Mecha Story: ใกล้สิ้นปีแล้ว เอามาลงอีกสักบทความเถอะน่า

พวกนี้ก็ไล่เก็บข้อมูลนานพอสมควร ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าว่าโปรไฟล์ของAoZที่MAHQอ่านเข้าใจยากมากเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ



เปิดด้วยปีกแสงสองตัวก่อน ทั้งสองตัวกว่าจะได้เขียนก็ช้ากว่าที่ตั้งใจไว้เยอะเลย



GSX-401FW สตาร์เกเซอร์

MSสำหรับสำรวจอวกาศของDSSD มีจุดเด่นสำคัญที่ระบบขับเคลื่อนด้วยแสง"วอลทัวร์ลูมิเอล"ซึ่งต่อมาใช้กับเดลต้าแอสเทรย์และสไตรค์ฟรีด้อม รวมถึงเป็นต้นแบบของปีกแสงของเดสทินี แต่วอลทัวร์ลูมิเอลของสตาร์เกเซอร์นั้นไม่ได้เน้นการใช้งานด้านความเร็วเหมือนMSอื่นๆที่ใช้ระบบนี้ แต่เป็นความสามารถในการขับเคลื่อนโดยอาศัยลมสุริยะ โดยปกติแล้วเมื่อเริ่มใช้งาน ดาวเทียมของDSSDจะยิงเลเซอร์ให้สตาร์เกเซอร์เปลี่ยนเป็นพลังงานและค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้น สตาร์เกเซอร์ยังได้รับการออกแบบให้ปฏิบัติการได้เองโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมดูแลจึงใช้เทคโนโลยีนาโนมาชีนในการซ่อมแซมตัวเองและมีระบบAIสำหรับควบคุม แม้จะไม่ใช่MSสำหรับสู้รบ แต่สตาร์เกเซอร์ก็มีพลังในการต่อสู้ระดับสูง โดยมีความสามารถพิเศษในการเบี่ยงทิศทางของบีมที่ศัตรูยิงใส่ได้ ซึ่งสตาร์เกเซอร์สามารถควบคุมให้บีมกลายเป็นวงแหวนรอบๆตัวได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ปืนพกบีมของซิวิเลียนแอสเทรย์ รุ่นDSSDได้

ในขณะที่สตาร์เกเซอร์ยังไม่สมบูรณ์นั้น หน่วยแฟนธอมเพนก็นำกำลังเข้าโจมตีDSSDเพื่อยึดสตาร์เกเซอร์ เนื่องจากAIของสตาร์เกเซอร์ยังไม่มีประสิทธิภาพพอ เจ้าหน้าที่ของDSSD โซล ริวเน แลงจ์ และ เซเลเน แม็คกริฟจึงควบคุมสตาร์เกเซอร์เข้าต่อสู้กับแฟนธอมเพนแทน นอกจากนั้นยังไม่มีเตาปฏิกรณ์และNแจมเมอร์แคนเซลเลอร์ที่เตรียมติดตั้งไว้จึงต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรีตามปกติ ซึ่งในการต่อสู้กับสไตรค์นัวร์ของสเวน คาล บายันนั้น เซเลเนได้ส่งโซลออกนอกยานไปแล้วใช้เลเซอร์เพิ่มพลังให้วอลทัวร์ลูมิเอลพาสไตรค์นัวร์ไปถึงดาวศุกร์ เซเลเนได้ช่วยสเวนไว้และถ่ายพลังงานจากสไตรค์นัวร์ให้สตาร์เกเซอร์ใช้วอลทัวร์ลูมิเอลขับเคลื่อนด้วยลมสุริยะและเดินทางถึงโลกในเวลาเกือบหนึ่งเดือนต่อมา (เท่าที่รู้ก็รอดทั้งคู่ แต่สเวนมีอาการสมองขาดอ็อกซิเจนจนเอ๋อหน่อยๆ)





GSF-YAM01 เดลต้าแอสเทรย์

MSออริจินัลรุ่นแรกของอาณานิคมดาวอังคารซึ่งสร้างโดยความร่วมมือจากDSSDและจั๊งค์กิลด์ นำโดยโลวซึ่งเดินทางมาดาวอังคารในขณะนั้น ชื่อเดลต้าแอสเทรย์ก็เป็นโลวตั้งให้ จุดเด่นของเดลต้าแอสเทรย์อยู่ที่ระบบขับเคลื่อนด้วยแสง วอลทัวร์ลูมิเอลซึ่งได้มาจากDSSDทำให้มีความเร็วสูงมาก เนื่องจากดาวอังคารนั้นไม่ใช่สมรภูมิระหว่างZAFTกับEAทำให้ไม่มีNแจมเมอร์คอยรบกวน เดลต้าแอสเทรย์จึงใช้งานเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เป็นแหล่งพลังงานและต้องติดNแจมเมอร์แคนเซเลอร์เมื่อจะใช้งานในพื้นที่ที่ถูกNแจมเมอร์รบกวน OSของเดลต้าแอสเทรย์นั้นคล้ายกับที่กันดั้มรุ่นแรกของZAFTใช้ โดยโลวได้OSมาจากเดรดน็อตกันดั้มแต่ดัดแปลงให้คนธรรมดาใช้งานได้ ส่วนอาวุธของเดลต้าแอสเทรย์ก็ประกอบด้วยดาบคาตานะซึ่งมีต้นแบบมาจากเกอเบร่าสเตรทของเรดเฟรมกับบีมไรเฟิล

เนื่องจากชนชั้นปกครองของดาวอังคารไม่ต้องการให้เทคโนโลยีของตนรั่วไหล เดลต้าแอสเทรย์จึงมีระบบทำลายตัวเองอัตโนมัติโดยการระเบิดเตาปฏิกรณ์ ซึ่งผู้ที่รู้เรื่องระบบทำลายตัวเองในทีมยานอคิดาเรียมที่เดินทางไปโลกนั้นมีไม่กี่คน แต่นักบินแอกเนส บราเอนั้นไม่รู้เรื่องเลยสักนิด การซ่อมบำรุงเดลต้าแอสเทรย์จึงต้องทำในเวลาจำกัดและระมัดระวังเป็นอย่างมาก ระบบทำลายตัวเองนี้ยังถูกตั้งโปรแกรมให้ทำงานเมื่อได้รับความเสียหายอย่างหนักด้วย แต่ตอนที่แอกเนสแพ้สไตรค์E IWSPของสเวนนั้นโชคดีที่ระบบเกิดขัดข้องขึ้นมา ซึ่งโลวได้ถอดวอลทัวร์ลูมิเอลไปใช้สร้างเทิร์นเดลต้าในภายหลัง





RX-124 TR-6

MSรุ่นสุดท้ายของTRซีรีส์ ออกแบบมาให้เป็นสุดยอดอาวุธที่สามารถเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนได้เกือบทั้งหมดเพื่อให้สามารถปฏิบัติการได้ในทุกสภาวะและมีประสิทธิภาพสูงสุด TR-6ไม่ใช่แค่MS แต่เป็นระบบอาวุธซึ่งเป็นผลรวมของการทดลองทั้งหมดที่หน่วยทดสอบอาวุธของทิทานส์ได้ใช้มา โดยใช้การประกอบชิ้นส่วนเข้ากับโครงหลักที่เรียกว่าดรัมเฟรม

รูปแบบมาตรฐานของTR-6ก็คือ"วูนวอร์ท" ซึ่งเป็นโมบิลสูทแบบแปลงร่างได้ ส่วนลำตัวของวูนวอร์ทมีขนาดเล็กแต่ขาจะใหญ่เพราะติดเครื่องกำเนิดพลังงานกับบูสต์พ็อดแบบเดียวกับของเฮเซลไว้ ร่างMAของวูนวอร์ทนั้นไม่สามารถบินบนโลกได้ดีนัก แต่ในร่างนี้วูนวอร์ทจะสามารถเข้าสู่บรรยากาศโลกได้เพราะบูสต์พ็อดในร่างMAจะพับไปไว้ด้านหน้าจะปล่อยแก็สความเย็นออกมา บูสต์พ็อดนี้สามารถถอดออกแล้วติดจานเรดาร์แทนเพื่อให้ทำงานเป็นยูนิตEWACได้ อาวุธหลักของวูนวอร์ทก็คือชิลด์บูสเตอร์ประกอบ ซึ่งนอกจากจะเป็นชิลด์บูสเตอร์แบบของเฮเซลแล้วยังติดตั้งเครื่องกำเนิดIฟิลด์บาเรียร์ไว้และมีคีมที่สามารถยิงบีมได้เหมือนของยานฮรุดด์ ดาบความร้อนของวูนวอร์ทนั้นสามารถประกอบกับคีมนี้กลายเป็นส่วนลำกล้องของบีมไรเฟิลยาว นอกจากนั้นโล่นี้ยังมีแขนกลติดรอกที่จำลองมาจากที่ชทุตเซอร์ซีรีส์ของซีอ้อนใช้ด้วย ส่วนหัวของวูนวอร์ทจะติดวัลแคนพ็อดแบบเดียวกับของกันดั้มมาร์คทูว์ไว้



วูนวอร์ทมีรูปแบบที่เรียกว่ารุ่นการขับเคลื่อนสูง ซึ่งมีร่างMAที่สามารถใช้ในอวกาศได้ดีขึ้นโดยใช้แนวคิดจากแกบธ์เลย์ที่ซีร็อคโคออกแบบ ในร่างนี้วูนวอร์ทจะมีส่วนดรัมเฟรมทั้งร่างท่อนบนและล่าง จึงสามารถแยกร่างเป็นสองลำได้ในร่างMA และยังสามารถเพิ่มพลังในการต่อสู้ขึ้นไปอีกด้วยยาน FF-X29A "ฮรุดด์ทูว์" กลายเป็นแอดวานซ์วูนวอร์ท



อีกรูปแบบหนึ่งของ TR-6 ที่ค้นข้อมูลมาได้ก็คือ "คีฮารทูว์" ซึ่งจำลองรูปแบบมาจากอัชชิม่ารุ่นต้นแบบ คีฮาร โดยเปลี่ยนส่วนเกราะท่อนบนทั้งหมด ซึ่งที่หน้าอกจะมีระบบควบคุมระดับ ที่ไหล่ทั้งสองนั้นติดบีมกันแบบสาดกระจายกับเครื่องยนต์นิวเคลียร์เจ็ตไว้ ซึ่งร่างMSจะสามารถถอดเกราะไหล่ส่วนหนึ่งมาเป็นโล่ได้ ในร่างMAนั้นคีฮารทูว์จะใช้แขนกลขนาดเล็กจับอาวุธไว้ใต้ลำตัว และคีฮารทูว์ก็สามารถเปลี่ยนบูสต์พ็อดเป็นจานเรดาร์ได้เช่นกัน นกจากนั้นยังสามารถติดโฮเวอร์ยูนิตของโรเซ็ตรุ่นเสริมประสิทธิภาพการรบภาคพื้นดินไว้ได้ จึงเป็นรูปแบบที่ใช้บนโลกได้ดีมาก



อีกรูปแบบของTR-6ก็คือ"อินเล" ซึ่งรวมคุณสมบัติของอีกสองรูปแบบคือ"แดนดีไลอ้อนทูว์"และ"ไฟเฟอร์ทูว์"เข้าด้วยกัน กลายเป็นMAแบบแปลงร่างได้ขนาดใหญ่ ชิลด์บูสเตอร์ประกอบของอินเลมีทั้งปืน"บิ๊กวิกทูว์"ซึ่งเป็นอาวุธหลักและบีมกันแบบสาดกระจายสำหรับป้องกันตัว นอกจากนั้นยังสามารถติดมิสไซล์พ็อดขนาดใหญ่ ส่วนหัวของอินเลสามารถเปลี่ยนเป็นแบบระบบEWACหรือติดตั้งระบบไซคอมมิวสำหรับควบคุม กลายเป็น"ไซโคอินเล"ได้ รวมทั้งยังสามารถติดไมนอฟสกี้คราฟท์จากเดดาลัสยูนิตเพื่อให้บินบนโลกได้
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา