SRW X scenario 3

Scenario 2- จักรพรรดิเทพปีศาจ นามของข้าคือ มาจินไกเซอร์



ที่สถาบันวิจัยพลังแสง DR ยูมิได้ทำการซ่อมแซมหุ่นยนต์ที่ได้รับความเสียหาย และพูดถึงการติดตั้งอุปกรณ์เสริมให้กับเกรทมาชินก้า ซึ่งก็คือ เกรท บูสเตอร์ แต่ยังมีปัญหาอีกหลายจุด ส่วนพวกนักบินก็จะพากันวิจารณ์ถึงกองทัพคิไคจูใหม่ของ DR เฮลที่แข็งแกร่งขึ้นมาก สักพัก ริวเซย์ที่เดินทางมาสมทบจากฐานทัพอริโซน่าก็จะมาถึงพร้อมกับ R-1 ซึ่งเมื่อเขาทราบเรื่องมาชินก้า Z ถูกแย่งชิงแถมคาบุโตะก็ยังหายไปอีกก็จะตกใจมาก ชิโร่ (น้องของคาบุโตะ) เสียใจและเป็นห่วงพี่ชายมาก ซายากะจึงต้องคอยปลอบโยนต่างๆนาๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็ใจคอไม่ค่อยดี โคจิคุงอย่าตายนะ…. ส่วนทางด้านริอุที่คลั่งไคล้การต่อสู้ ก็จะไปขอคำชี้แนะจากพอนลีด้วย

หลังจากนั้น ริวเซย์ก็จะถามถึงพวกอายะจากวีเร็ตต้า เธอก็บอกว่า ตอนนี้ ไรไปช่วยสหพันธุ์โลกรับมือกับ

กองกำลัง ZAFT ส่วนอายะกับไมนั้น…รักษาตัวอยู่ที่เกาะอาตาเลียใต้ แต่ไม่เป็นอะไรร้ายแรง ไม่ต้องเป็นห่วง

กลางดึกคืนนั้น บารอน อาชูร่าได้นำกองทัพคิไคจูรุ่นใหม่บุกโจมตีสถาบันวิจัยพลังแสง และที่ทำให้ทุกคนตกใจมากคือ หนึ่งในบรรดาคิไคจูนั้น มีมาชินก้า Z ที่ได้รับการดัดแปลงเป็น มาชินก้า อาชูร่าอยู่ในนั้นด้วย!



พวกนักบินออกปฎิบัติการ “ แกกล้าทำกับคุณคาบุโตะและมาชินก้า Z ของฉันแบบนั้น ไม่ให้อภัยแน่!”

ริวเซย์ตะโกน กองกำลังไดคูมาริว (ตอนนี้ยังไม่มีการแถลงชื่ออย่างเป็นทางการ เอาชื่อนี้ไปก่อนนะครับ) ได้ร่วมแรงร่วมใจจัดการกับพวกคิไคจูไปได้ทั้งหมด แต่ยกเว้นมาชินก้า อาชูร่า ที่เท็ตสึยะไม่สามารถตัดใจโจมตีได้ “ นั่นมัน ของๆโคจิคุง” เลยโดนมาชินก้า อาชูร่าเล่นงานจนเสียหายหนัก



และทันใดนั้น ท่ามกลางสายฟ้าที่ผ่าลงมา ปรากฎร่างยักษ์สีดำทะมึน

“รูปร่างแบบนั้น มาชินก้าอีกตัวเหรอ” ริอุอุทาน

หุ่นร่างยักษ์ที่ปรากฎตัวขึ้นมีรูปร่างคล้ายกับมาชินก้า ซีรี่ย์แต่เป็นตัวที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน DR ยูมินำภาพขึ้นจอภาพใหญ่ เมื่อพิจารณาแล้วก็ตกใจมาก นี่คือ ต้นแบบของมาชินก้า ซีรี่ย์ ผลงานของ DR คาบุโตะ จูโซที่สร้างก่อนมาชินก้า Z แต่เนื่องจากเกรงกลัวในพลังอันมหาศาลไร้ขอบเขตของมัน จนต้องปิดผนึกเอาไว้ ชื่อของมันคือ จักรพรรดิเทพปีศาจ มาจินไคเซอร์!



มาจินไคเซอร์ ใช้พลังที่เหนือกว่า ราวกับฟ้ากับดิน เล่นงานมาชินก้า อาชูร่า จนเสียหายยับเยินและบารอน อาชูร่า

ต้องหนีเอาตัวรอด แต่ มาจินไกเซอร์ก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น กลับอาละวาดทำร้ายกองกำลังไดคูมาริวต่อ “ พวกนี้ ก็เป็นศัตรู!” นักบินของมาจินไกเซอร์ตะโกน DR ยูมิเห็นว่า ไม่มีทางเลือกอื่น เลยขอให้กองกำลังไดคูมาริวทุกคนช่วยกันหยุดมาจินไกเซอร์เอาไว้



เมื่อหุ่นทุกตัวรวมพลังกัน ก็ทำให้มาจินไกเซอร์ชะงักไปด้วยชั่วขณะ แต่แล้ว จู่ๆ พลังของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล (แบบเดียวกับที่ มาชินพาวเวอร์ทำงานเมื่อพลังใจนักบินถึง 130 น่ะครับ) และก็ทำท่าจะยิง ไฟเยอร์บัสเตอร์ พลังแสงความร้อนที่เหนือกว่าเบรสไฟเยอร์ถึง 10 เท่าออกมา วีเร็ตต้าคำนวนว่า ถึงหุ่นทุกตัวจะหลบทัน แต่สถาบันวิจัยก็คงจะโดนไปด้วยแน่ๆ จึงแปลงร่าง R-GUN POWERD เป็นปืนใหญ่และยิง HTB CANNON เข้าต่อต้าน โดยมีไกคิงส์ยิงซัลไกเซอร์สนับสนุนด้วย ผลของแรงปะทะทำให้หุ่นทั้งสามกระเด็นออกไป แต่มาจินไกเซอร์กลับยังลุกขึ้นได้ และมุ่งหน้าไปยังสถาบันวิจัยต่อ ซายากะเห็นเงาจากห้องนักบินของมาจินไกเซอร์ลางๆ ยามพระอาทิตย์ขึ้น จึงร้องออกไปว่า “ หยุดนะ โคจิคุง!”



สิ้นเสียงร้องของซายากะ นักบินคนนั้น ซึ่งก็คือ คาบุโตะ โคจิจริงๆ ก็ค่อยๆได้สติ เขาพูดช้าๆว่า “ซา.. ยา… กะ ..ทุก คน” แล้วมาจินไกเซอร์ก็หยุดการเคลื่อนไหว ระหว่างนั้น จะมีมังกรเหล็กตัวหนึ่งปรากฎตัวขึ้นในตำแหน่งทุกคนไม่ทันได้สังเกต “ ไม่ใช่ อาณาจักรร้อยมาร….” มังกรตัวนั้นพูดกับตัวเอง แล้วก็จะหายตัวไป



จากนั้น พวกเราก็จะพาคาบุโตะไปรักษาตัวที่ห้องพยาบาล ท่าทางของเขาอ่อนเพลียมากทำให้วีเร็ตต้านึกถึงสภาพของอายะที่หมดสติไป หลังจากที่ใช้ระบบ T-LINK เกินขีดจำกัดของตัวเอง ส่วนพวกที่เหลือก็จะได้รับฟังเรื่องของมาจินไกเซอร์จากปากของ DR ยูมิ “ ปู่นายนี่อัจฉริยะจริงๆ พับพ่า” เท็ตสึยะอดแซวคาบุโตะในใจไม่ได้

ที่เกาะบาดอส DR เฮลที่ทราบเรื่องราวทั้งหมดจากบารอน อาชูร่า ก็เลยไม่ติดใจเอาโทษ แต่มอบหมายหน้าที่ใหม่ ให้ไปชิงตัว มาจินไกเซอร์มาให้ได้แทน

Fiction

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา