[นิทานธรรมมะ]หลวงตากับคนตัดฟืน
[นิทานธรรมมะ]หลวงตากับคนตัดฟืน
กาลครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งที่ป่าไม้เมืองไทยยังอุดมสมบูรณ์ขนาดสามารถตัดฟืนมาบรรเทาความหนาวบนยอดดอยได้อย่างไม่ต้องกลัวหมดนั้น มีหลวงตาท่านหนึ่งได้จำวัดอยู่บนดอยซึ่งอากาศจะหนาวเย็นในช่วงปลายปี
อยู่มาวันหนึ่ง ได้มีชายพเนจรหลงทางมายังวัดแห่งนี้ และได้รับความเมตตาจากหลวงตาให้อาศัยอยู่ที่วัดได้
ด้วยความซาบซึ้ง เขาจึงอาสาช่วยงานในวัดจนได้รับหน้าที่ให้ตัดฟืนไว้ใช้ในภายวัด
เนื่องจากความแข็งแรงเป็นทุนเดิม ชายตัดฟืนได้ทุ่มเทแรงกายของตน จนสามารถตัดฟืนได้ถึง200ท่อนในวันแรกเพียงวันเดียว และมั่นใจว่าในวันต่อๆมา เขาจะต้องทำให้ได้เช่นนี้อีก
แต่แล้วในวันต่อมา เขากลับตัดฟืนได้เพียง180ท่อน ซึ่งในเวลานั้น เขาคิดเพียงว่าอาจเพราะเหนื่อยจากเมื่อวาน ทว่าในวันถัดๆมา จำนวนงานที่เขาสามารถทำได้ก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่เขาก็ยังคงทุ่มเทเรี่ยวแรงของตนอย่างสุดกำลัง ไม่เกียจคร้าน และยังคงต้องการแทนคุณหลวงตาไม่เปลี่ยน
จนกระทั่งถึงวันที่เขาสามารถตัดฟืนได้เพียง50ท่อน กำลังใจก็กร่อนแทบไม่เหลือ ไม่เพียงแต่ได้งานน้อยลง แต่ไม้ที่แตกเสียก็มากขึ้นเรื่อยๆ เขาตัดสินใจกล่าวขออภัยจากหลวงตา พร้อมขอเปลี่ยนทำหน้าที่อื่นแทน
หลวงตาจึงขอไปดูลานตัดฟืนก่อน ครั้นเมื่อท่านได้พินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ท่านจึงได้ถามคนตัดฟืนว่า
"นี่โยมไม่ได้ลับคมขวานมานานเท่าไหร่แล้ว?"
..........
เรามักจะได้ยินคำพังเพยว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
แต่ถ้าหากว่าความพยายามนั้น ขาดความรอบคอบ ความระมัดระวัง หรือคิดเพียงแค่ทำๆไปให้ได้ผลตามเป้าหมายโดยไม่คำนึงถึงผลอื่นๆที่อาจตามมา ความพยายามก็เป็นได้แค่ความดื้อดันทุรัง ไม่เพียงแต่เสียเวลา ยังเสียแรงงาน เสียทรัพยากร ไม่ต่างอะไรกับการเอาขวานดีๆไปเหวี่ยงตีให้บิ่นผลสุดท้ายก็อาจหักลงได้
ข้อความข้างต้นนี้ ดัดแปลงจากนิทานของจีน อนุญาตให้นำไปทำFWD Mailได้โดยไม่ต้องให้เครดิตครับ
ป.ล. (อันนี้ไม่ต้องFWD) มาโพสต์แบบนี้ในวันเกิดตัวเองนี่มัน...ชั้นแก่ขึ้นแล้วจริงๆสินะเนี่ย
Fiction