Mecha Story: ล็อตใหญ่ครั้งสุดท้ายของเอจแล้วล่ะ

หมดชุดนี้ เอจก็ไม่เห็นตัวที่อยากเรียบเรียงแล้วแฮะ...







CMS-547E เอลเมดา, CMS-574X เซโน, CMS-223G กาลา และ CMS-223Z ซิลา

MSรุ่นเก่าที่มาดอร์นาเวิร์คชอปผลิตตามช้อมูลที่ได้จากพ่อค้าอาวุธ ยาค โดล หรือกิรา ซอย สายลับของเวย์กัน โดยมาดอร์นาใช้ข้อมูลที่ได้มาผลิตเป็น CMS-547E เอลเมดา CMS-574X เซโน CMS-223G กาลา และ CMS-223Z ซิลา ซึ่งแท้จริงแล้วทั้งสี่เป็นMSที่เคยใช้ในสมัยสงครามโคโลนี โดย CMS-223 นั้นเป็นของกลุ่มซาลัม ส่วน CMS-574เป็นของกลุ่มเอวบา ซึ่งทั้งหมดนั้นมีพลังในการต่อสู้สูงกว่าเจโนอัซของสหพันธ์โลก โดยMSของซาลัมนั้นจะเน้นที่กำลัง ส่วนMSของเอวบาจะเน้นความเร็ว



ยาค โดลขายMSทั้งสี่รุ่นให้กลุ่มซาลัมและเอวบาในปัจจุบันที่แย่งชิงอำนาจในโคโลนีฟาร์ดีนกัน เอลเมดาเป็นMSประจำตัวของแรคท์ เอลฟาเมล ผู้นำของเอวบา มีดาบความร้อนเป็นอาวุธ ส่วนเซโนที่เป็นพลทหารจะใช้ปืนกลและหอกติดปืนกล ส่วนฝ่ายซาลัมใช้ซิลาเป็นกำลังหลัก โดยใช้ขวานความร้อนกับปืนกล ส่วนดอน โบยาจที่เป็นหัวหน้า นั้นใช้กาลาที่มีหนามติดไหล่กับโล่หนาม และใช้อาวุธเป็นลูกตุ้มติดปืนกล แต่แม้จะมีสมรรถนะสูงกว่าเจโนอัซ อาวุธที่MSของซาลัมกับเอวบาใช้ก็ยังไม่สามารถใช้ทำลายกาฟรานได้



การโจมตีของเวย์กันทำให้ซาลัมกับเอวบาต้องเป็นพันธมิตรกันเพื่อช่วยยานดีวาต่อสู้กับเวย์กัน ซึ่งดีวากับมาดอร์นาเวิร์คชอปก็ได้ผลิตด็อดส์กันกับบีมเซเบอร์แจกจ่ายให้เอาไปใช้ ทำให้สามารถต่อสู้กับเวย์กันได้





RGE-G1100 อเดล

MSซึ่งรุ่นผลิตจำนวนมากของกันดั้มเอจ1และเข้าประจำการเป็นกำลังหลักของสหพันธ์โลกแทนเจโนอัซ สหพันธ์โลกนั้นไม่สามารถสร้างเอจซิสเต็มใหม่ได้ แต่ก็ได้จำลองคุณสมบัติหลักๆของกันดั้มเอจ1มารวมทั้งระบบแวร์ ด็อดส์ไรเฟิลของอเดลนั้นได้รับการปรับปรุงเซนเซอร์ให้มีความแม่นยำสูงพอๆกับโหมดสไนเปอร์ของกันดั้มเอจ1 และแก้ให้ร่างไททัสกับสปัลโลว์สามารถใช้บีมเซเบอร์ได้





นอกจากไททัสกับสปัลโลว์แล้ว อเดลยังมีแวร์ของตัวเองคือ RGE-G1100C อเดลแคนน่อน ซึ่งเป็นแบบเน้นการต่อสู้ระยะไกลโดยติดบีมแคนน่อนกับมิสไซล์ลันเชอร์สามลำกล้องไว้ที่ไหล่ทั้งสองข้าง ที่แขนสองข้างจะมีโล่ขนาดเล็กและส่วนขาจะมีเกราะหนากว่าเดิมเพื่อลดศูนย์ถ่วงขณะยิงอาวุธ





แวร์พิเศษอีกชิ้นของอเดลก็คือ RGE-G1100ST อเดลสทาคส์ ซึ่งสร้างจากข้อมูลที่เอจซิสเต็มเคยออกแบบไว้ให้กันดั้มเอจ1แต่ไม่ได้ใช้งานจริงพราะข้อมูลในขณะนั้นไม่พอ สทาคส์นั้นเป็นแวร์ความเร็วสูงแบบสปัลโลว์โดยมีจุดเด่นที่บูสเตอร์ติดไหล่ขนาดใหญ่ สทาคส์มีเกราะที่หนากว่าสปัลโลว์มากแต่ก็ใช้เชื้อเพลิงมากกว่าด้วยเช่นกัน อาวุธของอเดลสทาคส์ก็คือทวนบีม "รูทเรเวอร์" ซึ่งมีพลังทำลายมากโดยเฉพาะเมื่อใช้รวมกับความเร็วของสทาคส์เข้าชาร์จเป้าหมาย แต่เนื่องจากเป็นแวร์ที่ใช้งานยากจนอาจเป็นอันตรายจึงไม่มีการผลิตจำนวนมากและมีเพียงยูนิตทดลองเท่านั้น





ในช่วงสงครามรุ่นที่สามกับเวย์กันก็ยังมีการใช้งานอเดลอยู่ รวมทั้งมีการพัฒนารุ่นใหม่คือ RGE-G1500 อเดลมาร์คทูว์ ด้วย อเดลมาร์คทูว์นั้นใช้แวร์ที่เน้นการต่อสู้ภาคพื้นดิน โดยที่น่องจะมีล้อสำหรับแล่นด้วยความเร็วพับอยู่ ด็อดส์ไรเฟิลที่ใช้นั้นลดความแม่นยำลงจากของอเดลแต่ยิงได้ต่อเนื่องขึ้น เมื่อใช้งานในอวกาศ อเดลมาร์คทูว์ก็จะเปลี่ยนแวร์เป็นแบบติดเวอร์เนียที่น่องแทน





RGE-G2100 ครันเช

MSที่พัฒนามาคู่กับอเดลมาร์คทูว์ เป็นรุ่นผลิตจำนวนมากของกันดั้มเอจ2และสามารถแปลงร่างได้เหมือนกัน ด็อดส์ไรเฟิลที่ใช้เป็นแบบที่ดัดแปลงมาจากไฮเปอร์ด็อดส์ไรเฟิลของกันดั้มเอจ2 และมีบีมเซเบอร์สามเล่ม คือที่สะโพกสองเล่มและซ่อนไว้ในโล่ที่แขนอีกเล่ม ครันเชมีสมรรถนะที่สูงกว่าอเดลมาร์คทูว์ แต่ไม่ใช้ระบบแวร์ และเนื่องจากนักบินจะต้องผ่านการฝึกให้ใช้งานทั้งร่างMSและร่างยานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีการผลิตออกมาน้อยกว่าอเดลมาร์คทูว์ นอกจากนั้นยังมี RGE-G2100C ครันเชคัสตอม ของเซริค อาบิส ซึ่งมีบีมแคนน่อนสองกระบอกแทนปีกไบน์เดอร์





WMS-GB5 Gบาวเซอร์

MSรุ่นดัดแปลงมาจากเครื่องต้นแบบที่มาดอร์นาเวิร์คชอปพัฒนาขึ้นมาแข่งกับอเดลเป็นรุ่นผลิตจำนวนมากของกันดั้มเอจ1ให้สหพันธ์โลก แต่ไม่มีระบบแวร์เหมือนอเดลและใช้รูปแบบของกันดั้มเอจ1สปัลโลเนื่องจากต้องการให้มีสมรรถนะสูงสุด เมื่อสหพันธ์โลกเลือกใช้อเดลแทนแล้ว มาดอร์นาจึงได้ดัดแปลงพิเศษและทาสีขาว ก่อนให้วูล์ฟ เอเนียเคิลเอาไปใช้แทน Gบาวเซอร์มีจุดเด่นที่ไบน์เดอร์ท่อขับดันแฝดด้านหลังและโล่ที่มีชิกุลเบลดติดไว้ที่ส่วนปลายซึ่งสามารถถอดออกมาใช้แบบมือถือได้ด้วย Gบาวเซอร์และวูล์ฟถูกทำลายเมื่อวูล์ฟเข้าช่วยกันดั้มเอจ2ของอาเซมจากโครโนสของเดซิล





นอกจากเครื่องของวูล์ฟแล้วยังมีGบาวเซอร์อีกสองเครื่อง คือ Gบาวเซอร์เดออส ของเรย์นา สปรีแกน กับ จิราด ฟอเนล ซึ่งสองเครื่องนี้มีไว้ศึกษาพลังของXราวเดอร์ แต่เพื่อเร่งการวิจัย จึงได้มีการแอบแก้ไขระบบของGบาวเซอร์เดออสให้กำลังเครื่องสูงกว่าระดับปลอดภัยมาก ทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการทดลอง จิราดเสียชีวิต ส่วนเรย์นาที่รอดมาได้และรู้เรื่องทีหลังก็ได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นจิราดและหาโอกาสไปเข้ากับเวย์กันเพื่อแก้แค้นสหพันธ์โลก ในตอนที่จิราดไปเข้ากับเวย์กันนั้นก็เอาMSที่พัฒนาต่อมาจากGบาวเซอร์ XMS-005 ทิเอลวา ไปด้วย



ทิเอลวานั้นดัดแปลงมาจากGบาวเซอร์ให้Xราวเดอร์ใช้งานโดยเฉพาะ ไบน์เดอร์ด้านหลังนั้นเปลี่ยนเป็นอาวุธควบคุมระยะไกล Tบิท ซึ่งนอกจากใช้ยิงโจมตีแล้วยังมีส่วนปลายเป็นใบมีดซึ่งสามารถหมุนด้วยความเร็วสูงเหมือนสว่านแล้วเจาะศัตรูได้ โล่ของทิเอลวานั้นไม่มีชิกุลเบลด นอกจากนั้น จิราดเองยังมีพลังXราวเดอร์ที่สูงมากจนสามารถแทรกแซงการควบคุมบิทของXราวเดอร์คนอื่นๆได้ ทิเอลวากับจิราดนั้นถูกกันดั้มเอจ1แกรนซาของฟลิททำลาย





MSอีกเครื่องที่มาดอร์นาดัดแปลงจากเครื่องต้นแบบของGบาวเซอร์ก็คือ BMS-005 Gไซฟอส ซึ่งขายให้กลุ่มสลัดอวกาศ บิซิเดียน ไป Gไซฟอสนั้นเน้นที่การต่อสู้ในระยะประชิด โดยใช้ดาบความร้อนสูงที่มีพลังทำลายพอๆกับบีมเซเบอร์และมีแขนขวาเป็นปืนด็อดส์บัสเตอร์Hซึ่งติดไว้คู่กับตะขอ Gไซฟอสเป็นMSประจำตัวของวิวิค ลัมโบล และเป็นคนที่ช่วยอาเซมสู้กับซิด แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ซิดที่วิวัฒนาการตัวเองได้



แถมพก กันดั้มนี่จะให้ขลังล่ะก็ ยังไงก็ต้องUCสินะ





MSW-004 กันดั้มเคสเทรล

เดิมทีมีชื่อว่ากุลลินบรุสที และเป็นกันดั้มรุ่นต้นแบบที่สถานีวิจัยโอคแลนด์ออกแบบให้มนุษย์ดัดแปลงของทิทานส์ใช้โดยเฉพาะ กุลลินบรุสทีติดตั้งเครื่องยนต์ถึงสามเครื่องที่ลำตัวและขาทั้งสองข้าง ท่อขับดันหลักนั้นเป็นแบบจุดชนวนด้วยเลเซอร์เหมือนที่ยานอัลเบียนใช้ นอกจากสมรรถนะที่สูงมากแล้วยังได้เสริมระบบกึ่งไซคอมมิวไว้กับโครงสร้างเพื่อเพิ่มอัตราตอบสนองต่อการบังคับ เรียกว่า"ชาแมนเฟรม" กุลลินบรุสทีมีระบบคอร์บล็อก แต่ส่วนMSจะประกอบเป็นชิ้นเดียวโดยยานคอร์ไฟเตอร์นั้นจะประกอบเข้าไปเป็นแบ็คแพ็ค จุดเด่นอีกอย่างหนุ่งของกุลลินบรุสทีก็คือมีเซนเซอร์หลักแบบโมโนอายอยู่ที่หน้าอก ฉะนั้นแม้ส่วนหัวจะถูกทำลายก็ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพในการต่อสู้ลดลงไปแต่อย่างใด





แต่โอคแลนด์นั้นต้องการสนับสนุนเอวโกมากกว่า จึงได้จัดฉากให้เอวโกใช้กำลังบุกเอากุลลินบรุสทีไป ซึ่งเอวโกก็ได้เอากุลลินบรุสทีไปทดสอบที่ยานท่าชั้นลาเวียนโรสของแอนาไฮม์ โรซากิกันเทีย แต่ระหว่างการทดสอบนั้นปรากฏว่ากุลลินบรุสทีมีสมรรถนะที่สูงมากจนนักบินปกติจะทนแรงกดดันขณะขับเคลื่อนไม่ได้ หลังจากเปลี่ยนนักบินทดสอบไปสามคน กุลลินบรุสทีที่ประสพอุบัติเหตุระหว่างการทดสอบก็ได้รับเสียหายพอสมควร เนื่องจากโอคแลนด์ไม่ได้ให้อะไหล่มาด้วย แอนาไฮม์จึงได้ดัดแปลงใหม่โดยตั้งชื่อว่า MSW-004 กันดั้ม "เคสเทรล" พร้อมกับเลือกแวน อาซิเลียโนมาเป็นนักบินคนที่สี่ เนื่องจากประวัติที่ใช้งานแวกเทลทูว์ได้อย่างน่าประทับใจ



เคสเทรลนั้นใช้อาวุธแบบมาตรฐาน แต่บีมไรเฟิลจะมีอานุภาพมากกว่าปกติ โล่ของเคสเทรลมีขนาดเล็ก แต่ติดตั้งบีมเซเบอร์ที่ปรับองศาแยกกันได้ไว้สามเล่มซึ่งเมื่อใช้พร้อมกันจะไม่สามารถใช้บีมเซเบอร์เล่มเดียวรับได้ ที่หัวเข่า แขนสองข้าง และไหล่นั้นมีอุปกรณ์ปล่อยบีมซึ่งติดไว้กับแขนกลให้พับหันทิศทางหรือถอดออกได้ โดยที่แขนกับหัวเข่านั้นใช้เปิดเป็นบีมเบลดขนาดใหญ่ได้ ส่วนที่ไหล่เป็นบีมกัน จุดที่ติดตั้งอุปกรณ์ปล่อยบีมนี้ยังเป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์เสริมอื่นๆได้อีก





หลังจากที่ระบบเลเซอร์จุดชนวนของเคสเทรลได้รับความเสียหายในการต่อสู้กับรากษส เคสเทรลจึงใช้แบ็คแพ็คแบบท่อขับดันปกติแทน แต่เพื่อให้ความเร็วเท่าเดิม จึงได้ติดตั้งเบรคไบน์เดอร์สี่ข้างไว้ที่ไหล่ซึ่งมีทั้งท่อขับดันและบีมกัน เบรคไบน์เดอร์นี้ยังสามารถใช้เป็นอาวุธไซคอมมิวแบบติดสายเคเบิลได้ และการโบกของเบรคไบน์เดอร์ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบAMBACของเคสเทรลอย่างมาก แต่เนื่องจากมันมีน้ำหนักมาก จึงทำให้สมดุลย์ของเครื่องลดลงและบังคับยากขึ้นไปด้วย



(ตอนี้มีโหมดอาเมอร์กับฟุลอาเมอร์เพิ่มมาด้วยครับ แต่ผมยังไม่มีข้อมูล)
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา