Review : FF12 : RW 12 ชั่วโมงที่ดูเหมือนสั้นแต่เต็มอิ่ม + ฉากจบลับ

ตอนแรกกะว่าจะเล่นไปสักนิดแล้วจะมารีวิว ไปๆมาๆกลายเป็นเล่นจนจบซะงั้น

12 ชั่วโมงนี่ไม่ใช่ว่าสักแต่เล่นมิชชั่นหลักๆนะ แต่เล่นเกือบครบทุกมิชชั่น ขาดมิชชั่น Side Story บางอันที่พลาดไปตอนไหนก็ไม่รู้ อสูรขาดไป 2 ตัวคือ บาฮามุท(Lv 85) กับ โซดิอาค(Lv 95) คือเจอแล้วแต่สู้ไม่ไหว ... โหดขนาด

โม้มาแยะมารีวิวดีกว่า



ระบบเกม

======

จะดำเนินเรื่องแบบเกม Simulation ซึ่งก็จะต้องทำมิชชั่นต่อกันไปเรื่อยๆไม่มีทางแยก ไม่ต้องไปงมหาเนื้อเรื่องเท่าไหร่

โดยมิชชั่นนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของเนื้อเรื่องหลักกับ side story ซึ่งส่วน side story นี้จะขึ้นมาเองในแต่ละช่วง โดยคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการพูดคุยแบบ Free Talk กับเพื่อนๆในยานด้วย (ผมขาด Side Story ไป 7 มิชชั่น)



ระบบต่อสู้

======

จริงๆแล้วก็อิงมาจาก FF12 นั่นน่ะแหละ มีระบบแกมบิทเหมือนกัน มีมิสนัคท์เหมือนกัน แต่พอมันรวมๆกันแล้วมันกลับไปเหมือนกับเกม Ogre Battle (SFC) เอาซะงั้น แนวเกมที่ประกาศออกมาว่า RPG มันน่าจะเปลี่ยนเป็น Real Time Strategy มากกว่า

การบังคับก็ใช้ Stylus จิ้มไปที่ตัวละครซึ่งจะเป็นการเลือกเพียงตัวเดียว หรือ icon ของตัวละคร(หรือกดปุ่ม y) จะเป็นการเลือกทั้งทีม หรือกดปุ่ม x ก็จะเป็นการเลือกตัวละครฝั่งเราทั้งหมด จากนั้นก็ออกคำสั่งโดยถ้าจิ้มไปที่บริเวณพื้นที่ว่างก็จะเป็นการสั่งเดิน หรือถ้าจิ้มไปที่ตัวศัตรูก็จะเป็นการสั่งโจมตี นอกจากนี้ก็ยังมีการขุดหาวัตถุดิบ(ที่เป็นกองไม้ กองหิน กองกระดูก ที่อยู่ในฉากแผนที่) หรือการยึด Avatar Gate

นอกเหนือการโจมตีปกติแล้วตัวละครแต่ละตัวก็จะมีความสามารถพิเศษซึ่งจะเป็นท่าไม้ตายหรือเวทย์มนต์ก็ขึ้นอยู่กับตัวละคร รวมไปถึงมิสนัคท์ที่ในภาคนี้เป็นการสะสมเกจเพื่อใช้ (เหมือนลิมิทเบรคนั่นละ)



Avatar

======

เราสามารถอัญเชิญ Avatar มาช่วยเราสู้ได้ (มาเป็นลูกทีมของตัวละคร)

โดย Avatar จะแบ่งออกเป็น 3 Rank ซึ่งแรงค์ 1-2 เราสามารถเรียกออกได้ตั้งแต่เริ่มฉากเลย (auto) ส่วนแรงค์ 3 นั้นจะต้องเรียกผ่าน Avatar Gate ในฉากเท่านั้น และสามารถเรียก Avatar แรงค์ 3 ออกมาได้เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้ยังแบ่ง Avatar ออกได้เป็น 3 ประเภทคือ

- โจมตีระยะประชิด

- โจมตีระยะไกล

- ประเภทที่บินได้

และยังแบ่งตามธาตุของ Avatar อีกเป็น

ไฟ น้ำ สายฟ้า ดิน ศักดิ์สิทธ์ และ ไร้ธาตุ



License Ring

============

ก่อนที่เราจะเอา Avatar มาใช้งานนั้นต้องปลดผนึก Avatar ใน License Ring เสียก่อนโดยใช้หินวิญญาณในการปลดผลึก โดยจะใช้หินวิญญาณจำนวนเท่ากับแรงค์ของ Avatar ในการปลดผนึก คือ แรงค์ 1 ก็ใช้หิน 1 ก้อน, แรงค์ 3 ก็ใช้หิน 3 ก้อน

ส่วนช่องใน Ring ที่เป็นช่องที่แตกอยู่ ช่องเหล่านี้จริงๆแล้วก็คือ Avatar นั่นเอง แต่จะใช้งานได้ก็ต้องไปสู้กับ Avatar เหล่านั้นเสียก่อน เมื่อชนะแล้วก็ได้ Avatar เหล่านั้นมาปรากฎใน License Ring

นอกจากนี้ยังมี Avatar ที่ไม่ได้อยู่ใน License Ring ได้แก่

ฟามฟรีท กิลกาแมช บาฮามุท โซดิอาค Avatar เหล่านี้ถ้าชนะแล้วก็จะมีช่องปรากฎใน License Ring เพิ่มขึ้นมา



การตีอาวุธ

=======

ประมาณบทที่ 4 หรือ 5 (จำไม่ค่อยได้) โทมาจจะสร้างเลาจ์ขี้นมา ซึ่งเราจะสามารถผสมอาวุธได้โดยใช้วัตถุดิบที่หามาได้ ซึ่งจะต้องใช้หนังสือสูตรผสมเป็นตัวบอกว่าต้องใช้ไอเทมประเภทใหนบ้าง โดยหนังสือนี้จะได้มาเมื่อจบบางมิชชั่นทั้งส่วนของเนื้อเรื่องและ side story



ความยาก/ง่ายของเกม

==============

ไม่นับโซดิอาคกับบาฮามุทแล้วถือว่าเกมนี้ง่ายมากๆ เลเวลก็ขึ้นง่ายมากๆ ไม่ค่อยได้เปลี่ยนอาวุธ/เกราะก็ยังชนะสบายๆ

แถมเงิน เล่นจนจบแล้วยังไม่ได้ใช้เงินสักแดงเลย ....



โดยรวมแล้วเกมทำออกมาให้เล่นได้เพลินๆ ไม่ยากมากมายนัก อาจจะไม่ถูกใจกับที่ตั้งความหวังไว้ แต่สำหรับผมที่ไม่ได้คาดหวังมากมายนักประกอบกับชอบ Ogre Battle ภาคแรกเป็นทุนเดิม ทำให้เกมนี้สนุกจนติดลมจบไม่รู้ตัวไปเลย



ฉากจบลับ

=====

เงื่อนไขคือ

- เก็บ mission 100%

- ได้ avatar ครบ 100%

- ตึอาวุธครบทุกอย่าง 100%

แล้วหลังจาก ending credit ก็จะมีฉากจบที่เรียกรอยยิ้มได้เพิ่มขึ้นมา
Nintendo Nintendo Club Games

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา