Mecha Story: ฉบับวันตรุษจีน

คิดชื่อตอนไม่ออกอีกล่ะ...



รีกัลต์, กลัจ, นูจาเดล เกอและควอดรัน โล

กลุ่มนี้ก็คืออาวุธของเซ็นทราดี ถ้าคิดถึงร่างกายขนาดยักษ์ของเซ็นทราดีแล้วจะบอกว่ามันเป็นหุ่นก็ไม่เชิงน่ะนะ



รีกัลต์ก็คือแทคติคัลพ็อดซึ่งเป็นหุ่นยนต์ของเซ็นทราดี ด้านสมรรถนะแล้วนับว่ามีเกราะที่อ่อนและการขับเคลื่อนที่ต่ำ แต่เนื่องจากสามารถดัดแปลงให้ใช้งานได้ในหลายภารกิจและมีจำนวนมากจึงเป็นกำลังหลักของเซ็นทราดี อาวุธของรีกัลต์ประกอบด้วยบีมกันสองกระบอกซึ่งเป็นอาวุธหลัก, ปืนต่อต้านบุคคลสำหรับยิงเป้าหมายบนพื้นและเลเซอร์ต่อต้านอากาศยาน ซึ่งเลเซอร์ต่อต้านอากาศยานนี้สามารถเปลี่ยนมาติดตั้งมิสไซล์ลันเชอร์แฝดได้ซึ่งมีแบบขนาดเล็ก12ลำกล้องและขนาดใหญ่2ลำกล้อง ทั้งยังมีรีกัลต์สำหรับใช้สอดแนมซึ่งติดตั้งเซ็นเซอร์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมแต่ปลดอาวุธออก



นอกจากนี้ยังมีกลัจซึ่งเป็นแทคติคัลพ็อดที่มีพลังในการต่อสู้สูงกว่ามาก กลัจมีอาวุธหลักเป็นอิเล็คตรอนบีมแคนน่อนขนาดใหญ่ติดด้านหลังและอิมแพ็คแคนน่อนสองลำกล้องที่แขนสองข้าง แถมด้วยปืนต่อต้านบุคคลและมิสไซล์ลันเชอร์ กลัจยังสามารถติดบูสเตอร์เสริมเพื่อเร่งความเร็วในการบินได้ เนื่องจากโรงงานอัตโนมัติซึ่งใช้ผลิตกลัจถูกทำลายไปแล้วจากสงครามในอดีต กลัจจึงเป็นหุ่นรบที่มีจำนวนน้อยที่สุดของเซนทราดีและมีเพียงนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาเท่านั้นที่มีกลัจไว้ใช้งาน



เนื่องจากมีร่างกายที่ใหญ่โต เกราะพาวเวอร์สูทของชาวเซ็นทราดีจึงแทบไม่ต่างอะไรจากหุ่นรบเลย โดยชาวเซ็นทราน(เซ็นทราดีเพศชาย)จะใช้เกราะแบบนูจาเดล เกอซึ่งเมื่อเทียบกับรีกัลต์แล้วนับว่าเหนือกว่าในทุกด้าน อาวุธของนูจาเดล เกอประกอบด้วยพลาสม่าแคนน่อนซึ่งปกติจะแบกไว้ด้านหลังและอิมแพ็คแคนน่อนที่ลำตัว ทั้งยังสามารถพกพาอาวุธมือถืออย่างปืนพกเลเซอร์ได้ ในรูปรูปแรกเป็นนูจาเดลเกอจากมาครอสภาคหนัง ส่วนอีกสองรูปเป็นนูจาเดลเกอจากภาคTV โโยตัวที่สองเป็นสีของคัมจิน



ส่วนชาวเมลทราน(เซ็นทราดีเพศหญิง)จะใช้เกราะควอดรัน โลแทน ซึ่งนอกจากจะมีพลังในการต่อสู้เหนือกว่านูจาเดล เกอแล้วยังเป็นกำลังหลักของชาวเมลทรานอีกด้วย อาวุธของควอดรัน โลประกอบด้วยพัลส์เลเซอร์สามลำกล้องติดแขนทั้งสองข้าง, อิมแพ็คแคนน่อนสองกระบอกที่ลำตัวและมิสไซล์ลันเชอร์ที่ไหล่และขารวม126นัด ทั้งยังใช้อาวุธมือถืออย่างบีมกันได้ ดีไซน์ของควอดรัน โลยังมีความปลอดภัยมากกว่านูจาเดล เกอเล็กน้อยเพราะใช้การควบคุมจากลำตัวเหมือนแทคติคัลพ็อด ถ้าส่วนแขนได้รับความเสียหายจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ในรูปสามรูปแรกเป็นควอดรัน โลจากภาคหนัง โดยที่รูปที่สองและสามเป็นสีของมิเรียและแม็กซ์ ส่วนรุ)สุดท้ายเป็นของภาคTV



หลังสงครามอวกาศครั้งที่หนึ่งซึ่งเซ็นทราดีได้เป็นพันธมิตรกับมนุษย์ เมื่อเทคโนโลยีของโลกในการพัฒนาVFก้าวหน้าไปไกลแต่ชาวเซ็นทราดียังคงใช้อาวุธเดิมๆอยู่ UNจึงได้พัฒนาวาริเอเบิ้ลกลัจ ซึ่งเป็นVFที่ใช้ระบบควบคุมแบบเดียวกับแทคติคัลพ็อดของเซ็นทราดีเพื่อใช้ชาวเซ็นทราดีที่ชินกับการใช้งานแทคติคัลพ็อดทั้งสองแบบใช้งานได้ทันที วาริเอเบิ้ลกลัจนับเป็นหุ่นรบที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของชาวเซ็นทราดีซึ่งในภายหลังได้มีการพัฒนาต่อมาเป็นนีโอกลัจซึ่งเป็นวาริเอเบิ้ลกลัจแบบไร้คนบังคับ ในช่วงสงครามกับวารอต้า เอมิเลีย จีนัส หนึ่งในลูกๆของแม็กและมิเรีย(พี่สาวของมิเรน)ยังได้ดัดแปลงควอดรัน โลเป็นควอดรัน ควิลกาหลังได้รับแรงบันดาลใจจากหนังมาครอส: ยังจำความรักได้ไหม? จึงอยากเป็นนักร้องผู้สามารถหยุดยั้งสงครามด้วยเสียงเพลงได้เหมือนริน มินเมย์ ควอดรัน ควิลกาของเอมิเลียจะคล้ายกับควอดรัน โลแต่ทาสีให้ดูสดใสและติดเครื่องปล่อยควันสารพัดสีเข้าไป ในทางทฤษฏีแล้วก็นับว่าใช้หลักการเดียวกับไฟเยอร์วาลคีรี่ของบาซาร่านั่นเองแต่ยังคงมีอาวุธปกติของควอดรัน โลอยู่ครบ



สุดท้ายก็คือแบทเทิลสูทไม่มีชื่อซึ่งเป็นหุ่นรบออริจินัลของกลุ่มต่อต้านUNและมีพลังที่เหนือกว่าVFอย่างธันเดอร์โบลต์เสียด้วยซ้ำ ซึ่งการปรากฏตัวของแบทเทิลสูทลึกลับนี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของโปรเจ็คท์ซูเปอร์โนว่าเพื่อพัฒนาVFสำหรับใช้แทนธันเดอร์โบลต์ รูปแบบของแบทเทิลสูทจะคล้ายกับนูจาเดล เกอ ที่แขนติดปืนอนุภาคและมิสไซล์ลันเชอร์ หน้าอกด้านซ้ายเป็นพัลส์เลเซอร์สามลำกล้องส่วนด้านขวาเป็นปืนอัตโนมัติกับเลเซอร์แคนน่อน และที่ลำตัวยังมีมิสไซล์ลันเชอร์อยู่อีกชุด



แถมให้ดูนิด สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่าวาริเอเบิ้ลกลัจมันแปลงร่างแล้วหน้าตาเป็นยังไง



ส่วนนี่ก็เป็นวาริเอเบิ้ลกลัจขที่ถูกพวกเซ็นทรานในกลุ่มต่อต้านUNเอาไปดัดแปลง





เมื่อพูดถึงเจ้าพวกนี้แล้วก็ควรจะพูดถึงวาลคีรี่ที่เป็นคู่ปรับ แต่เนื่องจากยังไม่อยากรีไซเคิลจึงของเปลี่ยนเป็นของที่ชื่อคล้ายๆกันแทน







Type 27 สแวนฮิลด์, Type 33 kai ราธกรีธ, RGV-30 แรนด์กรีธและRGC-34 ราธแองกริฟ

หุ่นรบในกลุ่มวาลคิวเรียซีรี่ส์ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทZ&Rโดยใช้พื้นฐานของรถถังโฮเวอร์ ฟิลเกีย เมื่อเทียบกับแอสซอล์ทดรากูนของเฟรมอนต์อินดัสทรีซึ่งเป็นคู่แข่งแล้ว วาลคิวเรียค่อนข้างขาดความคล่องตัวและโดยปกติแล้วมักไม่ใช้อาวุธบีมอีกด้วย แต่ก็มีเกราะที่หนาและยังมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่ถูกกว่า จุดเด่นของวาลคิวเรียซีรี่ส์อยู่ที่ค็อกพิตที่ส่วนหัวซึ่งสามารถมองออกไปภายนอกได้ (เชื่อว่าวาลคิวเรียซีรี่ส์ได้อิทธิพลมาจากดาแกรม)

วาลคิวเรียเครื่องแรกก็คือType 27 สแวนฮิลด์ซึ่งนับได้ว่าเป็นพื้นฐานของวาลคิวเรียซีรี่ส์ สแวนฮิลด์ไม่มีอาวุธบีมแต่ใช้วัลแคนแบบป้อมและเกรเน็ดลันเชอร์เป็นอาวุธหลักและมีดาบไว้ใช้ป้องกันตัวในระยะประชิด สแวนฮิลด์มีระบบที่สามารถเรียนรู้รูปแบบการควบคุมของนักบินได้ สแวนฮิลด์จึงสามารถตอบสนองต่อการควบคุมของนักบินได้ดีขึ้นเรื่อยๆตามระยะเวลา Z&Rได้สร้างสแวนฮิลด์ขึ้นมาทั้งหมดสามเครื่อง ซึ่งแม้การทดสอบจะออกมาได้ผลดี แต่เมื่อเอาไปทดสอบภาคสนามก็ถูกกลุ่มต่อต้านทำลายเสียสองเครื่อง ส่วนอีกเครื่องซึ่งได้รับความเสียหายในระดับที่ซ่อมได้ก็ถูกยึดเอาไป สแวนฮิลด์ที่รอดมาได้นี้ในภายหลังถูกเอามาใช้โดยเอซของกลุ่มต่อต้าน เซเลน เมเนธและได้เข้าต่อสู้กับริช กริสเวล "อันเดดแมน" สมาชิกหน่วยพิเศษซึ่งตามมาเอาสแวนฮิลด์คืนกลับไป ริชเองใช้วาลคิวเรียType 28 ซิกรูน ซึ่งพัฒนาต่อมาจากสแวนฮิลด์โดยใช้รูปแบบที่เหมือนกันทุกประการแต่ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะให้สูงขึ้นไปอีก

ในภายหลังZ&Rได้พัฒนาวาลคิวเรียType 33 ราธกรีธออกมา ราธกรีธใช้วีสดุของเกราะที่มีน้ำหนักเบากว่าวาลคิวเรียรุ่นก่อนหน้าและมีอาร์มเบสติดด้านหลัง อาร์มเบสนี้ติดตั้งเครื่องกำเนิดพลังงานเสริมและท่อขับดันที่มีกำลังพอจะให้ราธกรีธบินกลางอากาศได้รวมถึงติดตั้งอาวุธต่างๆไว้ด้วย นอกจากดาบและวัลแคนแบบป้อมแล้ว ราธกรีธยังมีอาวุธใหม่คือมิสไซล์พ็อด, มิสไซล์ต่อต้านยานรบ, ลิเนียร์แคนน่อนและเฮฟวี่ลิเนียร์ไรเฟิล เนื่องจากมีกำลังของเครื่องมากกว่าเดิมจึงได้ติดตั้งปืนอนุภาคเอาไว้ด้วย นับเป็นวาลคิวเรียเครื่องเดียวที่มีอาวุธบีมเป็นอาวุธมาตรฐาน บริษัทZ&Rได้หยุดการพัฒนาราธกรีธลงกลางคันเพราะรัฐประหาร ราธกรีธจึงมีแค่ดีไซน์เท่านั้น แต่เมื่อกลุ่มต่อต้านได้ข้อมูลดีไซน์ของราธกรีธมาจึงเริ่มสร้างเองโดยใช้ข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ของสแวนฮิลด์ กลายเป็นType 33รุ่นปรับปรุงและเป็นเครื่องประจำตัวของเซเลนแทนสแวนฮิลด์

จริงๆแล้วก่อนหน้านั้นZ&Rก็ได้เริ่มทำการผลิตวาลคิวเรียเป็นจำนวนมากไปแล้ว นั่นก็คือType 30 หรือ RGV-30 แรนด์กรีธ ซึ่งเน้นที่การต่อสู้ในระยะไกลยิ่งกว่ารุ่นที่ผ่านมา โล่ที่ไหล่ของแรนด์กรีธติดตั้งแมทริกซ์มิสไซล์ ส่วนอาวุธมือถือมักใช้ปืนลูกซองเป็นอาวุธหลัก ด้านหลังของแรนด์กรีธมีฟาแลงซ์มิสไซล์ซึ่งจะยิงออกไปแบบปูพรมเป็นวงกว้างกับลิเนียร์แคนน่อน ส่วนอาวุธสำหนับป้องกันตัวในระยะประชิดจะเป็นมีด นอกจากเกราะที่หนาตามแบบของวาลคิวเรียซีรี่ส์แล้ว แรนด์กรีธยังมีมิสไซล์แจมเมอร์และบีมโค้ตอีกด้วย Z&Rได้ใช้รูปแบบของแรนด์กรีธผสมกับโครงสร้างของราธกรีธกลายเป็นType 34 หรือ RGC-34 ราธแองกริฟ โดยถอดอาร์มเบสออกแต่เปลี่ยนเครื่องกำเนิดพลังงานให้มีกำลังมากขึ้น ราธแองกริฟใช้อาวุธแบบเดียวกับแรนด์กรีธ แต่มักใช้ลิเนียร์มิสไซล์ลันเชอร์เป็นอาวุธมือถือและเปลี่ยนลิเนียร์แคนน่อนเป็นปืนใหญ่แบบพับลำกล้องได้ซึ่งมีอานุภาพสูงกว่ามาก ด้านการป้องกันยังมีมิสไซล์แจมเมอร์และบีมโค้ตอยู่แต่ได้เพิ่มโล่แบบมือถือเข้ามาด้วย

เมื่อกองกำลังชาโดว์มิเรอร์ได้หนีมาจากมิติคู่ขนานนั้นก็ได้พาแรนด์กรีธและราธแองกริฟมาด้วยจำนวนหนึ่งก่อนที่จะได้รับการผลิตเพิ่มโดยนออิDC เมื่อริลคาล่า บอร์กไนน์และยูวกิ เจกุนันได้เข้าร่วมกับหน่วยฮิริวก็ได้พาแรนด์กรีธและราธแองกรีฟไปด้วยคนละเครื่อง



ชื่อของType 34ยังน่าสงสัยอยู่ครับ วิกิพีเดียฉบับภาษาญี่ปุ่นอ้างว่าแองกริฟในชื่อของราธแองกริฟ เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า"ต่อสู้" แต่ทีนี้ก็คือมันจะกลายเป็นตัวประหลาดอยู่ตัวเดียวเพราะพี่น้องในซีรี่ส์นี้ตั้งชื่อตามเทพธิดาวาลคิวรี่ของชาวนอร์สทั้งนั้น (ส่วนฉบับภาษาอังกฤษ Atlusเล่นเอาชื่อของType 33ไปใช้แทนเฉยเลยแฮะ)
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา