเทรย์สีน้ำเงินด้วยความช่วยเหลือของโลวและศจ.เอริก้า ซิมม่อนแห่งอ็อบ ซึ่งบลูเฟรมร่างสองนี้ มีสองแบบคือ บลูเฟรมเซคันด์L(Lowe)ซึ่งสามารถติดตั้ง"แท็คติคอลอาร์มส์"(Tactical Arms) ซึ่งเป็นแบ็คแพ็คที่สามารถบินแยกจากแอสเทรย์ได้ทั้งยังหุ้มบีมโค้ตติ้งเพื่อการป้องกันอาวุธบีม TAนั้นติดตั้งปืนแก็ตลิ่ง90มม.เอาไว้และสามารถปรับมาเป็นดาบขนาดยักษ์ได้ด้วย เกราะของโหมดนี้เป็นแบบเกราะสองชั้น ซึ่งชั้นสองจะเป็นPSและทำงานเมื่อเกราะชั้นแรกแตก อาวุธที่รุนแรงที่สุดของบลูเฟรมเซคันด์Lก็คือปืนโพซิตรอน"โลเอนกรีน"แบบเดียวกับของยานอาร์คแองเจิ้ล แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยแยกเป็นสองส่วนติดไว้ที่ขาแล้วประกอบเข้าด้วยกันตอนใช้งาน จุดอ่อนก็คือปืนนี้ใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นเป็นแหล่งพลังงานแยกต่างหาก ซึ่งบลูเฟรมเซคันด์จะไม่มีNแจมเมอร์แคนเซลเลอร์จึงใช้งานปืนนี้ได้อย่างจำกัดมาก แต่ไกก็เคยสำแดงพลังของมันโดยการใช้ยิงถล่มMAขนาดยักษ์TSX-MA717/ZD เพอแกรนด์ ในนัดเดียวมาแล้ว (ไกใช้วิธีพุ่งเข้าไปยิงในระยะประชิดเพื่อใช้ผลจากNแจมเมอร์แคนเซลเลอร์ของเพอแกรนด์เอง)

อีกโหมดนึงก็คือ บลูเฟรมเซคันด์G(Gai) ซึ่งสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆได้มากกว่า เช่นสไนเปอร์ไรเฟิลหรือเกราะฟุลอาร์เมอร์ ซึ่งเป็นเกราะPSที่สามารถหุ้มบลูเฟรมเซคันด์ได้ทั้งตัว(Full Armor Phase Shift = FAP) โดยในเวลาปกติจะติดตั้งไว้เป็นแบ็คแพ็คเหมือนแท็คติคอลอาร์มส์ ส่วนเกราะในโหมดนี้จะเป็นPSเฉพาะบริเวณโดยรอบค็อกพิต ทั้งนี้ไกยังได้ปรับแต่งส่วนเท้าให้มีใบมีดซ่อนไว้และเสริมท่อขับดันแบบครีบไว้ที่ส่วนไหล่ และมีดอาเมอร์ชไนเดอร์ไว้ถึงหกเล่ม ส่วนหัวของบลูเฟรมเซคันด์ทั้งสองโหมดติดตั้งระบบรีโมตคอนโทรลสำหรับควบคุมแบ็คแพ็คแบบต่างๆไว้

ในภาคFrame Astray มีบลูเฟรมเธิร์ดออกมาแล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูล



บลูเฟรม



บลุเฟรมเซคันด์G



บลูเฟรมเซคันด์L



บลูเฟรมเธิร์ด



รูปแถมๆ



MBF-P04 กันดั้มแอสเทรย์กรีนเฟรม ที่"หัตถ์เทวะ" แบรี่ โฮเอามาจากไหนไม่ทราบไปมอบให้ ทรอยา โนวาล "ลูกไฟ" (ได้ฉายามาจากที่เคยยิงบีมไรเฟิลในป่าจนไฟไหม้ เกือบวอดวายยกก๊ก) แห่งกลุ่มกองโจรต่อต้านสาธารณรัฐเอเชียตะวันออก ปรากฏตัวในภาคFrame Astray อีกเช่นกัน





อีกสองหน้าจากTiel's Impulse เห็นคราวก่อนหลายๆท่านงงได้ที่น่ะนะ





ไปเจอะมา fan artแบบไม่SDของกัปตันกันดั้ม (SD Gundam Force)
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา