Iron Man : มหาประลัยผู้ชายเตารีด??? (Spoil)

คำเตือน : บทความนี้ยาวอีกแล้วครับ แต่จะไม่ยาวเท่าRambo ฉะนั้นใครขี้เกียจอ่าน ไปอ่านตรงวิจารณ์ตัวหนังได้เลยครับ







Iron Man นั้น คือฮีโร่มาเวลที่หลายๆคนรู้จักกันดี ถูกสร้างสรรค์เนื้อเรื่องโดยสแตนลี และถูกเขียนโดย ลาร์รี่ ลีเบอร์, วาดโดย ดอน เฮค และ แจ็ค เคอร์บ ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือTales of Suspense ฉบับที่ 39 เมื่อปี ค.ศ.1963 ซึ่งครั้งแรกปรากฏตัวในรูปแบบเกราะสีเทา ดูทึ่มๆ จนดัดแปลงเป็นอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้



เรื่องราวของIron Man กล่าวถึง โทนี่ สตาร์ค มหาเศรษฐีหนุ่มผู้มีกิจการบริษัทผลิตอาวุธให้ทางกองทัพสหรัฐ ผู้ใช้ชีวิตตามภาษาเศรษฐี เป็นเพลย์บอย (เกร็ดเล็กๆ สแตนลีได้ต้นแบบโทนี่มาจาก โฮเวิร์ด ฮิวจ์ เจ้าพ่อหนังสือกระต่ายหื่น Playboy) อยู่มาวันนึงเค้าประสบอุบัติเหตุ สเก็ดระเบิดเข้าใกล้หัวใจเค้า เค้าจึงต้องยื้อชีวิตตัวเอง และเป็นIron Man



อันIron Man นั้น มีโปรเจคการสร้างหนังมาชาตินึงแล้วครับ Universal Studiosซื้อสิทธิไปสร้าง โดยหวังจะไปถล่มBatman ของ WB ที่Tim Burton สร้างไปแล้วดังระเบิด และผู้กำกับStuart Gordon ได้มาขอเสนอตัวเป็นผู้กำกับ ด้วยทุนสร้างที่ประหยัด.......ทุนสร้างประหยัดอะนะจะทำได้ ทางUniversal Say No ทันที และเจ้าGordonเนี่ย (ไม่ใช่Gordon Freeman นะ!!!) เค้าถนัดหนังสยองขวัญมากกว่า โปรเจคนี้เลยโดนพับไป







จนเวลาล่วงมานานแสนนานถึง7ปี สิทธิของIron Man ก็ตกไปอยู่ในมือของ20th Century Fox โดยประกาศว่าจะให้พี่หัวเถิกที่ปัจจุบันกลายเป็นบักกระโหลกไฟไปแล้วอย่าง Nicolas Cage มาเล่น เจ้าตัวบอกสนใจซะด้วยสิ แต่เพราะTim Burton บอกจะทำSuper Man หัวเถิกแกเลยสนใจจะไปเล่นซุปเปอร์แมนมากกว่า (สุดท้ายก็อด)







เมื่อพี่หัวเถิกไม่เอา ทีนี้มีคนสนใจอย่างคนหน้าหล่อแต่ตัวเตี้ยอย่าง Tom Cruise พร้อมประกาศว่า "ผมจะอำนวยการสร้างด้วย" อะเฮ้ยๆ สแตนลีเห็นบอก โอเคมาร่วมวงกัน โดยให้คนเขียนบท 007 ภาค Goldeneye มาเขียนบทให้ แต่ว่าบทไม่เป็นรูปร่างซะที เพราะบทIron Man เนี่ยมันไม่ซับซ้นเลยง่ายๆ แต่จะให้น่าสนใจนี้สิยาก จนป๋าCruise ไม่เอา ไปเล่นสายลับเปลี่ยนหน้าภาค2อย่าง M:I 2 ดีกว่า







ยังๆ เรื่องมันยังวุ่นต่อไป เมื่อผู้กำกับสุดแนวที่กำกับหนังบู๊เลือดสาด Kill Bill นามว่า Quentin Tarantino บอกจะเขียนบทและกำกับเฟ้ย แต่ป๋าแกชอบประกาศทำเรื่องนู้นเรื่องนี้ ไม่เป็นจริงจังซะที สุดท้ายค่าย20th Century Fox ออกอาการเซ็ง เลยขายสิทธิให้ทาง New Line Cinema แทน







เมื่อสิทธิมาทางNew Line ก็มีข่าวว่ามีคนเขียนบทแล้ว ซึ่งทีมเขียนบทนั้นปัจจุบันเค้าเขียนบทPirates of the Caribbean และอีกคนเขียนบทอนิเมชั่นหุ่นยักษ์สนุกๆอย่าง The Iron Giant โดยบอกว่าจะใส่ นิค ฟิวรี่ ซุปเปอร์ฮีโร่อีกคนมาด้วย และบทก็จะเขียนออกมาเรียบง่ายแต่น่าสนใจ แฟนๆIron Man เริ่มเฮ เพราะบทหนังเริ่มเป็นรูปร่างแล้ว ทางNew Line เลยไปคุยกับJoss Whedon ผู้กำกับซีรีย์ BuffyและAngel แต่เค้าได้Say No ไปเพราะซีรีย์ทั้ง2เรื่องกำลังถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ New Line เลยไปหา Nick Cassavetes มากำกับแทน ข่าวหนังเรื่องนี้ฉายปี2006 ก็บรึ้มทันที



แต่ทางNew Line กับ Cassavetes เกิดขัดแย้งกัน เมื่อ Cassavetes จะทำหนังฮีโร่ชีวิต (ซึ่งช่วงนั้นHulk ของผู้กำกับหนังชายคาวบอย2คนบนผู้เขา Ang Leeได้ทำมาแล้ว และเจ๊ง) และในที่สุดโปรเจคนี้ก็เข้ากรุไปเรียบร้อยอีกครั้งและทางNew Line ก็คืนสิทธิให้ Mavel ซึ่งทางนั้นก็ปรับปรุงบทไปเรื่อยๆ แต่ออกมาพูดเกริ่นๆเหมือนกันว่า Iron Man อาจเป็นฮีโร่ที่ไม่ได้สร้างเป็นหนัง







และหลังจากนั้น Jon Favreau ตอนแรกเค้าจะทำCaptain America แต่ไปๆมาๆเค้าบอกว่า เค้าจะทำIron Man และพ่วงคนเขียนบทArthur Marcum และ Matt Holloway และพกมาอีกทีมคือ Mark Fergus และ Hawk Ostby ซึ่งเค้าเขียนบทหนังดีมากๆอย่างเรื่องChildren of Men มาแล้วจนกระทั้งงานการ์ตูนงานนึง (จำไม่ได้ว่างานอะไร) ทางMavel เปิดตัวอย่างแรกของหนังIron Man เพื่อบอกว่า ของแท้โว้ย สร้างเสียงฮือฮา และโฮ่ร้องด้วยความดีใจของแฟนๆIron Man







และทีนี้หนังเปิดตัวเรื่องแรกของค่าย Mavel Studio ที่เป็นเรื่องแรกที่เค้าควักตังค์ออกทุนเอง ก็ถือกำเนิดขึ้น











Iron Man มหาประลัยคนเกราะเหล็ก







เรื่องย่อ



โทนี่ สตาร์ค เป็นนักประดิษฐ์และนักอุตสาหกรรม มหาเศรษฐีพันล้านที่ถูกลักพาตัวไปขณะอยู่ต่างบ้านต่างเมือง แล้วก็ถูกบีบบังคับให้คิดค้นอาวุธที่มีประสิทธิภาพการทำลายล้างสูง แทนที่เขาจะใช้สติปัญญาอันปราดเปรื่อง และแนวคิดอัจฉริยะประดิษฐ์ตามคำสั่ง แต่ว่าโทนี่กลับสร้างชุดเกราะไฮเทค และหนีรอดการถูกจองจำมาได้ พอกลับมายังอเมริกาโทนี่ก็ต้องเผชิญหน้ากับอดีต และล่วงรู้แผนการชั่วร้ายที่มุ่งทำลายล้างโลก เขาจึงต้องสวมชุดเกราะทรงพลัง และปฏิญาณว่าจะพิทักษ์โลกใบนี้ในนาม ไอรอน แมน







มุมมองโซมะ

จากที่ผมไปหาประวัติมา ผมรู้เลยว่าฮีโร่ตัวนี้กว่าจะมาเป็นหนังได้ผ่านอุปสรรคเยอะมาก เลยตั้งความหวังสูงพอดูกับหนัง และแล้วใช่ครับ ตัวหนังทำมาสมศักดิ์ศรีที่โดนอู้มานานเกือบ 18ปี ครับผมจะบอกว่าหนังฮีโร่เรื่องนี้ มันเรียกได้เลยว่า เป็นหนังฮีโร่ที่ผมชอบมากๆ หลังจากที่เท่าที่ผมดูหนังฮีโร่มะกันมา ชอบแค่2เรื่องเท่านั้น นั้นก็คือ Batman Begin และ Spider Man2







ตัวหนังเขียนบทถึงกึ๋นมากครับ สมกับที่ลากคนเขียนบทมาเยอะ สามารถทำให้การ์ตูนที่เนื้อเรื่องธรรมดา ไม่ซับซ้อน กลายเป็นความสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ หนังมีบทที่ไม่น่าเบื่อเลยครับ ใช่ที่ถึงแม้คุณดูมันก็เข้าทางหนังซุหเปอร์ฮีโร่หลายๆเรื่อง แต่ด้วยความจำเจ ผู้เขียนบทและคนกำกับสามารถถ่ายทอดออกมาได้สนุกอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะบทของโทนี่ที่แกกวนได้ใจผมgต็ม100เลย







เอฟเฟคของตัวหนังนั้น ผมบอกได้เลยว่าเจ๋งครับ เอฟเฟคต่างๆของตัวIron Manทำมาเนียนใช้ได้เลยดีเทียว เอฟเฟคนี้ช่วยทำให้หนังมี ผู้แอ็คชั่นที่ถึงใจจริงๆครับ ให้ตายเถอะ ดูฉากแอ็คชั่นเรื่องนี้แล้วมันเท่ แต่ว่าฉากแอ็คชั่นตอนท้ายมันไม่ค่อยเต็มที่แปลกๆ เลยรู้สึกช่วงท้ายมันยังไม่ถึง (แต่ก็ยังสนุก) เร้าใจมาก แต่ดนตรีประกอบกลับทำมาได้ธรรมดานะสำหรับตัวผม แต่ไม่คิดมากครับ เพราะหนังทำส่วนอื่นมากลบหมด เลยมองๆข้ามไปได้







ส่วนสำคัญของหนังเรื่องนี้ที่ทำให้สุดยอดจริงๆคือดารานักแสดงครับ หนังฮีโร่เรื่องนี้เจ๋งมากในเรื่องการคัดเลือกดารานักแสดง ผมพูดตัวเด่นๆเลยนะครับ คนแรกไม่พูดไม่ได้คือ Robert Downey Jr ผู้เล่นเป็นโทนี่ สตาร์ค ยกนิ้วเลยครับว่า เค้าเล่นได้กวนมากๆๆๆๆ คือเค้าสามารถถ่ายทอดบุคลิคของโทนี่ มารวมกับเค้าได้อย่างลงตัวมากๆ จนเรียกได้ว่าบทโทนี่นี้สมบูรณ์ได้เลยทีเดียว ทั้งมุข สีหน้า ความยียวนกวนประสาท เค้ามีครบครับ สมกับเป็นโทนี่ที่แฟนๆการ์ตูนรอกันเลยทีเดียว ส่วนGwyneth Paltrow ผู้ซึ่งเล่นเป็นเปปเปอร์ เลขาของโทนี่ ถึงแม้เธอจะอายุมากแล้ว แต่เธอเล่นเรื่องนี้ผมว่าเธอน่ารักมาเลยอะ คือเธอเล่นได้แบบว่าเข้าใจเลยว่าทำไมโทนี่ถึงไว้ใจเธอ เพราะเธอเล่นได้น่าเชื่อถือมาก ส่วนTerrence Howard ผู้เล่นเป็นจิม (หรือวอร์แมชชีน) นั้นเล่นได้เสมอตัวครับ ไม่หวือหวา แต่เมื่อถึงคราแกปล่อยมุข ก็เอาฮาแตกได้เหมือนกัน ส่วนตัวร้าย โอมาเดรียนของเรื่อง บอกได้เลยครับ ตอนแกเล่นคนดี ผมเชื่อว่าแกคนดีเลยล่ะ แต่พอแกร้าย ก็ร้ายจริงๆเลยนะ







ที่ขอชมอีกอย่างคือ ซับไตเติ้ลครับ ทำออกมาได้เจ๋งมาก คือหนังกวนแล้ว ซับไตเติ้ลนี้เพิ่มความกวนเข้าไปตรึมเลย (ขอบอก ฉากตอนโทนี่ฝึกบินได้แล้ว อ่านซับให้ดี ตอนผมดูฮาทั้งโรงครับ)







สรุป : นี้คือการเปิดซัมเมอร์ได้อย่างสุดยอด บทที่เขียนออกมาได้สนุกทั้งที่มันไม่ซับซ้อน ฉากแอ็คชั่นที่ทำมาถึงใจ ดาราเล่นได้สุดยอด และซับไตเติ้ลที่ฮาแตก ผมพร้อมจะมอบเกรดหนังเรื่องนี้ให้เต็มที่เลยครับ A(ขอตัดช่วงบู๊สุดท้ายที่ทำออกมาได้ไม่ถึงเท่าไร)



สำหรับผู้ไปดูหนัง หนังจบอย่าพึ่งลุกนะครับ เพราะจบเครดิตจะมีฉากอีกนิด ซึ่งมันคือหนทางใหม่ของหนังฮีโร่มาเวล ที่หลายๆท่านที่คลั่งฮีโร่Mavel ร้องกริ๊ดแน่



เครดิต

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6570289/A6570289.html

http://www.popcornmag.com/bbs/index.php?showtopic=4534

http://movie.mthai.com/view/16/20802-movie_profile.movie

http://forums.popcornfor2.com/index.php?showtopic=56838



เอาล่ะครับก็วิจารณ์พอหอมปากหอมคอไป สัปดาห์หน้าเจอกันในSpeed Racer นะครับ เอาล่ะวันนี้ก็ขอใช้มุขเดิมนะครับ ลาล่ะ555



Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา