Mecha Story: วันนี้มีของหายาก...จนสงสัยว่าจะมีคนรู้จักสักกี่คน

เปิดด้วยเรื่องอื่นเล็กน้อย



อนึ่งถ้าภาพหายล่ะก็ ก็อปurlภาพไปแปะก็ยังดูได้นะครับ



เดธเกล

MSที่จักรวรรดิดาวพฤหัสสร้างขึ้นเพื่อตอบโต้ครอสโบนกันดั้ม เนื่องจากระดับเทคโนโลยีของจักรวรรดิดาวพฤหัสนั้นไม่สามารถสร้างMSที่แข็งแกร่งกว่าครอสโบนกันดั้มในทุกด้านได้จึงใช้วิธีแยกสร้างเป็นหน่วยรบที่มีจุดเด่นกันคนละด้านแทน โดยMSกลุ่มนี้เป็นMSประจำตัวของหน่วยเดธเกล





EMS-VSX1 ควาวาเซเป็นยูนิตโจมตีหลักและเป็นMSประจำตัวของกิริ กาดิวคา แอสพิส หัวหน้าหน่วยเดธเกล จุดเด่นของควาวาเซอยู่ที่ระยาง"สเนคแฮนด์"ซึ่งติดอยู่กับแขนทั้งสองข้าง ตรงปลายของสเนคแฮนด์นี้ติดบีมคัตเตอร์แบบเลื่อยวงกลมเอาไว้ ซึ่งระยะของสเนคแฮนด์นั้นทำให้ควาวาเซสามารถโจมตีครอสโบนกันดั้มได้จากระยะที่ครอสโบนกันดั้มไม่สามารถใช้อาวุธระยะประชิดตอบโต้ได้ บีมคัตเตอร์ของควาวาเซยังสามารถเพิ่มกำลังเพื่อขยายขนาดสำหรับป้องกันดัวเป็นบีมชิลด์ได้ รวมทั้งยังสามารถขว้างโจมตีจากระยะห่างได้ด้วย ส่วนหัวของควาวาเซนั้นเป็นปืนมหาอนุภาคสำหรับยิงโจมตีจากระยะไกล ควาวาเซยังสามารถแปลงร่างเป็นแบบMAเพื่อเร่งความเร็วได้



EMS-VSX2 อาบิโจเป็นยูนิตความเร็วสูงสำหรับรบกวนการเคลื่อนไหวของศัตรูของโรสแมรี ราสเบรี อาบิโจนั้นสูงประมาณ10เมตรซึ่งมีขนาดเล็กกว่าMSทั่วๆไปในสมัยนั้น ส่วนหัวของอาบิโจนั้นดัดแปลงมาจากเอเลวาโดซึ่งมีเซนเซอร์มากกว่าปกติซึ่งทำให้อาบิโจสามารถทำหน้าที่MSสอดแนมได้ด้วย อาบิโจนั้นใช้อาวุธเป็นปืนยิงเข็มซึ่งใช้ยิงสกัดการเคลื่อนไหวของครอสโบนกันดั้มด้วยความเร็วที่เหนือกว่า แต่เข็มนี้มีพลังทำลายค่อนข้างต่ำ แม้จะยิงทะลุเกราะได้ถ้ายิงไม่โดนจุดสำคัญแล้วก็แทบไม่เกิดความเสียหายเลย อาบิโจยีงมีเกราะที่บางมากอีกด้วย



EMS-VSX3 โททูกาเป็นยูนิตที่เน้นด้านพลังป้องกันและเป็นMSประจำตัวของบานส์ เกอร์นแบคส์ โททูกานั้นมีเหล็กแหลมซึ่งเป็นเครื่องกำเนิดบีมชิลด์อยู่ด้านหลังและสามารถใช้ยิงเหมือนบีมกันได้ บีมชิลด์ของโททูกานั้นสามารถป้องกันได้แม้แต่ปืนใหญ่มหาอนุภาคของยานแม่ รวมทั้งสามารถรับบีมซันเบอร์ของครอสโบนกันดั้มหรือขวานบีมของเพซบาทาลาได้ แขนสองข้างของโททูกานั้นเป็นฆ้อนซึ่งมีพลังทำลายจนสามารถทุบบาทาลาพังได้ในครั้งเดียว แม้โททูกาจะเคลื่อนไหวช้ามาก แต่เมื่อเกราะของโททูกาแตกก็จะฉีดก๊าซแข็งตัวเร็วออกมาซึ่งจะกลายเป็นเมือกแข็งจับศัตรูที่อยู่ในระยะประชิดไว้ให้โททูกาใช้ฆ้อนทุบได้ เกราะของโททูกายังหนามาก การโจมตีที่ทำให้เกราะของโททูกาแตกนั้นก็แทบไม่มีความเสียหายจริงๆกับโททูกาเลย



หน่วยเดธเกลทั้งสามเครื่องนั้นถูกทำลายในการต่อสู้กับครอสโบนกันดั้มX3ของโทเบียบนโลก โดยควาวาเซถูกครอสโบนกันดั้มX1รุ่นปรับปรุงของคินเดคที่มาสมทบในภายหลังทำลายด้วยแส้สว่านที่ออกแบบมาเพื่อตอบโต้สเนคแฮนด์ จักรวรรดิดาวพฤหัสยังได้ผลิตควาวาเซเป็นจำนวนมาก โดบรุ่นผลิตจำนวนมากนี้จะมีสเนคแฮนด์ที่แขนซ้ายข้างเดียว ส่วนแขนขวาเป็นแขนปกติและติดบีมไรเฟิล รุ่นผลิตจำนวนมากยังไม่มีระบบแปลงร่าง แต่สามารถพับส่วนขาแบบบาทาลาได้แทน หลังจากที่จักรวรรดิดาวพฤหัสพ่ายแพ้ในการบุกโจมตีโลกไปแล้วก็ได้พัฒนา EMS-12 อารานา ออกมาโดยใช้โครงสร้างขนาดเล็กของอาบิโจผสมกับข้อมูลของอารานาบาทาลา เป็นMSความเร็วสูงขนาดเล็กที่มีบีมไรเฟิลกับบีมเซเบอร์ใช้ตามปกติ





เมื่ออดีตหน่วยเดธเกลได้ร่วมกับโทเบียเพื่อหยุดยั้งโคโลนีเลเซอร์ ชินวาทส์นั้น SNRIก็ได้ดัดแปลงอารานาเป็นอารานาอาบิโจให้โรสแมรีโดยเอาส่วนหัวที่เก็บมาจากซากของอาบิโจมาติดให้อารานาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซนเซอร์ พร้อมกับติดบีมแคนน่อนของโททูกาสองกระบอกที่เก็บมาจากซากยานจูปิทอริส9เป็นอาวุธให้ อารานาอาบิโจนั้นเป็นเครื่องที่สมดุลย์ไม่ค่อยดีจึงต้องใช้งานคู่กับยานนอซเซล ส่วนบานส์นั้นก็ได้บาลาโททูกาซึ่งเป็นโททูกาที่SNRIเก็บซากไปสร้างให้ใหม่ เนื่องจากโครงสร้างภายในของโททูกานั้นถูกโทเบียทำลายไปมาก SNRIจึงได้สร้างให้ใหม่ทั้งหมดพร้อมเปลี่ยนมือเป็นบีมแคนน่อนแฝดทั้งสองข้าง





SF-35 ไซลิออน

เครื่องบินขับไล่ที่บริษัทอิซุรุกิพัฒนาโดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมมาจากคาลิออน ไซลิออนนั้นได้รับการออกแบบเป็นอาวุธตั้งแต่แรกจึงเป็นเหมือนตัวตนที่ขัดกับเจตนาของโปรเจ็คท์TDและถูกไอบิสเกลียดมากทีเดียว ไซลิออนมีความเร็วเทียบได้กับเวกาลิออน ส่วนหางเป็นเครื่องยิงมิสไซล์ MTDMลันเชอร์ และมีมือสำหรับหยิบจับอาวุธมาตรฐานที่ปกติแล้วจะพับเก็บไว้ โซนิคเบรกเกอร์นั้นเพิ่มอานุภาพเป็นซูเปอร์โซนิคเบรคเกอร์ซึ่งเมื่อใช้งานจะพับTDAโนสออกมาสร้างสร้างเบรคฟิลด์ด้านหน้าและพับปีกเข้าทำให้มีอานุภาพสูงขึ้นมาก ไซลิออนเครื่องต้นแบบนั้นเป็นของทหารรับจ้าง อาราเซลิ การ์เซีย ซึ่งรับงานเก็บข้อมูลภาคสนามให้อิซุรุกิ ก่อนที่อิซุรุกิจะทำการผลิตจำนวนมากให้ไกอาเซเบอร์





คอรัลสตาร์

ACที่เรเวนหญิง สุมิกะ ยูเทไลเนนใช้ในช่วงที่ทำการสืบสวนเรื่องโปรเจ็คท์แฟนทาสมาขององค์กรลับเวนส์เดย์ คอรัลสตาร์นั้นเป็นACที่ปรับแต่งเอง โดยสุมิกะใช้ต้นแบบเป็นอาริอาเคะ ACเอนกประสงค์รุ่นผลิตจำนวนมากของมุราคุโมะมิลเลเนียม ซึ่งอาริอาเคะนั้นเป็นACที่ได้รับการออกแบบให้เคลื่อนไหวได้เร็วจึงได้ลดการใช้ชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปทั้งหมด เกราะของอาริอาเคะนั้นได้รับการออกแบบให้มีพื้นผิวโค้งเพื่อให้กระสุนแฉลบออกไปเวลาโดนยิง ซึ่งทำให้พลังป้องกันของอาริอาเคะยังอยู่ในระดับดี แต่อาริอาเคะนั้นไม่สามารถใช้อาวุธหนักได้ และถ้าโดนยิงด้วยกระสุนเจาะเกราะก็จะเสียหายอย่างมาก โดยปกติแล้วคนที่ซื้ออาริอาเคะไปใช้งานจึงมักเอาไปใช้ทำหน้าที่ยามรักษาการมากกว่าจะใช้ในการต่อสู้เต็มรูปแบบ คอรัลสตาร์นั้นนอกจากจะทาสีชมพูแล้ว สุมิกะยังได้ปรับปรุงเกราะจนมีพลังป้องกันที่สูงกว่าเดิมหลายเท่า (เล่นในเกม ไม่ต้องกลัวคุณเธอถูกยิงร่วงครับ ห่วงตัวเองเถอะ) แต่ก็ยังใช้อาวุธเบาคือปืนกลหรือพัลส์ไรเฟิลอยู่



มุราคุโมะยังได้พัฒนารูปแบบของอาริอาเคะต่อมาเป็น คาเงโร ซึ่งเพิ่มพลังในการต่อสู้ให้สูงกว่าเดิมและใช้ดาบเลเซอร์กับบาซูก้าเป็นอาวุธ แต่คาเงโรก็ยังเป็นACที่ใช้ในภารกิจพิเศษจำพวกสอดแนมหรือลอบโจมตีมากกว่าจะใช้ในภารกิจทั่วไป





โอเกอร์

หนึ่งในMTที่องค์กรลับเวนส์เดย์ใช้งาน โอเกอร์นั้นเป็นMTที่ได้รับการออกแบบให้เน้นการต่อสู้ในระยะประชิด โดยมีอาวุธหลักคือหมัดเบิร์สท์นัคเคิลกับปืนไร้แรงสะท้อน84ม.ม. ในการต่อสู้ระยะประชิดนั้นส่วนหัวที่บอบบางมีโอกาสเสียหายได้มาก ส่วนหัวซึ่งเป็นเซนเซอร์หลักของโอเกอร์จึงย้ายมาอยู่ที่บริเวณหน้าอกช่วงล่างซึ่งมีการป้องกันดีกว่าแทน ส่วนที่เหมือนหัวนั้นเป็นแค่กล้องเสริม โอเกอร์ยังนับมามีความคล่องตัวสูงทีเดียวซึ่งในพื้นที่คับแคบนั้นนับว่าเป็นMTที่แข็งแกร่งมาก





ซิมิตาร์

MTอีกรุ่นของเวนส์เดย์ ซิมิตาร์นั้นมีสองขาแบบมนุษย์แต่ไม่มีแขนหรือหัว ซิมิตาร์นั้นติดอาวุธไว้เป็นปืนลูกโซ่ 25 ม.ม.ที่ลำตัวและมิสไซล์ลันเชอร์ด้านบนคล้ายกับหัว ซิมิตาร์นั้นสามารถเพิ่มพลังในการต่อสู้เป็น"ซูเปอร์ซิมิตาร์"ได้โดยติดไฟลท์ยูนิตเข้าไปที่ฮาร์ดพอยน์ที่ไหล่แล้วเปลี่ยนมิสไซล์ลันเชอร์เป็นเซนเซอร์ยูนิตขนาดใหญ่แทน ที่ไฟลท์ยูนิตนี้ทำให้ซูเปอร์ซิมิตาสามารถบินในระดับต่ำได้และยังมีพลาสมาแคนน่อนติดไว้ด้วย เมื่อรวมกับเซนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิมแล้วจึงมีพลังในการต่อสู้ที่นับได้ว่าสูงมากเลยทีเดียว



(ตัวเอกของตอนนี้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นไซด์สตอรีของซอยด์ครับ เสียดายที่โทมีทำออกมาขายแค่สามปีก็หยุดไป มีOVAโปรโมสั้นๆของซันไรส์ด้วย แต่ที่ผมสนใจเพราะสกัลไวเปอร์ที่หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้น่ะนะ)



Z-A03 Zไนท์

หนึ่งในเทพเกราะยักษ์ทั้งหกที่มนุษย์โลกสร้างโดยใช้เมทัลฮาร์ท (ซอยด์คอร์) ที่เก็บมาจากดาวZiรวมกับเกราะที่สร้างจากการศึกษาซอยด์ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีเลียนแบบจึงเรียกว่าเป็นซอยด์สายพันธุ์มนุษย์ไม่ได้ โดยปกติแล้วมนุษย์โลกนั้นจะบังคับซอยด์ไม่ได้ แต่เทพเกราะยักษ์นั้นมีระบบแปลงพลังจิตอยู่จึงทำให้บังคับได้แม้ปฏิกิริยาตอบสนองจะลดลงมากว่าระบบบังคับดั้งเดิมของซอยด์ เทพเกราะยักษ์ทั้งหกนั้นออกแบบตามนักรบในยุคโบราณ แต่ก็มีพลังในการต่อสู้ที่เหนือกว่าอาวุธที่มนุษย์โลกใช้กันในขณะนั้นมาก เกราะของเทพเกราะยักษ์นั้นเป็นโลหะมีชีวิต ไลฟ์เมทัล ที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ พลังที่สูงมากนั้นทำให้มนุษย์โลกตัดสินใจผนึกเทพเกราะยักษ์ทั้งหกไว้ในสภาพหลับไหลและใช้แบทเทิลอาเมอร์ ซึ่งเป็นเหมือนเทพเกราะยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่าและไม่มีเมทัลฮาร์ทแทน



เวลาผ่านไป มนุษย์โลกแยกเป็นสองกลุ่มคือ"คิลนา" ชนชั้นนำเดิมของโลกซึ่งได้ทำการย้ายถิ่นฐานไปเพื่อหนีสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายของโลกหลังจากที่การปรับสภาพแวดล้อมของดาวอังคารเสร็จสิ้น กับ"บลูสตาร์"ที่ถูกทิ้งไว้บนโลก ปรากฏว่าเมื่อมีอุกกาบาตขนาดใหญ่มาชนโลก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากแรงกระแทกนั้นแทนที่จะทำให้โลกล่มสลายก็กลับทำให้สภาพแวดล้อมของโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกคิลนากับประสพปัญหาที่การประทุของดวงอาทิตย์ทำให้ชั้นบรรยากาศสังเคราะห์เสียหายไปถึง 40% เมื่อสถานการกลับตาลปัตรแบบนี้พวกคิลนาจึงใช้กำลังทหารที่เหนือกว่าเข้ายึดโลกคืนทันที ซึ่งในตอนที่คิลนาเข้ายึดสถานีอวกาศ แอตแลนติส ก็ได้ปลุกเทพเกราะยักษ์ Z-A01 มารีนไกเซอร์ ที่ถูกผนึกไว้ที่นั้นขึ้นมา แต่เมื่อใช้มารีนไกเซอร์กวาดล้างทหารเดนตายหน่วยนอเธอไนท์ของบลูสตาร์ซึ่งหลบซ่อนอยู่ในนอเธอแลนด์นั้น การโจมตีของมารีนไกเซอร์ก็ทำให้ Zไนท์ เทพเกราะยักษ์อีกตัวตื่นขึ้นและร้อยโทเบล แลนซ์ ซึ่งเป็นลูกครึ่งชาวดาวZiก็ได้ขึ้นบังคับZไนท์สยบมารีนไกเซอร์ลงได้



Zไนท์นั้นเป็นเทพเกราะยักษ์ที่ใช้รูปแบบของอัศวิน เกราะไลฟ์เมทัลนั้นนอกจากจะมีความทนทานและพลังฟื้นตัวตามปกติแล้วยังฉาบแอนติบีมเซรามิกเอาไว้ด้วย แบ็คแพ็คของZไนท์ยังสามารถสร้างสนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูงได้ และยังมีโล่ซึ่งทำจากไลฟ์เมทัลอยู่อีก อาวุธพื้นฐานของZไนท์ก็คือดาบที่ติดพัลส์เลเซอร์40ม.ม.เอาไว้ด้วย รวมทั้งอาวุธอื่นๆอย่างเกรเน็ดหรือลำแสงความร้อน เมื่อมีZไนท์กับมารีนไกเซอร์ที่ยึดมา กองกำลังของบลูสตาร์จึงสามารถเริ่มทำการตอบโต้คิลนาได้ Zไนท์นั้นได้รับความเสียหายอย่างหนักปางตายในการต่อสู้กับไฟนอลอาเมอร์ กิลกา แบทเทิลอาเมอร์ของคิลนาที่พัฒนาจนมีขนาดและพลังที่เทียบได้กับเทพเกราะยักษ์ แต่ก็ฟื้นตัวอีกครั้งพร้อมกับวิวัฒนาการไปเป็น Z-A03II เกรทZไนท์ ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา