ความเรียงChrno Crusade"เราสองคนจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป"(spoiler)
[font size=2 color=yellow]ความเรียง[/font]
[font size=4 color=red]เราสองคนจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป[/font]
[font size=3 color=blue][Critical Writing: Chrno Crusade Anime Series][/font]
[font size=2 color=red]“เมื่อใดที่เธอลาจากโลกนี้ไป เมื่อนั้นฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เช่นกัน”[/font]
นั่นคือคำมั่นสัญญาของChrno(โครโน่)ต่อRosette(โรเซ็ต)ในค่ำคืนของงานเทศกาล ก่อนช่วงเวลาที่กำหนดชะตากรรมและจุดจบของทั้งสอง…
คำกล่าวนี้ถูกพิสูจน์ว่าเป็นจริงในตอนจบของanime seriesเรื่องนี้ เนื่องจากบงกชยังตีพิมพ์เรื่องนี้ไม่จบ จึงไม่ทราบว่าGONZOได้ดัดแปลงจากต้นฉบับหรือไม่ แต่ถ้าเดาจากอารมณ์ที่ผู้แต่งได้สื่อออกมาในหนังสือทั้ง7เล่มแล้ว จะพบว่าไม่มีส่วนใดอ้างอิงถึงจุดจบเช่นนี้เลย ทั้งนี้จึงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ความแตกต่างของหนังสือและภาพยนตร์อีก โดยผู้เขียนขอสรุปเพียงบทโศกนาฎกรรมของคู่พระ-นางในเรื่องนี้แทน
ตอนที่24 ดำเนินเนื้อหาต่อจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของChrnoกับIon(ไออ้อน) และการหายตัวไปของพระเอกกับนางเอก ทั้งสองหนีตามกันไปหลบซ่อนอยู่ในบ้านร้างแถบชนบทอันอ้างว้าง…
ณ ตรงนี้ GONZOไม่ได้อธิบายชัดเจนถึงอาการบาดเจ็บจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของChrno และช่วงชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิดของRosette แต่กลับตัดฉากมาเป็นระยะสุดท้ายของไฟชีวิตของRosetteที่กำลังนั่งดูพระอาทิตย์ลาลับทิวหญ้า ขอชมเชยGONZOที่สามารถกำกับภาพโดยสื่อถึงวาระสุดท้ายของนางเอกผ่านการเคลื่อนไหวของพระอาทิตย์ และเพลงประกอบอันซาบซึ้งตรึงคนดูให้อินกับเนื้อหาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่อง “The Letter”
ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีที่ภาพยนตร์ได้แสดงให้คนดูเห็นบทสนทนาของคู่พระ-นาง…
GONZOได้บีบคั้นอารมณ์คนดูด้วยเสียงคร่ำครวญ อาการดิ้นรนกระเสือกกระสนอยากมีชีวิตรอดด้วยความสิ้นหวังของนางเอก
เพียงประโยคเดียวที่นางเอกพูดว่า…
[font size=2 color=red]“ฉันยังไม่อยากตาย อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก”[/font ]
พร้อมใบหน้าอาบน้ำตาแห่งความสิ้นหวังนั้น ต้องขอชมเชย [font color=orange]Kawakami Tomoko(คาวาคามิ โทโมโกะ)[/font] ที่พากย์ได้สมเป็นมืออาชีพ สามารถเข้าถึงจิตใจของตัวละครได้เป็นอย่างดี
มีเพียงคำพูดของนางเอกประโยคเดียวเท่านั้นที่บอกให้รู้ว่าChrnoบาดเจ็บเรื้อรัง…
[font size=2 color=red]“ปลดผนึกดีไหม เธอจะได้หายจากอาการบาดเจ็บเสียที”[/font]
ประโยคนี้Rosetteกล่าวขึ้นก่อนจะร้องไห้ซบอกChrno แต่คนดู(เช่นเรา)อาจจะยังไม่เข้าใจว่าพระเอกบาดเจ็บตรงไหนเพราะหน้าตาก็ยังคงน่ารักน่าชังเช่นเดิม แม้ขอบตาจะกลายเป็นหมีแพนด้าไปแล้วก็ตาม(ซึ่งปรากฏแค่1เฟรม ตัดฉากมาอีกทีก็หน้าใสปิ๊งน่าจับกดเช่นปกติแล้ว) แต่ก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นผลจากการ ”อดนอน” มากกว่าบาดเจ็บ แต่ข้อเท็จจริงนี้จะได้รับการตอกย้ำในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีที่แสดงวาระสุดท้ายอันงดงามของRosette
หากคนดูไม่เพลิดเพลินกับการสลับภาพพระอาทิตย์สีแดงฉานดวงกลมโตค่อยๆเลื่อนลับทิวหญ้า ภาพRosetteร่ำไห้อย่างปริเวทนาการ และภาพเข็มนาฬิกาแห่งพันธะสัญญาค่อยๆเดินทีละวินาทีอย่างแช่มช้าผิดกับทุกคราที่หมุนติ้วเมื่อนางเอกมอบพลังวิญญาณให้พระเอกใช้คืนร่างเดิม รวมทั้งการที่ภาพทั้งสามนี้สลับกันไปมาไม่เร็วและไม่ถี่ยิบมากนัก
ผู้ชมก็น่าจะมีเวลาตีความได้ว่า…Rosetteได้รักษาชีวิตChrnoไว้โดยการเสียสละวิญญาณของตนเองซึ่งทำได้เพียงยื้อพระเอกให้พ้นเงื้อมมือมัจจุราชเท่านั้น แต่สุดท้ายชีวิตของนางเอกเองก็ไม่เหลือแม้เพียงเลี้ยงชีวิตของตนต่อไป ด้วยความสิ้นหวังที่จะได้อยู่ดูโลกและรับรู้ถึงความตั้งใจของพระเอกในไม่กี่วินาทีสุดท้าย Rosetteที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองในใจของChrnoนั้นจึงสามารถละสังขารได้อย่างสงบ วินาทีที่วิญญาณของนางเอกออกจากร่างไป พระเอกก็ได้ละทิ้งโลกใบนี้ไปเช่นกันดังคำมั่นสัญญาที่ได้เขียนไว้เป็นหัวข้อของความเรียงชิ้นนี้
เนื่องจากทั้งสองตระหนักรู้ถึงความจริงแห่งชีวิตก่อนลาจากโลกนี้ไป…ทำให้ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของผู้พบเห็นจึงเป็น ร่างไร้วิญญาณสองร่างซึ่งนั่งอิงแอบและเกาะกุมมือกันพร้อมรอยยิ้มอันสงบสุข
Ashmaria(แอชมาเรีย)สัมผัสได้ถึงความสุขที่อบอวลในบ้านร้างหลังนั้นจึงยิ้มออกมาได้เหมือนนางอิจฉาที่กำจัดนางเอกสำเร็จตามแผนมาก(อันนี้ความรู้สึกส่วนตัว สงสัยคนวาดจะเบลอนึกว่ากำลังวาด7เซียนซามูไรกระมัง^^;)
หากเปรียบเทียบจุดจบของRosetteกับนางเอกอาภัพอีกคน..Lady Magdalene ก็จะพบว่าฝ่ายหลังถูกกำหนดให้เป็นประสบการณ์ในรักครั้งแรกของChrnoซึ่งก่อให้เกิดการตัดสินใจจบชีวิตพร้อมคนรักคือRosetteในเวลาต่อมา…
ช่วงเวลาห้าสิบปีที่กักขังตนเองไว้ในสุสานของLady Magdaleneนั้น Chrnoคงยังสับสนและเศร้าเสียใจที่เป็นผู้ช่วงชิงชีวิตของหญิงคนรักไป และเมื่อเหตุการณ์เช่นนั้นกำลังจะเกิดซ้ำรอยกับRosette พระเอกของเราจึงตัดสินใจยุติชะตากรรมอันแสนเศร้าระหว่างมนุษย์กับปีศาจเสีย แต่ไม่ใช่เพื่อตัดทุกข์ เป็นการจบชีวิตโดยเข้าใจปรัชญาชีวิตที่แท้จริงแล้วต่างหาก จึงจากโลกนี้ไปอย่างหมดอาลัย
สุดท้ายขอชมเชยGONZOอีกครั้งที่ทำanimeเรื่องนี้ออกมาดีมาก ทั้งฉากบู๊และดราม่า เสียอยู่สองอย่างคือดัดแปลงนิสัยตัวละครสำคัญมากๆ อย่างIonไป และปิดเรื่องได้อย่างน่าวางเพลิงสตูดิโอเป็นที่สุด!(จุดนี้ขอให้ไปดูกันเองเถอะ คนเขียนอธิบายไม่ออกเพราะไม่งั้นอาจเปลี่ยนอารมณ์ซึ้งเป็นบันดาลโทสะไปเผาสำนักงานGONZOจริงๆ!)
[font color=teal size=4]FIN[/font]
[font size=2 color=purple]Special THX Hikaru=Metallium for lending your HDD^^[/font]
Miscellaneous