เรื่องดีๆ [วันเวลา15 ปี ความรัก ทิวลิป ท้องฟ้า แสงดาว...]
เรื่องมันยาวนะครับตั้งใจอ่านละกัน
ผมกำลังยืนอยู่บนสะพานแขวนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ท้องฟ้าในคืนนี้มืดสนิท
มีเพียงแสงเรืองเรืองของหลอดไฟทอดยาวตามแนวสะพานไป
การที่ได้เห็นกรุงเทพในมุมนี้
มันทำให้ได้พบหลายต่อหลายอย่างที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น ผมมองออกไปในย่านชุมชน
แสงไฟหลากสีในอาคารบ้านเรือนกระจายไปจนสุดลูกหูลูกตา
เรียบแม่น้ำเจ้าพระยาไปเป็นถนนทอดยาว มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถที่สาดไปยังริมถนน
ส่วนบนสะพานที่ผมกำลังยืนอยู่นี้ก็เป็นถนนกว้างพอสมควร
มีรถวิ่งอย่างเบาบางเพราะคนมักจะใช้เส้นทางอื่นกัน บนนี้มันจึงเงียบสงบ
ผมไม่แปลกใจเลยที่เธอมักจะชวนผมมาที่นี่เป็นประจำ
ผมไม่ได้ขึ้นมาบนนี้หลายปีแล้วเพราะที่แห่งนี้มันทำให้ผมหวนนึกถึงเธอ
เธอมักจะให้ผมมายืนดูดาวเป็นเพื่อนเธอ
กินไอศกรีมรสสตอเบอรี่ที่เธอชอบเป็นเพื่อนเธอ >ที่แห่งนี้มันเคยทำให้ผมมีความสุข ผมคงได้ขึ้นมาบนนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
หลังจากวันนี้ไปผมจะจากไปและไม่หวนกลับมาอีก จะมีเพียงความทรงจำของเธอเท่านั้น
ที่จะอยู่ในใจผมตลอดไป……
ผมได้รู้จักเธอครั้งแรกก็เมื่อตอนที่ผมอยู่ชั้น ม.1
ผมก้าวเข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้ พวกเราต่างก็เป็นนักเรียนใหม่
หลายหลายอย่างในห้องใหม่ของผมนี้ดูมันจะน่าเบื่อซะจริงจริง
หลังจากที่เคารพธงชาติแล้วทุกคนก็เข้าชั้นเรียน
และก็เป็นธรรมดาของนักเรียนใหม่ทั้งหลายก็ต้องมีการแนะนำตัวกัน
อาจารย์ประจำชั้นของผมเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40 ดูท่าทางอาจารย์เป็นคนใจดีมาก
อาจารย์ก็เริ่มแนะนำตัวเอง ขณะที่อาจารย์กำลังพูดอยู่
ก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา “อาจารย์ค่ะ ขออนุญาตเข้าห้อง”
ผมรีบหันไปยังที่มาของเสียงนั้นทันที แล้วหญิงสาวก็ก้าวเข้ามา
โอ้!แม่เจ้าโว้ย เธอช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ ถึงดูเธอจะชอบตื่นสายไปสักหน่อย
แต่ถ้าเอามาบวกลบกับความสวยแล้ว ตื่นสายแค่นี้ผมยกให้ ความคิดผมในตอนนั้น
ทำยังไงจะได้รู้จักเธอบ้างนะเธอเดินเข้ามาแล้วก็หาเก้าอี้นั่ง
ตอนนั้นที่ข้างผมมีกระเป๋าใครก็ไม่รู้วางอยู่
คนทั้งห้องตอนนั้นก็คุยกันโดยไม่สนใจอะไรเลย
ผมเลยจับกระเป๋านายที่นั่งข้างผมโยนไปโต๊ะตัวข้างหลัง
ทั้งห้องเลยเหลือที่ว่างอยู่ที่เดียว คือที่นั่งข้างผม เธอเดินมาใกล้ๆ
ผมแล้วก็พูดอย่างอ่อนหวาน
“นั่งด้วยได้มั๊ย” ก็จะไม่ได้ ได้ยังไง
ก็ที่ตรงนี้ผมพึ่งจัดไว้ให้เธอโดยเฉพาะ ผมหันหน้าไปหาเธอแล้วก็พยักหน้า
แล้วเธอก็นั่งลงฟังที่อาจารย์พูดหน้าห้อง
ขณะที่เธอกำลังจับจ้องอยู่ที่อาจารย์
แต่ผมไม่สนใจอาจารย์เลยเอาแต่ชำเลืองไปที่หน้าของเธอ
ใบหน้าของเธอช่างขาวหมดจดอะไรอย่างนี้ แก้มเป็นสีชมพูอ่อนๆ
ดวงตาของเธอกลมโตใสเป็นประกาย ผมไม่เคยเห็นดวงตาคู่ไหนสวยแบบนี้มาก่อน
ขนตาของเธองอน ยังกะตุ๊กตา ปากเรียวเล็ก
ทั่วทั้งใบหน้าของเธอมันช่างสวยจับใจอะไรเช่นนี้
ผมใจลอยมองหน้าเธอตาไม่กระพริบเลย
ผมพยายามมองไปที่ปกเสื้อของเธอเพื่อจะดูว่าเธอชื่ออะไร
เกือบจะเห็นอยู่แล้วเชียว ทันใดนั้นเธอก็หันมาหาผม เธอยิ้ม “มีอะไรหรอค่ะ”
ผมสะดุ้งขึ้นมาทันที “อ้อ ปะ ปะ ป่าวครับ”
ผมตื่นเต้นไม่รู้จะทำอะไรเลยหยิบหนังสือในกระเป๋าขึ้นมา
ดันไปหยิบผิดหยิบเอาหนังสือโป๊ขึ้นมา เธอเหลือบมาเห็นเข้าเลยยิ้มแกมหัวเราะ
ทีแรกผมคิดว่าเธอยิ้มให้ผม แต่พอเห็นหนังสือในมือตัวเอง
ผมตกใจเลยรีบปัดความรับผิดชอบทันที “ไม่..ไม่ใช่ของผมครับ!
นายที่นั่งข้างหลังมันฝากไว้”
เธอหัวเราะอย่างน่ารัก”ก็ไม่แปลกหนิพี่ชายเค้าก็อ่าน”
ผมรีบเก็บทันทีแล้วเอาหนังสืออื่นขึ้นมา ผมอายเธอแทบแย่
ผมหยิบหนังสืออื่นขึ้นมาทันที
ผมนั่งอ่านหนังสือทั้งที่จิตใจมันอยู่ที่คนข้างข้าง
ผมนั่งเงียบได้พักหนึ่งเธอก็มาสะกิดผม ผมรีบหันไปหาเธอทันที
“อาจารย์ให้แนะนำตัวกับคนนั่งข้างข้างเค้าชื่อ รุ่งฟ้า เรียกว่า ฟ้า
เฉยเฉยก็ได้ แล้วตัวเองชื่ออะไร” ผมนั่งพิจารณาอยู่พักหนึ่ง
อืม…..คนอะไรนอกจากจะน่ารักแล้ว ชื่อก็ยังเพราะอีก “รุ่งฟ้า”
ผมทำไมชอบชื่อนี้จังนะ! ผมนั่งจนลืมไปเลยว่าเธอกำลังถามถึงชื่อผมอยู่
เธอสะกิดผมอีก
“ชื่ออะไร บอกบ้างสิ” ผมสะดุ้งอีกที “อ้อ! เราชื่อ แบ๊งค์”
“บ้านฟ้าอยู่แถวบางเขนนู้นบ้านแบ๊งค์อยู่แถวไหนหละ”
ผมตอบเธอทันทีเลยว่าอยู่แถวบางเขนเหมือนกัน
ทั้งที่ความจริงบ้านผมอยู่คนละเขตกับเธอเลย
“งั้นขากลับแบ๊งค์กลับเป็นเพื่อนฟ้านะ”
เธอก็ยิ้มแล้วพยักหน้าผมชอบรอยยิ้มของเธอจริงจริง หลังจากที่ผมรู้จักเธอ
ชั่วโมงนั้นทั้งชั่วโมงผมก็คุยกับเธอไม่หยุดเลย เธอเป็นคนพูดเพราะ
และคุยสนุกมาก ผมสามารถฟังเธอได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อเลย
หลังจากคาบนั้นผมก็ตามติดฟ้าทั้งวันเลย
ชนิดที่ว่าที่นั่งข้างเธอไม่มีใครแตะต้องได้เลย
เพื่อนทั้งห้องผมยังไม่รู้จักใครเลย ผมรู้จักแต่ฟ้าคนเดียว
หลังจากเลิกเรียนเราก็กลับบ้านพร้อมกันพอรถถึงบ้านเธอ เธอก็ลงรถ
เธอชวนผมลงไปเล่นบ้านเธอ แต่ผมก็ส่ายหน้ากลัวว่าพ่อเธอจะว่า
ผมนั่งรถเลยบ้านฟ้าไปอีก 1 ป้ายรถเมล์
จากนั้นผมก็ลงมาขึ้นฝั่งตรงข้ามเพื่อตีรถกลับไปลงโรงเรียน
แล้วผมถึงขึ้นรถที่จะกลับบ้านผมจริงจริง
และดูเหมือนการนั่งรถมาส่งฟ้าแบบนี้ผมทำทุกวันจนเป็นนิสัยเลยก็ว่าได้
ฟ้าเธอชอบที่จะมาสายทุกวันเลย อาจารย์เริ่มที่จะสอนหนังสือแล้ว
ทุกอย่างที่อาจารย์สอนดูเหมือนมันจะซึมเข้าสมองผมอย่างรวดเร็ว
แต่ฟ้านี่สินั่งฟังอยู่ด้วยกันแท้แท้ แต่เธอกลับไม่รู้เรื่องเลย
พอพักเที่ยงผมก็ซื้อข้าว 2 จานออกมานั่งทานอยู่ม้าหินอ่อนกับฟ้า
ผมไม่เคยเข้าไปทานข้าวในโรงอาหารเลย
หลังจากที่ผมยื่นจานข้าวให้เธอเธอก็นั่งทานอย่างเอร็ดอร่อย
ผมยังไม่ทานข้าวเพราะมีสิ่งที่ผมกังวลมากกว่า
ผมหยิบหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ในกระเป๋าฟ้าออกมา “ฟ้า!
ไม่เข้าใจตรงไหนเดี๋ยวแบ๊งค์ อธิบายให้ฟัง”
ผมเปิดไปเรื่อยๆขณะที่กำลังรอคำตอบจากเธอ
เธอใช้นิ้วเรียวเรียวของเธอชี้มาบนหนังสืออย่างรังเร
“ก็..ก็….ทั้งหมดเลยแหละ”
ผมจึงเริ่มอธิบายทั้งหมดให้ฟ้าฟังชนิดก๊อปทุกคำที่อาจารย์พูด
ผมอธิบายไปเกือบชั่วโมง จนหมดเปลือกเลยทีเดียว “เป็นไงฟ้าเข้าใจแล้วใช่มั๊ย”
เธอเริ่มมีอาการรังเรอีกแล้วครับท่าน “ฟ้า….ฟ้า…. เข้าใจ..ก็ได้”
ผมรู้ทันทีเลยว่าเธอไม่เข้าใจ
“โธ่! ฟ้าก็…งั้นฟังใหม่นะ”
ผมจึงเริ่มอธิบายใหม่ทั้งหมดไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบกว่าฟ้าจะเข้าใจได้
สงสัยว่าความสวยของเธอมันจะดูดกลืนเอาความเฉลียวฉลาดที่เธอมีไปซะหมดเลย
แต่ยังไงเธอก็น่ารักดี ยิ่งเวลาที่เธอทำหน้างงในสิ่งที่ผมสอน
ผมยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักเข้าไปใหญ่
ผู้หญิงในอุดมคติของผมไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งก็ได้
จากวันนั้นผมก็คอยเป็นติวเตอร์ส่วนตัวให้ฟ้าเสมอมา
หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรผมก็จะอยู่ข้างฟ้าเสมอ
แล้วความรู้ทั้งหลายก็กำลังจะต้องถูกใช้ออกมา
วันนี้อาจารย์สอบเก็บคะแนนพวกเราก่อนที่จะสอบผมก็ติวให้ฟ้าอย่างเต็มที่
ย้ำแล้วย้ำอีกจนเธอบอกว่าเธอเข้าใจอย่างดีเยี่ยมเลย พอเข้าห้องสอบผมก็เริ่มทำ
มันง่ายมากเลยสำหรับผม อาจารย์ให้เวลา 1 ช.ม. แต่ผมเสร็จตั้งแต่ 20 นาทีแรก
ผมห่วงก็แต่ฟ้าที่นั่งอยู่คนละฟากกับผมเลย
สีหน้าของเธอตอนนี้ชักจะออกอาการแล้ว
พอหมดชั่วโมงอาจารย์ก็สั่งให้ผมยกข้อสอบทั้งหมดไปวางไว้โต๊ะห้องอาจารย์
ขณะเดินผมก็รีบเปิดหาของฟ้าทันที โอ้! แม่เจ้า ผิดหมดเลยครับ
ผมยืนคิดอยู่พักว่าจะทำยังไงดี เพราะข้อสอบคราวนี้มีคะแนนเยอะมาก
หากสอบไม่ผ่าน มีหวังเกรด 0 อยู่แค่เอื้อม
ผมเลยตัดสินใจหยิบกระดาษคำตอบใบใหม่ขึ้นมาแล้วผมก็ทำใหม่ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทื่ทำก็ต้องคอยระวังอาจารย์เหมือนกัน พอผมทำเสร็จ ก็เขียนชื่อฟ้าลงไป
จากนั้นก็เก็บเข้ากองเดิมแบบที่อาจารย์ไม่สงสัยแม้แต่น้อย
ส่วนกระดาษคำตอบใบเดิมของฟ้าผมก็พับเป็นจรวดเล่นเห็นจะเป็นประโยชน์มากกว่า
หลังจากวันนั้นอาจารย์ก็ประกาศคะแนน ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ผ่านกัน
แต่ทุกคนก็ต้องอึ้ง! เมื่อทั้งห้องมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้คะแนนเต็ม
คือผมกับฟ้า
ผมหนะเขาไม่ค่อยสงสัยกันหลอกเพราะใครก็รู้ว่าผมเรียนเก่งแค่ไหน แต่ที่
“รุ่งฟ้า” ได้คะแนนเต็มนี่สิทำเอาเพื่อนๆงง แบบบอกไม่ถูกเลยหละ
เธอดีใจหันมาหาผม “เห็นมั๊ยแบ๊งค์ ฟ้าก็ทำได้”
ผมแอบหัวเราะในท่าทางอันมั่นใจว่าทำได้! ของเธอ แต่ปากผมก็ชมเธอ
ผมไม่เคยบอกกับฟ้าสักคำว่าผมเป็นคนแก้ข้อสอบให้เธอ
และผมก็ยังใช้วิธีนี้ช่วยเหลือเธอหลายต่อหลายครั้งโดยที่เธอไม่รู้ตัว
จนในที่สุดเราก็ขึ้นมา ม.2 จนได้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
ผมยังไปส่งเธอที่บ้านทุกวันไม่เปลี่ยนแปลง
ฟ้าก็ยังมาสายเหมือนทุกวันในปีที่แล้ว
จะเปลี่ยนไปก็แต่หนุ่มๆที่มาแอบชอบเธอดูเหมือนจะเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวันทุกวัน
วันนี้หลังจากโรงเรียนเลิกผมก็นั่งทำงานกลุ่มกับเพื่อนเพื่อนผมอีก 7 คน
Fiction