Elemental of fantasia

พอดีกำลังเขียนเนื้อเรื่องเกมส์สงอาจารยืครับ แล้วกำลังหาคนติ (ติสาระ ๆ หน่อยนะครับ)

งานรีบส่งครับ ขอบคุณครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------------

Elemental of fantasia



( สิ่งที่มองไม่เห็น ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีอยู่จริง )





ธาตุทั้งสี่ในโลก อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม และ ไฟ ต่างเกื้อหนุนและหล่อเลี้ยงรักษาโลกของเราไว้ โดยมีต้นไม้แห่งชีวิต (yggdrasil)

เป็นสิ่งสำคัญในการที่จะรักษาและปกป้องดูแล และรักษาระบบแห่งสามภพ ต้นไม้แห่งชีวิตดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตในโลกให้อยู่อย่างสงบสุข หากต้นหมายแห่งชีวิตสูญสลายไปนั้นย่อมหมายถึงการเปลี่ยนแปลงและโศกนาฏกรรม

กระทั้งวันหนึ่ง อุกาบาตตกลงมายังพื้นโลก สร้างความเสียหายไปทั่วบริเวณกว้าง ส่งผลให้เกิดมลภาวะเป็นพิษ และ เกิดสภาวะ ขาดอาหาร

สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอยู่ได้ มีเพียงบางชนิดที่เปลี่ยนแปลงตนเอง ให้ทนอยู่ในสภาวะเช่นนี้ได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดนั้น คือ สภาวะขาดอาหาร

สิ่งมีชีวิตที่อยู่กันอย่างสงบในโลกใบนี้นั้นเริ่มหันมาต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์ของตนเอง โดยผู้ที่อ่อนแอย่อมต้องหายไปจากโลกนี้ แต่ทว่าเมื่อมีการเริ่มต้นย่อมมีการสิ้นสุด และนี้จะเป็นปฐมบทแห่งการเริ่มต้นที่มีต้นไม้แห่งชีวิต เป็น เดิมพัน

ณ โลกของเราหลังจากผ่านเหตุการณ์อุกาบาตรพุ่งชนโลก ส่งผลกระทบที่สร้างความเสียหายเกินคณานับ เหล่าสิ่งมีชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นจำนวนมากเพื่อความอยู่รอดในสภาพอากาศที่เลวร้าย ก่อกำเนิดมอนสเตอร์อยู่ทั่วทุกแห่งในโลกใบนี้

โลกใบนี้มีชนเผ่าอยู่ 5 ชนเผ่าอันได้แก่

แกรน ครอส (Grand cross ) เผ่านักรบด้วยพละกำลังและความอดทนที่มากกว่าชนเผ่าอื่น ๆ ในโลก ชอบการรบ โดยประชากรในเผ่านี้เป็นนักรบชะส่วนใหญ่และลูกหลานที่อยู่ในชนเผ่านี้จะได้รับการฝึกเกี่ยวกับทหารมาตั้งแต่เด็ก เพื่อเป็นกำลังและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ชนเผ่าของตนเอง

เซราฟ (Seraph) เผ่าสวรรค์ เป็นชนเผ่าที่อยู่คู่กับต้นไม้แห่งชีวิต คอยสังเกตความเป็นไปในโลก เป็นเผ่าที่ได้รับพลังแห่งเทพ และอยู่อย่างสงบโดยปราศจากการเกี่ยวข้องกับชนเผ่าอื่น ๆ

กรีนฟอเรส (Green Forest ) เผ่าแห่งป่าดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นชนเผ่าที่อยู่มานานเคียงคู้กับต้นไม้แห่งชีวิตที่อยู่บนโลกใบนี้ เชื่อว่ามีพลังลึกลับที่ทำให้ชนเผ่านี้มีพละกำลังในการดำรงชีวิตเพื่อความอยู่รอด

วิชดอม (Wisdom) เผ่าแห่งความรอบรู้ เป็นชนเผ่าที่มีสติปัญญาแห่งสามารถสร้างสรรค์เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ตนเอง ผนวชกับการเล่นแร่แปรธาตุของพวกเขา ทำให้ชนเผ่านี้ไม่ค่อนแวะกับชนเผ่าอื่นใด

อควอเรี่ยน (Aquarian ) เผ่าแห่งสายน้ำ ดำรงชีวิตอยู่กับแหล่งน้ำมาเนิ่นนาน สามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตในน้ำและว่ายน้ำได้อย่างอิสระเหมือนฝูงปลา

ทั้งห้าเผ่านี้ต่างดำรงอยู่และปกปักรักษาเผ่าพันธุ์ของตนเอง เพื่อความอยู่รอดและ ชะตากรรมได้กำหนดให้ทั้งห้าเผ่าพันธุ์ได้มาเผชิญหน้ากันเพื่อความดำรงอยู่ของเผ่าตนเอง



เนื้อเรื่อง

เวลาผ่านไปเกือบสิบปี ที่สิ่งมีชีวิตต่างออกสู้กันเพื่อความดำรงอยู่และการอยู่รอดของตนเอง ณ อาณาจักรแห่งท้องฟ้า มหาเทพ grandiosely แห่งเซราฟ เฝ้ามองอนาคตผ่านลูกแก้วแห่งวิญญาณ โดยที่สีหน้าบ่งบอกถึงความกังวลในอนาคตอันใกล้นี้ แกรนด์ดิโอเซรี่จ้องมองไปทางหน้าต่างเบื้องล่าง และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พรางเห็นดวงดาวที่ส่องประกายรบหรี่ลงเรื่อย ๆ

ช่วงเวลาแห่งความฝัน บนทุ่งหญ้าที่กว้างไกล Randolph เดินไปตามทุ่งหญ้าสีเขียวที่กว้างใหญ่ จนไปเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งตั้งอยู่โดด ๆ ภายใต้ต้นไม้ปรากฏหญิงสาวยืนหันหลังให้ขณะที่แรนดอฟจะเดินเข้าไปถึงตัวเธอนั้น ปรากฏลมพัดอย่างรุนแรงขึ้นจนเขาต้องหลับตาลง เมื้อลืมตาอีกครั้งปรากฏว่าภาพบริเวณรอบ ๆ เป็นฝุ่นทรายและแผ่นดินแตกละแหงที่รกร้าง ท้องฟ้ากลับเปลี่ยนเป็นสีแดงส้ม ไร้ซึ่งหมู่เมฆที่ลอยไปมาก่อนหน้านั้น สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าแรนดอฟนั้นคือหญิงสาวที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ลอยยิ้มของเธอนั้นแฝงด้วยความเศร้าอยู่ภายใน และสิ่งที่เด่นชัดคือปีกสี ดำ และ ขาว ที่กางออกระหว่างแผ่นหลังของเธอ เธอกล่าวเกี่ยวกับอนาคตอันใกล้ให้แรนดอฟ ฟังและบังเกิดลมพัดอย่างรุนแรงจนแรนดอฟ ต้องหลับตาลงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อลืมตาขึ้นปรากฏเธอได้หายไปแล้วเหลือเพียงแต่ขนนกที่ลอยอยู่จากฟาดฟ้า เขามองขึ้นไปข้างบนจากที่ขนนกร่วงลงมาปรากฏแสงสำแดงเพลิงพุ่งลงมาใส่เขาอย่างไม่ทันตั้งตัว แรนดอฟ ลุกขึ้นจากเตียงในสภาพที่ตกใจสุดขีด reliable สุนัขหุ่นยนต์ เดินเขามาหาเจ้านายของมันและทันใดนั้นปรากฏสัญญาณจากโทรศัพท์ทันที เขาเข้าไปกดรับโทรศัพท์ปรากฏหน้า จอขึ้นมา ในนั้นมีภาพของชายหนุ่มเข้ามารายงานว่าตอนนี้มีฝูงมอนสเตอร์พยายามบุกเข้ามาในเมืองให้ออกปฏิบัติการทันที แรนดอฟ พร้อมด้วยสุนัขคู่หูจึงรีบออกไป

บริเวณชานเมือง advance cyber logy ปรากฏสิ่งมีชีวิตลึกลับ ฝูงมิโนโทรุดจำนวนมหาศาลกรูเข้ามาเป็นระลอกคลื่น ฝ่าแนวป้องกัน ชั้นแล้วชั้นเล่า กองกำลังป้องกันไม่สามารถต้านไว้ได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในทางที่มันผ่านล้วนราบเป็นหน้ากองกลิ่นคาวเลือดที่กระจายฟุ้งไปทั่วบริเวณที่มันผ่านล้วนสร้างความบ้าคลั่งให้กับมันมากขึ้น ๆ มันใกล้เมืองเข้ามาเรื่อย ๆ ณ ประตูใหญ่บัดนี้ไม่ปรากฏเครื่องป้องกันอะไรเลย นอกจากบุคคลหนึ่งยืนอยู่ ชายที่ถือปืน Hyper shotgun ยืนนิ่งไม่หวั่นไหวแม้สิ่งที่เขาเผชิญอยู่ตรงหน้า คือ ฝูงยมทูตขนาดใหญ่ เก้าสิบเมตร ห้าสิบเมตร มันใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ชายหนุ่มลืมตาขึ้นปรากฏควันสีขาวพวยพุ่งออกมาแผ่ขยายรัศมีกว้างออกไป ฝูงยมทูตหยุดละงัดทันที ทุกตัวต่างมองหาทางออกจากควันสีขาวเหล่านี้ มิโนโทรุดโชคร้ายตัวหนึ่งกำลังเดินหาทางออกอยู่นั้น ปรากฏเสียงของวัตถุมีคมฟาดลงไปที่ตัวมีน หยุดลมหายไจไปคราวเดียว เลือดสาดกระเซ็นไปถูกเพื่อน ๆ ของมันที่อยู่ใกล้ บ่งบอกถึงสัญญาณอันตรายในพวกมันเอง ยังไม่ทันที่จะร้องออกมา ให้ตัวอื่น ๆ รู้ตัว เสียงของอาวุธมีคมกวัดแกว่งอย่างรวดเร็ว ตัวแล้วตัวเล่า บัดนี้ควันได้จางหายไปแล้วมิโนโทรุดที่เหลือต่างมองไปที่ต้นเสียงของอาวุธที่กวัดแกว่ง และ กลิ่นคาวเลือกของพวกเดียวกันเอง ปรากฏชายหนุ่มที่มันเห็นตอนแรกนั้นบัดนี้ได้ยืนเหยียบศพของเพื่อนมัน ในกลางวงของฝูง เขายังคงหลับตาอยู่ สิ่งที่เขาถืออยู่ในมือบัดนี้ไม่ใช่ปืน ที่เห็นอยู่ตอนแรกแล้ว แต่เป็นอาวุธดาบที่ (Gun blade) ยังคงเหลือส่วนประกอบของปืนอยู่ ด้วยความโกรธแค้นของฝูงมิโนโทรุดที่เห็นเพื่อนของมันถูกสังหาร สร้างความบ้าคลั่งให้กับพวกมัน ทุกตัวจึงกรูเข้าหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ทันที ( Mission 1 : สังหารฝูงมิโนโทรุด แล้วหาทางไปที่กำแพงเมือง )

ฝูงมิโนโทรุด เข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง แม้เพื่อนของมันจะล้มตายเป็นจำนวนมากแต่เป้าหมายของมันนั้น มีอยู่อย่างเดียวคือ จัดการชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าให้จงได้ ตอนนี้ฝูงมิโนดทรุดนั้นต่างบุกเข้ามาเรื่อย ๆ ชายหนุ่มไม่สามารถรับมือได้ไหว มือของเขาเริ่มอ่อนล้า ความเหนื่อยในการที่สู้เป็นเวลานาน ๆ เขาโดนรุกไล่จนกลับมาที่กำแพงเมืองอีกครั้ง ชายหนุ่มยกมือขึ้นมา พรางทำให้ฝูงมิโนโทรุดต้องหยุดชะงัด ทันใดนั้นเข้าเปลี่ยนรูปแบบดาบออกกลับมาเป็นปืนสั้นทันที ฝูงมิโนโทรุดเมื่อมันแน่ใจว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นจึงวิ่งเข้าใส่ชายหนุ่มอีกครั้งหนึ่ง ทันใดนั้น ปรากฏสุนัขไซบอร์ททยานออกมาจากหลังกำแพง และกลายร่างปากของมันมันที่กางอกกลายเป็นปากกระบอกรำแสง เขาตั้งเหนี่ยวไกทันทีอย่างไม่รีรอ หลังจากที่สุนัขไซบอร์ทกลายร่างเป็นปืนรำแสงขนาดใหญ่ รำแสงจากปากกระบอกปืนสาดส่องไปทั่วรัศมีเป็นหลายกิโลเมตร ฝูงมิโนโทรุดผู้โชคร้ายหายไปในพริบตา ทันทีที่ปืนใหญ่รำแสงสาดส่องไปทางมัน บัดนี้ตรงหน้าชายหนุ่มไม่มีแม้แต่เศษร่างของมิโนโทรุดหลงเหลืออยู่เลย ตอนนี้ปืนรำแสงที่พึ่งสังหารฝูงมิโนโทรุดกลับเป็นสุนัขเหมือนเดิมอีกครั้ง แรนดอฟ ถอนหายใจก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้าไปในเมืองอีกครั้งหนึ่ง

ธงรูปขนนกโปกสะบัดอย่างสวยงาม เป็นอีกครั้งที่ เมืองแอดวานไซเบอร์โรจี้ ปลอดภัยจากฝูง มอนสเตอร์ด้วยบุรุษแห่งเผ่าวิชดอมนามว่า Randolph

Fiction

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา