Mecha Story: Royal Straight Flush กับเด็กเลว

ตอนนี้ค้นข้อมูลมานานพอดูแฮะ...ลุงๆกับป้าสมัยยังซ่า (แต่แก่แล้วก็ยังซ่ากันอยู่ดี)



(ชื่อกระทู้ก็ เรียงตามไพ่ J Q K A แล้วก็แทน 10 ด้วย Joker...ใครคิดว่าจะเห็นไรเดอร์เบลดก็เสียใจด้วย)



ก่อนอื่นก็แวะข้างทางนิดนึง







EZ-038 เอเลแฟนเดอร์

ซอยด์สายพันธุ์ช้างที่พัฒนาโดยจักรวรรดิไกลอส เอเลแฟนเดอร์นั้นเป็นซอยด์ขนาดใหญ่มากที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลาย โดยสามารถถอดเปลี่ยนส่วนหัวและอาวุธที่ติดไว้กับป้อมด้านหลังกับปลายงวงได้ เอเลแฟนเดอร์มีเกราะที่หนามากและยังมีหูสองข้างเป็นเครื่องกำเนิดสนามพลังEชิลด์ทำให้มีพลังป้องกันสูงขึ้นไปอีก ใต้ท้องติดเรลกันกับลิเนียร์กันไว้ ด้านข้างตัวมีบีมกัน ส่วนหางเป็นปืนกลสำหรับยิงป้องกันตัว รูปแบบมาตรฐานของเอเลแฟนเดอร์นั้นจะมีกงเล็บสำหรับจับศัตรู(แล้วดูดเลือด)กับปืนเลเซอร์อยู่ที่ปลายงวง แต่ถ้าเน้นการต่อสู้ในระยะประชิดก็สามารถเปลี่ยนเป็น ESCSยูนิต (Energy Sword with Cannon Shield)ซึ่งเป็นทั้งบีมซอร์ดและบีมแคนน่อนในตัวได้ ป้อมด้านหลังนั้นนอกจากปืนเลเซอร์แล้วยังสามารถเปลี่ยนเป็นมิสไซล์กับปืนกลแก็ตลิงได้ รุ่นจ่าฝูงของเอเลแฟนเดอร์จะเปลี่ยนส่วนงาให้ใหญ่ขึ้นและใช้เครื่องกำเนิดสนามพลังEชิลด์ที่มีกำลังมากขึ้นอีกพร้อมกับมีระบบสื่อสารที่มีประสิทธิภาพขึ้น ส่วนเอเลแฟนเดอร์ที่ใช้งานเป็นเครื่องลาดตะเวณนั้นจะเปลี่ยนหูเป็นระบบเซนเซอร์ ติดจานเรดาร์ไว้กับป้อมด้านหลังและเครื่องตรวจจับสนามแม่เหล็กไว้กับปลายงวง

เอเลแฟนเดอร์นั้นเข้าประจำการในช่วงที่กุนเธอร์ โพรเซนบุกโจมตีทวีปตะวันตก แต่ตอนที่เอเลแฟนเดอร์ลงสู่สนามรบนั้นสาธารณรัฐเฮลิคก็เป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว บทบาทของเอเลแฟนเดอร์จึงทำหน้าที่เป็นแนวรับให้กองกำลังที่เหลือของไกลอสล่าถอยไปดินแดนตนเอง ในภาคสแลชซีโร เอเลแฟนเดอร์เป็นซอยด์ของกลุ่มแบคดราฟท์ ซึ่งมีนักบินสำคัญคือสตอลเลอร์ สฟิกมา และนับเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งของไลเกอร์ซีโรเลยทีเดียว





RZ-002 ไกแซ็ค

ซอยด์สายพันธุ์แมงป่องที่สาธารณรัฐเฮลิคพัฒนาโดยดัดแปลงซอยด์คอร์ของซอยด์แมงมุม RMZ-04 การันทูลาและเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์โลกซึ่งโดยสารมากับยานกลอบอลลีทรีที่ตกลงบนดาวZi (ลองเอาก้ามกับหางออกไปดู จะเห็นว่าเหมือนแมงมุมมาก) ไกแซ็คมีอาวุธหลักคือก้ามประจุเลเซอร์กับบีมไรเฟิล30ม.ม.ที่ติดอยู่ที่ปลายหาง ถ้าใช้งานในทะเลทรายซึ่งเป็นสมรภูมิถนัดนั้น ไกแซ็คก็จะเหมาะกับการซุ่มโจมตีมาก โดยสามารถฝังตัวในทรายได้นานถึง72ชั่วโมง และมีเครื่องปล่อยควันสำหรับอำพรางตัวขณะถอยหนี ดีไซน์ของไกแซ็คยังสามารถปรับแต่งได้ง่ายอีกด้วย โดยนอกจากจะเปลี่ยนบีมไรเฟิลเป็นบีมกันที่รุนแรงขึ้นได้แล้ว ยังสามารถเสริมเกราะได้ จึงเป็นซอยด์ที่มีการใช้งานแพร่หลายมาก มีแม้แต่รุ่นที่พลเรือนใช้ในงานก่อสร้าง ไกแซ็คจึงเป็นซอยด์ที่มีการใช้งานยาวนานต่อมาจนถึงหลังหายนะครั้งใหญ่



เข้าเรื่องๆ





GF7-013NJ ยามาโตะกันดั้ม

กันดัมของชูจิ คุโรสุ ตัวแทนของนีโอเจแปนในกันดั้มไฟต์ครั้งที่7 นักสู้กังฟูผู้กำลังฝึกฝนวิทยายุทธของตนเอง ยามาโตะกันดั้มติดตั้งอาวุธไว้เพียงปืนวัลแคนกับบีมซอร์ด และเน้นการต่อสู้ด้วยวิทยายุทธของชูจิ โดยมีไม้ตายคือกระสุนปราณจากฝ่ามือ โชคิว ฮาโอ เนชิรินดัน กับหมัดควงสว่าน โชคิว ฮาโอ เดนเกคิดัน ซึ่งชูจิคิดขึ้นเพื่อต้านหมัดสายฟ้า ไลท์นิงฟินิชของกันดั้มฟรีดอม





GF7-023NA กันดั้มฟรีดอม

กันดั้มของแม็กซ์ เบิร์น ผู้มีฉายาว่า “ไลท์นิงแม็กซ์” และเป็นตัวแทนของนีโออเมริกาในกันดั้มไฟต์ครั้งที่7 กันดั้มฟรีดอมนั้นตั้งชื่อตามกันดั้มของนีโออเมริกาซึ่งเป็นผู้ชนะกันดั้มไฟต์ครั้งที่2 ที่เอวของกันดั้มฟรีดอมนั้นติดบีมกัน “ฟรีดอมช็อต” กับพลองยืดได้เอาไว้ แต่อาวุธที่แท้จริงก็คือสนับหนามติดแขนซึ่งขณะใช้งานจะพับมาสวมที่มือ แม็กซ์นั้นมีไม้ตายคือหมัดสายฟ้า ไลท์นิงฟินิช แต่หลังจากที่แพ้ยามาโตะกันดั้มกับไกเซอร์กันดั้มแล้วก็ได้ฝึกฝนเพิ่มเติมจนได้ไม้ตายใหม่คือหมัดพายุหมุน ทอร์นาโดนัคเคิล





GF7-010NC โควกะกันดั้ม

กันดั้มของอลัน ลี ตัวแทนของนีโอไชนาในกันดั้มไฟต์ครั้งที่7 โควกะกันดั้มนั้นใช้อาวุธหลักเป็นดาบมังกรฟ้า ที่ไหล่ทั้งสองข้างมีดราก้อนไวเยอร์ยูนิตซึ่งเป็นหัวมังกรที่ติดเครื่องพ่นไฟไว้และสามารถบังคับจากระยะห่างด้วยสายเคเบิลได้ (เทียบกับดราก้อนคลอว์ของดราก้อนกันดั้มแล้วอาจจะใช้งานได้หลากหลายกว่าด้วยซ้ำ) ซึ่งอลันจะใช้ในการสกัดการเคลื่อนไหวของศัตรูหรือโจมตีร่วมกับวิชาดาบ





GF7-019NF ไอเฟลกันดั้ม

กันดั้มของนาเซียส คิลเฮีย ตัวแทนของนีโอเฟรนซ์ในกันดั้มไฟต์ครั้งที่7 ซึ่งจริงๆแล้วนาเซียสเป็นตำรวจลับที่รับหน้าที่สืบสวนเรื่องไม่ชอบมาพากลที่อยู่เบื้องหลังกันดั้มไฟต์ครั้งนั้นด้วย มีรูปร่างแบบกันดั้มโรส แต่ไม่มีบิตและเน้นการต่อสู้ด้วยกระบี่บีมเซเบอร์ โดยใช้เกราะผ้าคลุมป้องกันตัวผสานกับวิชากระบี่ ที่ลำตัวของไอเฟลกันดั้มมีปืนอนุภาคกำลังสูงอยู่หกกระบอกและที่เท้าอีกสองกระบอกเป็นอาวุธระยะไกล





GF7-018NR มอสค์กันดั้ม

กันดั้มของร้อยโททริส ซุลเกเลฟ ตัวแทนของนีโอรัสเซียในกันดั้มไฟต์ครั้งที่7 (และเป็นสาวมั่นคนเดียวในกลุ่ม) มอสค์กันดั้มนั้นมีเกราะหนาและเน้นการต่อสู้ด้วยกำลัง ที่ไหล่สองข้างมีลูกตุ้มหนาม แอตลาสแฮมเมอร์ ซึ่งเวลาใช้งานจะใช้โซ่บีมจากแขนดึงไว้ มอสค์กันดั้มยังสะพายบีมแคนน่อนขนาดใหญ่ไว้ด้านหลังและมีบีมแคนน่อนติดไว้ที่ท้องอีก จึงมีพลังทำลายในระยะไกลสูงด้วย



ชูจิกับพรรคพวกนั้นจริงๆแล้วผ่านช่วง11เดือนแห่งการเอาตัวรอดมาได้แล้วแท้ๆ แต่ได้ตัดสินใจเดินทางไปขั้วโลกใต้เพื่อหยุดผู้ก่อการร้าย คาออส แม้ชูจิจะโค่นคาออสได้ด้วยท่าไม้ตายใหม่ที่ฝึกมาจากที่ราบกิอาน่า ซันไชน์ฟิงเกอร์ กับ เซคิฮะเทนเคียวเคน แต่ก็ไม่อาจกลับไปร่วมกันดั้มไฟต์รอบตัดเชือกได้ทันเวลาและถูกปรับตกรอบไป (ผู้ชนะกันดั้มไฟต์ครั้งนั้นก็คือไกเซอร์กันดั้มของวูล์ฟ ไฮน์ริช มนุษย์หน้ากากจากนีโอเยอรมันซึ่งร่วมเดินทางฝึกฝนกับชูจิ แต่ไม่ได้ไปขั้วโลกด้วย)

ชูจิกับพรรคพวกนั้นก็คือสหพันธ์ชัฟเฟิลรุ่นแรกนั่นเอง ส่วนชูจิ - คิงออฟฮาร์ท -นั้นต่อมาก็ออกจากกลุ่มไปลงแข่งกันดั้มไฟต์ครั้งที่12 ในนามของนีโอฮ่องกง - บูรพาไร้พ่าย มาสเตอร์เอเชีย





Gบันคารัน

ซูเปอร์โรบ็อทที่ศจ.คิซาบุโร่พัฒนาขึ้นเป็นยูนิตสนับสนุนของคอมพาติเบิลไกเซอร์ รูปแบบของGบันคารันนั้นมาจากศจ.คิซาบุโร่เองสมัยวัยรุ่น จึงออกมาเป็นแบบเป็นเด็กเลวสมัยก่อน ข้อมูลการเคลื่อนไหวของGบันคารันนั้นศจ.คิซาบุโร่ได้ขอความร่วมมือจากมิจิรุ ฮานะเทน หัวหน้าเด็กเลวจากโรงเรียนบันนัมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างถล่มโรงเรียนทั่วญี่ปุ่นและมาพักอยู่ที่บ้านอาซุมะเพื่อรอซัดกับโคตะที่ตอนนั้นหลุดไปอยู่โลกต่างมิติ เอนด์เลสฟรอนเทียร์ เมื่อโคตะกลับมาและใช้คอมพาติเบิลไกเซอร์ออกรบอีก จินไรรุ่นผลิตจำนวนมากซึ่งมีโปรแกรมให้ทำลายDGGทั้งหมดก็ได้โจมตีคอมพาติเบิลไกเซอร์ซึ่งใช้เทคโนโลยีของDGGหมายเลข4ในการซ่อมแซม ศจ.คิซาบุโร่จึงให้มิจิรุใช้Gบันคารันช่วยโคตะต่อสู้กับกองทัพจินไร Gบันคารันนั้นติดตั้งอาวุธไว้เพียงลำแสงGบีมเท่านั้น แต่ก็มีเกราะหนาและมีพละกำลังมาก ซึ่งเข้ากับสไตล์การต่อยตีของมิจิรุมาก

(ส่วนเรื่องกลายเป็นมอเตอร์ไซค์นั้นต้องรอดูภาคหน้า)





ไกสต์ซีรีส์

หุ่นยนต์รุ่นพิเศษที่พัฒนาให้มนุษย์สังเคราะห์ที่เรียกว่าอิเดียแลนท์ใช้งาน โดยเท่าที่ปรากฏมีสองเครื่องคือฟลิคเคไรไกสต์ของอาเรียล ออร์ก กับอัลเลสไกสต์ของดูแวน ออร์ก ไกสต์ซีรีส์ใช้แหล่งพลังงานเป็น"ฟาวล์เคิร์น" ซึ่งก็คือคอร์ที่เก็บมาจากเยทซ์เรจิสเซียซึ่งได้รวมตัวกับไกสต์ซีรีส์ ในการทดลองในอดีตนั้น ปรากฏว่าฟาวล์เคิร์นของฟลิคเคไรไกสต์ไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้ทำให้ฟลิคเคไรไกสต์พังไปและนับเป็นยูนิตที่บกพร่อง ส่วนอัลเลสไกสต์นั้นเกิดการแปลงสภาพไปจนแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก อัลเลสไกสต์มีเกราะหนาและแขนขนาดใหญ่ไม่สมส่วน แต่ก็ใช้ในการต่อสู้ระยะประชิดด้วยพละกำลังได้ดี โดยแขนขวานั้นติดตั้งบีมแคนน่อนขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นสตันกันได้ด้วย ที่ไหล่ยังสามารถเปิดออกเพื่อยิงบีมแคนน่อนแบบสาดกระจาย "สตอร์มเรย์" ได้ จึงสามารถต่อสู้ในระยะไกลได้ดีเช่นกัน



เมื่อศจ.ออนจิ โอทซึนุ ผู้ดูแลโครงการอิเดียแลนทซ์ เสียชีวิต อิเดียแลนท์ทั้งสองจึงถูกโอนไปเข้าหน่วยไกอาเซเบอร์ แต่อาเรียลนั้นไม่เห็นด้วยกับแนวทางของไกอาเซเบอร์จึงย้ายไปเข้ากับหน่วยโคริวแทน พร้อมกับได้ฟลิคเคไรไกสต์ที่ศจ.เอริค หวังซ่อมแซมโดยใช้พาร์ทที่เก็บมาจากที่ต่างๆมาดัดแปลงให้ใช้งานได้ (ส่วนที่เป็นสีดำ) แขนของฟลิคเคไรไกสต์นั้นก็คือแขนของอัลท์ไอเซนที่ถูกโซลเกนดึงขาดตอนสงครามอินสเปคเตอร์นั่นเอง นอกจากนั้นยังได้ชิ้นส่วนของราเปียซาจที่กู้มาจากเอิร์ธเครเดิล รูปแบบการใช้งานของฟลิคเคไรไกสต์จะคล้ายกับอัลท์ไอเซน แต่ตัวเครื่องเองนั้นมีสมรรถนะที่สูงกว่าอัลท์ไอเซนที่ดัดแปลงมาจากเกสเพนสท์มาก นอกจากมาชีนแคนน่อนกับลิ่มลูกโม่แล้ว ฟลิคเคไรไกสต์ยังติดสปลิทมิสไซล์ของเกสเพนสท์ไว้และมีบีมแคนน่อนแบบสาดกระจาย "ฟอร์ซเรย์" อยู่ที่ไหล่
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา