ซึ่งมีจุดแตกต่างจากของเดิมคือส้นสูงที่เท้าทั้งสองข้างและอาวุธใหม่ ดาบ"โททซึกะโนะทซึรุงิ" และ กงเล็บที่แขนซ้าย "ทซึมุฮะโนะทาจิ" นอกจากนี้ มิน่ายังได้พัฒนา มากะโนะอิคุทาจิจนสมบูรณ์ซึ่งทำให้มันสามารถดูดพลังงานจากMSที่อยู่ใกล้ๆตัวได้โดยไม่ต้องใช้ตะขอ โกลด์เฟรมอามัตสึได้รับความเสียหายเมื่อไคท์ มาดิแกนได้เอาไปสู้กับเทสตาเมนต์กันดั้ม ในภายหลังจึงได้อัพเกรดอีกครั้งด้วย"โอคิตสุโนะคางามิ"ซึ่งพัฒนาโดยหยุน เซฟาน โอคิตสุโนะคางามิเป็นอุปกรณ์เอนกประสงค์ติดแขนแทนทซึมุฮะโนะทาจิและสามารถใช้สร้างบีมชิลด์หรือมีดบีมก็ได้ ซึ่งโหมดมีดบีมสามารถยิงออกไปแล้วดึงกลับมาด้วยสายเคเบิ้ล ส่วนดาบโททซึกะโนะทซึรุงิถูกถอดออกเป็นแค่อาวุธเสริม
โกลด์เฟรม
อามัตสึ และ อามัตสึ มิน่า
ติดโอคิตสุโนะคางามิ
MBF-P02 กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม
กันดั้มแอสเทรย์เครื่องที่สอง ในตอนที่รอนโด ซาฮาคุเอาพยายามปกป้องแอสเทรย์ทั้งสามนั้น รอนโดได้โหลดข้อมูลทั้งหมดของแอสเทรย์เก็บไว้ในเครื่องสีแดงนี่ ซึ่งข้อมูลนี้มีระบบOSที่ทำให้นักบินปกติควบคุมแอสเทรย์สีแดงได้(เหมือนOSที่คิระเอาไปใส่ให้M1)
เอริก้า ซิมมอน หัวหน้าศูนย์วิจัยมอเกนเรต ได้ส่งข่าวเรื่องของกันดั้มแอสเทรย์ให้โปรเฟสเซอร์เพื่อนรักในจังค์กิลด์ ผู้ที่ขุดเอาเรดเฟรมไปใช้ก็คือ โลว กิล ซึ่งโลวนั้นได้เพิ่มอาวุธใหม่ นั่นคือดาบคาตะนะ"เกอร์เบร่าเสตรท"(Gerbera Straight) ซึ่งเป็นดาบโลหะที่ไม่ใช้พลังงานนั่นเอง เกอร์เบร่าเสตรทนั้นคมกว่าดาบที่จินน์ใช้มาก ดาบนี้หุ้มบีมโค้ตติ้งอีกด้วย โลวยังมีไม้ตายก้นหีบ "กระสุนสายฟ้า"ซึ่งเป็นการปล่อยพลังงานจากแฮนด์ปลั๊กโจมตีศัตรูโดยตรง ในการต่อสู้กับโกลด์เฟรมนั้น เรดเฟรมเสียแขนขวาไปจากการใช้กระสุนสายฟ้าเต็มกำลัง แต่โลวก็ได้ซ่อมแขนของโกลด์เฟรมที่เก็บไว้และเอามาใช้แทน ซึ่งเมื่อโลวไปยังอ็อบ เรดเฟรมก็ได้รับการซ่อมแซมจนสมบูรณ์และได้เสริมแบ็คแพ็คสำหรับบินในอากาศได้(ดัดแปลงมาจากของM1)
โลวเคยประมูลได้ส่วนหัวของบาคูวมาดัดแปลงเป็นถุงมือให้เรดเฟรม ซึ่งสามารถใช้บีมเซเบอร์ของบาคูวเป็นดาบสองปลายได้ หัวบาคูวนี้ถูกพวกZAFTตามมาทำลายในภายหลัง ต่อมาโลวยังได้สร้างยูนิตพาวเวอร์โหลดเดอร์ขนาด60เมตรซึ่งเหมือนกับเป็นMSขนาดยักษ์ที่เรดเฟรมควบคุมอยู่ทีเดียว(โลวได้ไอเดียมาจากเมเทโอของฟรีด้อมกับจัสติส) พร้อมด้วยเกอเบร่าสเตรทขนาดยักษ์ที่ยาวตลอดด้ามถึง150เมตร ซึ่งเมื่อยูนิตพาวเวอร์โหลดเดอร์นี้ถูกZGMF-X11A รีเจเนเรตกันดั้มทำลาย โลวก็ได้ปรับปรุงเรดเฟรมอีกครั้งเป็น"พาวเวิร์ดเรด" ซึ่งมีส่วนหัวไหล่ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้มีกำลังมากพอที่จะเหวี่ยงเกอร์เบร่าเสตรทยักษ์ได้เอง แต่ต่อมาโลวก็แปลงเรดเฟรมกลับไปเป็นแบบดั้งเดิมอีกครั้ง
ในช่วงที่อยู่ดาวอังคาร โลวก็ได้ดัดแปลงเรดเฟรมอีกครั้งโดยติดตั้งเกราะ"มาร์สแจ็คเก็ต"ซึ่งมีรูปร่างคล้ายMSของZAFT(พูดตรงๆก็คือ เหมือนเกลกุ๊ก) เกราะนี้โลวพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้บนดาวอังคาร โดยจะคลุมเรดเฟรมไว้ทั้งตัวเพื่อป้องกันชิ้นส่วนของเรดเฟรมจากสภาพแวดล้อมของดาวอังคารและสามารถใช้เข้าสู่บรรยากาศโลกได้ เกราะมาร์สแจ็คเก็ตส่วนใหญ่สามารถปลดออกได้เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่ว ด้านหลังมีบีมแคนน่อนคู่ซึ่งเป็นปลอกดาบของเกอเบร่าเสตรทด้วย เรดเฟรมมาร์สแจ็คเก็ตถูกชาวอาณานิคมดาวอังคารดิเอโก โลเวลขโมยไป แต่ได้พามาคืนให้หลังเหตุการณ์เบรคเดอะเวิร์ลด ซึ่งโลวก็ได้ถอดมาร์สแจ็คเก็ตออกแล้วติดตั้งไว้กับซิวิเลียนแอสเทรย์รุ่นJGแล้วยกให้ดิเอโกไปใช้งาน
เรดเฟรม
พาวเวอร์โหลดเดอร์ และ พาวเวิร์ดเรด
มาร์สแจ็คเก็ต
MBF-P03 กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม
น้องสุดท้องของตระกูลนี้ ในตอนที่รอนโด ซาฮาคุเอาพยายามปกป้องแอสเทรย์ทั้งสามนั้น รอนโดได้บันทึกข้อมูลของอุปกรณ์ต่างๆไว้กับบลูเฟรมนี่ ไม่ว่าจะเป็นบูสเตอร์เพิ่มการขับเคลื่อนหรือเซ็นเซอร์เสริม บลูเฟรมนั้นถูกโลวขุดขึ้นมาพร้อมกับเรดเฟรม แต่ก็มอบให้ไก มุราคุโมะไป ไกเป็นหนึ่งในทหารรับจ้าง เซอร์เพนท์เทลที่มาทำลายหลักฐานเกี่ยวกับโปรเจ็คท์แอสเทรย์ แต่ไกกลับเก็บแอสเทรย์สีน้ำเงินไว้เป็นMSประจำตัวแทนหลังจากที่ทราบว่าทางนายจ้างทรยศ
ดีไซน์ของกันดั้มแอสเทรย์สีน้ำเงินยังทำให้การปรับแต่งอุปกรณ์นั้นง่ายมากอีกด้วย กันดั้มแอสเทรย์สีน้ำเงินจึงสามารถใช้งานอาวุธหนักอาวุธหนักอย่างบาซูก้าและมิสไซล์ลันเชอร์ หรือ"เสกลซิสเต็ม"สำหรับใช้งานใต้น้ำได้
ภายหลัง กันดั้มแอสเทรย์สีน้ำเงินได้รับความเสียหายอย่างหนักในการสู้กับลองแด็กเกอร์ของอีเลฟเว่น โซเซียส ซึ่งไกก็ได้อัพเกรด กันดั้มแอสเทรย์สีน้ำเงินด้วยความช่วยเหลือของโลวและศจ.เอริก้า ซิมม่อนแห่งอ็อบ ซึ่งบลูเฟรมร่างสองนี้ มีสองแบบคือ บลูเฟรมเซคันด์L(Lowe)ซึ่งสามารถติดตั้ง"แท็คติคอลอาร์มส์"(Tactical Arms) ซึ่งเป็นแบ็คแพ็คที่สามารถบินแยกจากแอสเทรย์ได้ทั้งยังหุ้มบีมโค้ตติ้งเพื่อการป้องกันอาวุธบีม TAนั้นติดตั้งปืนแก็ตลิ่ง90มม.เอาไว้และสามารถปรับมาเป็นดาบขนาดยักษ์ได้ด้วย เกราะของโหมดนี้เป็นแบบเกราะสองชั้น ซึ่งชั้นสองจะเป็นPSและทำงานเมื่อเกราะชั้นแรกแตก อาวุธที่รุนแรงที่สุดของบลูเฟรมเซคันด์Lก็คือปืนโพซิตรอน"โลเอนกรีน"แบบเดียวกับของยานอาร์คแองเจิ้ล แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยแยกเป็นสองส่วนติดไว้ที่ขาแล้วประกอบเข้าด้วยกันตอนใช้งาน จุดอ่อนก็คือปืนนี้ใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นเป็นแหล่งพลังงานแยกต่างหาก ซึ่งบลูเฟรมเซคันด์จะไม่มีNแจมเมอร์แคนเซลเลอร์จึงใช้งานปืนนี้ได้อย่างจำกัดมาก แต่ไกก็เคยสำแดงพลังของมันโดยการใช้ยิงถล่มMAขนาดยักษ์TSX-MA717/ZD เพอแกรนด์ ในนัดเดียวมาแล้ว (ไกใช้วิธีพุ่งเข้าไปยิงในระยะประชิดเพื่อใช้ผลจากNแจมเมอร์แคนเซลเลอร์ของเพอแกรนด์เอง)
อีกโหมดนึงก็คือ บลูเฟรมเซคันด์G(Gai) ซึ่งสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆได้มากกว่า เช่นสไนเปอร์ไรเฟิลหรือเกราะฟุลอาร์เมอร์ ซึ่งเป็นเกราะPSที่สามารถหุ้มบลูเฟรมเซคันด์ได้ทั้งตัว(Full Armor Phase Shift = FAP) โดยในเวลาปกติจะติดตั้งไว้เป็นแบ็คแพ็คเหมือนแท็คติคอลอาร์มส์ ส่วนเกราะในโหมดนี้จะเป็นPSเฉพาะบริเวณโดยรอบค็อกพิต ทั้งนี้ไกยังได้ปรับแต่งส่วนเท้าให้มีใบมีดซ่อนไว้และเสริมท่อขับดันแบบครีบไว้ที่ส่วนไหล่ และมีดอาเมอร์ชไนเดอร์ไว้ถึงหกเล่ม ส่วนหัวของบลูเฟรมเซคันด์ทั้งสองโหมดติดตั้งระบบรีโมตคอนโทรลสำหรับควบคุมแบ็คแพ็คแบบต่างๆไว้
ในภาคFrame Astray มีบลูเฟรมเธิร์ดออกมาแล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูล
บลูเฟรม
บลุเฟรมเซคันด์G
บลูเฟรมเซคันด์L
บลูเฟรมเธิร์ด
รูปแถมๆ
MBF-P04 กันดั้มแอสเทรย์กรีนเฟรม ที่"หัตถ์เทวะ" แบรี่ โฮเอามาจากไหนไม่ทราบไปมอบให้ ทรอยา โนวาล "ลูกไฟ" (ได้ฉายามาจากที่เคยยิงบีมไรเฟิลในป่าจนไฟไหม้ เกือบวอดวายยกก๊ก) แห่งกลุ่มกองโจรต่อต้านสาธารณรัฐเอเชียตะวันออก ปรากฏตัวในภาคFrame Astray อีกเช่นกัน
อีกสองหน้าจากTiel's Impulse เห็นคราวก่อนหลายๆท่านงงได้ที่น่ะนะ
ไปเจอะมา fan artแบบไม่SDของกัปตันกันดั้ม (SD Gundam Force)
Super Robot Wars
Games
Mecha Story