เด็กตจว.ฮือ!เอาจีพีเอ40% = =
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 พ.ค. กลุ่มนักเรียนจากจังหวัดนครสวรรค์ ประมาณ 70 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนับสนุนการเพิ่มค่าจีพีเอ ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็น 40% โดยเห็นว่า เป็นการเรียนการสอนที่ทำให้ นักเรียนสนใจและ ตั้งใจเรียนอย่างต่อเนื่อง แต่การใช้ค่าจีพีเอลดลง ทำให้นักเรียนลดความสนใจ การเรียนในห้อง แล้วไปมุ่งกวดวิชาเพียง อย่างเดียว ทำให้เสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ก่อให้เกิดความเครียดต่อ ผู้เรียนและผู้ปกครอง
หลังจากรับหนังสือจากนักเรียนแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า การตั้งใจเรียนในห้องเรียนได้ความรู้ แต่การสอบเข้าเป็นเทคนิคของการรู้ทันข้อสอบ ไม่ได้หมายความว่ามีความรู้ แต่หลายคนไม่เข้าใจ เด็กในเมืองใหญ่จะเรียนน้อย แต่กวดวิชามาก แต่เด็กเมืองเล็กจะเรียนมาก ไม่ค่อยได้ กวดวิชา นี่คือความจริง คนอยู่ในเมืองเสียงดัง จับกลุ่มเดินขบวน ทุกคนก็กลัว ได้สั่งให้นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ ไปสำรวจทั่วประเทศว่า เด็ก ผู้ปกครองและครู คิดอย่างไรเรื่องระบบกลางรับนักศึกษาเรียนต่อในมหาวิทยาลัย (แอดมิชชั่น) ไม่ใช่อยู่ๆ ก็มาเดินขบวน ระบบเดินขบวนแล้วได้ผลต้องเลิกได้แล้ว
ต่อมาที่กระทรวงศึกษาธิการ เวลา 10.00 น. กลุ่มตัวแทนนักเรียนจากจังหวัดอุดรธานี เชียงใหม่ ปทุมธานี ลพบุรี นครสวรรค์ และสระบุรี ประมาณ 150 คน เข้าพบนายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ สนับสนุนกรณี การเพิ่มค่าจีพีเอเป็นร้อยละ 40 ซึ่งนายอดิศัยได้กล่าวกับกลุ่มนักเรียนที่เข้าพบว่า การศึกษาในเมืองไทยระหว่างต่างจังหวัดกับ กทม. ยังเกิดการแตกต่างกันอยู่ โดยเฉพาะเด็ก กทม.จะมีโอกาสที่มากกว่าเด็กต่างจังหวัด ระบบการสอบเอ็นทรานซ์ที่ผ่านมา ทำให้เด็กที่มีโอกาสกวดวิชามีโอกาสเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยมากกว่า ทั้งที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยควรใช้ความรู้ตั้งแต่ชั้น ม.4-ม.6 โดยต้องมีทั้งความรู้และความเข้าใจ และต้องตั้งใจเรียนตั้งแต่ ม.4 ไม่ใช่ตั้งใจกวดวิชาเฉพาะตอนเรียน ม.6 อย่างเดียว
รมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อว่า ยอมรับว่าระบบ เอ็นทรานซ์ระบบเก่า ทำให้การเรียนในโรงเรียนไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น จึงนำระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาใหม่ หรือแอดมิชชั่น มาใช้ในการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนในมหา วิทยาลัย โดยจะนำทั้งค่า GPA และคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร หรือ GPAX รวมทั้งมีการสอบแบบทดสอบมาตรฐาน หรือ O-NET และการสอบมาตรฐานแบบก้าวหน้า หรือ A-NET โดยระบบแอดมิชชั่นนี้ จะเป็นการนำผลการเรียนที่ติดตัวเด็กตั้งแต่ ม.4 มาใช้ในการคัดเลือกเด็กอย่างแท้จริง
“ข้อเรียกร้องที่อยากให้ลดค่าจีพีเอ และปรับมาตรฐานโรงเรียนให้เท่ากันก่อนนั้น ผมคิดว่าควรมองที่ส่วนรวมดีกว่า การเห็นแก่ตัวเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ควรเห็นแก่ส่วนรวมด้วย เพราะผมเชื่อว่าหากเด็กที่เรียนเก่งก็ไม่น่าจะเป็นห่วงเรื่องอะไร และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนับสนุนระบบนี้ เพราะต้องการเห็นการศึกษาของชาติพัฒนา และทำให้เด็กจะเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนหนังสือ ไม่ใช่จะเข้าแต่โรงเรียนกวดวิชาเพื่อสอบเอ็นทรานซ์อย่างเดียว” นายอดิศัยกล่าวและว่า เด็กและผู้ปกครองอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจในกระบวนการ นายกรัฐมนตรีเองก็อยากให้มีความชัดเจน จึงมีแนวทางที่จะสอบถามเด็กแต่ละภาคว่าต้องการให้ใช้ค่าเฉลี่ยจีพีเอเท่าไร โดยอาจจะทำโพลสำรวจจากเด็กทั่วประเทศ เพราะตนต้องการให้คนทั่วประเทศเข้าใจระบบนี้ ไม่ใช่เข้าใจกันเพียงคนไม่กี่กลุ่ม
นายมรกต สืบสิงห์ นักเรียนชั้น ม.5 ร.ร.มวกเหล็กวิทยาคม จ.สระบุรี กล่าวว่า อยากให้คิดค่าเฉลี่ยของ GPA สูงขึ้นถึงร้อยละ 30 หรือ 40 เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่เด็กต่างจังหวัด เนื่องจากเด็กต่างจังหวัดมีโอกาสเรียนกวดวิชาน้อยกว่าเด็ก กทม. รวมทั้งแหล่งสืบค้นในการเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ ก็น้อยกว่าเด็ก กทม. ทำให้โอกาสในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยน้อยกว่าเด็ก กทม.ด้วย แปลกใจว่าทำไมเด็ก กทม.ถึงออกมาเรียกร้องให้ลดค่าจีพีเอ ทั้งที่สิ่งแวดล้อมโดยรอบในการเรียนรู้ก็มีมากกว่า
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการร่วมงานสาธิตวิชาการ ครั้งที่ 1 ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงว่า กติกาในการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยจะต้องชัดเจน และให้เวลากับผู้ที่ได้รับผลกระทบได้เตรียมตัวอย่างน้อย 3 ปี แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากเราเปลี่ยนกติกาการคัดเลือกคนเข้ามหาวิทยาลัยบ่อย และการเปลี่ยนแต่ละครั้งก็มีผลบังคับใช้ทันที จึงทำให้เด็กบางกลุ่มเกิดความรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยก็รับตรงมากขึ้น คิดว่ามหาวิทยาลัยน่าจะมีการแบ่งสัดส่วนระหว่างการรับตรง และการรับระบบแอดมิชชั่นที่ชัดเจน และประกาศให้สาธารณะรับทราบ ทั้งนี้ การจะเปลี่ยนกติกาหรือกำหนดแนวทางใดก็ตาม ขอให้ยึดเด็กเป็นตัวตั้ง นำใจเด็กมาใส่ใจเรา ปัญหาต่างๆก็น่าจะคลี่คลายได้
:: Credit :: Thairath
/me คิดว่า ถ้าอยากใช้ GPA สูงๆ แบบนี้น่าจะใช้ข้อสอบ ช่วง ม.ปลาย ชุดเดียวกันทั้งประเทศไปเลยนะ... จะได้รู้กันไปเลย ไม่ใช่บางโรงเรียนกดเกรด แล้ว บางโรงเรียนปล่อยเกรด แบบนี้โรงเรียนที่กดเกรดก็อ้วกสิ... 40% แหนะ... - -"
- Edit by Noa(04 พ.ค. 2548-10:01:37)
Miscellaneous