Mecha Story : Update (Strike & Hyperion)

อัพเดทเล็กน้อยระหว่างรอของใหม่ๆ ตัวแรกกระดากในนิดๆเพราะรู้สึกจะเพิ่งลงซ้ำไปไม่นานนัก(?) แต่ช่างมันเถอะ



GAT-X105 สไตรค์กันดั้ม (รูปไปอยู่ข้างล่าง))

หนึ่งในGAT-Xซีรี่ส์รุ่นแรก นอกจากเกราะPSแล้วจุดเด่นของสไตรค์ก็คือความสามารถในการปฏิบัติการในสภาวะต่างๆโดยการติดตั้ง"สไตรเกอร์แพ็ค" (คล้ายๆมิชชั่นแพ็คของF90)เพื่อให้สไตรค์กันดั้มสามารถใช้งานได้ในหลายๆสถานการณ์

สไตรค์กันดั้มที่ไม่ได้ติดตั้งสไตรเกอร์แพ็คนั้นเป็นMSที่มีความคล่องแคล่วสูง โดยมีอาวุธเป็นวัลแคน "อิเกลชเตลลุงก์",และมีดคู่ "อาเมอร์ ชไนเดอร์" และสามารถใช้อาวุธเสริมอย่างบาซูก้า, บีมไรเฟิลและโล่ได้ ส่วนสไตรเกอร์แพ็คนั้นประกอบด้วย...

-AQM/E-X01 เอลสไตรเกอร์ (Aile Striker) ติดตั้งแบคแพ็คที่ใช้เพิ่มการขับเคลื่อนของสไตรค์เอาไว้ ทำให้ใช้งานในอวกาศได้ดีขึ้นและสามารถบินในชั้นบรรยากาศโลกได้ ส่วนอาวุธนั้นมีบีมเซเบอร์เพิ่มมา

-AQM/E-X02 ซอร์ดสไตรเกอร์ สำหรับการรบระยะประชิดและทำลายยานรบโดยการใช้ดาบ""ชเวอร์เกเวอร์" (Schwert Gewehr) ซึ่งยาวถึง16เมตร ดาบเลเซอร์ต่อต้านยานรบนี่สามารถเชือดMSเป็นสองท่อนหรือสร้างความเสียหายให้กับยานรบได้อย่างใหญ่หลวง (ลอกดาบผ่ายานรบของกรุนกัสต์มารึไงนี่?) นอกจากนั้นก็มีจรวดตะขอ "แพนเซอร์ ไอเซ่น"(Panzer Eisen)และบูมเมอแรงก์บีม"ไมดาส เมซเซอร์"(Midas Messer)

-AQM/E-X03 ลันเชอร์สไตรเกอร์ สำหรับการยิงโจมตีในระยะไกล โดยมีอาวุธหลักเป็นปืนอิมพัลส์ 320มม. "อัคนี"(Agni) แล้วก็มีกันลันเชอร์350มม.และวัลแคน120มม.ซึ่งติดไว้ที่ไหล่ขวา

-AQM/E-X04 กันบาเรลสไตรเกอร์ เป็นแพ็คกันบาเรลซึ่งปรับปรุงให้เป็นเรลกันและมิสไซล์แทนปืนกล แต่เมื่อมูว์และลูกเรืออาร์คแองเจิ้ลไปเข้ากับอาณาจักรอ็อบ สไตรค์กันดั้มจึงไม่เคยได้ใช้สไตรเกอร์แพ็คนี้เลย ลักษณะพิเศษของแพ็คนี้ก็คือตอนปกติจะเป็นยานแบบใช้คนบังคับได้

-AQM/E-M1 IWSP (Integrated Weapons Striker Pack) สไตรเกอร์แพ็คที่ไม่ได้ออกมาในภาคอนิเมะ เป็นแพ็คที่รวมสไตรเกอร์แพ็คทั้งสามคือเอล,ลันเชอร์และซอร์ดเข้าด้วยกัน ทำให้สไตรค์สามารถรบได้ในทุกสถานการณ์โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสไตรเกอร์แพ็คเลย ส่วนหลักของIWSPนั้นทำงานเหมือนแบคแพ็คของเอลสไตรค์ ซึ่งส่วนนี้ได้ติดตั้งเรลกันและปืนใหญ่ไว้ด้วย(สำหรับใช้โจมตีระยะไกลแบบลันเชอร์สไตรค์) แถมด้วยดาบผ่ายานรบขนาดเล็ก ซึ่งไม่ใช่แบบดาบเลเซอร์เหมือนสไตรค์แต่เป็นเกอร์เบร่า เสตรทที่ยาว9เมตร ส่วนโล่ที่มากับIWSPนั้นติดตั้งปืนกลหนักและบูมเมอแรงก์บีมเอาไว้ด้วย ว่ากันว่าอ็อบพัฒนาสไตรเกอร์แพ็คนี้ด้วยโค้ด P202QX เสร็จในเวลาไม่นานก่อนที่จะจบสงครามและได้เตรียมที่จะใช้งานกับสไตรค์รูจ แต่เนื่องจากคางาริไม่สามารถควบคุมระบบอาวุธที่ซับซ้อนขนาดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงไม่ได้ใช้งานจริงๆ แต่ในช่วงที่อ็อบร่วมมือกับEAต่อสู้กับZAFTนั้นได้ให้หน่วยแฟนธอมเพนยืมไปใช้

-P204QX ไลท์นิ่งสไตรเกอร์ สไตรเกอร์แพ็คอีกแบบที่ไม่ได้ออกมาในอนิเมะ เป็นแพ็คที่สร้างมาเพื่อเพิ่มระยะเวลาในการปฏิบัติการของสไตรค์ โดยมีแบ็ตเตอรี่และระบบหล่อเย็นที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแพ็คอื่นๆ เดิมทีการพัฒนาสไตรเกอร์แพ็คนี้ของพันธมิตรโลกประสพความล้มเหลว แต่อาณาจักรอ็อบก็ได้พัฒนาต่อจนสมบูรณ์ ไลท์นิ่งสไตรค์กันดั้มมีความจุของพลังงานมากกว่าสไตรเกอร์แพ็คอื่นๆเป็น150% มีอาวุธหลักเป็นปืนแม่เหล็กไฟฟ้า(เรลกัน?)ที่ทรงอานุภาพ จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของไลท์นิ่งสไตรค์ก็คือความสามารถในการถ่ายพลังงานส่วนเกินของตนให้กับMSตัวอื่น จึงเป็นยูนิตสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพมาก แต่สไตรเกอร์แพ็คนี้ถูกทำลายในระหว่างการทดสอบ

สไตรค์กันดั้มสามารถถอดและเปลี่ยนสไตรเกอร์แพ็คต่างๆกลางสนามรบได้โดยอาศัยเครื่องบินรบ สกายแกรสเปอร์บรรทุกสไตรเกอร์แพ็คให้โดยไม่ต้องกลับไปที่ยานแม่ แต่เนื่องจากการทำแบบนี้จะต้องปิดเกราะPSลงชั่วคราวระหว่างการเปลี่ยนสไตรเกอร์แพ็คจึงไม่ได้เห็นบ่อยนัก

สไตรค์กันดั้มเป็นกันดั้มเพียงตัวเดียวจากห้าตัวแรกที่ไม่ได้ถูกZAFTขโมยไป เนื่องจากระบบปฏิบัติการของสไตรค์กันดั้มนั้นไม่สมบูรณ์ ทำให้มีเพียงโคออร์ดิเนเตอร์ คิระ ยามาโตะเท่านั้นที่สามารถปรับแต่งระบบปฏิบัติการและใช้งานสไตรค์กันดั้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในภายหลังก็กลายเป็นเครื่องประจำตัวของมูว์ ลา ฟลากา ยอดนักบินของพันธมิตรโลกแทนจนกระทั่งหน่วยอาร์คแองเจิ้ลได้หันไปเข้ากับอาณาจักรอ็อบ สไตรค์กันดั้มและมูว์พบจุดจบเมื่อมูว์เอาสไตรค์ไปป้องกันอาร์คแองเจิ้ลจากปืนโลเอนกรีนของโดมิเนียน

นอกจากนี้ยังมีMBF-02 สไตรค์รูจ ซึ่งกล่าวได้ว่าน้องสาวของสไตรค์กันดั้มพร้อมสีชมพูหวานแหวว ซึ่งสร้างขึ้นโดยการใช้อะไหล่ของสไตรค์กันดั้มที่เก็บไว้ในยานคุซานางิ (กองกำลังของลักซ์ค่อนข้างจะขาดแคลนMSเมื่อเทียบกับZAFTและพันธมิตรโลก เลยต้องเอาทุกอย่างที่ใช้ได้มาใช้) สไตรค์รูจนั้นมีสมรรถนะพื้นฐานไม่ต่างจากสไตรค์กันดั้มเลย แต่มีOSสำหรับคนธรรมดาและระบบPSที่พัฒนาให้ปรับระดับพลังงานที่ใช้ได้โดยจะมีสีที่ต่างกัน สไตรค์รูจสร้างจากชิ้นส่วนอะไหล่เลยมีแค่เอลสไตรเกอร์เป็นสไตรเกอร์แพ็คเท่านั้น ซึ่งในภายหลังเอลสไตรเกอร์ของสไตรค์รูจก็ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพในการบินกลางอากาศสูงกว่าเดิม นักบินของสไตรค์รูจก็คือคางาริ ยูระ อัสฮา แต่หลังฟรีด้อมพังใหม่ๆคิระก็ยืมไปทำพังเรียบร้อย

จริงๆแล้วEAยังมีสไตรค์เครื่องอื่นๆเก็บไว้อยู่ ซึ่งในภายหลังบริษัทแอ็คทายออนยังได้เอาไปพัฒนาเป็นGAT-X105E สไตรค์E ซึ่งเครื่องที่รู้จักกันเป็นของหน่วยแฟนธอมเพนสเวน คาล บายัน (EมาจากEnhance) สไตรค์Eมักใช้สไตรเกอร์แพ็คแบบพิเศษนั่นก็คือAQM/E-X09S "นัวร์สไตรเกอร์" ซึ่งปรับปรุงมาจากIWSPที่สเวนเคยใช้(ในสภาพนี้จะเรียกว่า"สไตรค์นัวร์") เพราะนัวร์สไตรเกอร์เป็นแบ็คแพ็คที่ทำให้สไตรค์นัวร์บินได้และติดตั้งลิเนียร์กันแฝดกับบีมเบลด"ฟลากาแล็ค3"เอาไว้รวมถึงมีจรวดตะขอ ตัวสไตรค์นัวร์เองมีวัลแคน12.5มม."โทเดสเชรคเคน"และปืนพกบีม "ช็อตตี้"สองกระบอก ที่มือเท้าทั้งสี่ยังมีจรวดตะขอติดเอาไว้ บีมไรเฟิลที่ใช้เป็นแบบที่มีเกรเน็ดลันเชอร์ติดตั้งไว้ เมื่อติดตั้งนัวร์สไตรเกอร์ สไตรค์Eก็จะกลายเป็นสไตรค์นัวร์ สไตรค์นัวร์ถูกทำลายในการต่อสู้กับสตาร์เกเซอร์ของDSSD นอกจากนี้ยังมีสไตรค์Eเครื่องๆอื่นๆในหน่วยแฟนธอมเพนอีก ซึ่งใช้ทดสอบซอร์ดและลันเชอร์สไตรเกอร์แบบใหม่(อนาเธอร์ไทรอัล) โดยซอร์ดจะเอาไมดาสเมซเวอร์ไปรวมกับแพนเซอร์ไอเซนและติดไว้ที่แขนทั้งสองข้าง ส่วนลันเชอร์จะเพิ่มกันลันเชอร์เป็นสองลำกล้อง





สไตรค์



สไตรค์ติดแพ็ค



รูจ



รูจติดแพ็ค



สไตรค์E (ตัวขวาเป็นของลูคัส โอดอนเนลที่ออกมาในFrame Astray)



สไตรค์Eติดแพ็ค







CAT1-X1/3 ไฮเปอเรียนกันดั้ม

กันดั้มของกลุ่มพันธมิตรโลกที่พัฒนาโดยสหพันธ์ยูเรเซียน ไฮเปอเรียนกันดั้มมีทั้งหมดสามยูนิตคือ CAT1-X1/3, CAT1-X2/3 และ CAT1-X3/3 ซึ่งทั้งหมดมีข้อแตกต่างกันแค่สีเท่านั้น ทั้งสามมีอาวุธหลักเป็นปืนกลบีม"ซาสตาวา สติกมาตา"และมีดบีม"รอมเทคนิกา" ซึ่งอาวุธทั้งสองอย่างมีแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานแยกต่างหากจากไฮเปอเรียน โดยในกรณีของปืนกลบีมนั้น แบตเตอรี่จะอยู่ในรูปของEแพ็คที่สามารถถอดมาเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ส่วนมีดบีมก็สามารถใช้เป็นอาวุธขว้างได้

อาวุธอื่นๆของไฮเปอเรียนก็มีวัลแคนและบีมแคนน่อนแฝด"ฟอร์ฟานทรี"ซึ่งอยู่ที่แบ็คแพ็ค แต่ความน่ากลัวที่แท้จริงของมันอยู่ที่โล่แสง"อามิวเร ลูมิเอล" ซึ่งติดอยู่ที่แขนทั้งสองข้างและแบ็คแพ็ค ซึ่งโล่แสงนี้จะมีคุณสมบัติเหมือน"ร่มแห่งอัลเทมิส"ซึ่งสามารถป้องกันการโจมตีได้ทุกรูปแบบนั่นเอง โดยส่วนแขนจะใช้สร้างบีมชิลด์ทรงสามเหลี่ยมและส่วนแบ็คแพ็คจะกางออกมาสร้างบีมบาเรียร์คลุมไว้โดยรอบตัวไฮเปอเรียนกันดั้ม แต่ไฮเปอเรียนยังสามารถยิงโจมตีศัตรูจากภายในบาเรียนี้ได้ ทั้งยังสามารถใช้เป็นอาวุธได้ไม่ต่างจากบีมชิลด์ในจักวาลUC จุดอ่อนของโล่แสงนี้ก็คือมันเปลืองพลังงานอย่างมาก ทำให้ใช้งานได้ประมาณ5นาทีเท่านั้น แต่ก็ทำให้ไฮเปอร์เรียนเป็นMSที่มีการป้องกันที่แข็งแกร่งมากแม้จะไม่มีPS

ไฮเปอเรียนกันดั้มเครื่องที่หนึ่งนั้นเป็นของคานาร์ด พาร์ส ซูเปอร์โคออดิเนเตอร์ในโปรเจ็คท์เดียวกับคิระแต่ถือเป็นผลงานที่ล้มเหลว คานาร์ดจึงใช้ไฮเปอเรียนในการตามล่าคิระเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เครื่องที่สองนั้นถูกคานาร์ดทำลายหลังจากที่แยกตัวจากสหพันธ์ยูเรเซียน ซึ่งคานาร์ดนั้นภายหลังได้อัพเกรดไฮเปอเรียนกันดั้มหมายเลข1ด้วยNแจมเมอร์แคนเซลเลอร์และเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทั้งยังดัดแปลงให้อาวุธใช้พลังงานจากเตาปฏิกรณ์ได้โดยตรง ทำให้สามารถใช้อาวุธและบาเรียร์ได้แบบไม่จำกัดเวลา แต่ในที่สุดก็ถูกทำลายในการต่อสู้กับเดรดน็อตกันดั้ม ส่วนเครื่องที่สามถูกทำลายในการต่อสู้กับบลูเฟรมเซคันด์Lของไก โดยไกใช้ดาบแทคติคอลอาร์มซึ่งหุ้มบีมโค้ตติ้งไว้เจาะทะลุอามิวเรลูมิเอลแล้วใช้ปืนแก็ตลิ่งยิงถล่มจากภายใน ซึ่งต่อมาจั๊งค์กิลด์ได้ซ่อมเครื่องนี้แล้วมอบให้อิวาน ซันฮวาซซึ่งใช้ไฮเปอเรียนเครื่องที่สามต่อสู้เพื่อปลดปล่อยสหพันธ์ยูเรเซียนจากEA

เนื่องจากสหพันธ์แอตแลนติกครองอำนาจส่วนใหญ่ในEAไว้จึงบีบบังคับทางการเมืองให้ยูเรเซียนหยุดการพัฒนาMSของตัวเองเสีย แต่บริษัทแอ็คทายออนได้พัฒนาไฮเปอเรียนต่อมาเป็นรุ่นทดลองผลิตจำนวนมากสำหรับรบภาคพื้นดินเรียกว่าCAT1-XG1/12 ไฮเปอเรียนG โดยเปลี่ยนส่วนเซนเซอร์เป็นแบบแด็กเกอร์ เพื่อประหยัดพลังงานของอามิวเรลูมิเอลจึงถอดแบ็คแพ็คด้านซ้ายออกเลือแต่ด้านขวาจึงใช้อามิวเรลูมิเอลป้องกันได้แค่ด้านหน้า ส่วนอามิวเรลูมิเอลที่แขนถูกถอดออกและใช้โล่ของแด็กเกอร์แทน ไฮเปอเรียนGเป็นMSที่ใช้งานโดยสาธารณรัฐเอเชียตะวันออกซึ่งได้มอบเครื่องหมายเลขสองให้ไกที่ได้รับการจ้างให้ต่อสู้กับกองโจรต่อต้านและได้ทาเป็นสีน้ำเงิน ส่วนเครื่องหมายเลขหนึ่งนั้นเป็นของทรี โซเซียสซึ่งเป็นคอมแบทโคออดิเนเตอร์โซเซียสซีรีส์ซึ่งยังเหลืออยู่ในกองทัพEA



รูปจาก Tiel's Impulse เห็นหน้านางเอกชัดๆไปเลย

Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา