ทิ้งท้ายปลายปีกับฟิกของผม(P.A.D.) part II Last Love And Last Emotion ตอนสุดท้าย
Source Code บรรทัดสุดท้าย : For Life For Hope For Tomorrow (เพื่อชีวิต เพื่อความหวัง เพื่อวันพรุ่งนี้)
"อั๊ก......อ๊าาาาาา"เสียงโอดครวญด้วยความเจ็บปวดของชิตเมื่อมือของหุ่นยนต์บีบรัดคอของเขาแรงยิ่งขึ้น
แสงสว่างที่ลางเลือนเบื้องหน้าของเขาที่มุ่งไปสู่ทางออกบัดนี้แลดูห่างไกลไม่มีวันที่จะเอื้อมมือไปถึง มาถึงตอนนี้ชิตได้แต่นึกถึงสิ่งที่ผ่านมา อดีตที่หวนรำลึกถึง ความทรงจำต่างๆที่ผ่านสายตาคู่นี้และล่วงเลยไป บัดนี้ความคิดของเขาเริ่มดิ่งลงสู่ความตายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วในชั่วเสี้ยววินาทีนั้นปลายทางแสงสว่างที่ดูเหมือนไกลเกินเอื้อมภาพของเด็กผู้หญิงที่ชิตรู้จักเป็นอย่างดีก็ปรากฏขึ้นราวกับว่าเธอกำลังรอเขาอยู่............
"ย๊าก...ก.............กก"เสียงตะโกนดังลั่นพร้อมกับคว้าแขนของหุ่นยนต์ไว้แล้วบีบมันจนแหลกละเอียด ร่างของเขาหล่นลงสู่พื้นในทันที
สองมือคว้าดาบที่บิ่นร้าวบนพื้นขึ้นอีกครั้งพร้อมกับยกมันชูขึ้นไปยังแสงสว่างซึ่งเป็นทางออก พวกหุ่นที่เริ่มจะตั้งตัวได้หลังจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันแห่กันเข้าไปหาชิตอีกครั้งหนึ่งแต่ครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่พวกมันคิด
"Wind Lance.....(หอกลมสวรรค์)"ด้วยแรงเฮือกสุดท้ายดาบที่ชูขึ้นฟันแหวกอากาศเบื้องหน้าให้ขาดสะบั้นเกิดเป็นแรงลมที่เพียงพอจะเชือดเฉือนทุกสิ่งที่ขวางหน้า
บัดนี้เส้นทางที่ถูกขวางไว้ได้ถูกเปิดออกแล้วท่ามกลางซากของหุ่นหลายสิบตัวที่ถูกแรงลมฟันขาดเป็นสองท่อน แต่ทว่าตอนนี้ร่างกายของชิตแทบจะไม่ตอบสนองต่อสิ่งต่างๆอีกแล้วแม้พยายามจะเดินไปข้างหน้าแต่ขากลับหนักราวกับก้อนหินใหญ่
"บ้า....ที่....สุด"ประโยคสุดท้ายของชิตก่อนทีสติจะดับวูบลงปรากฏภาพของคนในชุดผ้าคลุมสีดำที่เข้ามาประคองเขาเอาไว้
"ไม่เป็นไรแล้วนะ......"คนๆนั้นพูดพร้อมกับเอามือข้างหนึ่งวางไปบนหน้าผากของชิต ความเย็นที่แผ่มาจากมือช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด
"ฉันต่อวงจรการทำงานเสมือนให้แล้ว.....เธอคงจะมีแรงพอที่จะพาตัวเองออกไปจากที่นี่ได้"คนๆนั้นพยุงให้ชิตลุกขึ้นซึ่งชิตก้ได้แต่พยายามมองไปที่ใบหน้าของคนๆนั้นแม้จะมีผ้าคลุมอยู่ก็ตาม
บุคคลในชุดดำสอดส่ายสายตาเข้าไปยังเส้นทางที่ดำมืด เมื่อเห็นแบบนั้นจึงทำให้ชิตนึกขึ้นได้ว่าข้างในยังมีคนอยู่อีก
"เส้นทางที่จะเข้าไปข้างในได้มีแค่ทางนี้ใช่ไหม........"คนๆนั้นเหลือบมองชิตจากภายใต้ผ้าคลุม
"ใช่ครับ......."ชิตขานรับ
"อ๊ะ....เดี๋ยวก่อนสินั่นคุณคิดจะทำอะไร"ชิตตะโกนขึ้นทันทีเมื่อผู้ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมเดินเข้าไปข้างใน แต่สุดปัญญาที่เขาจะรั้งไว้ คนๆนั้นหันกลับมาริมฝีปากสีแดงระเรื่อยิ้มให้เหมือนกับสิ่งนั้นคือคำตอบ
"ยังมีแม่หนูคนหนึ่งกำลังรอเธออยู๋ข้างนอกนะ....ถ้าเข้าใจแล้วก็รีบไปซะ"นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่คนๆนั้นได้พูดทิ้งไว้
แล้วเขาก็ออกวิ่งเข้าสู่ใจกลางของอัลคาทรัซโดยที่เสียงระเบิดที่กึกก้องอยู๋ตอนนี้ดังมากขึ้นเรื่อยเหมือนกับที่นี่กำลังพังลงเป็นแถบๆ..............................
.........................................
สู่ใจกลางปราการแห่งนี้ ณ สถานที่ซึ่งลึกที่สุดและเป็นสถานที่ๆใครคนหนึ่งกำลังรอคอยความตายของตัวเองจวบจนวาระสุดท้าย...............
".............ว่าไงพ่อหนุ่ม ชีวิตมันไม่มีค่าพอที่จะเก็บรักษาเอาไว้เลยรึ"เสียงของชายชราดังขึ้น
กิตลืมตาขึ้นอย่างช้าๆพร้อมกับเหลือบมองขึ้นไปยังเจ้าของเสียงในทันทีอย่างไม่ท่าทีตื่นตกใจใดๆทั้งสิ้น
"เก็บรักษางั้นเหรอ......ชีวิตของผมมันไม่มีค่าถึงขนาดนั้นหรอก....ผู้เฒ่าเอนท์!"กิตพูดอย่างเซื่องซึมและเหม่อลอยเหมือนหมดอาลัยต่อต้นไม้แห่งเน็ตเวิร์คที่อยู๋เบื้องหน้า
"ท้อแท้ขนาดนั้นเชียวเหรอ....กับชีวิตของคนที่เราไม่สามารถจะปกป้องไว้ได้น่ะ"เอนท์ยังคงถามต่อ
"ผมไม่ได้ปกป้อง....แต่ผมเป็นคนทำลายชีวิตของพวกเขา ผมทำให้มิฟูต้องตาย ทำให้จีฟ่าถูกทำลาย มิโนทอร์ก็ต้องมาตายเพราะผมและสุดท้ายผมฆ่าเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมา"คำพูดที่ฟังดูอ้างว้างและว้าเหว่ของกิตยังคงถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดของเขา
"สิ่งที่ผมจะทำเพื่อพวกเขาได้......คือชดใช้ให้พวกเขา...ด้วยชีวิตของผม......."คำพูดของคนที่กำลังเฝ้ารอความตายยังคงพรั่งพรู
"คนเราไม่ได้อยู่เพื่อตาย........แต่อยู่เพื่อมีชีวิตต่อไปโดยแบกรับความรับความหวังของผู้ที่จากไป.....และสานต่อไว้จนถึงที่สุดต่างหาก"คำพูดเพียงประโยคเดียวของเอนท์ทำให้กิตนึกถึงประโยคสุดท้ายของมิฟูที่พูดขึ้นก่อนจะจากไป
"แต่ผมถูกกำหนดไว้ให้ตายตั้งแต่แรก......ชีวิตของผม...ถูกกำหนดให้ตายตั้งแต่เมื่อ5ปีก่อนแล้ว"กิตกัดฟันพูดออกมาทั้งน้ำตาที่เริ่มไหลริน
"ใช่! เพราะตอนนี้เธอได้ตายไปแล้ว.......ตัวตนของเธออีกคนหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากพันธนาการณ์ในครั้งนั้นได้ตายไปแล้ว......และเหลือไว้คำตัวเธอในตอนนี้ ตัวเธอที่ถูกปลดออกจากพันธนาการณ์แห่งฝันร้าย..............."เมื่อเอนท์พูดจบทั่วร่างของกิตก็มีละอองสีดำปลิวออกมาพร้อมกับดาบสีดำที่เขาได้รับนั้นได้สลายกลายเป็นฝุ่นผงไปด้วยเช่นกัน.............
.........................................
บัดนี้บุคคลในชุดดำได้เข้ามาถึงใจกลางของอัลคาทรัซแล้วเขาหยุดอยู่ตรงมุมตึกที่อยู่สูงขึ้นไป สายตาจับจ้องมองลงไปสู่เบื้องล่างลงไปในส่วนที่ลึกที่สุดในบริเวณนั้นมีแสงสีเขียวใสห่อหุ้มเอาไว้รายกับตาข่ายพลังงานไฟฟ้า......นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ต้องฝ่าเข้าไปเพื่อจะลงไปข้างล่าง
คนๆนั้นไม่รอช้ากระโดดลงสู่ใจกลางที่ลึกที่สุดอย่างไม่ลังเลพร้อมกับความหวังที่จะให้คนๆหนึ่งรอดชีวิต
ประกายของโลหะสีเงินภายใต้ผ้าคลุมส่องประกายวาววับก่อนที่จะร่วงลงไปถึงข่ายพลังงาน
"เธอจะตายไม่ได้นะกิต........."คนๆนั้นหยิบเคียวสีเงินอันใหญ่ออกมาจากใต้ผ้าคลุมพร้อมกับง้างมันรอไว้ก่อนที่จะเข้าปะทะกับตาข่ายสีเขียวเพียงไม่กี่สิบเมตร
"G-Heart......(เพลิงพิพากษา)"คนๆนั้นตะโกนขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงเคียวเข้าใส่ผนังตาข่ายทันที เกิดเป็นแสงสว่างสีแดงเพลิงพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นแทบจะในทันที ผนังตาข่ายเริ่มแยกออกจากกันในขณะที่เคียวสีเงินเริ่มแตกร้าว ผ้าคลุมที่คนๆนั้นสวมอยู่ถูกสะเก็ดพลังงานที่เกิดจากการระเบิดจนไหม้และสลายหายไปอย่างช้าๆ..............
...........................................
"ถึงจะมารู้ตอนนี้มันก็สายไปแล้วล่ะ.....ทั้งผมทั้งคุณต่างก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้ สุดท้ายมันก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลย"กิตยังคงยืนยันถึงสิ่งที่เขาต้องเผชิญอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง
เขาเอื้อมมือไปข้างบนราวกับกำลังจะไขว่คว้าอะไรบางอย่าง ท่ามกลางกลุ่มควันและแรงระเบิดที่มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่คุณพูด........ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีล่ะเอนท์?"กิตเอ่ยคำถามขึ้นถึงแม้ว่าไม่ค่อยยินดีจะรับฟังมันก็ตาม
"โชคชะตาจะเป็นตัวกำหนดทุกอย่างเอง........"เอนท์ยังคงพูดและยืนยันในสิ่งที่กิตยังมองไม่เห็น แต่แรงระเบิดเมื่อสักครู่ได้ทำให้ระบบต่างหยุดลงเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นท์ ซึ่งนั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของเอนท์
"โชคชะตางั้นเหรอ...........ถ้าเป็นงั้นจริงได้ก็คงดีสิ"แล้วแล้วกิตก็หลับตาลงอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้อาจเป็นฝันสุดท้ายที่ยาวนานไม่สิ้นสุดก็ได้..............
"........กิต......ตื่นขึ้นมาสิ......เธอสัญญากับฉันไว้ไม่ใช่เหรอ.........."เสียงกระซิบที่ราวกับมาจากข้างหูดังขึ้นและภาพที่ปรากฏตรงหน้าเขาแทบจะทำให้ไม่เชื่อสายตา......บัดนี้มิฟูได้มายืนตรงหน้าเขาอีกครั้งในชุดสีขาวบริสุทธิ์
"เธอต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปนะ.............อยู่ต่อไปเพื่อฉันด้วย........... ยื่นมือข้างนั้นมาสิ....ฉันจะพาเธอออกไปเอง"มิฟูพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้าราวกับกำลังจะเรียกเขาให้ตื่นขึ้น
กิตเอื้อมไปจับมือของมิฟูไว้และภาพที่เขาเห็นก็เปลี่ยนไปเมื่อมือที่เขาสัมผัสอยู่ไม่ใช่มือของมิฟู แต่เป็นมือของผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ดูสะบักสะบอมไม่แพ้เขาเคียวสีเงินที่ตอนนี้แตกร้าวจนแทบไม่เหลือสภาพเดิมเสื้อผ้าขาดวิ่น ผมสีดำที่ดูราวกับไข่มุกและรอยยิ้มจากริมฝีปากที่แดงระเรื่อของเธอทำให้เขาจำได้ในทันที
"เธอทำให้ฉันเป็นห่วงมากแค่ไหนรู้ไหม!ตาบ้า......."มิ้นท์เข้าสวมกอดเขาทันทีที่ทำได้
"มิ้นท์....ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้"กิตถามอย่างสงสัย
"ก็มารับเธอกลับไปยังไงล่ะ.......เธอสัญญากับฉันไว้ไม่ใช่เหรอว่าจะกลับไป"นั่นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองคนจะถูกกลืนเข้าไปในแสงสว่างจ้า พร้อมกับการระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นทั่วทั้งบริเวณ...............
...................................................
Fiction