บทความยาวๆเกี่ยวกับหลุมดำนิดๆ : สรุปแล้วพวกเขาต้องการอะไร
ในใจเคยคิดว่าจะไม่เขียนถึงรายการหลุมดำอีกแต่หลังจากอ่านบทความในเวปไซท์ผู้จัดการที่ยกเอา ท่อนหนึ่งของบทความที่เขียนโดย ศรัทธาธิป มาประสพ จากนิตยสาร ฅ.คน ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ผมคิดว่าผมน่าจะพูดอะไรสักหน่อยแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นผมขอยกบทความบางส่วนมาให้อ่านกันครับ
------------------------------------------------------
รายละเอียดของเนื้อหาในข้อเขียนเป็นเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่อยู่ฉากหลังของภาพที่เราได้เห็นในรายการ
มีอยู่ช่วงหนึ่งในงานเขียนที่รู้สึกสะดุดเอามากๆ ก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาหลังจากที่กลุ่มเด็กเร่ร่อนได้พากันรุมทำร้าย ผู้ชายเสื้อ
เหลืองกระทั่งเลือดตกยางออก หมอบไปกับพื้น
นั่นเป็นภาพที่เราได้เห็นกันทางจอทีวี
ในขณะที่งานเขียนชิ้นนี้ได้บรรยายภาพที่เกิดขึ้นต่อไปว่า....(ตัดข้อความบางส่วนไป แต่ขอยืนยันว่าความหมายยังคงเดิม)
เมื่อ เหตุการณ์เริ่มคลี่คลาย เด็กหัวฯ ต่างรู้ดีจากคราบเลือดเหนือคิ้วซ้ายของชายโชคร้ายคนนั้นว่าพวกเขาคือผู้ชนะ ชายเสื้อเหลืองเดินโซเซ
กว่าเดิมเข้ามาหากลุ่มเด็กที่นั่งสูบบุหรี่คุมเชิง อยู่ เขาส่งยิ้มเข้ามาด้วยท่าทีเป็นมิตร ฉันคิดในใจว่าบางทีเขาอาจมีอาวุธซุกซ่อนอยู่ และรอยยิ้มนั้น
ก็ไม่น่าจะออกมาจากความจริงใจ
ไม่ทันจะคิดอะไรมากกว่านี้ ชายเสื้อเหลืองก็เข้ามาหยุดตรงหน้าเด็กๆ เขายิ้มเจือเสียงหัวเราะ “ผมขอสละสิทธิ์ ผมยอมแพ้แล้วครับ” พร้อมๆ
กับสิบนิ้วที่ยกมือไหว้ท่วมหัวให้เด็กคราวลูก
เรื่องน่าจะจบลงเท่านี้ หากชายเสื้อเหลืองไม่เข้าไปนั่งร้องไห้อยู่ในหัวลำโพง
เมื่อดำ-เด็กอีกคนหนึ่งในกลุ่มเข้าไปปลอบ ฉันจึงรู้ว่าในช่วงชุลมุนมีมือดีล้วงกระเป๋าซึ่งมีเงินอยู่ประมาณ 500 กว่าบาทของชายเสื้อเหลืองไป
ขณะนี้เขาไม่มีเงินพอที่จะซื้อตั๋วรถไฟกลับบ้าน เมื่อกลุ่มเด็กหัวฯ รู้เรื่องพวกเขาไม่ได้นิ่งเฉยเหมือนที่ฉันคาดคิด
ตรงกันข้ามเด็กหลายคนกลับหาทางช่วยเหลือชายเสื้อเหลืองให้กลับบ้าน โดยสวัสดิภาพ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กบางคนถึงกับแสดงความรับผิด
ชอบต่อสิ่งที่ทำโดยไปหาซื้อ ทิชชูมาซับเลือดซับน้ำตาให้ชายเสื้อเหลือง
ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเห็นดำค่อยๆใช้ทิชชูซับเลือดเหนือคิ้วพร้อมทั้งปาดน้ำตาให้ชายเสื้อ เหลือง และฉันแทบไม่เชื่อมากขึ้นกว่าเดิม
เมื่อเห็นชายเสื้อเหลืองโผกอดดำไว้แน่นพร้อมปล่อยพายุน้ำตาออกมา...
------------------------------------------------------
ถ้าพูดกันตรงๆเลย ผมรู้สึกเหมือนโดนทีวีบูรพา "หักหลัง" ไปพร้อมๆกับ "ตบหน้า" เมื่ออ่านข้อความนี้จบ เพราะในรายการคุณบอกมาตลอดว่าเด็กกลุ่มนี้เลว ชั่วช้า กระทำการไม่สมกับมนุษย์ทั่วไป และสมควรที่จะโดนกำจัดไปโดยไม่ต้องมีข้อแม้
แต่มาวันนี้คุณกลับบอกว่าเขาก็มีข้อดีเหมือนกัน ? สิ่งที่ผมอยากถามว่างั้นที่แล้วมามันคืออะไร ? จัดฉากหรือเปล่า ? หรือแค่ให้ชายเสื้อเหลืองคนนั้นไปรับบทเจ็บตัว ? หรือจริงๆแล้วเด็กกลุ่มนั้นอาจจะไม่ได้เลวอย่างที่รายการนำเสนอด้วยซ้ำ...เราอาจจะเผลอลงโทษคนผิดไปแล้วก็ได้
ถ้ามามองในแง่ความจริง ใช่ครับเด็กเร่ร่อนกลุ่มนั้นอาจจะเลวจริง และสมควรจัดการตามกฏหมาย แต่ทีนี้เรื่องอื่นที่รายการเขาเคยนำเสนอล่ะครับ ? เรื่องที่คนส่วนใหญ่คงไม่ได้เห็นอีกด้านหนึ่งง่ายๆเหมือนเรื่องนี้ ที่ทีมงานทีวีบูรพาได้ เขียนพลาดเอง ไม่ก็ รู้สึกสุดจะทนกับการนำเสนอด้านเดียว จนเขียนบทความนี้ออกมา
ถ้าย้อนกลับไปง่ายๆเลยก็ เรื่องการ์ตูนที่ได้ไปออกถึงลูกถึงคนกัน ... คาดว่าบทเรียนครั้งนั้นคงไม่พอกับทีวีบูรพาเสียแล้ว ในเมื่อตอนนั้นพวกเขาก็ใช้วิธีการถ่ายทำอย่างหนึ่ง นำเสนออีกอย่างหนึ่ง แต่ผ่านไปไม่นานนักก็ปรากฏว่าเขายังทำแบบนั้นอยู่ และคราวนี้ดันมี"คนใน"มาบอกซะด้วยว่าจริงๆแล้วมีเนื้อหาอีกด้านที่โดนตัดออกไป
หรือจริงๆแล้วทีวีบูรพาทำรายการหลุมดำให้นำเสนอด้านเดียวแบบนี้กับทุกเรื่องที่ออกอากาศ ?
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆก็ยังไม่ได้ผิดอะไรมากนักเพราะรายการก็ประกาศอยู่แล้วว่าเขานำเสนอด้านมืดของเรื่องนั้นๆ
แต่จะมีคนดูสักกี่คนจะเข้าใจว่ามันเป็นแค่ด้านเดียว อย่างเรื่องการ์ตูนก็ทำให้หลายคนหลายฝ่ายออกมาพูดกันถึงขั้นต้องมีการคาดป้ายว่าหนังสือว่าเล่มนี้เหมาะกับใครกันแล้ว
ถ้าอยากจะนำเสนอว่ามันเป็นแค่ด้านมืดอย่างเดียวจริงๆ ก็น่าจะขึ้นเตือนไว้ตลอดรายการเลยว่า "นี่เป็นแค่ด้านหนึ่งของเหรียญ"
แต่ถ้าไม่อยากทำแบบนี้ก็ต้องถามล่ะครับ ว่าสรุปแล้วทีวีบูรพาต้องการอะไรจากการทำแบบนี้
เพื่อสร้างสังคมที่ขาวสะอาดหรือเพื่อสร้างสังคมที่ทีวีบูรพาต้องการ
ที่ถามแบบนี้เพราะว่าถ้าเกิดวันนึงทีวีบูรพาเกิดหมั่นไส้ใครขึ้นมาอย่างเช่น
วันนี้ทีมงานระดับสูงคนหนึ่งโดนเด็กโรงเรียน ต. วิ่งชนเพราะรีบขึ้นรถเมล์ แล้วทีมงานคนนั้นก็เป็นโกรธเป็นแค้นโรงเรียนนี้มาก จนไปขอทางโรงเรียน ต. ว่าเขาจะถ่ายทำรายการในแง่ดี แล้วก็ไป"สัมพลาด" นักเรียนหลายๆคนที่มุมหลบคนเล็กน้อยเนื่องจากทีมงานเห็นว่าถ้าถ่ายในบริเวณที่คนผ่านเยอะอาจจะทำให้การ "สัมพลาด" ไม่ต่อเนื่อง นักเรียนหลายๆคนที่พลาดไปตอบทีมงานก็คิดว่าเป็นการมาถามถึงโรงเรียนเฉยๆไม่มีอะไร โรงเรียนก็ไม่คิดว่าทางทีมงานจะออกรายการในแง่ลบ เพราะทีมงานไม่ได้แจ้งว่าออกรายการใด(อ้างอิงจากการที่ทีมงานเคยไปถ่ายงาน Akindo แต่ไม่แจ้งว่าออกรายการใด เพราฉะนั้นถ้าจะมีการไม่แจ้งอีกก็ไม่แปลกเท่าใดนัก) แล้วก็ถ่ายภาพนักเรียนที่รีบเร่งในการไปเรียนอีกตึกหนึ่ง แล้วไม่ได้ทำความเคารพอาจารย์ ซึ่งอาจารย์ก็เข้าใจว่านักเรียนกำลังรีบเร่งไปเรียนอีกตึก
แต่สุดท้ายภาพที่ออกมาทุกคนได้เห็นทั่วประเทศ กลับนำเสนอว่าโรงเรียนนี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์นักเรียนชั่วช้า ไหนจะพฤติกรรมวิ่งในตึกเรียน ไหนจะพฤติกรรมไม่เคารพอาจารย์ ซ้ำยังไมได้ความร่วมมือจากนักเรียนมากนัก แต่ทีมงานก็โชคดีที่มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งยอมให้สัมภาษณ์ แต่จำเป็นต้องหลบผู้คนเนื่องจากถ้าหากคนอื่นเห็นอาจจะเข้ามาทำร้ายทั้งทีมงานและนักเรียนได้ อย่างน้อยทีมงานคนหนึ่งก็โดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บมา แล้วก็เป็นภาพทีมงานระดับสูงคนนั้นออกมายืนยันว่าเขาโดนทำร้าย
สุดท้ายอะไรจะเกิดขึ้นกับโรงเรียน ต. ล่ะครับ ก็คงจะเปลี่ยนสภาพจากคนดีในสังคมเป็นคนร้ายโฉดชั่วทันที ด้วยเหตุผลส่วนตัวของทีมงานเองเสียด้วย
พอจะเห็นแล้วใช่ไหมครับว่าสื่อเป็นดาบสองคมต่อบุคคลอื่นอย่างไร
สุดท้ายนี้ที่ผมอยากจะรู้จริงๆคือตอนนี้ทีวีบูรพาอยากเป็นอะไรกันแน่ครับ กระจกบานใหญ่ที่สะท้อนสังคม หรือ เป็นแค่สื่อสวะที่ได้แต่สร้างภาพที่ตัวเองต้องการเท่านั้น ?
Miscellaneous