SPOILED FFXII STORY-LINE
บทแปลชิ้นนี้ทำขึ้นเพื่อร่วมแบ่งปันความประทับใจเนื้อหาที่เข้มข้นนาติดตามของภาคนี้
หลังจากที่ไม่มีอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้แปลอะไรเป็นเรื่องเป็นราวจนจบมานานพอสมควร
งานชิ้นนี้ผมแปลจากบทสนทนาในอีเวนท์ระหว่างเกมเป็นหลัก จากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาไทย โดยมิได้พึ่งพาโปรแกรมแปลภาษาที่ไหน ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นซับนรกไปได้ เชื่อว่าหากอ่านดูผู้อ่านจะได้รับอัธรสในการเล่นเกมนี้เพิ่มขึ้นครับ ถ้ามีจุดผิดบ้างเช่นชื่อของตัวละครหรือสถานที่ไม่ตรงกัน หรือมีคำผิดเมื่ออ่านต่อไป เพราะคนแปล ๆ มากเข้า ๆ ก็เบลอเหมือนกัน คนที่เจอจุดผิดหรือสงสัยกรุณาตักเตือนด้วยนะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอรับประกันในความเที่ยงตรงตามต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นครับผม
ศักราชวาเลนเดียเก่าปีที่ 706
ราชอณาจักรดัลมัสกา พระนครราบานัสต้า
ท่ามกลางบรรยกาศแห่งความสุข การเฉลิมฉลองเนื่องในพิธีอภิเสกระหว่างเจ้าหญิงกับเจ้าชายของสองเมือง
ในนามของพระบิดาผู้ยิ่งใหญ่ ขอประกาศว่าบัดนี้เจ้าทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว
ไม่ว่าพวกเจ้าจะไปยังแห่งหนใด ขอพระองค์ทรงประธานพระพรให้แก่พวกเจ้าตลอดไป
ฟารัม
แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นแสนสั้นนัก
เสธ....ถ้าหากหลังจากนี้ อัลเคเดียตีกระหนาบพร้อมกันทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศละก็
ใครคนหนึ่งเข้ามากลางที่ประชุมอย่างเร่งรีบ
นับบุดิสแตกแล้ว!....บัชรายงานอย่างร้อนรน
ราชา....ว่ายังไงนะ!?
ลัสลา....ท่านพ่อล่ะ!?
บัช....ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรครับ ท่านลัสลา
เสธ....ในเมื่อนาบูดิสแตกแล้ว ก็ไม่มีอะไรขัดขวางการรุกรานดัลมัสกาของกองทัพอัลเคเดียได้อีก
พวกมันจะประชิดพรมแดนเมื่อไหร่ ปัญหาอยู่ที่เวลาเท่านั้นนะขอรับ
ราชา....ถ้าอย่างนั้น นัลบีน่า....
บัช....กระผมขออาสาไปเอง!
ให้ผมไปด้วยเถอะครับ!....ลัสลากล่าวอย่างไม่มีทีท่าลัง
ขอให้กัลเทียจงปกปักษ์เจ้า....ราชามอบดาบให้แก่ลัสลา นับทัพอันเกรียงไกรออกสู้ศึกกับอัลคาเดีย
เป็นพระกรุณา....ลัสลาน้อมรับดาบ หันไปส่งสายตาให้กับภรรยาข้าวใหม่ปลามันอย่างอาลัยอาวรณ์
ปราสาทป้อมปราการนัลบีน่า ใกล้กับชายแดนระหว่างดัลมัสกากับนาบูราเดีย
ลัสลาและบัชนำทัพออกต่อกรกัลกองทัพอัลคาเดียอย่างห้าวหาญ แต่ก็ต้านทานไว้ได้ไม่นาน
บัช....ป้อมนี้กำลังจะแตกแล้ว! เราต้องถอยแล้ว!
ยังหรอก เรายังมีกำแพงเวทย์มนต์!....ลัสลาคัดค้าน
ไม่ทันขาดคำทหารอัลคาเดียบุกเข้าไปสังหารเหล่าพ่อมดที่ทำหน้าที่ร้ายเวทย์คุ้มครองเมืองภายในหอคอย
บัช....กำแพงเวทย์มนต์! มาได้เท่านี้เองรึ!
ศัตรูของท่านพ่อ ศัตรูของท่านพ่อ!....ลัสลายังไม่เลิกรา
ทหารอัลคาเดียนายหนึ่งง้างคันศรเล็งมาที่ลัสลา
ท่านลัสลา....บัชร้องเตือนเสียงดัง พร้อมกับลั่นศรใส่ทหารข้าศึกผู้นั้น
แต่สายเกินไป ลูกศรพุ่งปักกลางอกของลัสลา บัชรีบเข้าไปฉวยตัวลัสลาไว้ พาเขาฝ่าวงล้อมของศัตรู
กายของเจ้า
จะได้รับพระพรจากพระบิดาผู้ยิ่งใหญ่
กลับสู่ผืนแผ่นดิน
วิญญาณของเจ้าจะกลับไปสู่พระมารดา
และได้รับความสงบชั่วนิจนิรัน
ฟารัม
การสิ้นพระชนในสนามรบของฝ่าบาท ลัสลา.เฮออส.นาบราเดียเป็นเพียงโศกนาฏกรรมบทหนึ่งของราชอณาจักรดัลมัสกาเท่านั้น
เมื่อสูญเสียความหวังซึ่งนำพามาโดยการสมรสของเจ้าหญิงอาเช่ ก็ดูเหมือนว่าดัลมัสกาจะถูกคลื่นแห่งความบ้าคลั่งของยุคสมัยกลืนกินไปเสียสิ้น
ยุคสมัยแห่งสงครามจราจล สงครามแก่งแย่งสิทธิ์ความเป็นจ้าวแห่งอีวาริส ระหว่างจักรวรรดิอัลเคเดียแห่งฝากตะวันออก และจักรวรรดิโรซาเรียแห่งฝากตะวันตก
จักรวรรรดิอัลเคเดียรุกรานราชอณาจักรนาบูราเดียเพื่อเป็นก้าวแรกในการรุกคืบไปยังด้านตะวันตก
บ้านเกิดเมืองนอนของฝ่าบาทลัสลาล่มสลายไปกับไฟสงคราม
ในที่สุดดัลมัสกาที่รับการรุกรานของจักรวรรดิก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน
การพ่ายแพ้ที่ป้อมนัลบีน่า ทำให้ดัลมัสกาเสียกำลังรบไปถึงกึ่งหนึ่ง
กองทัพอัศวินผู้จงรักภักดีพยามโต้กลับ
ทว่าไม่สามารถต้านทานกองทัพจักรวรรดิที่มีกำลังเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ซ้ำยังถูกไล่ต้อนจนเกือบพินาศสิ้นทั้งหมด
ในที่สุดอัลเคเดียได้เสนอให้สงบศึก
แท้จริงนั้นคือการบังคับให้ยอมแพ้สงครามนั่นเอง
สหายเก่าของข้า ราชาแห่งดัลมัสกา ฝ่าบาทรามินัส
ตัดสินใจยอมแพ้อย่างช่วยมิได้ ทรงประภาสไปยังปราสาทป้อมปราการ นัลบิน่า ซึ่งตกอยู่ภายใต้การครอบครองของกองทัพจักรวรรดิ
ทว่าหลังจากฝ่าบาทเสด็จออกจากพระนครนาราบัสตาไปได้ไม่นาน
เหล่าอัศวินแห่งดัลมัสกาที่ยังมีชีวิตรอดเหลืออยู่เพียงจำนวนน้อยนิด
ก็ได้รับข่าวสารอันน่าอึดอัดใจ
“ มีการเคลื่อนไหววางแผนลอบปลงพระชนในพิธีลงนามสนธิสัญญาสงบศึก”
ฮัลม์.ออนดอลที่ 4 (บันทึกช่วยจำ) (บทที่ 12 ประเทศที่ดวงตะวันอัศดง)
Final Fantasy Xiii
Final Fantasy Xii
Final Fantasy