Mecha Story: ไดโนเสาร์ กับยานกู้ภัย



IFX-4DW1 อกราเวน (update)

KMFของรุษลึกลับ วิซาร์ด อกราเวนนั้นมีรูปแบบคล้ายกับกาเรธ (แต่ตอนที่วิซาร์ดปรากฏตัวนั้นกาเรธยังไม่เข้าประจำการ) ที่ต่างกันคือมีมือแบบมนุษย์อยู่ในปืนใหญ่ฮาดรอน จึงสามารถใช้ดาบMVSต่อสู้ในระยะประชิดได้ อกราเวนยังสามารถแคสต์ออฟปลดปืนใหญ่ฮาดรอนกับเกราะชั้นนอกออกไปเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้สู้ในระยะประชิดได้ดีขึ้น และยังมีเบลซลูมินัสไว้ป้องกันตัว





RZX-7Z-01C วินเซนท์แกรม

วินเซนท์เครื่องพิเศษเฉพาะตัวของไลอา สมาชิกเข้าใหม่ของหน่วยปราบกรามการก่อการร้าย กลินดาไนท์ (ซึ่งก็คือออร์เฟียส ซีวอนปลอมตัวมา) วินเซนต์แกรมเข้าร่วมกลินดาไนท์ก่อนหน้าที่วินเซนต์จะเข้าประจำการอย่างเป็นทางการและปรับแต่งตามความต้องการของไลอาโดยเฉพาะ เป็นKMFที่ออกแบบให้เน้นการต่อสู้แบบตัวคนเดียวแทนการทำงานเป็นทีม ที่ไหล่มีอาวุธที่เรียกว่า"วูล์ฟส์ทูธ"ติดเอาไว้ และติดดาบไว้ทั้งMVSกับโลหะชร็อตเตอร์กับเบลซลูมินัสแบบเดียวกับของแลนสล็อตเกรลเอาไว้ รวมทั้งยังได้เอาฮาดรอนบลาสเตอร์มาติดตั้งเป็นการทดลองก่อนนำไปใช้กับแลนสล็อต เนื่องจากมีหน้ากากติดอยู่ที่หน้าจึงได้รับฉายาจากกลุ่มต่อต้านบริทาเนียว่า"หน้ากากขาว"





RZ-001 โกจูลัส

(ถ้าเทียบกันแล้ว จริงๆแล้วตัวนี้ล่ะคือ"กันดั้ม"ของซีรีส์นี้ แต่ทำไมในอนิเมเป็นแค่ตัวประกอบ? ทำไมสัญลักษณ์แห่งสาธารณะรัฐถึงต้องไปหลบอยู่ให้หมากับแมวออกหน้าอยู่เรื่อย?)



ซอยด์สายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสาธารณรัฐเฮลิค ซึ่งเฮลิคนั้นได้เริ่มใช้งานโกจูลัสตั้งแต่ก่อนทำสงครามชิงทวีปกลางกับจักรวรรดิเซเนบัสและเป็นซอยด์ขนาดใหญ่มากรุ่นที่สามต่อจากแมมมอธและบิกาซอโร โกจูลัสนั้นเน้นการต่อสู้ในระยะประชิดด้วยกำลังในระยะประชิด แต่ในช่วงแรกนั้นขนาดอันใหญ่โตของโกจูลัสก็ล้ำหน้าเกินกว่าระดับเทคโนโลยีของดาวZiไปมาก ทำให้มีปัญหามากมายโดยเฉพาะด้านอัตราตอบสนองต่อการบังคับที่ต่ำจนแทบใช้ในการต่อสู้ไม่ได้เลย



แต่เมื่อยานสำรวจกลอบอลลีทรีจากโลกตกลงบนดาวZi โกจูลัสก็ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกำเนิดพลังงานเสริมของซอยด์คอร์ซึ่งทำให้อัตราตอบสนองของโกจูลัสสูงขึ้นมาก และยังติดตั้งอาวุธบีมและเลเซอร์ทำให้สามารถต่อสู้ในระยะไกลได้ดีขึ้นด้วย รวมทั้งเกราะที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้จากหุ่นยนต์ที่ใช้ในการรบจริงไม่ได้กลายเป็นสุดยอดอาวุธไป ในตอนที่เริ่มทำสงครามกับเซเนบัสนั้นกองทัพเซเนบัสไม่มีซอยด์ขนาดใหญ่มากไว้ต่อกรกับโกจูลัสเลย ตำนานไร้เทียมทานของโกจูลัสนั้นยุติลงเมื่อเซเนบัสพัฒนาซอยด์ขนาดใหญ่มากของตัวเอง ไอออนคอง ลงสู่สนามรบซึ่งพลังในการยิงโจมตีระยะไกลที่เหนือกว่าของไออนคองนั้นทำให้ได้เปรียบอย่างมาก แต่โกจูลัสก็ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ไปเป็นโกจูลัสมาร์คทูว์โดยติดปืนใหญ่แฝดไว้ให้ยิงต่อสู้กับไอออนคองได้ ในฐานะที่เป็นซอยด์ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเฮลิค ตลอดสงครามจนถึงหายนะครั้งใหญ่ของดาวZiนั้นโกจูลัสก็ได้ประจำในแนวหน้าตลอดโดยไม่เคยถูกปลดระวางเลย และประธานาธิบดีเฮลิคที่สองเองก็มีโกจูลัสเป็นซอยด์ประจำตัวตนเองด้วย ซึ่งเมื่อยานกลอบอลลีทรีจะกลับโลกในช่วงหลังสงครามกับเซเนบัสครั้งแรกนั้น ประธานาธิบดีเฮลิคก็ได้ถอดซอยด์คอร์ของโกจูลัสเครื่องนี้ให้ชาวโลกไปเป็นที่ระลึกด้วย (แต่ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นหนึ่งในซอยด์คอร์ที่มนุษย์โลกใช้เป็นเมทัลฮาร์ทของเทพเกราะยักษ์หรือไม่)





หลังหายนะครั้งใหญ่ของดาวZi แม้ว่าชาวดาวZiจะสูญเสียเทคโนโลยีที่พัฒนาในช่วงหลังไปมากมาย แต่โกจูลัสก็ยังคงอยู่ในกองทัพเฮลิคเหมือนเดิมโดยเป็นซอยด์รุ่นแรกสุดที่เฮลิคเอากลับมาใช้งาน เกราะของโกจูลัสรุ่นใหม่นี้เป็นไททาเนียมแบบใหม่ซึ่งเบากว่าเดิมทำให้เสริมเกราะให้หนากว่าเดิมได้โดยที่ความคล่องตัวสูงขึ้น อุปกรณ์ที่โกจูลัสมาร์คทูว์เคยใช้อย่างบีมแคนน่อนแฝดนั้นก็กลายเป็นอุปกรณ์เสริมมาตรฐานของโกจูลัสไป และเฮลิคก็ยังใช้วิธีปรับปรุงดีไซน์ของโกจูลัสไปเรื่อยๆเหมือนเดิม โดยที่สำคัญก็คือรุ่นที่ใช้ออร์กานอยด์ซิสเต็มเพิ่มพลังในการต่อสู้เป็นโกจูลัสดิโอเกอร์







โกจูลัสนั้นยังคงมีการใช้งานมาจนถึงช่วงสงครามกับนีโอเซเนบัส โดยในช่วงนี้มีรุ่นที่ติดตั้งอิออนบูสเตอร์สำหรับใช้งานในน้ำ เรียกว่าโกจูลัสมารีเนอร์ ซึ่งโกจูลัสมารีเนอร์บางเครื่องนั้นได้ดัดแปลงรูปร่างให้ใช้ในน้ำได้ดีขึ้นไปจนคล้ายกับโมซาเลดจ์ด้วย



(คราวนี้น่าจะเป็นภาคสุดท้ายที่จะทำจริงๆแล้วนะ...จนกว่าจะมีไฟทำคาร์เรนเจอร์)



วิคทอรีโรโบ

ร่างรวมของ 99มาชีน (คิวคิวมาชีน) พาหนะกู้ภัยที่ศจ.มอนโด ทัตสึมิพัฒนาขึ้นเพื่อใช้รับมือปิศาจภัยภิบัติ ไซมา โดยครอบครัวไซมานั้นได้พยายามเรียกมารดาของตน นางพญาแกรนดีน ซึ่งเป็นตัวตนของพลังงานด้านลบ ไมนัสเอเนอจีในจักรวาล โดยอาศัยปรากฏการณ์แกรนด์ครอสซึ่งดาวนพเคราะห์เรียงตัวเป็นรูปกางเขนโดยมีโลกเป็นศูนย์กลาง โดยผู้ควบคุม99มาชีนก็คือทีมโกโกไฟฟ์ ซึ่งเป็นลูกๆของศจ.ทัตซึมินั่นเอง 99มาชีนนั้นประกอบด้วยเรดแลดเดอร์ บลูโธรเวอร์ กรีนโฮเวอร์ เยลโลอาเมอร์ และพิงค์เอดเดอร์ ในเวลาออกปฏิบัติการนั้นจะใช้รถไฟโกไลเนอร์บรรทุกจากฐานเบย์แอเรีย55 ซึ่งบลูโธรเวอร์กับเยลโลอาเมอร์ และพิงค์เอดเดอร์นั้นจะประกอบกันเป็นส่วนขาตั้งแต่เอวลงมา ซึ่งก็สามารถใช้ปฏิบัติการในร่างนี้ได้ เรียกว่า วิคทอรีวอล์คเกอร์ จากนั้นเรดแลดเดอร์กับกรีนโฮเวอร์ก็จะประกอบเป็นลำตัวที่เหลือ วิคททอรีโรโบนั้นไม่มีค็อกพิตรวมและโกโกไฟฟ์แต่ละคนก็จะแยกกันอยู่ใน99มาชีนของตน ซึ่งเดิมทีนั้นศจ.ทัตซึมิออกแบบวิคทอรีโรโบไว้เป๋นหุ่นยนต์กู้ภัยแบบมนุษย์ แต่ก็ได้ดัดแปลงมาให้ใช้ในการต่อสู้แทน แขนสองข้างของวิคทอรีโรโบเป็นบันไดช่วยเหลือผู้ประสพภัยและสามารถยืดได้ถึง54เมตร ซึ่งวิคทอรีโรโบก็สามารถใช้การยืดหดแขนบันไดเป็นท่าต่อยรัว แลดเดอร์บอมเบอร์ ได้ แขนบันไดนี้ยังมีกำลังและความทนทานพอที่จะจับศัตรูทุ่มหรือยกตัววิคทอรีโรโบขึ้นจากพื้นได้ ที่แขนยังมีอิมแพคท์กันขนาดเล็ก ตราสัญลักษณ์ที่ท้องของวิคทอรีโรโบนั้นสามารถแยกออกมาและกลายเป็นดาบ เบรฟเวอร์ซอร์ด ซึ่งจะใช้เป็นท่าไม้ตาย วิคทอรีโปรมิเนนซ์ โดยประจุพลังงานพลัสเอเนอจีที่ตรงข้ามกับไมนัสเอเนอจี จึงเป็นเหมือนจุดอ่อนสำคัญของอสูรไซมา



เมื่อโกโกไฟฟ์ต้องต่อสู้กับแม็กมาโกเลมที่คืนชีพขึ้นมาอีกครั้งซึ่งมีความทนทานต่อพลัสเอเนอร์จีและหักเบรฟเวอร์ซอร์ดได้นั้น ศจ.ทัตซึมิก็ได้ดัดแปลงรถไฟโกไลเนอร์ซึ่งใช้บรรทุก99มาชีนไปยังที่หมายให้สามารถประกอบแต่ละส่วนกันใหม่เป็นหุ่นยนต์ แกรนด์ไลเนอร์ ได้ แกรนด์ไลเนอร์นั้นมีขนาดใหญ่กว่าวิคทอรีโรโบประมาณครึ่งหนึ่งและมีพลังสูงที่กว่ามากโดยไม่ใช้พลัสเอเนอจีรวมทั้งยังมีความทนทานสูงมาก ค็อกพิตของแกรนด์ไลเนอร์เป็นค็อกพิตรวมของโกไลเนอร์1 ในช่วงแรกนั้นการจะใช้งานแกรนด์ไลเนอร์จะต้องเก็บ99มาชีนเข้าไปในตัวโกไลเนอร์แต่ละส่วนก่อนจึงจะแปลงร่างได้ และกำลังมหาศาลของแกรนด์ไลเนอร์ยังทำให้มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่รุนแรงในต็อกพิตจนแม้แต่ชุดแอนติฮาซาร์ดของโกโกไฟฟ์ก็ยังป้องกันไม่ได้ แต่ทั้งสองประการนี้ต่อมาก็ได้แก้ไขจนไม่เป็นปัญหาอีก อาวุธของแกรนด์ไลเนอร์ก็คือปืนไลเนอร์แก็ตลิงที่ไหล่ขวา กับมิสไซล์พ็อด ไลเนอร์โฮมมิงที่ไหล่ซ้าย ซึ่งสามารถบรรจุมิสไซล์ความเย็นเอาไว้ได้ ที่หน้าอกสามารถยิงลำแสงไลเนอร์พลาสมาบีมได้ ส่วนท่าไม้ตายก็คือ แกรนด์ไฟเยอร์ ซึ่งระดมยิงไลเนอร์แก็ตลิงกับไลเนอร์โฮมมิงออกไปพร้อมๆกัน กับแกรนด์สตอร์มซึ่งถอดอาวุธทั้งสองมาสวมไว้กับหมัดแล้วยิงด้วยท่าชก





ศจ.ทัตซึมิยังได้พัฒนาแม็กซ์ซิสเต็มสำหรับสนับสนุนการต่อสู้ของโกโกไฟฟ์ ซึ่งแม็กซ์ซิสเต็มนั้นมีระบบAIที่มีความคิดและเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งยังพูดได้ ในตอนที่ปล่อยตัวออกจากแม็กซ์แอเรียนั้นจะเป็นรถไฟความเร็วสูง แม็กซ์ไลเนอร์ และสามารถแปลงร่างเป็นกระสวยอวกาศ แม็กซ์ชัทเทิล ซึ่งจะใช้ช่วยดึงโกไลเนอร์ที่บรรทุก99มาชีนไว้ในตัวให้ขึ้นไปในอวกาศได้ และเมื่อทำการต่อสู้ก็จะเป็นในร่างหุ่นยนต์แบบมนุษย์ ไลเนอร์บอย ซึ่งใช้โล่ติดบีมกัน บลาสเตอร์ชิลด์เป็นอาวุธเพื่อสนับสนุนโกโกไฟฟ์ จุดอ่อนของแม็กซ์ซิสเต็มก็คือใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์ตามตัว ซึ่งถ้าไม่มีแสงอาทิตย์แล้วพลังงานของไลเนอร์บอยก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว และต้องแปลงเป็นแม็กซ์ชัทเทิลผละจากการต่อสู้ไปเพื่อรับพลังงานแสงในอวกาศก่อนที่พลังงานจะลดลงจนเคลื่อนไหวไม่ได้ แม็กซ์ซิสเต็มยังสามารถแยกชิ้นส่วนและประกอบกับวิคทอรีโรโบเป็น แม็กซ์วิคทอรีโรโบ ได้ แขนของไลเนอร์บอยจะกลายเป็นอิอ้อนบาซูก้า แม็กซิมัมแคนน่อน บลาสเตอร์ชิลด์จะประกอบกับหน้าอก ที่แขนทั้งสองมีปืน Vแม็กซ์แคนน่อนสองกระบอกติดคู่ไว้กับอิมแพคท์กัน แม็กซ์วิคทอรีโรโบสามารถลอยตัวในระดับต่ำได้ แผงสุริยะที่ติดตามตัวนั้นนอกจากใช้รับแสงตามปกติแล้วยังสามารถรับการโจมตีของศัตรูแล้วแปลงเป็นพลังงานของตนเองได้ แต่ถ้าใช้รับการโจมตีที่รุนแรงเกินไปก็จะเกิดความเสียหาย ท่าไม้ตายของแม็กซ์วิคทอรีโรโบก็คือ แม็กซ์โนวา ซึ่งระดมยิงอาวุธทั้งหมดออกไปอย่างต่อเนื่อง แม็กซ์โนวานั้นมีระยะหวังผลที่ไกลจนสามารถยิงศัตรูที่อยู่บนดาวเคราะห์อื่นได้จากบนพื้นโลก แต่แม็กซ์โนวานั้นใช้พลังงานมาก ถ้าไม่ได้แปลงพลังงานจากโจมตีจากศัตรูและใช้พลังงานแสงอย่างเดียวแล้วก็จะต้องใช้เวลาชาร์จพลังงานนานขึ้น



ต่อมาศจ.ทัตซึมิยังได้พัฒนามาร์สมาชีนห้าเครื่องสำหรับเป็นพาหนะกู้ภัยในอวกาศและสามารถใช้โกไลเนอร์บรรทุกได้เหมือน99มาชีน มาร์สมาชีนทั้งห้านั้นสามารถประกอบกันเป็นหุ่นยนต์แบบสี่ขา บีเทิลมาร์ส ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในสภาพแรงโน้มถ่วงที่แตกต่างจากโลกมาก และมีมาร์สแคนน่อนติดไว้ด้านบนเป็นอาวุธ ที่ขาคู่หน้ายังมีมือกลติดอยู่ เมื่อต้องทำการต่อสู้เต็มรูปแบบ บีเทิลมาร์สก็จะแปลงเป็นร่างแบบมนุษย์ วิคทอรีมาร์ส ร่างของวิคทอรีมาร์สนั้นทนทานต่อแรงกดและความร้อนได้สูงมาก และเหมาะที่จะใช้ต่อสู้ในไซมาโซนที่มืดมิดยิ่งกว่าเครื่องอื่นๆ มาร์สแคนน่อนของบีเทิลมาร์สนั้นจะกลายเป็นหอกเจ็ตแลนซ์ ซึ่งส่วนปลายหอกนั้นมีกระสวยอวกาศ ท็อปเจ็ต ที่ยิงออกไปได้ ที่แขนยังมีบีมกัน มาร์สแรพิด ติดเอาไว้ ส่วนท่าไม้ตายก็คือ มาร์สแฟลร์ ซึ่งใช้เจ็ตแลนซ์ที่ยิงท็อปเจ็ตออกไปแล้วฟันเป็นรูปกากบาท วิคทอรีมาร์สยังเคยใช้เบรฟเวอร์ซอร์ด ของวิคทอรีโรโบเพื่อใช้วิคทอรีโปรมิเนนซ์ด้วยตนเอง
Games Super-Robot-Wars Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา