Speed Racer : ไอ้หนุ่มสปีด สนุกไม่เบา!!! (Spoil)

บทความนี้ไม่ยาวแล้วนะ (เฮ!!!)

อันเนื่องด้วย Speed Racer คืออนิเมจากญี่ปุ่นที่ชื่อ Mach Go Go Go ที่ฉายไปนานมากๆ ยุคปี60 เลยทีเดียว (ซึ่งในCartoon Network เอามาฉายเมื่อ2-3ปีที่แล้ว แต่ผมไม่แก่พอขนาดรู้ว่ามันเคยฉายในประเทศไทยไหม -w- ) ซึ่งถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่า Speed Racer มันคืออนิเมญี่ปุ่นเรื่องแรกที่พี่น้งวาชอร์สกี้ได้ดู และเมื่อมีโปรเจคการสร้างหนัง เค้ายิ่งตื่นเต้นที่จะได้ทำหนังจากอนิเมที่เค้ารัก และในที่สุดเค้าก็ได้ทำ ออกมาเป็นหนัง ในชื่อเรื่องว่า

Speed Racer : สปีด เรซเซอร์ ไอ้หนุ่มสปีดเขย่าฟ้า

เรื่องย่อ

น สปีด เรซเซอร์ (อีมิล เฮิร์ช) สามารถทำอย่างเป็นธรรมชาติได้หลังพวงมาลัย เขาเกิดมาเพื่อเป็นนักแข่งรถ สปีดทั้งดุดัน เปี่ยมสัญชาติญาณ และเหนืออื่นใด ไร้ความกลัว คู่แข่งเพียงอย่างเดียวของเขาคือความทรงจำเกี่ยวกับพี่ชายที่เขายึดเป็นตัวอย่าง เร็กซ์ เรเซอร์ นักแข่งรถผู้เป็นตำนาน สิ่งที่เขาทิ้งไว้หลังความตายก็คือการสืบทอดที่สปีดจะต้องทำให้สำเร็จ

สปีดมั่นคงต่อธุรกิจแข่งรถของครอบครัว โดยการนำของพ่อ ป็อพส์ เรเซอร์ (จอห์น กู้ดแมน) ผู้ออกแบบรถเสียงกึกก้องคู่ใจของสปีด - แมค 5 เมื่อสปีดปฏิเสธข้อเสนอที่ยั่วยวนใจและให้ผลตอบแทนสูงลิ่วจากรอแยลตัน อินดัสตรีส์ เขาไม่เพียงแต่สร้างความแค้นให้กับเจ้าของบริษัทผู้บ้าคลั่ง (โรเจอร์ อัลแลม) แต่ยังได้ค้นพบความลับที่ร้ายกาจ—การแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ที่ถูกวางแผนโดยกลุ่มวายร้ายจอมโหดที่อยู่เบื้องหลังนักแข่งอันดับต้นๆ เพื่อสร้างผลกำไร ถ้าสปีดไม่ขับให้กับรอแยลตัน รอแยลตันก็จำทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้แมค 5 แล่นเข้าเส้นชัยได้อีกต่อไป

หนทางเดียวของสปีดที่จะรักษาธุรกิจครอบครัวและกีฬาที่เขาชื่นชอบไว้ให้ได้ก็คือการเอาชนะรอแยลตันด้วยเกมของตัวเอง จากการสนับสนุนของครอบครัวและแฟนสาวผู้ซื่อสัตย์ ทริกซี่ (คริสติน่า ริกซี่) สปีดเข้าร่วมทีมผู้ที่เคยเป็นศัตรู - นักแข่งรถลึกลับชื่อ เรซเซอร์ เอ็กซ์ (แมทธิว ฟ็อกซ์) เพื่อเอาชนะในการแข่งขันท้าความตายข้ามประเทศที่ชื่อว่าครูซิเบิล

มุมมองของSoma

หนังเรื่องนี้เหมาะกับ

ทุกเพศทุกวัย ถ้าคุณไม่ได้มีความคิดแบบ กบว.และเจ๊ระเบียบรัตน์

อันเนื่องมาจากว่า พี่น้องวาชอร์สกี้เนี่ย เค้าสร้างหนังไซไฟเรื่องยิ่งใหญมาแล้วอย่าง The Matrix และเขียนบทหนังการเมืองสุดกัดจิกอย่าง V for Vendetta ผมก็ไม่ค่อยจะเชื่อนะครับว่าพี่น้องคู่นี้จะทำหนังครอบครัว (หนังเรื่องนี้ติดเรทPGเท่านั้นเอง) และเมื่อไปดูหนังก็บอกได้เลยครับว่า เอ็งนี้ร้ายไม่เบาว่ะ พี่น้องวาชอร์สกี้

หนังเรื่องนี้มันคือหนังครอบครัวอย่างแท้จริงครับ ไร้พิษภัย มีจริงๆแค่ยิงกันและมาเฟียเท่านั้น (ถ้าคุณไม่ได้คิดแบบกบว.หรือเจ๊ระเบียบรัตน์นะ) หนังสามารถถ่ายทอดคำว่าครอบครัวได้เยี่ยมและประทับใจครับ จนเรารู้สึกว่าครอบครับเรชเชอร์เนี่ย รักกันจริงๆ กลมเกลียวกันมากๆ ซึ่งว่ากันตามตรงที่ควรจะพาครอบครัวไปดู เพราะหนังมันซ่อนปรัชญาครอบครัวได้เนียนและลึกซึ้งครับ เฉกเช่นฉากที่พ่อของสปีดได้พูดกับสปีดให้เค้าคิดในสิ่งที่เค้าจะทำลงไป มันเป็นฉากที่ประทับใจมากมาย หรือแม้แต่ฉากที่แม่ของสปีดเข้ามาคุย ประทับใจไม่แพ้กัน จนเรารู้สึกว่า นี้แหละครอบครัวที่อบอุ่น

ต่อมาต้องพูดในเรื่องอารมณ์หนัง หนังเรื่องนี้ดูๆไปดูๆมารู้เลยครับว่า พี่น้องวาชอร์สกี้แกชอบอนิเมญี่ปุ่นพอควร (ผมคิดว่า2พี่น้องน่าจะเป็นโอตาคุด้วยซ้ำ เพราะขนาดThe Matrix ยังได้รับแรงบันดารใจจาก Ghost in the Shell เลย) อารมณ์หนังมุขต่างๆ มันอนิเมญี่ปุ่นชัดๆครับ (แต่จะเป็นอนิเมเมื่อชาติที่แล้วนะ) เพราะการเล่นสี ฉากพุ่งหรืออะไร มันเหมือนเราดูการ์ตูนยุคเก่าเลยทีเดียวครับ

บอกได้เลยว่า พี่น้องวาชอร์สกี้แกทำอะไรเจ๋งๆอีกแล้ว คราวThe Matrix แกก็ทำท่าหลบกระสุนอันลือลั่นมาแล้ว คราวนี้แกทำรูปแบบการนำเสนอที่ แนว!!! แนวมากให้ตายเถอะ การตัดต่อภาพที่คุณเหมือนดูอนิเม+มังกะ ยังไงยังงั้น สัสันของเรื่องฉูดฉาดมากมาย (บอกเลย ใครแพ้สีฉูดฉาด ห้ามไปดูเรื่องนี้เด็ดขาด) แต่ในทางกลับกันมันดูสวยงามจนไม่น่าเชื่อครับ แต่จริงๆเนี่ย น่าเสียดายที่พี่น้องวาชอร์สกี้แกตัดไปมาเร็วไปหน่อย บางฉากเลยดูไม่ทัน แต่ถ้าถามว่าเล่าเรื่องแบบนี้สนุกไหม ตอบเลยครับว่าสนุก

ถึงพระเอกของหนังซะที นั่นก็คือฉากแข่งรถ โปรดิวเซอร์ของหนังเคยบอกว่า "คุณจะไม่เคยเห็นฉากขับรถแบบนี้จากหนังเรื่องไหน" เมื่อดูแล้วบอกเลยครับ ฉากขับรถมันสุดยอดจริงๆ!!!! ให้ตายเถอะเอด้า พี่น้องวาชอร์สกี้แกทำฉากขับรถหนังเรื่องนี้มาสุดยอดโคตรๆ ทั้งแหวกแนว ระทึก เท่ รถตีลังกานี่เป็นเรื่องปกติที่เห็นในหนังบ่อยไปเลย แต่ระวังนะครับ เพราะฉากขับรถบางช่วง มันพี่น้องTransformers เลย และยิ่ง+กับสีสันฉูดฉาด ทำเอามึนได้ง่าย ขอให้ชมช่วงแข่งแรลลี่ มันสุดยอดมากครับ และตอนแข่งกรังปรีด์ช่วงสุดท้าย มันระทึกถึงขั๊วหัวใจจริง และฉากแข่งตอนแรกที่มีวิญญาณเร็กซ์ ซ้อนภาพ โคตรเท่ฮะ

พูดถึงมุข หนังเรื่องจัดได้ว่าหนังตลกเลยนะครับ เพราะมุขตลกในหนังนี้มัน ใช้ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะตัวปล่อยมุขอย่างน้องสปีดกับลิงชิมแปนซี (ให้ไปดูตอนใกล้จบ ไอ้2ตัวนี้มันยังหยอกมุขให้เราอีกนะ ซึ่งฮาพอควรเลยทีเดียว) และในหนังฉากต่อสู้นั่นมันไม่ได้ดูจริงจังนะครับ คือมันมีจริงบ้าง เช่นฉากที่นินจาลอบสังหารเทโจ เรเซอร์X และสปีด 2คนแรกจริงจังและมันส์ แต่พอมาครอบครัวเรซเซอร์ นี้มันหนังแอ็คชั่นตลกชัดๆ!!! (ชอบมากตอนเปิดเผยว่าพ่อสปีดเป็นอดีตนักมวยปล้ำแชมป์เปี้ยน) และฉากต่อสู้บนช่องเขา ก็ยังตลกได้เลย บางครั้งฉากในหนังก็ทำผมตลกได้นะ เช่นฉากที่มาเฟ่ยโยนเทโจ (หรือพี่เรนของเรานั่นแหละ) ออกจากรถ แล้วหนังมันเล่นฉากหลังเป็นเส้นพุ่ง ผมฮาโคตรๆเลยครับ

ดนตรี ดนตรีนั้นมีเอกลักษณ์มากฮะเรื่องนี้ คือมันออกแนวร่างเริง ติ๊งต๊องในช่วงแรก แต่พอเข้าช่วงจริงจัง ดนตรีมันทำมาจริงจังและหนักแน่นจริงๆ จนรู้เลยว่าอารมณ์หนังเปลี่ยนไปแล้ว แต่สิ่งที่ชอบคือการเอาธีมเพลง Speed Racer มาทำใหม่ได้ไพเราะมากมาย และเพลงจบยังเอาใจคนแก่ด้วยการใช้เพลงเปิด Mach Go Go Go -w-

ดารา เล่นเสมอตัวครับ ไม่ค่อยมีอะไรน่าพูดถึงเท่าไรนัก แต่Matthew Fox ที่เล่นเป็นเรเซอร์X แกเท่จริงๆ ส่วนพี่เรนเรา พูดอังกฤษเก่งนะครับ แต่แกจะร้อง วู้~~~ มากไปหน่อย (สงสัยติดใจHG......)

สรุป : ท่านกำลังหาหนังครอบครัวที่ดูสนุกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หรือต้องการดูฉากขับรถมันส์ เท่ ระทึก หรือจะไปดักแก่ตัวเอง หรือแฟนคลับเรนก็แล้วแต่ หนังเรื่องนี้คือทางเลือกที่ดีมากอีกเรื่องในซัมเมอร์นี้ครับ ผมให้เกรด A- ครับ (ตัดตรงบางฉากเร็วจนมองไม่ทัน+กับสีสันด้วย ทำเอางง)

ปล.ใครเคยดูฉากเปิดอนิเมSpeed Racer จะเห็นท่าเก๊กสุดท้ายของสปีดที่เป็นเอกลักษณ์

ท่านี้แหละ

บอกได้เลยครับว่าโผล่ในหนัง แต่ตอนไหน ไปดูกันเอง -w-

เครดิต http://hilight.kapook.com/view/18654

เอาล่ะครับก็จบไปสำหรับSpeed Racer สำหรับคราวหน้ามาเจอกันปลายเดือนเลยนะครับสำหรับหระทู้วิจารณ์หนัง ส่วนวันนี้ต้องขอตัวครับ ก็ขอใช้มุขเดิมว่า ลาล่ะ555

คราวหน้าพบกับ เมื่อยอดนักล่าสมบัติSM กลับมา ความเก๋าหรือความแก่ ใครจะชนะ พบกันใน Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull