แนว Boy's Love กำลังเป็นที่นิยมของผู้หญิงญี่ปุ่น
(จากนิตยสาร Shukan Bunshun ฉบับวันที่ 1 กันยายน 2005)
ผู้หญิงญี่ปุ่นจำนวนมาก ตั้งแต่เด็กนักเรียนหญิงจนถึงแม่บ้านวัยกลางคน กำลังติดใจในเรื่องราวความรักระหว่างชายหนุ่มน่ารัก กับ..ชายหนุ่มน่ารักอีกคน ซึ่งเราเรียกเรื่องราวประเภทนี้ว่า Boy's Love (คนญี่ปุ่นจะใช้คำว่า "Boy's Love" มากกว่าคำว่า "Yaoi" (ยาโอย))
Boy's Love นั้นเริ่มปรากฎตัวมากขึ้นในทุกๆสื่อ นำเสนอในเรื่องเด็กผู้ชายที่หลงรักพวกเดียวกัน
ถึงแม้ว่า Boy's Love ปรากฎทั้งในการ์ตูน, มังก้า, นิยาย, และเกมคอมพิวเตอร์ พวกมันตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เรียกว่า "โดจินฉิ" (Dojinshi)
Dojinshi นั้นมีอยู่เต็มไปหมดในตลาดหนังสือการ์ตูน สิ่งที่ทำให้มันต่างจากการ์ตูนธรรมดาคือ มันถูกทำขึ้นมาโดยแฟนการ์ตูนที่นำตัวละครของมังก้าที่นิยม หรือ อนิเม หรือ นิยาย มาทำการล้อเลียน หรือ เรียบเรียงเป็นเรื่องใหม่ที่พวกเขาคิดขึ้นเอง
Boy's Love Dojinshi นั้นจะเป็นอะไรอย่างเช่นการหยิบเอา "กัปตัน สึบาสะ" ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักฟุตบอลของโรงเรียนประถม แล้วทำให้ตัวละครหลักเป็นคู่รักกัน หรือจะให้ทันสมัยไปกว่านั้น ก็คือเรื่องราวของ Harry Potter กับ Ron Weasley กับ "ไม้เท้าวิเศษของพวกเขา" ซึ่งต่างออกไปจากสิ่งที่ J.K. Rowling เขียนเอาไว้
ขณะที่หลายๆคนตกใจกับภาพที่ได้เห็นจากสื่อ Boy's Love ผู้ทำก็เดินหน้าสร้างผลงานต่อไป มิหนำซ้ำ บางคนยังกลายเป็นศิลปินที่โด่งดังอีกด้วย
หลายคนให้ความคิดเห็นถึงการที่ผู้หญิงญี่ปุ่นมากมายหลงใหลในเรื่องเด็กหนุ่มผู้ชอบพอในเพศเดียวกันไว้ต่างกัน
"โลกของ Boy's Love นั้นมันเป็นเรื่องชวนฝันโดยสิ้นเชิง" ผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานในตลาดหนังสือการ์ตูนแห่งหนึ่งกล่าวกับนิตยสาร Shukan Bunshun "เมื่อมังก้าหรือนิยายกล่าวถึงเรื่องราวของความรัก มันมักจะเป็นการชิงรักหักสวาท ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี แต่สำหรับ Boy's Love นั้น มันเกี่ยวกับการไม่ทำร้ายจิตใจเสมอๆ ฉันว่า Boy's Love นั้นเป็นทางหนึ่งที่จะหลบหนีจากความจริง"
ในตอนแรก Boy's Love นั้นมีเพียงแค่ในหนังสือการ์ตูนและนิยาย แต่ตอนนี้เกมคอมพิวเตอร์แนว Boy's Love ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
"Suki na mono ha suki dakara shoganai" (You Can't Help What You Like) ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อ 5 ปีที่แล้วนั้นเป็นเกมแนว Boy's Love เกมแรกของญี่ปุ่นและก็ได้รับ rate R (จากการใช้คำไม่สุภาพ) เป็นเกมที่ฮิตมาก และเกม "Gakuen Heaven" (School Heaven) ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักของเหล่าหนุ่มน้อยน่ารัก ก็ขายดีมากเช่นกัน และทำให้ตลาดขยายตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ทั้งสองเกมกลายเป็น series ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและมี merchandise ของตัวเองออกมาตั้งแต่ตุ๊กตาจนถึงหนังสือการ์ตูน และจะมีเป็น series ทางโทรทัศน์ออกมาอีกด้วย
"มีการกล่าวว่า อะไรที่ตลาดผู้หญิงนิยมนั้นมันมักจะตามหลังสิ่งที่ผู้ชายชอบ 3 ปี ดังนั้นผู้หญิงเพิ่งเริ่มที่จะชอบฟิกเกอร์ (figure)" หญิงขายการ์ตูนคนเดิมกล่าว "พวกผู้ชายนั้นเปลี่ยนจากฟิกเกอร์และตุ๊กตาไปเป็นอะไรอย่างเช่น 'คาเฟ่สาวใช้' (maid cafe) แล้ว ดังนั้น บางทีมันคงไม่นานเกินไปที่เราจะได้เห็น 'Boy's Love คาเฟ่' โผล่มา"
*Yaoi (ยาโอย) มาจากวลี "ยามะนาฉิ โอชินาฉิ อิมินาฉิ" (no climax, no point, no meaning) ซึ่งนำอักษรหน้าออกมารวมเป็นคำใหม่
**maid cafe = ร้านกาแฟที่พนักงานหญิงในร้านจะแต่งชุดยูนิฟอร์มสาวใช้แบบยุโรปในศตวรรษที่ 19 อนึ่ง ในญี่ปุ่นก็เคยมีโรงแรมสาวใช้ โดยพนักงานในโรงแรมจะอยู่ในชุดสาวใช้ฝรั่งเศสและเรียกแขกที่มาพักว่า "โกชูจินซามะ" (Master) พร้อมทั้งมีบริการถูหลังให้ตอนอาบน้ำ ซึ่งเป็นที่สนใจของ 'โอตากุ' (พวกคลั่งการ์ตูน/อนิเม) มากมาย
แปล & เรียบเรียงโดย SingleBed @GG
Related news: Tokimeki Memorial Girl's Side 2nd Kiss
News