Mecha Story: รับบอร์ดคืนชีพ
เหอๆ หายไปสามเดือนเต็มๆ พอมีไฟได้ทำเพิ่มก็ตรงกับช่วงเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์พอดี ฮะๆ
YMT-05 ฮิลดอล์ฟ
โมบิลแทงก์ หนึ่งในอาวุธที่ซีอ้อนพัฒนาพร้อมๆกับMAและMSแต่เป็นอาวุธที่เน้นการต่อสู้ภาคพื้นดินโดยเฉพาะ โมบิลแทงก์นั้นเรียกได้ว่าเป็นรถถังที่ผสมเทคโนโลยีของMSและMAเข้าไปด้วย เดิมทีนั้นโครงการฮิลดอล์ฟถูกซีอ้อนทิ้งไปสองปีก่อนหน้าOYWเพื่อเน้นการพัฒนาMSแทน แต่เพราะสถานการณ์ของการสู้รบบนโลกนั้นแทบไม่คืบหน้า ฮิลดอล์ฟจึงถูกนำมาทดสอบอีกครั้งเพื่อผลทางจิตวิทยาให้แนวหน้าที่รบบนโลกมีกำลังใจมากขึ้น เบื้องบนของซีอ้อนเองไม่ได้สนใจฮิลดอล์ฟในฐานะอาวุธเลย
ฮิลดอล์ฟนับเป็นรถถังที่มีความคล่องตัวสูงมากทั้งที่มีความยาวกว่า35เมตร ปืนใหญ่300มม.ที่เป็นอาวุธหลักนั้นสามารถเลือกบรรจุกระสุนได้หลายแบบ ทั้งหัวระเบิดแบบต่างๆและกระสุนเจาะเกราะแบบสลัดฝาครอบที่มีระยะหวังผลไกลมาก (32กม. แต่ในสภาพที่ไมนอฟสกี้รบกวนจะมีระยะหวังผลเหลือน้อยกว่า20กม.) ฮิลดอล์ฟติดตั้งเซนเซอร์แบบโมโนอายไว้เหมือนซาคุและมีเครื่องปล่อยควันสำหรับอำพรางตัว ที่สำคัญก็คือฮิลดอล์ฟสามารถยกส่วนป้อมปืนขึ้นได้โดยมีลำตัวคล้ายกับMSและมีแขน จึงสามารถใช้อาวุธมือถืออย่างปืนกล105มม.ได้ ส่วนในระยะประชิดจะมีมือตักขนาดใหญ่สำหรับใช้ฟาดศัตรู แม้ว่าพลังในการต่อสู้ในสภาพนี้จะสูงขึ้น แต่ค็อกพิตที่ยกสูงขึ้นมาด้วยนี้อาจถูกโจมตีได้
นักบินทดสอบของฮิลดอล์ฟก็คือร้อยตรี เดเมเซล ซอนเนน อดีตทหารปืนใหญ่ชั้นพระกาฬที่ตกอับเพราะควบคุมMSไม่เก่ง ซอนเนนจึงตั้งความหวังไว้กับฮิลดอล์ฟมาก แต่เมื่อลงไปบนโลกเพื่อทดสอบนั้น ฐานสเบียงที่67 อริโซนาซึ่งเป็นจุดทดสอบฮิลดอล์ฟก็ถูกทำลายโดยหน่วยรบของเฟเดริโก ซวาเรียโน ซึ่งสามารถยึดซาคุทูว์Jมาได้ถึงหกเครื่อง เนื่องจากระบบการเล็งของฮิลดอล์ฟยังไม่สมบูรณ์ ซอนเนนจึงต้องพึ่งฝีมือในฐานะทหารปืนใหญ่เก่า ทำให้ยิงเป้าหมายที่เคลื่อนที่อยู่ได้ไม่แม่นยำนัก ในที่สุด แม้ซอนเนนจะสามารถทำลายซาคุทูว์ทั้งหกเครื่องได้ แต่ตัวเองก็เสียชีวิตพร้อมกับฮิลดอล์ฟที่พังไปด้วย
QCX-76A โยมุงกันด์
หนึ่งในอาวุธรุ่นทดสอบที่ซีอ้อนพัฒนาจากเทคโนโลยีเตาปฏิกรณ์ไมนอฟสกี้ โยมุงกันด์เป็นปืนใหญ่พลาสม่าขนาดยักษ์ที่ใช้เตาปฏิกรณ์ไมนอฟสกี้เป็นเหมือนกระสุนให้พลังงานในการยิงแต่ละครั้ง ลำแสงพลาสม่าของโยมุงกันด์นั้นใช้พลังงานในการยิงต่อนัดถึง150,000 kWและมีพลังทำลายที่สามารถจมยานรบทุกแบบของEFได้ในนัดเดียว พลปืนของโยมุงกันด์สามารถเล็งเป้าเองหรือจะยิงตามข้อมูลที่ส่งมาจากยานชี้เป้าก็ได้
แต่ปัญหาของโยมุงกันด์อยู่ที่ช่วงเวลาที่โหลดเตาปฏิกรณ์และรวมพลังงานยิงลำแสงพลาสม่านั้นค่อนข้างนาน ทำให้ความแม่นยำค่อนข้างต่ำ เมื่อยิงออกไปแล้วยังต้องรอให้ความร้อนลดลงจึงทำให้ยิงได้ไม่ต่อเนื่อง กระสุนเตาปฏิกรณ์แต่ละนัดยังมีค่าใช้จ่ายในการผลิตเทียบได้กับซาคุทูว์ถึงสามเครื่องจึงเป็นอาวุธที่แพงมาก ในขณะที่ขนาดใหญ่โตของโยมุงกันด์ทำให้ป้องกันจากการโจมตีของศัตรูได้ลำบาก เมื่อOYWเปิดฉากในยุทธการลูม โยมุงกันด์จึงถูกใช้เป็นเพียงเป้าล่อเพื่อเบนความสนใจจากEFในขณะที่ซาคุทูว์เป็นอาวุธหลักของซีอ้อน ซึ่งสุดท้ายแล้วโยมุงกันด์ถูกทำลายในยุทธการลูมนี้เองโดยยิงยานชั้นแม็กเจลแลนตกไปลำหนึ่งเท่านั้น
IGLOOภาคแรกก็ครบแล้วสินะ...
เกล็ดเล็กๆน้อยๆ แต่เชื่อไหมว่าหนูปุลแห่งZZนั้นอาจนับได้ว่าเป็นตัวละครที่เน้นขายความโมเอะแบบโลลิๆคนแรกในวงการอนิเมะ?
จากกระทู้ที่เคยไปตั้งไว้ในบอร์ด MAHQ
ก็คงไม่มีอะไรถ้าไม่ใช่ว่าคุณ Mark Simmon เจ้าเก่ามาเปิดเผยว่า...
- บทดั้งเดิมของ ZZ นั้น จูโด้ไม่มีน้องสาว แถมเจ้าตัวเป็นโอบาคอนแบบเดียวกับอามุโร่ซะด้วยสิ
- จากข้อแรก เดิมทีเจ๊เอมม่าจะรอดจากZ (คงมีคนผิดหวังพอดูที่ดันไม่รอดสินะ)
- แต่เมื่อเวลาผ่านไป จูโด้ถูกวางบุคลิกให้เป็นเหมือนตัวแทนพี่ชายแสนดีของเหล่าเด็กๆไปซะ ริน่ากับปุลถูกเพิ่มเข้ามา (ส่วนเจ๊เอมม่าก็ม่องไป)
- ชื่อของหนูปุล Elpeo Ple แผลงมาจาก L People ซึ่งเป็นชื่อย่อของนิตยสารชื่อดังในกลุ่มชาวโลลิคอน Lemond People (ไม่พูดถึงในกระทู้ แต่หน้าวิกิญี่ปุ่นของเธอระบุว่าผู้ออกแบบปุลถือหลักว่า"ดูน่ารักในสายตาของบรรดาลุงๆทั้งหลาย")
สรุปได้ว่า ZZจะนับเป็นอนิเมะบุกเบิกแนวโลลิที่ระบาดไปทั่วในปัจจุบันก็คงไม่ผิดนัก...เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
Super Robot Wars
Games
Mecha Story