Ficสุดฮา-KILL บิณฑ์ Vol.1

ไม่ได้แต่งเองแต่ไปเจอที่พันทิพย์ครับ Creadit

บทที่ 1 เจ้าสาวร่างนองเลือด....



บิณณฑ์ " ณ. นาทีนี้ ชั้นกำลัง...เจ็บปวดสุดๆกับความวิปริต.."

The Bride " บิณฑ์ นี่ลูกคุณนะ " ตู้มมมมมมม... (ลูกกระสุนซัดเข้าตรงขมับ)



สี่ปีให้หลังนับจากเหตุสังหารหมู่ ในพิธีแต่งงาน ฉันนึกถึงหน้า ไอ้โฉด กับนางชั่ว นัง..แอ๋ว ดูเวอร์

นังหมวยลูกครึ่งจีน บุรีรัมย์ ปัตตานี...โอเล่ง

นังดำ จริงนี่? เบลล์

และไอ้ บัติ น้องชายแท้ๆของบิณณ์.....

ฉันฟื้นจากอาการโคม่า เพราะบุรุษพยาบาลใจโฉด ระหว่างที่ฉันสลบอยู่นั้น ร่างใหญ่ยืนตระหง่านค้ำอยู่ปลายเตียง. พูดอย่างหื่นกระหายว่า "ชั้นชื่อยักษ์! และชั้นมาเพื่อฟัก!!!" ว่าแล้วก็เดินมาอุ้ม ฟักทองที่หัวเตียงของฉันไป (โรงพยาบาลอะไรฟะ วางฟักทองบนหัวคนไข้)

ไอ้ยักษ์ออกไปแล้ว.... (เอาฟักทองไปด้วย) ฉันกระโดดลงจากเตียง



ป้าบบบ...!! หน้าฉันกระแทกกับพื้น จุกไปถึงลิ้นปี่ ขาฉันขยับไม่ได้!!? ฉันคลานไปที่รถเข็น รีบเข็นพาตัวออกจากโรงพยาบาลก่อนที่จะมีใครมาเห็นเข้า อา.....เพราะฉันไม่มีบัตรสามสิบบาท จนในที่สุดฉันก็พบรถที่ฉันต้องการ....



ระหว่างที่นั่งอยู่ท้ายรถปอ.สาย11 (ฉันไม่ขโมยรถคนอื่น มันบาป) ฉันนั่งนึกถึงหน้า โอเล่ง เจ้าแม่แห่งโลกใต้ดิน ย่านนวนคร หาตัวง่ายสุด..แน่นอนกว่าจะขึ้นเป็นหัวหน้ามาเฟีย หล่อนย่อมไม่ปกปิดฐานะ ธุระกิจของโอเล่ง มีทั้งหวยใต้ดิน เล่นแชร์ ปล่อยกู้ โดยมีร้านส้มตำบังหน้า.... แต่ก่อนที่ฉันจะได้รับความสะใจ งานชิ้นแรก.....





จ่ายค่ารถเมล์ ปอ.11



บทที่สอง บุรุษแห่งอ่างศิลา

ฉันเดินเข้าไปในร้านเล็กๆแห่งหนึ่ง

"ไฮ่ " บุรุษร่างท้วมหน้าตาใจดีทัก "คนอังกฤษเหรอ"

" เปล่าค่ะ อุบล" ฉันตอบ

"ยินดีต้อนรับอุบล" เขาพูดยิ้มๆ ก้มหน้าลงแล่เนื้อปลา "พึ่งมาอ่างศิลาครั้งแรกเหรอ?"

"ค่ะ ฉันมาหาผู้ชายคนหนึ่ง"

เขาหยิบปลา ขึ้นมาแล่อีก ท่าทางคล่องแคล่ว แต่สีหน้าเยือกเย็น......

" ชั้นมาหา ฮัตโตริ คนโซ"

"มีธุระอะไรกับ ฮัตโตริคนโซเรอะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตาสงบนิ่งไม่วอกแวก

The Bride " ชั้นต้องการ... สาก ของฮัตโตริคนโซ"

"ต้องการสาก ของฮัตโตริ คนโซ ไปทำอะไร.."

The Bride "มีหนูตัวนึงที่ชั้นจะต้องฆ่า"

เขาหยุดแล่เนื้อปลา เงยหน้าขึ้นมาสบตาฉัน "หนูตัวนั้นคงใหญ่มากสินะ ถึงต้องใช้สากของฮัตโตริ คนโซ)

The Bride "มหึมา...."

เขาก้มหน้าลงมองเขียง ตั้งต้นสับเนื้อปลาร้าที่แล่ไว้ ดูท่าจะเอาไปทำแจ่วบอง....



บทที่ 3 กำเนิด โอเล่ง

โอเล่ง โออิชิ เด็กนรกลูกครึ่ง จีน ปัตตานี บุรีรัม ถือกำเนิดที่ฐานทัพอเมริกันที่โคราช พ่อเป็นยาKuซ่า แม่เป็นเท้าแชร์

โอเล่งรู้จักความตายเป็นครั้งแรกในวัยเก้าขวบ นายใหญ่มัติซึโมโต้ และสมุนตามทวงค่าแชร์ถึงร้านส้มตำของแม่ โอเล่งรอดมาได้...เพราะซ่อนในเข่งมะละกอ

หล่อนสาบานจะล้างแค้น......



อายุสิบเอ็ด หล่อนล้างแค้นได้สำเร็จ โชคดีนายใหญ่มัตซึโมโต้ชอบทาน ส้มตำปู.....

(ภาพ Animation) โอเล่งยืนตระหง่านเหนือนายใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว "มองหน้าชั้นสิ มัตซึโมโต้.... มองให้ชัดๆ มองจมูก มองตาคู่นี้ ..... คุ้นๆมั้ย.....เหมือนใครบางคนที่แกเคยฆ่าบ้างมั้ย!!!" ปู้ดดดดด....... กว่าลูกน้องจะเข้ามาทัน นายใหญ่มัตซึโมโต้ก็สิ้นลมเพราะท้องร่วง? อา.....พิษส้มตำปูแท้ๆเชียว



อายุยี่สิบ โอเล่งขึ้นเป็นหนึ่งในสุดยอด มือทวงหนี้หญิงอันดับต้นๆ ทำงานให้กับบิณฑ์ รับจ้างทวงหนี้ทั่วราชอาณาจักร ฉายา Cotton Mount (แปลว่าอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่า นังนี่ปากจัดละกัน)



อายุยี่สิบห้า หล่อนมีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์สังหารหมู่ ในพิธีแต่งงาน มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตถึงเก้าศพ แต่วันนั้นหล่อนพลาดไปเรื่องนึง.....



หล่อนน่าจะฆ่ารายที่สิบ (สมน้ำหน้า ค่าแชร์ก็ไม่ได้ ชั้นก็ยังไม่ตายอีกตะหาก)



สี่ปีหลังจากเหตุสังหารณ์หมู่ ที่บิณฑ์ ให้ทั้งทุน และปรัชญาหนุนหลังนังทายาท แล้วถ้าใครสงสัวว่า เอ๊ะ! ไหงนังเด็กลูกครึ่งจีน-ปัตตานี-บุรีรัมย์ ถึงขึ้นเป็นประมุขแห่งโลกใต้ดินได้ล่ะ



ชั้นตอบได้....

หัวข้อเรื่องชาติกำเนิดโอเล่ง ถูกนำมาหารือเพียงครั้งเดียวที่สภากาแฟ โดยหัวหน้า ทานูกิ....

หัวหน้าทานูกิ มุ่งมั่นที่จะคัดค้านไม่ให้โอเล่งขึ้นเป็นเท้าแชร์ เจ้ามือหวยโดยมีร้านส้มตำบังหน้า เขาให้เหตุผลว่า เจ้าของร้านส้มตำควรมีเลือดอีสานอยู่เต็มตัว โอเล่งโกรธจัด ใช้สากประจำตัวฟาดเข้าที่ขมับหัวหน้าทานูกิ ก่อนจะประกาศด้วยสำเนียงอีสานว่า

" ในฐานะประมุข เป็นระยะๆที่ข้อย ให้การสนับสนุนเจ้า ถ้าไผข้องใจในแผนของขอ้ยแล่ว ท้วงติงได้ แต่เปิดโอกาสให้ข้อยเว่าแนจั๊กหน่อย แล้วไผที่ยกหัวข้อเรื่องชาติกำเนิดข้ยเป็น จีน ปัตตานี บุรีรัมย์ ข้อยสิตีหัวมันด้วยสาก เหมือนบัก....เนี่ย!!!"



บทที่ 4 ดวลเดือดที่บ้านใบไม้สีน้ำเงิน

หลังจากที่โอเล่ง และเหล่าพลพรรคแกงค์ 88 คนงั่ง (88 silly men) ขึ้นครองตำแหน่งหัวหน้า ยาKUซ่า

โอเล่ง และพรรคพวกได้แก่ โซฟี ชาเขียว ลูกครึ่งฝรั่งเศส- ญี่ปุ่น แม่ขายแผ่นรองชั้นใน พ่อขายชาเขียวที่โอกินาว่า โซฟีเป็นทนายความเพื่อนซี้ และพลทหารคนสนิทลูกบุญธรรมอีกคนหนึ่งของบิณฑ์



สาววัยรุ่นในชุดนักเรียน โกโกะ(เดิมชื่อ Eโก๊ะ หลังๆกินผงชูรสและฟัง J-ROCK มากไป...)

โกโกะอายุ 17

โกโกะอาจยังเด็ก แต่ถึงอายุจะน้อย....หล่อนก็บ้าได้สุดๆ

(ตัดภาพไปที่ ร้านขายยาดอง)

โกโกะ "แกอยากจะ:-)ชั้นใช่มั้ย บอกมา.."

ตัวประกอบ "มะ มะ ...ไม่ ไม่!"

ป้าบบบ....โกโกะเอาสากแพ่นกบาลหนุ่มโชคร้าย

โกโกะ "พูดหยั่งงี้ หยามกันชัดๆ"



เชื่อ ชั้นรึยัง

เจ้าหัวโล้นในหน้ากากชินจัง ชื่อจอนนี่ โมว์ หัวหน้าแก็งค์ 88 คนงั่ง ได้ชื่อนี้มาเพราะหัวโล้นเหมือนแตงโม....



ฉันอยู่ในชุดเหลืองแถบดำ ดูผาดๆเหมือนกล้วยหอมจอมซน ขับรถตามนังโซฟี นังนี่มัวแต่ขับรถไปโทรศัพท์ไป สมอลล์ ทอล์คก็ไม่ใช้ ประมาทจริงๆ....ตำรวจเรียกโซฟีจอดข้างทางก่อนเขียนใบสั่ง (สมน้ำหน้า) ส่วนฉันขับเลยไปยังบ้านใบไม้สีน้ำเงิน สู่การสะสางหนี้แค้น...



ดวลเดือดที่บ้านใบไม้สีน้ำเงิน (ต่อ)

ฉันนั่งอยู่หน้าบาร์เมื่อขบวนของโอเล่งเดินผ่าน รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมผุดขึ้นที่มุมปาก แค้นนี้กำลังจะได้รับการชำระ....

ฉันตรงไปที่ห้องน้ำทันทีเพื่อเตรียมกระดาษชำระ!

ระหว่างที่ทำธุระอยู่นั่น เสียงริงโทนเพลงสามัครคีชุมนุมก็ดังขึ้น ฉันแง้มประตูห้องน้ำมองลอดออกไป นังโซฟี ชาเขียวนั่นเอง สี่ปีมาแล้วยังไม่เปลี่ยนริงโทน งกจนเป็นเอกลักษ์จริงๆ





(ตัดภาพไปที่ห้องส่วนตัวของของโอเล่ง เธอและพลพรรคกำลังโซ้ยส้มตำปูกันอยู่)



The Bride " โอเล่ง โออิชิ!!! เธอกับชั้น มีเรื่องคาราคาซังกันอยู่!!"

ผ่าง ประตูบานเลื่อนถูกรูดออก ลูกสมุนของโอเล่งกรูกันออกมา โดยมีโกโกะ และโอเล่งรั้งท้าย..... โอเล่งในชุดกิโมโนสีขาว สีหน้าเยือกเย็นอำมหิต ตาแดงก่ำเพราะเผ็ดส้มตำปู

ฉันหลบอยู่หลังโซฟี ภาพใบหน้าของโอเล่งเมื่อสีปีก่อนจี๊ดขึ้นมาในหัว ไม่ใช่ เอาใหม่ นั่นมันหน้าแวว จ๊กม๊กนี่



โพล๊ะ!!! โดยไม่ทันคาดคิด ฉันแพ่นสากไปที่กบาลโซฟีเต็มรัก กรี๊ด กรี๊ด ๆๆๆ เสียงผู้คนในร้านกรีดร้องอย่างขวัญเสีย แตกฮือวิ่งกันกระจาย แต่ไม่ยอมไปไหน ยืนล้อมกันเป็นวงกลมอยู่ อืมมม...สมกับเป็นไทยมุงจริงๆ



โอเล่งตะโกน " ฆ่า E เวรนั่น!~"

ลูกสมุนทั้งหกวิ่งกรูกันลงบันไดมา ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เสียดายคนหัวแถวดันสะดุดกะไดหัวคะมำ พาลเอาเพื่อมๆตกกะได(พลอยโจน) ไปด้วย.... สมกับที่เป็น88 คนงั่งจริงๆ



The Bride "ไงโอเล่ง มีลูกกะโล่ ให้ชั้นฆ่าอีกมั้ย"

โกโกะ " ไฮ!"

The Bride " โกโกะ ใช่มั้ย"

โกโกะ " โป๊ะเชะ! อสรพิษดำสิ ใช่มั้ย"

The Bride "ไม่ใช่" ฉันอำ "ชื่อเสียงของเรา มักไปไวเหมือนกลิ่นตัวเราเสมอ" ฉันจ้องหน้าเด็กสาวก่อนจะพูดเสียงเข้ม " โกโกะ ชั้นรูว่าเธอต้องปกป้องเจ้านายของเธอ แต่ขอร้องล่ะ ถอยไปซะ!"

โกโกะหัวเราะด้วยท่าทางน่าตบ "แบบนี้เรียกว่า ขอร้องเหรอ เธอควรจะทำได้ดีกว่านี้นะ!"



โกโกะเหวี่ยงลูกตุ้มเป็นวงกลมกลางอากาศ ฉันตาลายจนต้องคัวกยาดม

ฟิ้วววว......

หล่อนอาศัยทีเผลอเตะลูกตุ้มมากระแทกอกฉันอย่างแรง ร่างฉันลอยคว้างกลางอากาศ ก่อนร่วงลงกระแทกพื้นดังโครม ฉันสปริงตัวลุกขึ้นยืน เลือดกบปาก

The Bride "โกโกะ ชั้นขอเตือน ถอยไปซะ!"

โกโกะหัวเราะคิกคัก

ฉันพูดอย่างลำบากเพราะจุกอก "ชั้นเห็นความลับวัยแรกสาวของเธอแล้ว เธอสวมกระโปรงสั้น แต่โนอันเดอร์แวร์"

โกโกะหน้าซีดเผือด มือตะปบชายกระโปรง ไทยมุงหนุ่มๆเริ่มเป่าปากแซวเปี๊ยวป๊าว นำทีมโดยคุณกึ่ง

"ฝากไว้ก่อนเถอะ!..." หล่อนทิ้งท้ายอย่างอาฆาต ก่อนจะหิ้วลูกตุ้มวิ่งออกไป โดยมีไทยมุงหลายคนวิ่งตามกระโปรงไปด้วย





ฉันเดินมาหยุดหน้าโอเล่ง หูแว่วเสียงบางอย่างจากที่ไกลๆ

โอเล่ง "เธอคงไม่คิดว่ามันง่ายขนาดนั้นใช่มั้ย?"



ฉันหลับตาลงเสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงตุ๊ก ตุ๊ก ของแก็ง88คนงั่ง น่ะเอง

The Bride "รู้มั้ยวูบแรกเมื่อตะกี้ ใช่ ชั้นคิดนิดนึง"

โอเล่ง "นังกระต่ายโง่เง่า ใครดีใครอยู่!"





เสียงตุ๊ก ตุ๊ก หลายคันขับเลยไปแล้ว.... โอเล่งทำหน้าเหวอ

The Bride " โอเล่ง รู้มั้ยช่วงนี้มีบอลยูโร ผู้ชายที่ไหนเค้าก็ดูบอลกันทั้งนั้นแหละ!"

"เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ" หล่อนบ่นพึมพำ ขณะที่ไทยมุงเริ่มทยอยกันกลับบ้าน ดูบอลโดยไม่ลืมหยิบของในร้านติดไม้ติดมือกลับไปด้วย...

ระหว่างที่ฉันเหลียวมองไทยมุง โอเล่งเดินลับเข้าประตูไป

เอาอีกแล้ว....คนอะไรเหนียวหนี้จริงๆ



Fiction

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา