นอกเรื่องสักนิดนะ...เกี่ยวกับการแปรรูปของ กฟผ.
เอามาจาก www.mthai.com นะครับ ซึ่งเนื้อหามีดังนี้
หัวข้อ จบเเล้วไฟฟ้าไท
ครม.ไฟเขียวตั้งบ."กฟผ." ใช้เงินเดือนสยบต้าน จดทะเบียนเสร็จรับ15% มีผลย้อนหลังถึงเม.ย.47 ปธ.สหภาพโวยจ่ายปิดปาก
ครม.ไฟเขียวให้แปลงสภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นบริษัท กฟผ. จำกัด ทุนจดทะเบียน 6 หมื่นล้าน แต่งตัวรอเข้าตลาดหลักทรัพย์เดือนพฤศจิกายน พร้อมขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน 8-15% มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547 ปธ.สหภาพฯรู้ทัน เป็นเกมผู้บริหารหวังปิดปากพนักงานคัดค้าน
ครม.มีมติให้แปลงสภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) จดทะเบียนเป็นบริษัท กฟผ. จำกัด(มหาชน) เพื่อเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ พร้อมขึ้นเงินเดือนพนักงาน 8-15% มีผลย้อนหลังวันที่ 1 เมษายน 2547
ทั้งนี้ นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 10 พฤภาษคมที่ผ่านมา ว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ(กนท.) เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2548 ที่เห็นชอบให้แปลงทุนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นทุนเรือนหุ้น และจัดตั้งบริษัท กฟผ. จำกัด(มหาชน) ทุนจดทะเบียน 60,000 ล้านบาท จำนวนหุ้น 6,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
นายวิเศษกล่าวว่า ครม.ยังเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งบริษัท กฟผ. ซึ่งจะกำหนดอำนาจสิทธิและผลประโยชน์ และการจัดสรรผลประโยชน์แก่พนักงานและผู้บริหารระดับสูงของ กฟผ. ตลอดจนให้พนักงานที่เข้าร่วมโครงการออกจากงานด้วยความยินดีทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะได้รับการจัดสรรหุ้นภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกัน
"ส่วนการกระจายหุ้นบริษัท กฟผ. คาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เนื่องจากต้องรอร่างกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลบังคับใช้ โดยขณะนี้ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอยู่ หลังการกระจายหุ้นรัฐถือหุ้น 75% และกระจายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป 25% ในส่วนนี้จะกระจายหุ้นให้ต่างชาติประมาณ 5%" นายวิเศษกล่าว
นายวิเศษกล่าวว่า ในส่วนพนักงาน ครม.ยังเห็นชอบการปรับเพิ่มเงินเดือน 15% สำหรับพนักงาน กฟผ.ในระดับ 1-11 และพนักงานระดับ 12-14 (ผู้อำนวยการฝ่ายขึ้น) ให้ขึ้น 8% ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ การปรับเงินเดือนดังกล่าวจะมีผลต่อเมื่อ กฟผ. ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547
"ส่วนมาตรการรองรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นเงินเดือน จะมาจากการเดินเครื่องและรับบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ การรับทำธุรกิจไฟเบอร์ออพติก และบำรุงรักษาสถานีไฟฟ้า รวมถึงรับออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโรงไฟฟ้า คาดว่าในปี 2548 จะมีรายได้เสริมส่วนนี้ประมาณ 2,056 ล้านบาท และภายใน 5 ปีจะเพิ่มเป็นปีละ 3,652 ล้านบาท" นายวิเศษกล่าว
นายวิเศษกล่าวว่า หลังจากตั้งบริษัท กฟผ.แล้ว จะมีการโอนกิจการ สิทธิ หนี้ ความรับผิด และสินทรัพย์ของ กฟผ. ไปยังบริษัท กฟผ. เพื่อให้การดำเนินการต่อเนื่อง และในวันที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท กฟผ. จะโอนสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเขื่อน อ่างเก็บน้ำ จำนวน 21 แห่ง รวมถึงที่ดินที่ตั้งอยู่ในบริเวณเขื่อน อ่างเก็บน้ำ มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท ให้กระทรวงการคลัง
นายวิเศษกล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบให้มีคณะกรรมการกิจการผลิตไฟฟ้า เพื่อรับโอนอำนาจของ กฟผ. ในเรื่องประกาศกำหนดเขตเดินสายไฟฟ้า การเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า และบริหารจัดการน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่จะจัดตั้งขึ้นตามร่างพระราชกฤษฎีกา กำหนดอำนาจสิทธิและประโยชน์ของบริษัท กฟผ. พ.ศ.... ส่วนการกำกับดูแล กระทรวงพลังงานจะตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า เพื่อกำกับดูแลการกำหนดอัตราค่าบริการ การคุ้มครองผู้บริโภค และการส่งเสริมการแข่งขันเพื่อป้องกันการผูกขาดอำนาจในทางมิชอบ ซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่างพระราชบัญญัติประกอบกิจการไฟฟ้า
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2547 กฟผ. มีสินทรัพย์รวม 424,725.9 ล้านบาท หนี้สิน 226,225.1 ล้านบาท และทุน 198,500.7 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ กฟผ. ในปี 2547 มีกำไร 27,777 ล้านบาท และจากการประเมินผลการทำงาน พบว่าอยู่ในระดับดี ถึงดีขึ้นมาก
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติเห็นชอบการแปรรูปของ กฟผ.ว่า ผู้ว่าการ กฟผ. และกระทรวงพลังงานยืนยันว่าทุกอย่างเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ และมีข้อห่วงใยจากหลายฝ่ายที่อยู่นอกการไฟฟ้าฯ ก็ได้รับการแก้ไข โดยมีกรรมการควบคุมอย่างเรียบร้อย ซึ่งค่อนข้างมีรายละเอียดพอสมควร และเป็นรายละเอียดที่ทำอย่างรัดกุมและดีมาก
เมื่อถามว่า ยังมีพนักงานบางส่วนยังไม่เข้าใจ นายกฯกล่าวว่า มีการพยายามชี้แจงตลอด และเท่าที่ทราบ วันนี้ก็มีคนส่วนใหญ่ที่เห็นด้วย อาจจะมีไม่มากเท่าไหร่ที่ยังไม่เข้าใจ สำหรับการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์เข้าใจว่าน่าจะเป็นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
ด้านนายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟผ.(สร.กฟผ.) กล่าวว่า สร.กฟผ.เห็นว่า การที่รัฐบาลนำเรื่องการปรับขึ้นเงินเดือน 15% ไปผูกกับการแปรรูป กฟผ. เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควรอย่างยิ่ง วันเดียวกันนี้จึงออกแถลงการณ์แจกจ่ายให้กับสมาชิกรับทราบ เพื่อให้ฝ่ายบริหาร กฟผ. โดยเฉพาะผู้ว่าการ กฟผ. ชี้แจงกรณีดังกล่าว เนื่องจากรัฐวิสาหกิจ 37 แห่ง รวมทั้งการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนไปแล้ว แต่ไม่มีเงื่อนไขผูกโยงเกี่ยวกับเรื่องแปรรูปเหมือน กฟผ.
อย่างไรก็ตาม นายศิริชัยกล่าวว่า สร.กฟผ.ขอย้ำจุดยืนว่าจะยังคงคัดค้านการแปรรูป กฟผ.ไปเป็นบริษัทจำกัด และคัดค้านการนำ กฟผ.เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะเป็นการเปลี่ยนความเป็นเจ้าของจากรัฐ ไปเป็นกลุ่มทุน ซึ่งผลเสียหายจะเกิดขึ้นกับพนักงาน ประเทศชาติและประชาชนในที่สุด
"เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเกมของผู้บริหารที่จะใช้การขึ้นเงินเดือนมาผลักดันการแปรรูป ที่จะนำเรื่องการขึ้นเงินเดือนมาเป็นข้อต่อรองหากพนักงานคัดค้าน" นายศิริชัยกล่าว
อยากจะให้คนรุ่นใหม่ของบอร์ดนี้ช่วยกันลงความเห็นหน่อยนะครับ ไม่ต้องซีเรียสมากนะครับ ผมแค่อยากรู้ว่าสมาชิกในบอร์ดนี้มีความเห็นกันอย่างไรบ้างเท่านั้นล่ะครับ
หากสนใจอยากหาข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม ------>http://www.geocities.com/save_egat/
Miscellaneous