เอาลองมาดูกันซิว่าใครมีออร่าแบบไหนกันมั่ง
ไม่พูดพรำฮัมเพลงมาดูเลยละกัน
ความหมายของสี...ออร่า
สีของความคิดและอารมณ์ จะมีลักษณะเป็นหมอก มีความไหลปรากฏเป็นหย่อม ๆ จะเห็นได้ชัดเจนบริเวณรอบศีรษะเหนือบ่า มีสีสันต่าง ๆ เช่น
1.สีชมพู หมายถึงพลังที่แจ่มใส เต็มไปด้วยความรัก อารมณ์ขัน ถ่อมตน และสามารถปลอบ ประโลมผู้อื่น โรมแมนติค มักจะพบในเด็กและผู้ใหญ่ที่จิตใจดีมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ หญิงมีครรภ์และมีสีชมพู ออกมามากเช่นกันข้อเสียของคนทีมีแสงสีนี้คือมักจะใจคอโลเล
2.สีแดง เป็นสีที่แสดงถึงความทะเยอทะยาน เต็มไปด้วยพลังงาน มีความกระฉับกระเฉงและพลังทางเพศถ้าเป็นสีแดงมืดอาจหมายถึง อารมณ์ที่รุนแรงถ้าเป็นสีแดงสดใน หมายถึง ความภาคภูมิใจและทะเยอทะยานในทางที่ถูกที่ควร ถ้าสีแดงขุ่นเป็นพวกใจคอโหดร้าย
3.สีส้ม / แสด เป็นสีของความกระฉับกระเฉงว่องไว มีความสุข สุขภาพที่เต็มไปด้วยพลัง ถ้ามีแสงสีนี้มากเกิดไปจะกลายเป็นคนเย่อหยิ่ง สีนี้ยังเป็นสีที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อด้วย สีส้มมัวหม่นหรือส้มปนน้ำตาล แสดงถึงปัญญาต่ำ ถ้าสีส้มแดงหมายถึงเย่อหยิ่ง อวดฉลาด
4.สีเหลือง เป็นสีที่มองเห็นง่ายที่สุดในออร่า เป็นสีของความฉลาด ความมีเมตตา มองโลกในแง่ดี รักเพื่อนมนุษย์นอกจากนั้นยังเป็นสีของภูมิคุ้มกันโรค สีเหลืองส้มแสดงถึงความฉลาดปราดเปรื่อง สีเหลืองขุ่นข้นแสดงถึงความอิจฉาริษยา หรือความคลางแคลงใจ
5.สีเขียว เป็นสีของจิตใจที่ละเอียดอ่อน มีความเข้าใจผู้อื่น นอกจากนั้นยังเป็นสีของความรักการเปลี่ยนแปลงการรักษาโรค ความสามารถในการใช้มือ และยังเป็นสีที่แสดงถึงความสมดุล ถ้าเป็นสีเขียวสดใสแสดงว่าเป็นคนปรับตัวเก่ง ใจดี ชอบอิสระ ถ้าเป็นสีเขียวมืดจะเป็นพวกขี้โกงขี้อิจฉา ถ้าเป็นสีเขียวอมฟ้า เป็นพวกชอบช่วยเหลือผู้อื่นไว้วางใจได้เข้าอกเข้าใจผู้อื่นและ แสดงถึงความสามารถ ในการรักษาโรค ถ้าเป็นสีเขียวขี้ม้าเป็น พวกชอบหลอกลวง ต้มตุ๋น ขี้โกง และขี้เหนียว
6.สีฟ้า เป็นสีของความสงบและสัจจะ เป็นสีของการสื่อสาร พลังจิต ความฉลาด ความมีอุดมคติ ขยันขันแข็งและ ความสำเร็จ สามารถยืนหยัดอยู่บนของของตัวเอง มีความเชื่อมมั่นในตนเอง ซื่อตรง จริงใจและชอบช่วยเหลือผู้อื่น มักจะเป็นพวกสมถะ แต่ใจคอหงุดหงิดง่าย สีน้ำเงินขุ่นแสดงว่าทัศนวิสัยถูกปิดกั่น กลายเป็นคนขี้กังวล และขี้ลืม
7.สีคราม เป็นสีของพลังจิต สัมผัสที่ 6 โทรจิต ความฉลาดล้ำลึก ความคิดสร้างสรรค์และความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ มีความจริงใจ ชอบค้นหาสัจจะความจริงของชีวิต
8.สีม่วง เป็นพวกจิตใจละเอียดอ่อน เป็นตัวของตัวเอง มีสัมผัสที่ 6 ชองทางสมาธิและโน้มเอียงไปในทางศาสนาชอบเรื่องลี้ลับ คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีสีนี้ ผู้ที่มีสีนี้มักจะมีพลังจิตสูง แต่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับบริเวณท้องเนื่องจากจักระช่วงบนพัฒนา ล้ำหน้าจักระชั้นล่าง
9. สีน้ำตาล เป็นสีที่แสดงถึงความคิดแคบ ๆ ไม่ยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น เห็นแก่ตัว ชอบคุยแต่เรื่องของตัวเอง เป็นคนน่าเบื่อ สีน้ำตาลยังเป็นสีของจักระท้า พลังธรณี และอดีตที่ผ่านมา ข้อดีของสีนี้คือเป็นสีของความขยันขันแข็ง ความมีระเบียบ และอาจหมายถึงความมุ่งมั่นที่จะให้สู่จุดหมายและความสำเร็จ
10.สีดำ หมายถึง การสิ้นสุด ซึ่งในที่นี้อาจหมายถึง การสิ้นสุดของสถานการณ์หนึ่งเพื่อเปิดโอกาสให้สถานการณ์ใหม่เข้ามา อาจหมายถึงการเกิดใหม่ หรือความล่าช้าก็ได้ บางครั้งอาจหมายถึง โรคร้ายแรงหรือเรื้อรัง อิทธิพลมืดบางครั้งอาจหมายถึงการปกป้อง ตัวเองจากพลังภายนอก หรือคนผู้นั้นอาจจะมีความลับ ถ้าสีดำเกิดปะปนอยู่ในสีอื่น ๆ เช่น ปะปนอยู่กับสีแดง แสดงถึงความโกรธ เกลียด อาฆาต พยาบาท ถ้าปนกับสีเหลืองแสดงถึงความคิดชั่วร้าย ถ้าปนกับสีเขียวแสดงถึงความคิดหักหลัง อิจฉา
11.สีขาว เป็นแสงที่มีความสมดุล และสมบูรณ์แบบมากที่สุด จะปรากฏกับพวกนักบุญ พระหรือผู้ฝึกสมาธิวิปัสสนาสม่ำเสมอ ถ้าปรากฏเป็นเส้นแสงสีขาวผ่านเข้ามาในแสงอาจหมายถึง ข่าวสารจากมิติอื่นเข้ามา พวกที่เข้าทรงจะมีสีขาวเข้ามาในแสงในระหว่างการเข้าทรง ผู้ที่มีสีขาวปรากฏอยู่ในออร่า หมายถึงว่า กายแสงได้รับการชำระและฟอกให้บริสุทธิ์ หรืออาจหมายถึงสภาพจิตใจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และบริสุทธิ์
12.สีน้ำเงิน หมายถึง แรงบันดาลใจ หรือข่าวสารข้อมูลจากโลกวิญญาณ หรือจากมิติอื่น
13.สีทอง เป็นพลังของจักรวาลหรือพลังจากเทพที่เข้ามาช่วยถ่ายโรคออกจากร่างกาย
14.สีเทา เป็นพวกขาดจินตนาการ คร่ำครึ หัวโบราณ ยึดถือความคิดเป็นใหญ่ เจ้าระเบียบ ถ้าเป็นสีเทามืดยิ่งมืดทึบมากยิ่งแสดงถึงอารมณ์ที่เหี่ยวเฉา สลดหดหู่ คนพวกนี้มักจะว้าเหว่ ถ้ามีจุดมืดสีนี้ในแสงแสดงถึงความคิดแง่ลบ ได้แก่ ความเกลียด เคียดแค้น หรือแม้แต่อารมณ์ฆาตกร สีเทาค่อนไปทางสีเงิน แสดงถึงว่าสมองซีกขวาได้รับการกระตุ้นก่อให้เกิดจินตนาการและสัมผัสที่ 6
สีที่ไม่ค่อยปรากฏอยู่ด้วยกันคือ สีน้ำเงินกับสีแสด ถ้าใครมี 2 สีนี้อยู่ด้วยกันจะเป็นคนที่น่าอิจฉาเพราะสีน้ำเงินของความสงบและสีแดงเป็นสีของความสุข คุณจะมีแต่ความสงบสุขทางจิตใจ อันนี้มักจะพบในเด็กอายุต่ำกว่า 8 ขวบ และในผู้ใหญ่บางรายที่รักษาโรคด้วยพลังจิตพวกนี้มักจะมีความสดดุลทั้ง ร่ายกายและจิตใจทำให้มี 2 สีนี้ปรากฏอยู่ร่วมกัน สีพื้นฐานของออร่า
จะทราบได้อย่างไรว่าคุณมีสีพื้นฐานของออร่าเป็นสีอะไร
ในเมื่อออร่าเต็มไปด้วยสีสัน แต่ถ้าคุณมองแสงออร่าทั้งหมดแล้ว จะเห็นว่ามีสีใดสีหนึ่งเด่นชัดที่สุดในแสงโดยสีนี้จะปรากฏอยู่ตามที่ต่าง ๆ (แล้วมีสีอื่นเข้ามาเจือปน) สีนี้คือสีพื้นฐานของออร่า เป็นสีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต มันจะบ่งบอกถึงศักยภาพของตัวคุณเองว่าควรใช้ชีวิตอย่างไรเพื่อนำเอาศักยภาพนี้มาสร้างความสำเร็จและความสุขให้กับชีวิตของคุณ การคำนวณสีพื้นฐานของแสงออร่าในตัวคุณทำอย่างไร? ถ้าคุณยังไม่เคยเห็นแสงออร่าของตัวเอง คุณจะทราบได้อย่างไรว่าคุณมีแสงออร่าสีพื้นฐานเป็นสีอะไร
มีวิธีการคำนวณหาง่าย ๆ และผลที่ออกมามีความเชื่อถือได้มากพอสมควร ดังนี้
วิธีการคำนวณคือ
เอาวัน เดือน ปี ค.ศ. ที่เกิด มาบวกกัน ปีนี้ต้องเป็นปี ค.ศ.เท่านั้น ถ้าเป็นไม่ทราบว่าคุณเกิดปี ค.ศ.อะไร ก็ไห้เอา 543 ไปลบออก จากปี พ.ศ. ที่จะเกิด จะได้ปี ค.ศ. ที่ต้องการ เช่น คุณเกิดปี พ.ศ. 2503 เอา 543 ไปลบออกจะได้ปี ค.ศ.1960 สมมุติว่าคุณเกิดวันที่ 5 เดือน พฤษภาคม ค.ศ.1960 ก็เอาเลขทั้งหมดมาบวกกันให้ได้ผลลัพธ์เป็นเลขตัวเดียวดังนี้
5 5 + 1960 1970 = 1 + 9 + 7 10 = 17 1 + 7 = 8 เมื่อได้ผลลัพธ์เป็นเลขตัวเดียวแล้ว ขอให้ดูว่าตัวเลขที่ได้ตรงกับสีพื้นฐานสีอะไร มีความหมายอย่างไร ถ้าผลลัพธ์ที่ได้เป็นเลข 11 หรือ 22 คุณไม่ต้องเอา 1 + 1 หรือ 2 + 2 อีกเพราะเลข 11 และเลข 22 เป็นพวก “พิเศษ” กว่าผู้อื่น คือเป็นพวกมีแสงสีเงิน และสีทอง คราวนี้ขอให้มาดูผลลัพธ์ที่ได้ว่าคุณมีพื้นฐานตรงกับสีอะไร ผลลัพธ์เป็นเลขสีพื้นฐาน 1 แดง 2 ส้ม / แสด 3 เหลือง 4 เขียว 5 น้ำเงิน 6 คราม 7 ม่วง 8 ชมพู 9 ทองเหลือง 11 เงิน 22 ทอง 23
Miscellaneous