ศาลสูงออสเตรเลียตัดสินให้ mod-chips เป็นของถูกกฎหมายไปพลางๆก่อน
ศาลสูงของออสเตรเลียได้ชี้ขาดอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า mod-chips เป็นสิ่งถูกกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามนัยแฝงที่จะใช้สำหรับผู้ผลิตยังไม่เป็นที่แน่ชัด
mod chips คือชิ้นส่วนที่ใช้ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลี่ยงการปิดกั้น ที่เครื่อง Sony PlayStation ทำมาสำหรับป้องกันไม่ให้เล่นแผ่นเกมเถื่อนได้ นอกจากนี้ mod chips ยังทำให้ผู้เล่นเกมสามารถข้ามขอบเขตของระบบ coding ซึ่งจำกัดภูมิภาคของเครื่องและแผ่นเกม จึงสามารถเล่นเกมและ DVD ที่ไม่ได้ผลิตสำหรับการใช้งานในออสเตรเลียได้ด้วย และแผ่นเกมหรือ DVD จากนอกประเทศเหล่านั้นจะมีราคาถูกกว่าของในประเทศ
ทั้งนี้ผู้พิพากษาทั้ง 6 ของศาลสูงแห่งออสเตรเลีย ได้วินิจฉัยว่า chips ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายนี้ เป็นเรื่องที่กฎหมายยอมรับได้
การตัดสินครั้งนี้อาจจะทำให้คอเกม Playstation ตีปีกดีใจ และเป็นคำตัดสินที่ระวังข้อถกเถียงและข้อโต้แย้งของเรื่อง chips ซึ่งกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายลิขสิทธิ์นี้มาเป็นเวลานานในประเทศออสเตรเลียไปได้ แต่ก็ดูท่าว่าจะดีใจกันได้ไม่นนาน
เนื่องจากรัฐบาลกลางได้เห็บชอบด้วยกับการที่จะแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ของออสเตรเลีย เพื่อทำให้ mod chips ผิดกฎหมายแทน ในฐานะที่มีสัญญาค้าขายกับสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ศาลได้พยายามตรวจสอบและพิจารณาความถูกกฎหมายของ mod chips มาตั้งแต่ปี 2001 แล้ว เพราะบริษัท Sony Computer Entertainment Australia (SCEA) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลกลางเพื่อดำเนินคดีกับผู้จำหน่าย mod chips รายหนึ่งชื่อ Eddy Stevens
Sony ได้ร้องเรียนขอให้ศาลตัดสินเพิ่ม chips นี้ลงไปในรายชื่ออุปกรณ์ผิดกฎหมาย ภายใต้บทบัญญัติคุ้มครองลิขสิทธิ์
แต่อย่างไรก็ดี Australian Competition and Consumer Commission (ACCC) ได้เข้าแทรกแซงคดี และโต้เถียงว่าการจำกัดภูมิภาคของสินค้า เป็นการริดรอนสิทธิ์ของผู้บริโภค และได้กล่าวว่าเทคโนโลยีป้องกันชนิดนี้ของ Sony เป็นการสร้างกำแพงปิดกั้นการค้าระหว่างออสเตรเลียกับตลาดเกมและ DVD จากต่างประเทศ
ผู้พิพากษา Ronald Sackville แห่งศาลกลางจึงได้ตัดสินให้นาย Stevens พ้นผิด แต่ในรอบยื่นอุธรณ์ของ Sony คณะผู้พิพากษาของศาลกลางกลับสนับสนุนฝ่าย Sony ในเดือนกรกฏาคม 2003
เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ นาย Stevens จึงยื่นอุธรณ์ต่อศาลสูง เพื่อให้กลับคำพิพากษา
ศาลสูงได้พิพากษาลบล้างข้อแย้งของ Sony ที่กล่าวว่าเทคโนโลยี mod-chip เป็นสิ่งที่ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ในทางปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้กฎ FTA ออสเตรเลียจะมีเวลาถึงเดือนมกราคม 2007 ที่จะสรรหามาตรการอื่นที่เข้มแข็งกว่าเดิมมาให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ต่างๆ เพื่อที่จะนำไปต่อสู้กับปัจเจคบุคคลใดๆที่ "หลบเลี่ยงมาตรการป้องกัน" อื่นๆที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์
นอกจากนี้ศาลสูงยังต้องพิจารณาอีก 1 กรณีคือ เรื่องที่ถามว่าการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ใดๆที่ต้องใช้การก๊อปปี้ข้อมูลจาก RAM ของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเกมอื่นๆ นั้นถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ในสภาวะซึ่งผู้ผลิตไม่ยินยอมให้ก๊อปปี้ข้อมูลของ RAM หรือไม่
ศาลได้พิพากษาว่าผู้บริโภคไม่มีความผิด เนื่องจากไม่ได้ผลิตแผ่นก๊อปปี้ของเกม นั่นเป็นเพียงการเล่นเกมเท่านั้น
Source : Australian IT
News