ประวัติศาสตร์ ภาพยนตร์ Batman
ถ้าผมเอาภาพนี้มาให้ดู คุณรู้ไหมว่าเค้าเป็นใคร??
เชื่อว่า มีน้อยคนแน่นอนที่ไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร เค้าก็คือBatman อัศวินรัตติกาล ผู้ปกป้องเมืองก็อตแธม ให้รอดพ้นจากเหล่าร้าย
ถ้าให้ผมกล่าวถึงประวัติซุปเปอร์ฮีโร่ตัวนี้ กระทู้นี้คงยาวชนิดตายไปข้าง และผมก็ไม่ได้มีข้อมูลหนาแน่นขนาดนั้น เอาเป็นว่ามันเป็นผลงานการสร้างของบ็อบ เคน ก็พอ
ก่อนที่ผมจะกล่าวถึงหนังชุดมนุษย์ค้างคาวชุดนี้ คงต้องย้อนกันไกลซักนิด ย้อนกันไปถึง1966 ซีรีย์ทางทีวีของBatman ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากมาย จนต้องขึ้นจอใหญ่ โดยเรื่องราวเป็นการออกมาอาละวาดของดหล่าอาชญากรตัวเก่งทั้งหลาย
นี้แหละBatman ฉบับหนังใหญ่เรื่องแรกของประวัติศาสตร์
แต่ด้วยความที่ว่าแฟนๆแดนตายของBatman ไม่ค่อยชอบภาคนี้อยู่แล้ว (เนื่องจากมันออกมาเป็นหนังตลก….) จึงทำให้เวอร์ชั่นหนังโรงถูกคนลืมเลือนไป พร้อมกับเวอร์ชั่นฉายทีวีที่จบในซีซั่น3
ในอีก12ปีต่อมา ฮีโร่เจ้าของฉายามนุษย์เหล็กไหล (ไม่ใช่ของไทยนะ) นามSuperman ก็ได้เป็นหนังใหญ่ ฉายทั่วโลกทำเงินถล่มทลายอย่างมากมาย ทำให้โปรเจ็คหนังBatman ถูกคืนชีพมาอีกครั้ง โดยไมเคิล ลี อูสลาน กับ เบนจามิน เมลนิคเกอร์ และจ้างที่เคยแก้บทซุปเปอร์แมน มาเขียนบทให้ แต่ว่าหนังถูกเข้าโหลดองไป เปลี่ยนมือผู้กำกับมากมาย จนโปรดิวเซอร์จอห์น ปีเตอร์ และ ปีเตอร์ กูเบอร์ ได้เสนอยอดชายนาย ทิม เบอร์ตัน มาเป็นผู้กำกับ
เบอร์ตันเห็นบทที่ส่งมา แทบเขวี้ยงทิ้งลงถังขยะ เค้าบอกว่า เค้าจะกำกับแบทแมนที่มันควรเป็น มืดมน มีปมจิตวิทยา ซึ่งนำไปสู่แบทแมนในรูปแบบใหม่ที่จริงจัง แต่หากใจจริงๆแล้ว เบอร์ตันกลับอยากกำกับแบทแมนตอน The Dark Knight Returns ของ Frank Miller (ซึ่งข่าวลือบอกว่า เวอร์ชั่นนี้แกจะยาว4ชั่วโมงทีเดียวเชียว)
จำชื่อตอนนี้ไว้ให้ดี มันมีอิทธิพลกับหนังตระกูลมนุษย์ค้างคาว เล่าคร่าวๆให้ฟัง มันคือBatman ตอนที่อายุ50 เค้าเลิกการเป็นBatman ไปแล้ว แต่ว่าโจ๊กเกอร์กัลบคืนชีพ และมาปั่นป่วนก็อตแธม ลุงบรู๊ซ จึงต้องสวมชุดมนุษย์ค้างคาว โยนไม้เท้า ไปต่อยกับโจ๊กเกอร์
แต่เมื่อเสนอบทกับทาง Warner Bros. ทางวอเนอร์กับปฏิเสธแล้วบอกว่า อยากให้เบอร์ตันกำกับต้นกำเนิดของแบทแมนมากว่าที่จะไปกำกับตอนนี้ เบอร์ตันจึงน้อมรับ เค้าก็ลาก แซม ฮาร์ม มาเขียนบทหนังเรื่องนี้ให้ ซึ่งเบอร์ตันแกก็จะย้อนไปสู่ Batman สมัยของบ็อบ เคน เลย
อันจะกล่าวชายหนุ่มที่จะมารับบทมนุษย์ค้างคาว ถือเป็นเรื่องที่ลำบากมากมาย โดยตอนแรกเล็งชายที่จะมาเป็นไว้ดั่งนี้
Alec Baldwin
Charlie Sheen
Pierce Brosnan
Mel Gibson รายนี้เก็งมาแต่ไกล แต่น่าเสียดายที่เฮียไปติดสัญญาเล่นเรื่อง ริคคนมหากาฬ2 ซะนี้
เรื่องป่วนยังไม่หมดเมื่อ Adam West ผู้ซึ่งแสดงBatmanในเวอร์ชั่นทีวีเมื่อปี1966 จะมาแสดง แต่ทีมงานปฏิเสธ และให้แกไปเป็นบทรับเชิญคือ พ่อบรู๊ซแทน แต่แกหยิ่งไม่เล่นๆ หนูจะเอาบทบรู๊ซ~~~~
และท้ายที่สุด หวยก็ตกมาที่ชายคนนี้
Michael Keaton
แต่ว่าปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อ แฟนๆของการ์ตูนไม่ชอบขี้หน้าไอ้หมอนี้ ร่วมกันส่งจดหมายแสดงความไม่พอใจเกือบ 50,000ฉบับ ไปที่สตูดิโอ (ไม่รู้เพราะเค้าไปชอบคางที่ดูเหมือนอมบ๊วยหรือเปล่า) แต่เบอร์ตันยืนยันว่า ต้องคีตันเท่านั้น เพราะสายตาเค้านั้นดูเหมือนคนอมทุกข์ (หรืออมบ๊วยไม่ทราบ)
ผิดกับตัวร้ายอย่างโจ๊กเกอร์ ที่บทจะมาเป็นตัวร้ายในภาคนี้ Jack Nicroson ลอยนำบทนี้มาแต่ไกล โดยไม่มีใครคัดค้านแกเลย และมันก็จริง การถ่ายทำก็เริ่มขึ้น และมันก็ออกฉายในชื่อ
Batman
เรื่องย่อ
เศรษฐีเพลย์บอยนาม บรู๊ซ เวย์น ผู้ที่เสียพ่อแม่ไปต่อหน้าต่อตา จากการสังหารของอาชญากร เค้าจึงสัญญาว่าจะล้างบางพวกอาชญากรในก็อตแธมให้หมด ในนามของ Batman ศึกนี้เค้าต้องสู้กับศัตรูตัวฉกาจ โจ๊กเกอร์ ที่อดีตเคยเป็นอาชญากรตัวเก็ง ที่เกิดอุบัติเหตุขณะหนีแบทแมน ตกลงไปในถังสารเคมี และโจ๊กเกอร์พร้อมที่จะล้างแค้นBatman และก่ออาชญากรรมเพื่อปกครองเมืองก็อตแธม
นี้คือการเปิดตัวภาคแรกที่ผมว่าไปได้สวยมากๆ หนังมันมีความมืดมน โรคจิตในตัว โดยไม่ต้องถ่ายทำฉากแบทแมนเอาแบทบุมเบอแรงแทงไปในตา หรือโจ๊กเกอร์หั่นศพให้เห็นสดๆ แต่มันเล่นบรรยากาศซะมากกว่า เช่นเมืองก็อคแธมที่ผมดูแล้วมันมีความเป็นดาร์ค แฟนตาซี สไตล์ถนัดของเฮียเบอร์ตัน แต่ยังไงก็แล้แต่ ต้องยกเครดิตเต็มๆให้แก่ แจ็ค นิโครสัน ที่สามารถเล่นบทโจ๊กเกอร์ ชนิดที่ว่าสร้างมาตราฐานใหม่ของโจ๊กเกอร์ไปเลย และหนังโรคจิตมากๆได้ ก็เพราะนิโครสันเนี่ยแหละ แกเล่นได้จิตสุดๆ ส่วนด้านฉากแอ็คชั่น อาจดูเก่า ไม่สนุกเท่าไรในสมัยนี้ แต่มว่าขลังนะ มันดูเป็นการ์ตูน แต่ในทางกลับกันมันก็ผสมผสานความเป็นเบอร์ตันได้เหมือนกัน ส่วนคีตันเนี่ยผมเฉยๆแฮะกับบทของเค้า ไม่รู้ว่าถูกนิโครสันกลบหมดหรือเปล่า แต่สำหรับแฟนแดนตายแบทแมนหรือคอหนังซุปเปอร์ฮีโร่เนี่ย ถ้าพลาดหนังเรื่องนี้ เหมือนคุณพลาดหนังฮีโร่ที่ขึ้นแท่นคลาสสิคไปเรื่องนึงเลยทีเดียว (ส่วนตัวผมชอบภาคนี้เป็นอันดับ2ครับ)
หนังสามารถกวาดรายได้ถล่มทลายไปกว่า150ล้านเหรียญ (ทั่วโลก413ล้านเหรียญ) ของเล่นก็ขายดีมากมาย (เพราะว่าแบทแมนอุปกรณ์มันเยอะ ในขณะที่ซุปเปอร์แมน ของเล่นขายไม่ได้มาก นอกจากกางเกงในสีแดง กับผ้าคลุม???)
Batman Suit
เนื่องจากชุดสีเทา กับกางเกงในดำ ดูไม่ร่วมสมัยแน่นอน Batman เวอร์ชั่นหนังใหญ่ เลยต้องปรับเปลี่ยน ให้กลายเป็นชุดที่ดูเหมือนชุดเกราะ มีกล้ามเนื้อปลอม ชุดดำทมิฬทั้งชุด ดูแล้วเท่และมืดมนตามสไตล์เฮียเบอร์ตัน (แต่คีตันบอกว่าชุดนี้ขยับลำบากอิ๊บ)
Bat-Mobil
รถประจำตัวเฮียมนุษย์ค้างคาว ในภาคนี้มันหุ้มเกราะได้นะโดยสั่งจากรีโมทคอนโทรล และสามารถขับอัตโนมัติได้ด้วยรีโมทคอนโทรลเช่นกัน มีตะขอเกี่ยวในการช่วยเลี้ยวโค้ง มีไอพ่นช่วยในการเพิ่มความเร็ว มีปืนกล2ข้าง มีลูกระเบิดพิเศษที่ล้อ
Bat-Wing
ภาคนี้ก็มีเครื่องบิน โดยใช้ตอนหยุดยั้งแผนปล่อยบอลลูนพิษของโจ๊กเกอร์ โดยมีปากไว้เกี่ยวเชือก (ในหนังไว้เกี่ยวเชือกของบอลลูนพิษ)มีมิซซาย4รู ปืนกล2ด้าน แต่เกราะอ่อนบรรลัย!!!!
ตัวร้าย
Joker
ในหนังเค้าคือ Jack Napier อาชญากรที่เป็นลูกน้องมาเฟียขาใหญ่ แต่ขณะที่เค้าก่ออาชญากรรม เค้าก็เจอBatman จึงหนี แต่พลาดตกถึงสารเคมี และเค้าก็รู้ว่ามันเป็นกลอุบายของหัวหน้าเค้า เนื่องจากสารเคมีกัดหน้าจนหน้ากลายเป็นคนฉีกยิ้ม ผิวสีขาว ริมฝีปากสีแดง เค้าจึงกลายเป็นคนโรคจิต โดยฆ่าหัวหน้าเค้า และจะล้างแค้นBatmanด้วย
Batman Returns
ภาคนี้คือภาคสุดท้ายที่เฮียเบอร์ตันกำกับ พร้อมความไม่พอใจกับทางWarner โดยตอนแรกเฮียเอบณืตันจะให้ภาคนี้เป็นภาคเปิดตัวของทูเฟช เพราะภาคที่แล้วฮาร์วี่ เดนส์ ได้ออกมา โดยจะให้ฮาร์วี่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด แล้สุดท้ายเค้าก็โดนระเบิดหน้าเสียโฉมไปครึ่งหน้า แต่ทางWarner แกค้านเพราะว่าคนแสดงไม่ดัง ทำให้เบอร์ตันต้องสร้างตัวละครนักการเมืองเลวๆที่ชื่อว่า Max Shreck มาแทน
เรื่องย่อ
มนุษย์เพนกวิน(แดนนี่ เดอวิโต้)ผู้ซึ่งอยู่ท่อระบายน้ำมานาน อยากครองก็อตแธม จึงได้ร่วมมือกับ แม็ก นักการเมืองผู้ไม่ค่อยจะเป็นคนดีเท่าไรนัก เพื่อให้เพนกวินเป็นนายกเทศมนตรี และตนเองกลายเป็นคนดัง แต่เนื่องจากเลขาสาวเซริน่า(มิเชล ไฟเฟอร์) รู้ความเลวของเค้า แม็กจึงฆ่าปิดปาก แต่เธอก็ฟื้นขึ้นมาเป็น Catwoman เรื่องราวเริ่มวุ่นวาย ทำให้Batman ต้องออกมาหยุดแผนร้ายทั้งหมด
ภาคนี้บอกตรงๆเลยครับ สไตล์ดาร์ค แฟนตาซีของเฮียเบอร์ตันแกออกมาให้เห็นชัดๆเลย แบบว่าหนังมืด โรคจิต มากกว่าภาคแรก แถมอลังการงานสร้างด้วย โดยบทจะตกไปที่ปมชีวิตของเพนกวินมากกว่า ทำให้Batman ดูเป็นตัวประกอบไปเลย แต่ไม่ใช่ว่าหนังไม่สนุก เพราะฉากแอ็คชั่นทำออกมายิ่งใหญ่มาก ทำให้ดูสนุกได้ และยิ่งหนังมันมืดๆ จิตๆ ทำให้เรารู้สึกกลัวเพนกวินเหมือนกันในความน่าสงสาร+ปมทางจิตของเค้า ส่วนมิเชลไฟเฟอร์เนี่ย ขอบอกว่าเธอเล่นCatwoman ได้เซ็กซี่มากๆๆๆๆ ขนาดว่าชุดปิดมิดกว่าเวอร์ชั่นห่วยๆของฮัลลี่ เบอรรี่นะ แต่ดูเซ็กซี่ และสวยจริงๆ (ส่วนตัวภาคนี้ผมชอบเป็นอันดับ3ครับ)
รายได้กวาดไป163ล้านเหรียญ (ทั่วโลก268ล้านเหรียญ) เพราะว่าหนังดูมืดๆ โรคจิต ทำให้คนดูไม่ค่อยชอบกัน ยิ่งกว่านั้นยอดขายของเล่นจึงไม่สู้ดีเอาเสียเลย และภาคต่อไปนี้แหละ มันคือการจากไปของเบอร์ตัน และเป็นการเริ่มต้นของหายนะของหนังชุดนี้มา
Batman Suit
ภาคนี้ใช้แบบชุดเดิม แต่ดัดแปลงโดยตัดกล้ามเนื้อปลอออกไป และออกแบบให้ดูเหมือนชุดเกราะมากขึ้น
Bat-Mobil
รูปแบบไม่ต่างจากคันเดิมในภาคแรกมากนัก โดยเพิ่มปีกข้างที่ยืดออกมาได้ ไว้สกัดศัตรู และมีลูกดอกไว้ยิงศัตรู มีแท่นที่ใต้รถไว้สำหรับกลับตัวรถ และสามารถปลดเกราะรถ เพื่อให้รถเล็กลงลอดทางแคบไปได้
เป็นรูปแบบนี้ ตอนถอดเกราะ มันชื่อ Bat-Missie
Bat-Skiboat
เรือของBatman ใช้ในตอนที่บุกรังเพนกวิน มีเรดาห์ (น่าจะเป็นชนิดโซน่า) สามารถหมุนได้360องศา (ในหนังมันมีแค่นี้แหละ ไม่ต้องสงสัย =w= )
ตัวร้าย
Penguin
เด็กที่เกิดมาผิดปกติ จึงถูกนำไปทิ้ง จึงทำให้เป็นปมวัยเด็ก และต้องการแก้แค้นครอบครัวที่มีความสุข เพราะอยากให้เป็นแบบตนเอง จึงแอบอ้างเป็นคนดี ขึ้นไปสมัครนายกเทศมนตรีของก็อตแธม เพื่อที่จะดำเนินแผนการได้สบายๆ ถือร่มไว้ตลอด(ซึ่งมันเป็นปืนกล) และมีนิสัยเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆ
Catwoman
เธอคือเซลิน่า ไคล์ เลขาของนักการเมืองแม็ก ผู้ซึ่งถูกฆ่าปิดปากเพราะไปรู้ความชั่วของเค้า แต่เธอก็ฟื้นขึ้นมา พร้อมจะไปล้างแค้น เธอมีนิสัยร้ายๆแบบแมว มีเล็บปลอมที่แหลมคมและแส้ไว้ต่อสู้ และสามารถตายได้ถึง9ครั้ง
Batman Forever
ภาคนี้คือภาคที่สร้างปัญหากับเฮียเบอร์ตันกับWarner เพราะว่าเรื่องของโรบิ้น ที่ทางWarner ยืนยันว่ายังไงก็ต้องมีให้ได้ และเฮียเบอร์ตันแกต้องการให้ภาคนี้มืด และโรคจิตหนักกว่าเดิม ซึ่งทางWarner ปฏิเสธ เพราะว่ารายได้ของReturn ไม่สมหวังเท่าไรนัก (แต่ว่าเพราะของเล่นภาคReturn มันขายไม่ค่อยออกต่างหาก) และเฮียเบอร์ตันแกจะทำ Ed Wood หนังชีวประวัติของผู้กำกับที่ห่วยแตกที่สุดในโลก แต่Warnerบอกว่า ให้เค้าทำBatman ก่อน จึงทำให้เฮียเบอร์ตันไม่พอใจ และออกจากโปรเจคหนัเงเรื่องนี้ พร้อมกับ ไมเคิล คีตัน
Warner จึงไปเอาผู้กำกับอย่าง Joel Schumacher จึงตกลงจะมารับหน้าที่กำกับหนังมนุษย์ค้างคาวชุดที่3 โดยแกบอกว่า ภาคนี้จะลดความรุนแรงลง ให้เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ให้มันดูเหมือนหนังสือการ์ตูนมีชีวิต
โดยตัวร้ายภาคนี้นั้นเป็นเดอะริดเดิ้ล ซึ่งตอนแรกเฮียเบอร์ตันแกวาง Robin Williams เป็น แต่เนื่องจาก Jim Carry ของมันขึ้นจาก The Mask ทำให้Warner เลือกเอาเค้าแทน
Robin Williams
Jim Carry
ส่วนคนมารับบทBatman เวอร์ชั่นใหม่นี้ ตอนแรกWarner เลือกได้แบบตาถึงมากนั้นก็คือ
Tom Hank!!!!
โอ้แม่เจ้า จะให้คนผมบางไปเป็นบรู๊ซ เวย์น อะนะ แน่นอน ป๋าทอมแกปฏิเสธ สุดท้ายบทเลยตกมาที่ Val Kilmer มา
ส่วนเจ้าหนูโรบินนั้น ตอนแรกวางไว้มีดังนี้
Leonardo DiCaprio
Michael Worth
แต่สุดท้ายหวยก็มาตกกับ Chris O'Donnell
เรื่องย่อก็คือ ทูเฟช (Tommy Lee Jones) อดีตอัยการฮาร์วี่ เดนส์ ได้แปรมากลายเป็นอาชญากร รวมถึง ดร.เอ็ดเวิร์ด นิกม่า ผู้ซึ่งประดิษฐ์โครงการให้ภาพ3มิติฉายบนทีวี แต่ความจริงคือการดูดความทรงจำของสมองเข้าสู่ตนเอง ก็กลายเป็นเดอะริดเดิ้ล ทั้งคู่ต้องการจะยึดครองก็อตแธมด้วยการดึงความทรงจำของคนทั้งหมดมา แต่ก้างชวางคอชิ้นใหญ่คือ Batman และยิ่งกว่านั้น ทูเฟชดันไปฆ่าพ่อแม่ของดิ๊ก เกรย์สัน ทำให้เค้าโกรธแค้นและพร้อมที่จะเป็น Robin ล้างแค้นให้แก่พ่อแม่ของเค้า
หนังตลาดดีครับ สีสันแสบตาได้ใจ แถมยิ่งการแสดงของจิมแครี่ มันทำให้ผมนึกว่าเป็น เกย์สติเพี้ยนยังไงยังงั้น หนังมันลดความมืดมน และโทนจิตครับ มันทำให้เราดูเหมือนการ์ตูนที่ฉายตามทีวีซะมากกว่า คือมันเหมาะกับเด็กนะ หนังมีมุขตลกมากมายทำให้ตัวร้ายดูติ๊งต๊องมากกว่าน่ากลัวไปเลย แต่ในทางกลับกันผมไม่ค่อยชอบภาคนี้เลยแฮะ แต่ปมของบรู๊ซเรื่องพ่อแม่ภาคนี้สื่อออกมาได้ดีครับ ขอชมตรงนี้ ส่วนฉากแอ็คชั่นเข้าใจว่าอลังการงานสร้างมากขึ้น เพราะต้องการขายความเป็นการ์ตูนมากขึ้นนั้นเอง สรุปพอดูเพลินๆได้ครับ (ส่วนตัวผมชอบภาคนี้เป็นอันดับรองสุดท้าย)
หนังทำรายได้ไป184ล้านเหรียญ (ทั่วโลก336ล้านเหรียญ)อาจเพราะว่าหนังลดความรุนแรงลง จึงทำให้รายได้เพิ่มขึ้น แต่ว่าเสียงวิจารณ์กลับไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
Batman Suit
เนื่องจากทีมงานเก่าหายหมด จึงจำเป็นต้องออกแบบชุดใหม่ โดยกลับมาสไตล์ของภาคแรก คือมีกล้ามเนื้อปลอมทำให้ดูเข้มแข็ง จึงไม่ค่อยต่างจากภาคแรกเท่าไรนัก ยกเว้นเป้าที่เน้นเป็นพิเศษ กับหัวนมที่แหลม???
แต่ในตอนหลังก็มีการพัฒนาชุดด้วย (เพราะชุดเก่าโดนระเบิดฐานทิ้งไปแล้ว) โดยเปลี่ยนสีเป็นสีออกเงินๆ และโลโก้เป็นแบบพิมพ์ติดกับเกราะไปเลย แต่ว่าทำไมมันต้องเน้นตรงเป้าและหัวนมแหลมเฟี้ยวด้วยฟะ???
Robin Suit
เป็นชุดเกราะคล้ายๆแบทแมน มีสีแดงตรงตัว ช่วงขาและแขนจะเป็นสีเขียวมืดๆ และแน่นอนยังคงเน้นตรงเป้า และหวันมแหลมเฟี้ยวแบบBatman???
Bat-Mobil
ออกแบบใหม่ ดูมีความสวยงามมากขึ้น ออกSci-Fi นิดๆ ส่วนตัวผมว่าสวยดี แต่มันไม่เท่แบบเวอร์ชั่นเก่า โดยความสามารถเท่าที่จับได้ของคันนี้ มันสามารถปล่อยตะขอเพื่อไต่ตึกได้……..
Bat-Wing
เครื่องบินภาคนี้ สามารถที่จะโดนยิงร่วงในเวลาอันรวดเร็ว(?)สามารถแปลงร่างเป็นเรือดำน้ำได้ พร้อมระบบดีดตัวอัตโนมัติ……..
Bat-Sub
อันนี้โรบินขับ มันคือเรือดำน้ำ ถูกระเบิดทิ้งในเวลาไม่ถึง3นาที พร้อมระบบดีดตัวอัตโนมัติ……..
ตัวร้าย
Two-Face
อดีตอัยการเมืองก็อตแธมนาม ฮาร์วี่ เดนส์ ผู้ซึ่งโดนมาเฟียสาดน้ำกรดใส่หน้าขณะขึ้นศาล แล้วBatman มาช่วยไม่ทัน จึงทำให้เค้าคิดว่าBatman คือคนที่ทำให้หน้าเค้าเสียโฉม จึงเคียดแค้นBatman และหวังจะกำจัดให้ได้ มีเหรียญคอยโยนเพื่อตัดสินใจ
The Riddler
อดีตนักวิทยศาสตร์ของเวย์น เอนเตอร์ไพส์ นามเอ็ดเวิรดิ์ นิกม่า ผู้ซึ่งเพี้ยนเพราะวิทยาศาสตร์ สร้างเครื่องฉายสามมิติ แต่ความจริงมันคือเครื่องที่เข้าไปดูความคิดของคน แต่เพราะโดนบรู๊ซ เวย์น ปฏิเสธโครงการ จึงเคียดแค้น และกลายเป็นอาชญากรที่จะครองก็อตแธมด้วยเครื่องนี้ นิสัยชอบเล่นปัญหา เพี้ยนๆ
และแล้วก็มาถึงฝันร้ายของหนังชุดนี้
Batman & Robin
เพราะรายได้อันสวยหรูของForever โจเอลจึงพร้อมสร้างภาคต่อไปทันที แต่ว่าเค้าต้องเสียวัล คิลเมอร์ไป เพราะความไปกินเส้นกัน Warnerจึงดันลูกรักอย่าง George Clooney ที่ดังมาจากซีรีย์หมอ ER มาสวมบทแทน
ส่วนตัวร้ายนั้นMR.Freeze ตอนแรกบทวางไปที่
Patrick Stewart
แต่สุดท้ายก็ได้ Arnold Schwarzenegger มาเล่นแทน ด้วยค่าตัวสูงถึง25ล้าน
ส่วนPoison Ivy บทตอนแรกวางนักแสดงเหล่านี้
Julia Roberts
Sharon Stone
Demi Moore
สุดท้ายหวยก็มาตกที่ Uma Thurman
เรื่องย่อมันเกิดขึ้นว่า
มิสเตอร์ฟรีส ออกอาละวาดหาเพชรมาทำเครื่องพลังงาน แต่ก็มีแบทแมนและโรบินขวางทางไว้ และพอยซั่นไอวี่ก็ร่วมมือกับมิสเตอร์ฟรีสเช่นกัน ในขณะที่อัลเฟรดป่วย บาบาร่า วิลสัน ก็มาเป็นแบทเกิร์ลรวมด้วยช่วยกัน
หนังง่ายมากครับ มันง่ายไปหมด เหมือนนั่งดูการ์ตูนจบในตอนที่มันมีความยาวยาวกว่าปกติเท่านั้นเอง อะไรๆมันเดินเส้นตรงหมดเลยอะ หนังก็แฟนตาซีซะจนลืมคราบแบทแมนหมดเลย มิสเตอร์ฟรีสก็ไม่ได้น่ากลัวเลย ฉากแอ็คชั่นอาจดูสนุก แต่ก็เท่านั้นแหละครับ นอกนั้นหนังไม่มีอะไรเลย ที่ดีๆมีปมของอัลเฟรดเนี่ยแหละที่ทำดีใช้ได้ และยิ่งใส่แบทเกิร์ลมา หนังยิ่งออกทะเลไปเลย (ชอบเป็นอันดับสุดท้าย)
ภาคนี้กวาดรายได้ไปแค่107ล้านเหรียญ(ทั่วโลก238 ล้านเหรียญ)จากทุนสร้าง125ล้านเหรียญ เจ๊งกระจุยกระจาย เพราะว่าหนังมีแต่กระแสลบ ทั้งความไม่เอาอ่าวของหนัง และหนังเรื่องนี้ตงใจออกแบบอะไรหลายอย่างให้ดูเป็นเกย์? (ชุดแบทแมนไงครับ) ทำให้หนังชุดนี้ถูกพิฆาตไป พร้อมกับการออกจากโปรเจคตลอดกาล ของโจเอล(ไปเหอะ อย่าได้กลับมาเลย)
Batman Suit
ชุดแรก ยึดถือชุดใหม่ของภาคForever แต่ว่าใส่สีให้ทะมึนมาขึ้น แน่นอนเป้ายังตุง และหัวนมยังคงแหลมเฟี้ยว
หลังเรื่องมีชุดใหม่ แต่ว่าได้มาได้ยังไงหนังไม่ได้บอกไว้ มีลายแถบสีเงินมาทาบทำให้ดูเท่ขึ้น ไม่มีหวันมแหลมเฟี้ยว แต่มีเป้าตุงเช่นเดิม
Robin
ชุดแรกเป็นชุดของภาคForever เด๊ะๆเลยครับ
ชุดที่2ก็มีแถบเงินเพิ่มเข้ามาเป็นลายในชุดเช่นแบทแมน และแน่นอน มันเป้าตุง และมันดันไม่ตัดหัวนมแหลมเฟี้ยว!!!!!
Batgirl
ชุดแรกมันเป็นชุดหนังสีดำรัดรูปธรรมดาครับ แต่ว่าเน้นที่หัวMilk นิดนึง (พอทำให้ใจหนุ่มๆชื่นมาบ้าง หลังจากเห็นตูดกับหัวนม2ฮีโร่มาภาคนึง กับอีกเกือบจบเรื่อง)
ชุดที่2 มันก็แค่เพิ่มแถบสีเงินเท่านั้นแหละ มีหมวกด้วยนะ แต่ว่า อย่าใส่อีกเลย
Bat-Mobil
ออกแบบได้Sci-Fi หลุดโลก แถมไม่มีที่คลุมคนขับด้วย เก๋ามาก มันมีวิทยุแบบเห็นภาพด้วย มันล็อคมอเตอร์ไซต์ของโรบินได้ด้วย ระบบดีดตัวอัตโนมัติก็มี แค่นี้แหละ
Bat-Hammer
รถคันที่2ของแบทแมนในภาคนี้ วิ่งบนน้ำแข็งได้ดี ปีกสามารถสะท้อนการโจมตีได้ต่างหาก มีแค่นี้แหละ
Redbird
มอเตอร์ไซต์คู่ใจของโรบิน มันมีไว้ขับ…….
BATSLED
รถของโรบินคันที่2 มันก็มีไว้ขับนั่นแหละ
BATBLADE
มอเตอร์ไซต์ของแบทเกิร์ล ก็มีไว้ขับ
ตัวร้าย
Mr.Freeze
อดีตคือดร.วิคเตอร์ ฟริส นักวิทยาศาสตร์เก่งกาจผู้ซึ่งภรรยาล้มป่วยเป็นโลกที่รักษาไม่ได้ เค้าจึงคิดจะแช่แข็งภรรยาเพื่อหาทางรักษาเธอ แต่เค้าดันตกลงในบ่อน้ำแข็งแทน ทำให้เค้ากลายเป็นมิสเตอร์ฟรีส ผู้ซึ่งต้องอยู่ในความเย็นเท่านั้น เค้ามีชุดปฏิบัติการที่ต้องใช้พลังงานจากอัญมณี เค้าต้องการเงินเพื่อมารักษาเมีย
Poison Ivy
อดีตคือดร.พีมีล่า พรีสลี่ ผู้ซึ่งวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์พืช แต่เนื่องจากไปเห็นการทดลองมนุษย์ของดร.เจสัน จึงโดนฆ่าปิดปาก แต่เนื่องจากสารเคมีการทดลองตกใส่เธอมากมาย ทำให้เธอเกิดใหม่เป็นPoison Ivy ผู้ซึ่งสามารถโปรยเสน่ห์ให้ผู้ชายหลงไหล และมีปากที่มีพิษ เมื่อเธอจุมพิตใคร คนนั้นต้องตาย
Bane
มนุษย์ทดลองที่ดร.เจสันทำขึ้นมา โดยการฉีดสารเคมีทำให้สร้างกล้ามเนื้อ มีพลังมหาศาล แต่ในหนังไม่ได้บอกว่าทำไมถึงเชื่อฟังคำสั่งPoison Ivy
หลังจากความล่มเหลวของBatman&Robin ทำให้หนังBatman ถูกพับเก็บไปทันที จนกระทั้งปี1999 ทางWarner ได้มีการพูดคุยกับดาร์เรน อโรนอฟสกี้ โดยแกบอกว่า อยากทำThe Dark Knight Returns แต่โปรเจคก็โดนพับเงียบไป
จนกระทั้งคริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับหนังเทพอย่าง Memento ซึ่งพึ่งกำกับInsommiaไป บอกว่า เค้าอยากกำกับแบทแมนในรูปแบบของเค้า เค้าก็เสนอบทกับทางWarner โดยรีเครื่องใหม่ทั้งหมด ย้อนกลับไปสร้างใหม่ถึงต้นกำเนิดของมนุษย์ค้างคาวตัวนี้ ซึ่งทางWarner ก็เห็นด้วย (คงได้บทเรียนแล้วล่ะ) หนังก็เริ่มขึ้น โดยโนแลนแกวาง คริสเตียน เบล มาเป็นแบทแมน แต่ติดปัญหาที่ว่า เบลพึ่งเล่น The Machinist ซึ่งเค้าต้องลดน้ำหนักจนผอมเหลือเป็นขี้ก้าง
ผมนี้แหละครับ บรู๊ซ เวย์น
เบลแกเลยต้องรีบเพิ่มน้ำหนักอย่างเร่งด่วน ไม่ถึง2เดือนแกก็กลับมา
ปิ๊งงงงง
และการยกเครื่องใหม่ทั้งหมดของBatman ก็เริ่มต้น
Batman Begin
เรื่องย่อ
บรู๊ซ เวย์น เด็กน้อยผู้ซึ่งเห็นการตายของพ่อแม่ต่อหน้าต่อตา และเค้าพบความเสื่อมโทรมของเมืองก็อตแธม ทำให้เค้าหนีออกไปจากเมือง และเค้าก็พบกับราช อากูล เค้าได้ฝึกฝนวิชา และกลับมาที่ก็อตแธม ใส่หน้ากากออกล่าอาชญากรในชื่อ Batman
นี้แหละครับBatman หนังดูสนุกอย่างที่ผมชอบมากๆ มันมืดแต่ไม่จิต มันมืดไปทางอาชญากรรมมากกว่า หนังเต็มไปด้วยความเสื่อมโทรมก็อตแธอ ฉากขับรถก็ทำออกมายอดเยี่ยม อาจจะน่าเบื่อนิดในช่วงต้นเรื่อง แต่หลังจากเข้าก็อตแธมแล้วหนังจึงเริ่มความสนุกอย่างไม่ยั้ง ตัวละครบรู๊ซ เวย์น ก็ดูมีมิติมากมาย (ส่วนตัวผมชอบภาคนี้ที่สุด)
และการกลับมาของBatman ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ทั้งเสียงวิจารณ์และรายได้ เพราะแค่ที่สหรัฐที่เดียวก็กวดไปถึง205ล้านเหรียญ (ทั่วโลก371ล้านเหรียญ)
Batman Suit
เน้นเป้ากับหัวนมแหลมเฟี้ยวเรอะ ลืมไปได้เลย กลับมาสู่ชุดเกราะที่เหมือนจริง ตราแบทแมนแสกนทับลงไปในชุดให้รูปแบบนูนๆ กลามเนื้อปลอม แต่ดูเป็นชุดเกราะ
Bat-Mobil
ภาคนี้มันรถแท๊งค์ ชัดๆ ใหญ่ ความเร็วก็ไม่ใช่ย่อย มีจรวดที่ยิงได้ แต่ฐานเล็งลำบากนิดเพราะต้องก้มลงไป มีความเร็วแบบไอพ่น มีระบบพลางตัว
ตัวร้าย
The Scarecrow
ดร.โจนาธาน แคน ผู้ซึ่งอยู่ภายใต้การบัญชาการของมาเฟีย แต่จริงๆมีคนที่เค้าอยู่ใต้บัญชาอีกคน เวลาก่ออาชญากรรมเค้าจะสวมถุงกระสอบ แล้วฉีดยาหลอนประสาทใส่ เพิ่อให้เหยื่อเกิดอาการจิตหลอนถึงขีดสุด
Henri Ducard
ลูกศิษย์ ราช อากูล ผู้ซึ่งสอนวิชาให้บรู๊ซ และบรู๊ซช่วยชีวิตเค้าไว้ จนตอนท้ายเค้ากลับโผล่มาถล่มเมืองก็อตแธม Batman จึงต้องหยุดให้ได้
และตำนานต่อไปกำลังจะสานต่อใน
The Dark Knight แบทแมน อัศวินรัตติกาล
เครดิต Filmax ฉบับเดือนกรกฏาคม
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=10000tip&month=18-06-2005&group=11&blog=13
http://www.imdb.com
http://www.batmannews.de
พบกันกระทู้หน้า ลาล่ะ555
Miscellaneous