Mecha Story: คราวนี้ก็...

แหะๆ หายไปซะนาน มีคนเสนอให้หาของใหม่ๆมาบ้างก็เลยพยายามหยิบผลงานมาราธอนเกินสิบปีของอ.มาโมรุ นากาโนะมาเขียน (มันยังไม่จบก็ต้องถือว่าใหม่สิ!)...ความพยายามเขียนถึงเลดมิราจล้มเหลวเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนี่? ว่าแล้วก็ไปเอาอย่างอื่นมาเขียนพลางๆ





เมกิลอท

หุ่นยนต์ไร้คนบังคับซึ่งเป็นอาวุธที่มีจำนวนมากที่สุดของจักวรรดิเซบัลมารี ทุกครั้งที่ชาวบัลมาเริ่มการโจมตีดาวเคราะห์จะใช้กองทัพเมกิลอทเป็นการเปิดฉาก หน้าที่จริงๆของเมกิลอทก็คือเก็บข้อมูลและวัดความสามารถของเผ่าพันธุ์เป้าหมาย ซึ่งเผ่าพันธุ์ที่ไม่สามารถรับมือเมกิลอทได้ก็จะนับเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่มีค่าและถูกกำจัดทิ้ง อาวุธหลักของเมกิลอทก็คือเลเซอร์วงแหวนที่ยิงจากปาก บนหัวมีเขาสำหรับต่อสู้ในระยะประชิดและสามารถกัดศัตรูได้ มนุษย์โลกพบกับเมกิลอทครั้งแรกที่วงโคจรของดาวพลูโตเมื่อยานฮิริวออกสำรวจอวกาศ ซึ่งฝูงเมกิลอทได้เข้าโจมตีฮิริวและจิกันสคูโดที่ทำหน้าที่คุ้มกันจนเสียหายอย่างหนักและต้องกลับโลกก่อนกำหนด เมกิลอทปรากฏตัวใกล้กับโลกในการทดสอบครั้งหนึ่งของPTX-007-1 เกสเพนสท์มาร์คทูว์R ซึ่งเอลซัม ฟอน บรันสไตน์นักบินทดสอบได้ทำลายเมกิลอทที่เข้าโจมตีและจับไปให้ศจ.เบียน ซอลดาร์คศึกษาได้ เมกิลอทจึงถูกมนุษย์โลกเรียกด้วยรหัส AGX-01 บั๊ก

ในภาคOG นอกจากเมกิลอทแล้ว แอโรเกเตอร์ยังใช้งานหุ่นยนต์แบบเดียวกันอีกสองรุ่นคือ อิลเมยา (AGX-02 สไปเดอร์) ซึ่งมีรูปร่างแบบแมงมุม ส่วนก้นของอิลเมยาเป็นโฟตอนแก็ตลิ่งและใช้ยิงสไปเดอร์เน็ตสำหรับจับการเคลื่อนไหวของศัตรู อิลเมยาบินไม่ได้แต่สามารถต่อสู้ในน้ำได้ดี ส่วนอีกรุ่นก็คือมิชเรย์ (AGX-03 เบิร์ด) ซึ่งมีรูปร่างแบบนกและสามารถต่อสู้กลางอากาศได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ มิชเรย์ต่อสู้ด้วยปืนอ็อปติคัลแคนน่อนแฝดและเล็บ ส่วนในอัลฟ่า3 จะมีโยเอลา ซึ่งมีรูปร่างแบบปลาแต่บินได้ โยเอลาและเมกิลอทมีรุ่นพิเศษคือ เมกิลอท เบน และ โยเอลา เบน ซึ่งฝังผลึกสฟิลูดและสามารถใช้ยิงเป็นอาวุธได้ ในภาคอัลฟ่า เมกิลอทของกองยานที่7จะใช้ผลึกสฟิลูดเป็นแกนกลาง ซึ่งในการต่อสู้กับมนุษย์โลกนั้นผลึกสฟิลูดในตัวเมกิลอทจะส่งข้อมูลในการต่อสู้ไปยังผลึกที่เป็นแกนของยานเฮลมอสเพื่อให้สฟิลูดพัฒนาการเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งขึ้น



















เซคาเรีย, ฮาบากุก, เอเซคิเอล และ เบมิดบัน

หุ่นรบรูปร่างแบบมนูษย์ซึ่งบัลมาจะเริ่มใช้งานหลังจากที่เผ่าพันธุ์เป้าหมายสามารถต่อสู้กับเมกิลอทได้ เซคาเรีย (AGX-07 โซลเจอร์) เป็นหุ่นรบแบบอเนกประสงค์และมีคุณสมบัติคล้ายกับPT ข้อมูลบางแหล่งระบุว่าเซคาเรียนั้นเป็นรุ่นที่19และประจำการในกองทัพบัลมาเป็นเวลากว่า200ปีแล้ว อาวุธของเซคาเรียก็คือดาบเลเซอร์และอ็อปติคัลไรเฟิล ส่วนฮาบากุก (AGX-08 แฟทแมน) เป็นยูนิตยิงสนับสนุนระยะไกลด้วยดีไวเดอร์มิสไซล์ซึ่งเก็บไว้ในส่วนหัวและเมทาเลียมแคนน่อนสองกระบอกที่พับเก็บไว้ที่เท้าซึ่งจะพลิกมาด้านหลังเมื่อใช้งาน ฮาบากุกสามารถเคลื่อนที่ได้ช้าจึงมีเกราะที่ทนทานกว่าเซคาเรีย

สุดท้ายก็คือเอเซคิเอล (AGX-12 ไนท์) ซึ่งเป็นหุ่นรบรุ่นผลิตใช้งานที่มีสมรรถนะสูงทั้งด้านความคล่องแคล่วและเกราะป้องกัน รวมถึงมีโอลก้าแคนน่อนซึ่งมีอานุภาพสูงเป็นอาวุธหลัก ที่หัวเข่ามีสปาร์คตอร์ปิโดเป็นอาวุธเสริมและใช้ดาบเลเซอร์เป็นอาวุธในระยะประชิด เนื่องจากใช้ทรัพยากรในการผลิตมากจึงมีจำนวนน้อย ในบรรดาเอเซคิเอลทั้งหมดมีที่ได้รับการปรับปรุงพิเศษสามเครื่องคือเอเซคิเอล อาดอม ของเกซ่า ฮากาน่า (เทนซัน นาคาจิม่า) กับ เอเซคิเอล ลาวาน ของ กาลูอิน เมฮาเบล (กาเหว่ย เหลา) ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้มีสมรรถนะสูงกว่าเดิม และ เอเซคิเอล ซากอล ของ อาทัด ชามลัน (เจนนิเฟอร์ ฟอนดา)ซึ่งติดตั้งระบบT-Link

ในภาคอัลฟ่า3 หุ่นรบทั้งสามแบบได้พัฒนาไปเป็นรุ่นใหม่ โดยมีเอสริมเป็นหุ่นรบอเนกประสงค์แทนเซคาเรีย เอสริมรุ่นปกติจะใช้บารัคไรเฟิลและดาบออร์เบลดเป็นอาวุธ แต่เอสริม โรชซึ่งเป็นรุ่นจ่าฝูงจะมีเซนเซอร์เสริมบนหัวและมีราคาฟมิสไซล์เป็นอาวุธเสริม ส่วนฮาบากุกพัฒนาไปเป็นฮาไก โดยใช้ปืนใหญ่มุดการ์แคนน่อนที่มีอานุภาพมากกว่าเดิมสองกระบอกเป็นอาวุธหลัก ส่วนหัวสามารถเปิดออกเพื่อยิงราคาฟมิสไซล์ได้ ฮาไกยังมีฮาไก ยัดซึ่งสามารถต่อสู้ในระยะประชิดตัวได้ดีกว่าเดิม สุดท้ายก็คือเอเซคิเอลซึ่งแทนที่ด้วยเชมูเอลที่เน้นการต่อสู้ระยะประชิดมากกว่าเดิม โดยใช้หอกดาการ์สเปียร์ที่สามารถใช้ยิงบารัคช็อตได้เหมือนปืนและที่ไหล่ทั้งสองข้างจะติดตั้งออร์แคนน่อนเอาไว้ เชมูเอล เบนซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของเชมูเอลจะสามารถรวมพลังงานจากดาการ์สเปียร์ของเชมูเอล เบนสามเครื่องเป็นแรมบอลซึ่งมีอานุภาพสูงในระยะไกลได้ เชมูเอลเป็นหุ่นรบรุ่นผลิตใช้งานที่มีจำนวนน้อยที่สุดของเซบัลมารีและเกือบทั้งหมดเป็นของกลุ่มองครักษ์คุ้มกันดาวบัลมา

หนึ่งในเชมูเอลก็คือเครื่องสีขาวของลูเรีย เคทซ์ องครักษ์ของเจ้าหญิงอัลมานา ทิคเวอร์ซึ่งได้เข้าร่วมกับอัลฟ่านัมเบอร์เพื่อปกป้องทางช้างเผือกจากหายนะแห่งอโพคาลิปซิส นอกจากลูเรียแล้ว ชาวบัลมาอีกคนที่เข้าเป็นสมาชิกของอัลฟ่านัมเบอร์ก็คือบารัน โดบัน นักรบแห่งตระกูลโดบันซึ่งช่วยลูเรียคุ้มครองอัลมาน่า หุ่นรบของบารันก็คือเบมิดบัน หุ่นรบโบราณที่มีอายุกว่า500ปีซึ่งสืบทอดมาในตระกูลโดบันโดยปรับปรุงสมรรถนะมาเรื่อยๆ เบมิดบันใช้อาวุธเพียงลูกตุ้มขนาดยักษ์ ซึ่งพลังของเบมิดบันนั้นสามารถโค่นไรโอได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวและมีพลังป้งกันที่สามารถทนการโจมตีจากไรซิ่งเมเทโออินเฟอร์โนของไดไรโอได้









B-ATM-03 แฟทตี้

ATของบาลาแลนท์ยูเนียนที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อสู้กับสโคปด็อกหลังจากที่ATรุ่นก่อนหน้านี้คือ B-ATM-01 บล็อคเกอร์ประสพความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับสโคปด็อกแล้วแฟทตี้ก็ยังมีสมรรถนะที่ด้อยกว่าอยู่ บาลาแรนท์จึงผลิตแฟทตี้เป็นจำนวนมากเพื่อให้สู้กับสโคปด็อกได้ แฟทตี้ใช้โฮเวอร์เจ็ตในการขับเคลื่อนแทนล้อติดเท้าแบบสโคปด็อก แขนซ้ายติดตั้งเครื่องพ่นไฟขนาดเล็กและมือกล ส่วนอาวุธมือถือจะใช้ปืนคาทาพัลต์ลันเชอร์เป็นอาวุธหลัก

ตลอดสงครามร้อยปีนั้นบาลาแรนท์ได้ดัดแปลงแฟทตี้เป็นรุ่นต่างๆ ซึ่งเท่าที่ค้นข้อมูลได้ก็คือ B-ATM-03-DT แฟทตี้ภาคพื้นดิน ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ในทะเลทราย แฟทตี้ภาคพื้นดินใช้ล้อติดเท้าแบบสโคปด็อกแทนโฮเวอร์เจ็ตและติดอาวุธหนักไว้ โดยมีทั้งแบบติดตั้งมิสไซล์ลันเชอร์สามลำกล้องกับไพล์บังเกอร์และแบบติดตั้งมิสไซล์ลันเชอร์หกลำกล้องแฝด ซึ่งทั้งสองรุ่นจะมีปืนครกสองลำกล้องและไรเฟิลเป็นอาวุธเสริม



ข้อมูลฉบับไม่เต็ม แต่ลงมาให้อ่านเล่นๆก่อน (มีโอกาสหาข้อมูลเพิ่มได้จะกลับมาเขียนอีก...)





แทคติคัลอาร์ม ไรเดน แบบ17 กับ เมทัลเฟค อิชตาร์มาร์คทูว์

จากเรื่องกาซารากิ ผู้กำกับคนเดียวกับโวท่อมนั่นแล หุ่นสองตัวนี้จะนับว่าใช้แนวคิดเดียวกับATในโวท่อมแต่มาแปลงให้ดูไฮเทคขึ้นเล็กน้อยก็คงได้มั้ง ลักษณะสำคัญอยุ่ที่กล้ามเนื้อเทียม"ไมล์วัน"ซึ่งประกอบจากมอเตอร์ขนาดนาโนมาชีนจำนวนนับไม่ถ้วน TAนั้นได้รับการพัฒนาโดยโกวะอินดัสทรีโดยใช้ข้อมูลที่ศึกษามาจากเกราะยักษ์โบราณ"คุงาอิ" ส่วนMFได้รับการพัฒนาโดยองค์กรซิมบอลด้วยข้อมูลที่ศึกษามาจากซากของคุงาอิที่พบในจีน ซึ่งเป้าหมายจริงๆของทั้งหุ่นทั้งสองก็คือเป็นร่างจำลองของคุงาอิเพื่อใช้เรียกกาซาระ พลังวิญญาณอันลึกลับที่มีมาแต่อดีตกาล

เท่าที่รู้ เรื่องนี้26ตอนมีหุ่นอยู่3.5แบบแค่นั้นเอง โดยนอกจากสองตัวข้างบนกับคุงาอิแล้วก็มีชินเดนซึ่งเป็นไรเดนรุ่นพิเศษที่ได้รับการดัดแปลงเพื่อให้ปฏิบัติการได้เป็นเวลานาน



รูปแถมๆ



เซบเซนจากซีโนเกียร์ (เรื่องนี้ก็เป็นความล้มเหลวของกระผมอีกเรื่อง) เอามาให้ดูก็เพราะ...



อยากโพสต์รูปนักบินน่ะซี่ :D



Shadow of the White Base!



คาเมนไรดั้ม!



คาเมนไรดั้ม เซตรองเกอร์! (มีคู่หูด้วยแน่ะ)



สุดท้ายแล้ว อ็อพติมัสโกะ!



คราวหน้าต้องรีไซเคิลแล้วล่ะมั้ง...
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา