SPOIL แบบ text ต่อ text !! CoP 2-3 Phomiuna Aqueducts !! (อาจมีเพิ่มเติม)

.....ถ้าจะถามว่าเทวดาซาตานโพรมาเทียร์องค์ใด มาดลบัลดาลใจให้อยู่ดีๆขยันมาแปล mission ขนาดนี้ล่ะก็.....

ขอสารถภาพว่า เพราะ Prishe คนเดียว >////< เป็นตัวละครอะไรที่โคตรชอบเลยน่ารักสุดๆ(ถึงปากแม่คุณจะ...ไปหน่อยก็เถอะ)ติดใจมาตั้งแต่ตอนเห็นแค่ภาพแล้ว แต่ตอนมาดูใน movie ตัวอย่างใน Benchmark3 นี่เรียกว่าช๊อค เพราะอิมเมจในหัวดูจากท่าทางการแต่งตัวแล้วคิดว่าเป็นสาวน้อยผู้อ่อนแอแต่ที่ไหนได้คุณเธอเล่นดรอปคิคใส่ Mamet เฉย ยิ่งมาเจอจริงยิ่ง.... >////<



PS.1 อนึ่งเนื่องจาก mssion ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้เซฟ text เก็บไว้ จึงขอเริ่มจากกลาง mission 2-3 Distant Beliefs หลังจากปราบ Minotour แล้วเป็นต้นไปเน่อ....

PS.2 อนึ่งเพื่ออรรรถในการอ่านอย่างต่อเนื่อง จึงขอเขียนชื่อตัวละครเป็นภาษาไทย ซึ่งอ่านตามเข้าใจของคนแปล ดังนั้นถ้าคิดว่าแปลผิดประกาลใดก็ชี้แจงด้วยนะครับ (ชื่อตัวละครใน FFXI หลายๆตัวมันอ่านยากจริง ^^'')~

PS3. skill แปลของคนแปลไม่ได้สูงซักเท่าไหร่ มีแปลผิดไปตรงไหนก็ขออภัยอีกทีเช่นกัน -3-/



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



หลังจากกลับจาก Phomiuna Aqueducts - เราก็กลับไปคุบกับ จัสตินิอุส (Justinius) พร้อมกับ แนค โมลาดา(Nag' molada)





จัสตินิอุส: ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าท่านจะกำราปเจ้าสัตว์ร้ายนั่นลงได้ ดูข้าตัวข้าคงจะประเมิณค่าท่านต่ำไป

จัสตินิอุส: ผู้อาศัยอยู่ที่นี่(ทาฟนาเซี่ยน เซฟโฮล)ล้วนต่างมีชีวิตอย่างหวาดกลัวอสูรร้าย เราจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อนรับผู้กล้าหาญเฉกเช่นท่าน

จัสตินิอุส:โอ ช่างได้จังหวะเสียจริง หัวหน้าของพวกเรากลับมาพอดี



เอลวานหญิงสาวคนหนึ่งเดินย่างกรายเข้ามาอย่างสุขุม โดยมีเอลวานเด็กสาวเดินเคียงข้างมาอย่างก๋ากั่น





พรีเช(Prishe): ชั้นกลับมาแล้ว !

เมนเกรเนค(Mengrenaux): พรีเช ! ท่านปลอดภัย !

เทรชเชีย(Tressia): ท่านไปเสียนาน พวกเราเองเริ่มที่จะอดเป็นห่วงไม่ได้



เหล่าทหารเอลวานแห่งทาฟนาเซี่ยน ต่างซักถามเด็กสาวอย่างเป็นห่วง ที่แท้แล้วหัวหน้าของทาฟนาเซี่ยนเซฟโฮลแห่งนี้กลับเป็นเพียงเอลวานหญิงตัวเล็กๆเท่านั้น !



พริเช: พวกนายต้องไม่เชื่อแน่ว่าชั้นไปเจออะไรมา !

พริเช: ฟังนะ !

ไอ้พวกก้อนต้นไม้เหม็น จอมตระกละ(คงหมายถึง Malboro)นั่นมันรวมตัวกันอยู่แถวๆแหลมริเวอเน (Cape Riverne)

พริเช: ขอแนะนำนะว่าอยู่ห่างๆที่นั้นไว้จะดีกว่าถ้าพวกนายยังอยากให้มีร่างกายครบสามสิบสอง

ออนดิวลิค(Ondieulix): เป็นไปได้ยังไงกัน! มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย !

พาเลลพริออค(Parelbraiux): ท่านพริเช! ข้าเห็นกลุมเมฆน่าขนลุกพุ่งไปทางแหลมริเวอเน ท่านพอจะทราบรึไม่ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร ?

พริเช: ไอ้นั่นน่ะเอง ชั้นเองก็เห็นมันแวบหนึ่งเหมือนกัน แต่ท่แน่ๆคือชั้นค่อนข้างแน่ใจว่ามันเป็นร่องรอยของควันที่เกิดจากมังกรขนาดโคตรใหญ่ซักตัวทิ้งไว้

พริเช: แต่เอาน่า ไม่ต้องใช้สมองเล็กๆของพวกนายไปคิดถึงมันหรอก

ชั้นจะไปตรวจสอบมันอีกทีหลังจาก เตรียมการพร้อมแล้ว

พริเช: ก่อนอื่น มีเรื่องอะไรมั่งไหม จัสตินิอุส ?







จัสตินิอส: มีบางเรื่อง ท่านพริเช

ต้องขอรบกวนท่านอีกครั้ง แม้ว่าท่านจะพึ่งกลับมาก็ตาม แต่ท่านมีแขกที่ต้องการพบ

พริเช: พวกคนจร ไร้บ้าน ?

จัสตินิอุส: ดูเหมือนว่าแขกของเราจะมีเรื่องที่ต้องการแจ้งให้ท่านทราบ

พริเช: แจงรายระเอียดหน่อยสิ ?

ผู้มาจาก "แผ่นดินหลัก" งั้นหรือ ?



ตอนนั้นเองแก๊ง 3 ทารุจอมป่วนก็เข้ามา







เชรูกิกิ(Cherukiki): พริเช! เราเจอหนึ่งในนั้นบาทเจ็บล้มลงที่ถ้ำทางใต้

คุคคิ-เชบุคคิ(Kukki-Chebukki): เขาพก"เครื่องราง"เหมือนของเธอด้วยล่ะ

พริเช: อะไรนะ ? เครื่องรางเหมือนของชั้น !?

แมคคิ-เชบุคคิ(Makki-Chebukki): หมอนั่นมันขโมยเครื่องรางเธอชัวร์เลย พริเช

พวกเราน่าจะแขวนหมอนั่นห้อยหัวลงจากหน้าผาให้รู้สำนึก เจ้าโจรกระจอก !

พริเช: เจ้าพวกเด็กบ้า แล้วไอ้ที่ชั้นมีเนี่ยมันอะไรกันเล่า หืม ?



เครื่องรางสีน้ำเงินเลื่อมทองสะท้องแสงอยู่บนหน้าอกพริเช



แมคคิ-เชบุคคิ: เอ๋ อ๋า~ ?

พริเช: พวกนายหาเรื่องป่วนอีกแล้วนะ !!

คุคคิ-เชบุคคิ: วิ่ง ~!

แมคคิ-เชบุคคิ: เผ่นกันป่าราบเล้ย~ !

เชรูกิกิ: ไปที่ทางออก ~!







พริเช: แต่ว่า ทำใมหมอนี่ถึงมีเครื่องรางที่เหมือนกับของชั้นได้ล่ะ...?

จัสตินิอุส: ท่านพริเช ฟังข้าสักครู่ ชายสองคนนี้ทำคุณให้กับพวกเรา (หมายถึงตัวเรากับ แนค โมลาดา )

จัสตินิอุส: ในระหว่างที่ท่านไปทำธุระข้างนอก พวกเขาเป็นผู้โค้นล้มมิโนทัวร์ด้วยตัวพวกเขาเอง

พริเช: หืมม..

ไม่เลวเลยนะนั่น

แบบนี้พวกเขาก็พอจะมีค่าให้ยอมรับ

พริเช: ชื่อชั้นคือท่านพริเช

ตอนนี้ชั้นอยู่ในช่วงพักเพราะงั้นเราค่อยมาทักทายกันทีหลังละกัน







หลังจากนั้นพวกพริเชก็เดินจากไป

ต่อมาเราจึงไปหาที่ห้อง



พริเช: สุดท้ายมายก็โผล่มาอีกจนได้นะ ชั้นได้ยินเรื่องของนายจากจัสตินุอุสมามากเหมือนกัน รู้สึกจะมีช่วงเวลาเฮงซวยตั้งแต่มาเหยีบที่นี่เลยสินะ

พริเช: ชั้นก็ไม่ใช่พวกชอบแส่เรื่องชาวบ้าน หรือในอีกความหมาย ชั้นไม่ใช่พวกชอบเสือ*น่ะนะ

พริเช: แต่ว่ามันติดใจชั้นจริงๆ ถามจริงๆเหอะ นายเอาเครื่องรางนั่นมาจากไหน ?

........................

พริเช: เด็กชายผมขาว... ไม่เคยเห็นมาก่อนแฮะ... นายแน่ใจนะ...

พริเช: เอาเถอะ ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงก็ตาม ยังไงชั้นก็ไม่ใช่ขโมย เพรางั้นนายเอาเครื่องรางนี่กลั...... !!







ทันใดนั้นเครื่องรางก็เกิดเรืองแสงขึ้นมา จนพริเชตกใจจนปล่อยมันร่วงสู่พื้น



พริเช: นี่มัน....



แล้วแสงจากเครื่องรางก็ดับไปพร้อมกับเอลวานชราคนหนึ่งเดินเข้ามา







เดสพาชิไอเร(Despachiaire): ท่านพริเช ไม่ทราบว่าท่านพอจะมีเวลาให้ข้าซักครู่รึไม่ ?

พริเช: อะไรกันเดสพาขิไอเร ? ไม่ยักกะเคยเห็นท่านมาหาชั้นในช่วงพักมาก่อน

พริเช: ชั้นน่ะเป็น "ผู้น่ารังเกียจ" มาพูดกับชั้นแบบนี้ระวังจะโดนท่านเทพธิดาลงฑัณเอานะ

เดสพาชิไอเร: ........

พริเช: เอาเถอะ.....

ท่านต้องการอะไร ?

เดสพาชิไอเร: ข้าได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่ปรากฏขึ้นที่แหลมริเวอเน ณ ที่นั้น จ้าวมังกรได้ปรากฏตัวขึ้น

พริเช: ชั้นเองก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อน ถ้าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นคิดจะจู่โจมเรา มันคงจะไม่ผ่านที่นี่ไปเฉยๆแบบนี้แน่

เดสพาชิไอเร: ท่านพริเช...

ท่านคิดรึไม่ว่า มังกรตนนั้นเอง อาจเป็นมังกรหนึ่งเดียวกับที่ปรากฏบนภาพวาดแห่งดินแดน อัลดายู

พริเช: อัลดายู...?

เดสพาชิไอเร: ท่านจำภาพเขียนที่เกรซโซซื้อมาจากเทนโชโดไม่ได้รึ ?



เดสพาชิไอเร: ท่านพระสันตปาปา มิลดาเรียน(Mildaurrion) ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานที่ไม่เคยเปิดเผย ของสิ่งที่จำรึกบนผืนผ้าใบนั้นแก่พวกเรา

พริเช: ถ้างั้น...ถ้ามังกรตัวที่ชั้นเห็น คือสิ่งเดียวกับที่จารึกบนภาพวาด เจ้าสัตว์ร้ายนั่นก็คือ...

บาฮามุท !?

พริเช: ชั้นจะไปตวรสอบเรื่องนี้เดี๋ยวนี้ ส่วนนาย ! ไปหาอัลเมีย(Ulmia) แล้วรีบพาเธอมาที่นี่ให้เร็วที่สุด



จบบทที่ 2.-3 Phomiuna Aqueducts

.........................................................



Final Fantasy Xi Games Game Online Final Fantasy

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา